หลังจากกลับออกมาจากสำนักงานของคราวน์กรุ๊ปแล้ว เย่เฟิงก็มุ่งหน้าตรงไปที่ตรอกที่ขายของโบราณ
หลังจากเกิดเรื่องลักพาตัวอันซีขึ้นมา เย่เฟิงก็ตระหนักว่าเขาต้องมีมาตรการที่จะปกป้องเพื่อน ๆ และพวกผู้ติดตามของเขาในกรณีฉุกเฉิน!
ตรอกที่ขายของโบราณนั้นเต็มไปด้วยผู้คน!
ทั้งสองฝั่งของถนนมีร้านค้ามากมายที่มีการจัดแสดงโบราณวัตถุหน้าตาแปลกประหลาดต่าง ๆ กัน
พ่อค้าเร่หลายคนกำลังเร่ขายสินค้าของตน ขณะที่พยายามเสนอสินค้าจนเสียงดัง มันเป็นภาพที่ดูอึกทึก
เมื่อเดินไปตามถนนอย่างเงียบ ๆ เย่เฟิงมองดูของเก่าด้วยดวงตาสีม่วงเป็นประกายของเขา
เขาพบว่า 99% ของของเก่าเป็นของปลอม
แม้ว่า 1% จะเป็นของจริง แต่พวกมันก็เป็นสินค้าไร้ประโยชน์สำหรับเย่เฟิง
หลังจากเดินผ่านมาครึ่งทาง เย่เฟิงก็ค่อย ๆ เผยสีหน้าผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เดินต่อไปข้างหน้า เขาก็หยุดเดินกะทันหัน ขณะที่เขามองไปแผงขายของที่ตั้งอยู่ริมถนน
‘เอ๊ะ ?’
เย่เฟิงรู้สึกแปลกใจ เมื่อเขาเห็นสร้อยข้อมือสีเขียวบนแผงขายของอันนั้น
สร้อยข้อมือเส้นนั้นมีพลังฉีที่รุนแรง
แต่เมื่อเย่เฟิงกำลังจะหยิบมันขึ้นมา มือของคนอีกคนก็คว้ามันไว้ในกำมือในชั่วพริบตา!
“เจ้าของร้าน! ฉันจะซื้อสร้อยข้อมือเส้นนี้!”
ชายสองคนและหญิงหนึ่งคน!
คนที่คว้าสร้อยข้อมือไปจากเย่เฟิงคือเด็กตัวเล็ก ๆ ในชุดขาว
ในขณะนั้น เด็กคนนั้นไม่รู้ตัวว่าเขากำลังแย่งของกับเย่เฟิง ทว่าจากนั้นเขาก็รีบหันกลับมาและจ้องไปที่หน้าของเย่เฟิงพลางส่งเสียงเยาะเย้ยเบา ๆ ว่า “หึหึ! พี่ชายช้าเกินไป! สร้อยข้อมือนี้เป็นของฉัน!”
ขณะที่เด็กหนุ่มพูดเขาก็แกว่งสร้อยข้อมือไปทางเย่เฟิงราวกับว่าเขากำลังอวดมันอยู่
เมื่อมองดูเด็กคนนั้น เย่เฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ โดยที่เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
ก่อนหน้านี้เขาแค่อยากรู้ว่าสร้อยเส้นนี้คืออะไรกันแน่
แต่ตอนนี้เขาพบว่าสร้อยข้อมือนั้นไร้ประโยชน์สำหรับเขา
แต่ทันใดนั้นเย่เฟิงก็มีความคิดที่ดีบางอย่างเกิดขึ้นในใจ ขณะที่เขาเผยให้เห็นท่าทางขี้เล่น
‘หืมม ?’
หลังจากสังเกตเห็นการแสดงออกของเย่เฟิง เด็กในชุดขาวก็ขมวดคิ้ว
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเย่เฟิงจะหงุดหงิด แต่เขาพบว่าเย่เฟิงนั้นไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจอะไร เขากลับเผยให้เห็นแค่รอยยิ้มที่ขบขันและดูถูกต่อเขาเท่านั้น!
ทันใดนั้นเด็กในชุดสีขาวก็มืดมน เขาตะโกนออกมาว่า “ไอ้งั่ง แกไม่พอใจหรือไง ?”
“ไม่เลย!” เย่เฟิงยักไหล่ขณะที่เขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่กว้างขึ้น “ฉันแค่สงสารแกเท่านั้น!”
“ทำไม ?” ใบหน้าของเด็กในชุดขาวและเพื่อน ๆ ของเขามีแววตกใจ!
“…นายกำลังหาเรื่องจะตาย!”
หลังจากได้ยินคำพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ของเย่เฟิง ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดลงอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กหนุ่มในชุดขาวที่โกรธเกรี้ยวคำราม “ไอ้สารเลว แกแช่งฉันงั้นเหรอ ?”
เห็นได้ชัดว่าเด็กในชุดขาวเป็นคนเกเร เขาเผยให้เห็นท่าทางที่โหดเหี้ยมจาง ๆ
“ฉันไม่ได้แช่งแก! ฉันแค่บอกความจริงเฉย ๆ !”
เย่เฟิงตอบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขาชี้ไปที่สร้อยข้อมือสีเขียวโดยกล่าวว่า “ถ้าแกใส่มัน แกจะเป็นอัมพาตไปทั้งร่างกายภายใน 2 ชั่วโมง จากนั้นแกจะเข้าสู่ภาวะโคม่าในชั่วโมงที่ 3 และในที่สุดเลือดก็จะไหลออกมาท่วมร่างกายของแกในชั่วโมงที่ 5 !”
‘อะไรนะ!’
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง เด็กในชุดขาวและเพื่อน ๆ ของเขาก็มีสีหน้าว่างเปล่า
ทว่าพวกเขานั้นไม่เชื่อคำพูดของเย่เฟิงแม้แต่น้อย
พวกเขาคิดว่าเย่เฟิงกำลังพยายามทำให้พวกเขาหวาดกลัว และจะสร้อยข้อมือเส้นนั้นกลับไป
ดังนั้นเด็กในชุดขาวจึง พูดออกมาด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม “ลืมมันไปได้เลย! ไอ้สารเลวกลลวงนี้ของแกมันล้าสมัยไปแล้ว! ฟังนะ ฉันจะซื้อมัน!”
หลังจากพูดจบเด็กในชุดขาวก็จ่ายเงินให้กับเจ้าของร้านในที่สุด
เมื่อดูเขาทำแบบนั้น เย่เฟิงก็ไม่ได้รู้สึกสนใจสิ่งที่เขาทำ เพราะเด็กคนนั้นไม่ใช่ญาติหรือเพื่อนพ้องของเขา เขาจึงไม่สนใจว่าเจ้าเด็กนี่จะเป็นตายร้ายดียังไง
หลังจากซื้อสร้อยข้อมือแล้ว เด็กก็หยิบกระถางขึ้นมา
กระถางนี้เก่ามาก หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด เด็กคนนั้นก็พบว่ามันหยาบและเป็นงานที่ไม่มีความปราณีต
“นี่มันเป็นของปลอม!”
หลังจากพิจารณาดูมันอย่างดีแล้ว เด็กหนุ่มก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาในขณะที่เขาวางมันกลับลงที่เดิม
แต่ไม่นานนัก หลังจากที่เขาวางมันลง เย่เฟิงก็หยิบมันขึ้นมาและถามว่า “เฮ้…เจ้าของร้าน กระถางใบนี้ราคาเท่าไหร่ ?”
‘หืมม ?’
เมื่อมองดูเย่เฟิง เด็กหนุ่มในชุดขาวและเพื่อนทั้งสองก็ตกตะลึงในทันที
พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าเย่เฟิงจะต้องการซื้อสินค้าปลอม ๆ เช่นนี้
ในตรอกที่ขายของโบราณเช่นนี้มีของปลอมอยู่มากมาย
แม้แต่คนที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพวกของเก่า ก็ยังสามารถบอกได้ว่ามันเป็นของปลอม
อย่างไรก็ตามเย่เฟิงกลับต้องการจะซื้อมัน
“10,000 หยวน!”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าของร้านมองหน้าเย่เฟิงเหมือนว่าเขานั้นเป็นคนโง่ ขณะที่เขาพยายามจะหลอกลวงเย่เฟิงในทันที
เขาคิดว่าเย่เฟิงน่าจะพยายามต่อรองราคากับเขา
แต่ว่า…
“ฉันจะซื้อมัน!”
เย่เฟิงหยิบเงิน 10,000 หยวนออกมาและมอบให้กับเจ้าของร้าน
เด็กในชุดขาวและเพื่อน ๆ ของเขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เย่เฟิงนั้น ก็แทบจะหัวเราะเสียงดังลั่นออกมา
‘คนโง่!
‘ผู้ชายคนนี้ช่างงี่เง่าจริง ๆ!’
‘กระถางปลอมใบนี้ไม่มีค่าแม้แต่ 1,000 หยวนด้วยซ้ำ ทว่าผู้ชายคนนี้จ่ายเงิน 10,000 หยวนสำหรับมัน ช่างเป็นเรื่องที่งี่เง่าจริง ๆ !’
เด็กในชุดขาวและเพื่อน ๆ ของเขามองมาที่เย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
แม้แต่เจ้าของร้านยังมองเย่เฟิงด้วยความเย้ยหยัน
เจ้าของร้านนั้นจ่ายเงินมาประมาณ 100 หยวน ในการซื้อกระถางปลอมใบนี้
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าจะไม่มีใครซื้อมันได้ แม้เขาตั้งใจจะลดราคาอย่างเต็มที่ก็ตาม เขาก็ไม่คาดคิดว่าวันนี้เขาจะสามารถขายมันได้ในราคา 10,000 หยวน โดยที่ฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่แม้แต่จะต่อรองกับเขาสักนิด
ดังนั้นเจ้าของร้านจึงแทบระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ทว่าในตอนนั้นเองก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นมา!
เย่เฟิงโยนกระถางลงไปบนพื้นทันที
‘หืมม ?’
การกระทำของเย่เฟิงกระตุ้นความสนใจของทุกคนในทันที
พวกเขาเฝ้ามองเย่เฟิงด้วยความสับสน เพราะไม่เข้าใจว่าเขานั้นพยายามจะทำอะไรกันแน่
จากนั้นเย่เฟิงก็หยิบสิ่งของที่ห่อด้วยโคลนสีเทา ๆ จากเศษกระถางที่แตก เมื่อดูการกระทำของเขา ใบหน้าของทุกคนก็แสดงความตกใจออกมา
อ่านนิยาย
…
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งของซ่อนอยู่ในกระถางเช่นนี้
เมื่อเย่เฟิงทำความสะอาดโคลนที่ติดอยู่ออก เขาก็เผยให้เห็นกาน้ำชาโบราณ
‘ของโบราณแท้ ๆ!’
‘กระถางปลอมนั้นมีของโบราณจริง ๆ อยู่ข้างใน!’
‘นั่น…เป็นไปไม่ได้!’
เจ้าของร้าน เด็กในชุดขาวและเพื่อน ๆ ของเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
จากนั้นเสียงเคร่งขรึมของชายชราคนหนึ่งก็ดังขึ้น “เพื่อนตัวน้อย ช่วยเอากาน้ำชาของนายมาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม ?”
เมื่อเห็นชายชรา เจ้าของร้านและเด็กคนนั้นต่างก็ตกใจ
‘อาจารย์กู๋!’
‘เขาคือปรมาจารย์แห่งการประเมินค่าวัตถุโบราณที่น่าเคารพที่สุดในย่านค้าของโบราณ —— กู๋โม่!’
เมื่อดูปรมาจารย์กู๋ เย่เฟิงพยักหน้าทันที ขณะที่เขายื่นกาน้ำชาให้กับเขา
“มันเป็นของจริง!”
ปรมาจารย์กู๋จ้องมองไปที่กาน้ำชาด้วยความดีใจอย่างท้วมท้น เปลือกตาของเขาก็เริ่มกระตุกอย่างรวดเร็ว
“เลือนลางแต่ยังไม่ลบเลือน ฝีมือเก่าแก่แต่ยังคงยอดเยี่ยม ลายมังกรตรงกลาง มีนกฟีนิกซ์บินอยู่บนฝา เต่าที่ด้านล่าง และเสือนอนหมอบอยู่ข้างหลัง! นี่คือของโบราณในตำนาน —— หม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่!”