‘หม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่!’
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของอาจารย์กู๋ฝูงชนในบริเวณนั้นต่างก็ส่งเสียงฮือฮา
ดวงตาของพวกเขาแต่ละคนนั้นต่างตกตะลึงระคนประหลาดใจอย่างมาก นั่นรวมถึงเด็กในชุดขาว เพื่อนของเขา เจ้าของร้านและผู้คนที่เดินผ่านไปมา
“อาจารย์กู๋ ท่านหมายถึงผลงานชิ้นเอกของปรมาจารย์โม่จื่อฟู่ หม้อชาอมตะจากราชวงศ์ถังใช่หรือไม่ ? นั่นมัน…เป็นไปไม่ได้!”
“ปรมาจารย์โม่จื่อฟู่ ในยุคของราชวงศ์ถังนั้น เป็นที่รู้จักกันดีในด้านทักษะการชงชาและหม้อชามหัศจรรย์ของเขา! ผลงานทั้งหมดของเขา นั้นเป็นของหายากในหมู่ของนักสะสม! ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่! แล้วมันมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย!”
“ว่ากันว่าหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่มีเพียงคู่เดียวในโลก! ศตวรรษที่แล้วมีการขุดพบหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ไปแล้ว 1 อันและประมูลกันไปในราคาสูงถึง 50 ล้านหยวน!”
“ใช่แล้วหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่นั่นทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง! ถ้าอันนี้เป็นของจริง มันจะมีมูลค่ามหาศาล!”
“โอ้พระเจ้า! มันคือหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ มันช่างเป็นของหายากจริง ๆ! ฉันสามารถคุยโม้ไปได้ตลอดชั่วชีวิตของฉันเลย!”
พริบตาเดียวผู้คนโดยรอบทั้งหมดต่างก็ตกอยู่ในสถานการณ์อื้ออึง!
แต่ละคนนั้นกำลังแสดงความคลั่งไคล้อย่างมาก
‘ศตวรรษที่แล้วหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ที่ไม่สมบูรณ์ถูกขายไปในราคา 50 ล้านหยวน!’
‘ทว่าอันนี้กลับสมบูรณ์ไร้ที่ติ มันมีค่ามากกว่าอันแรกนั้นอย่างน้อย 10 เท่า’
‘นั่นหมายความว่ามันมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านหยวน!’
…
ทุกคนในกลุ่มฝูงชนที่รายล้อมอยู่ต่างออกความคิดเห็นกันอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อได้ยินการสนทนาเหล่านั้น เด็กในชุดขาวรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นรัว
ในตอนที่เขาหยิบกระถางนั่นขึ้นมาเขาได้สังเกตมันในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ทว่าน่าเสียดายที่เขานั้น ไม่ได้ซื้อมัน
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ไอ้กระถางปลอมนั้นจะมีหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ซ่อนอยู่ข้างในจริงๆ
‘บ้าเอ้ย! ฉันอยากจะตัดมือตัวเองทิ้งจริง ๆ ถ้าฉันไม่วางมันกลับลงไป หม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ก็จะเป็นของฉัน’
ทว่าเย่เฟิงกลับได้รับมันมาในราคาที่ถูกมาก
เจ้าของร้านเป็นคนที่ดูหน้าเศร้าหมองที่สุดในบรรดาฝูงชนทั้งหมด
ก่อนหน้านี้เขาเยาะเย้ยเย่เฟิงที่ซื้อกระถางปลอม ๆ นั่นในราคา 10,000 หยวนโดยไม่ต่อรองกับเขาแม้แต่น้อย
เขารู้สึกพอใจกับการทำเงิน 10,000 หยวนที่ได้มาอย่างง่ายดาย แต่เขากลับต้องเสียเงิน 500 ล้านหยวนเป็นการตอบแทน!
‘แม่ง! นี่มันเงิน 500 ล้านหยวนเชียวนะ!’
‘ถ้าฉันขายมันได้ ฉันจะกลายเป็นมหาเศรษฐีเลยทีเดียว!’
เจ้าของร้านอยากจะตบหน้าตัวเองด้วยความเสียใจ
“เพื่อนตัวน้อย ฉันขอเสนอการเจรจากับนายได้ไหม”
จากนั้นอาจารย์กู๋ ก็กลับมาสงบใจได้อีก ขณะที่เขาพูดกับเย่เฟิงด้วยท่าทางที่คลั่งไคล้ “ฉันจะจ่ายเงินให้นาย 1 พันล้านหยวน สำหรับหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่นี้ นายคิดว่ายังไงบ้าง ?”
‘1 พันล้านหยวน!’
เมื่อเขาได้ยินหมายเลขนั้นเจ้าของร้านก็แทบจะหน้ามืดไปทันที
เด็กในชุดขาวก็ตัวสั่นด้วยความตกใจ เขารู้สึกว่าหัวใจของเขานั้นกำลังเต้นแรงและรัว
ทันใดนั้นทุกคนก็หันหน้าไปทางเย่เฟิงอย่างรวดเร็ว
‘1 พันล้านหยวน!’
ไม่มีใครสามารถทนต่อข้อเสนอเช่นนี้ได้หรอก
ทว่าเย่เฟิงกลับส่ายหัวอย่างใจเย็นและตอบว่า “ฉันไม่ได้ต้องการเงิน”
‘อะไรนะ!’
‘เขาปฏิเสธงั้นเหรอ!’
ไม่มีใครตรงนั้นจะจินตนาการได้ว่าเย่เฟิงจะทนต่อข้อเสนอถึง 1 พันล้านหยวนได้
แม้แต่อาจารย์กู๋ก็ยังไม่เชื่อ เขารีบโน้มน้าวเย่เฟิงต่ออีกว่า “เพื่อนตัวน้อย หม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่นี้มีค่ามาก แต่ถ้านายนำไปประมูล นายจะได้เงินอย่างมากแค่ 500 ถึง 800 ล้านหยวนเท่านั้น! นายไม่มีทางได้ถึง 1 พันล้านหยวนแน่!”
“ฉันเป็นแฟนตัวยงของปรมาจารย์โม่จื่อฟู่ ในเรื่องของหม้อชาอมตะ ดังนั้นฉันต้องการจะซื้อมันแม้ว่าจะมีราคาสูงแค่ไหนก็ตาม! หากนายพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว นายคงจะไม่ได้รับข้อเสนอที่พิเศษถึง 1 พันล้านหยวนอีกแน่ในอนาคต!”
อาจารย์กู๋ชื่นชอบ โม่จื่อฟู่ในเรื่องของหม้อชาอมตะของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องการซื้อผลงานชิ้นเอกของโม่จื่อฟู่ในราคาที่สูงกว่าราคาของตลาดอย่างมาก
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เย่เฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่ได้ต้องการเงิน!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง อาจารย์กู๋ก็ตกตะลึงในทันที เขาเผยสีหน้าผิดหวังอย่างมาก
ทว่าเย่เฟิงกลับพูดต่อไปอีกว่า “แต่คุณสามารถแลกบางอย่างกับมันได้!”
‘อะไรนะ!’
อาจารย์กู๋เริ่มตกใจ จากนั้นเขาก็เข้าใจคำตอบของเย่เฟิง เขารู้สึกมีความสุขและถามไปว่า “เพื่อนตัวน้อยนายต้องการอะไร ? ฉันสามารถให้บ้านพักตากอากาศและคฤหาสน์ส่วนตัวสองสามหลัง! หรืออาจจะเป็น…”
อาจารย์กู๋มั่นใจว่าเย่เฟิงคงต้องการอสังหาริมทรัพย์เป็นแน่!
อย่างไรก็ตามเย่เฟิงชี้ไปที่กระเป๋าหนังของเขาแล้วพูดว่า “ผมต้องการของชิ้นเดียวในกระเป๋าหนังของคุณ!”
‘หืมม ?’
ทุกคนตกตะลึงในทันทีโดยเฉพาะตัวอาจารย์กู๋เอง!
เขารู้ชัดว่าสิ่งของในกระเป๋าหนัง ล้วนมาจากแผงขายของริมถนน พวกมันมีมูลค่ารวมกันมากที่สุดก็แค่หลายแสนหยวนเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะมอบสิ่งของทั้งหมดในกระเป๋าหนังของเขาให้แก่เย่เฟิง พวกมันก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เย่เฟิงยังคงรอคำตอบจากเขาอยู่ อาจารย์กู๋ก็รีบเปิดกระเป๋าหนังของเขาออกดูทันที
ในไม่ช้าสิ่งของทั้งหมดในกระเป๋าหนังของเขาก็ถูกเปิดเผยออกมา
พัดจีนโบราณ หินใส่น้ำหมึก ถ้วยไวน์ขนาดเล็กที่ไม่มีหูจับ และก้อนหินก้อนเล็ก ๆ!
เมื่อเย่เฟิงมองเห็นหิน เขาก็เผยให้เห็นความดีใจผ่านดวงตาของเขาทันที
“ผมต้องการหินก้อนนั้น!”
ขณะที่เขาพูดเย่เฟิงหยิบหินที่เขาต้องการขึ้นมา
ทุกคนตรงนั้นมองดูเย่เฟิงด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ
‘ผู้ชายคนนี้ต้องการแลกหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่กับก้อนหินงั้นเหรอ ?’
‘บ้า!’
‘เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ !’
หลังจากเงียบไปได้เพียงครู่เดียว ฝูงชนตรงนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง
“โอ้พระเจ้า! ผู้ชายคนนี้มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ? ทำไมเขาต้องการหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่กับก้อนหินธรรมดานั่น ?”
“โง่ชิบ! เขาเป็นคนที่โง่อันดับ 1 ของโลก! มันมีมูลค่าตั้ง 1 พันล้านหยวน หินก้อนเดียวนั้นจะมีค่ามากกว่าหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ได้อย่างไร ?”
“บ้า! ไอ้หนุ่มคนนี้สมองตายไปแล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีวันทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้หรอก”
ในขณะนั้นทุกคนมองเย่เฟิงด้วยน้ำตาแห่งความเสียดาย
เด็กในชุดสีขาวแทบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่า ฮ่า ฉันคิดว่าไอ้งั่งนี่จะเป็นคนมีพลังอำนาจที่ฉลาดเฉลียว ปรากฏว่ามันก็เป็นแค่คนโง่เท่านั้น! ถ้าอย่างนั้นทำไมมันถึงต้องการแลกเปลี่ยนหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่กับก้อนหินธรรมดาด้วย ? ฮ่า ฮ่า…”
แม้แต่อาจารย์กู๋ก็ไม่เข้าใจการตัดสินใจของเย่เฟิง
“เพื่อนตัวน้อย! เนื่องจากนายชอบหินก้อนนี้มากฉันก็จะมอบให้นาย! แต่ฉันก็ยังจะจ่ายให้นายอีก 1 พันล้านหยวนด้วย!”
อาจารย์กู๋ซื้อหินก้อนนั้นมาเพราะคิดว่ามันแปลกดี เขาไม่คิดว่ามันจะมีค่าอะไรเลย
ดังนั้นอาจารย์กู๋ จึงถามข้อมูลบัญชีธนาคารของเย่เฟิงและจัดการโอนเงิน
ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที โทรศัพท์มือถือของเย่เฟิงก็ได้รับการแจ้งเตือนการโอนเงินผ่านธนาคาร – ‘คุณได้รับเงิน 1 พันล้านหยวน’!
ตอนนี้อาจารย์กู๋ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นเขาหยิบการ์ดสีทองที่ประดับด้วยเพชรออกมาและมอบมันให้กับเย่เฟิงด้วยความเคารพอย่างสูง แล้วกล่าวว่า “เพื่อนตัวน้อย ฉันชื่นชมการตัดสินใจที่ดีของนาย! อีกครึ่งชั่วโมงตระกูลกู๋จะจัดการประมูลขึ้น หวังว่านายจะมาร่วมได้!”
หลังจากพูดกับเย่เฟิงแล้ว อาจารย์กู๋ก็อุ้มหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ของเขาไว้ในอ้อมแขนด้วยความดีใจ
ในขณะนั้น ทุกคนต่างเฝ้ามองเย่เฟิงด้วยความอิจฉาและชื่นชม
ไม่มีใครคิดว่าผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นนักเรียน จะกลายเป็นมหาเศรษฐีในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้
เรื่องนี้คงช็อกไปทั้งวงการของโบราณอย่างแน่นอน
ทว่าเย่เฟิงไม่ได้สนใจมากนักเกี่ยวกับความสำเร็จนี้ของเขา
แต่เขากลับจ้องไปที่หินในมือด้วยความชื่นชมในขณะที่เขาพูดว่า “ศิลาต้องห้ามของสวรรค์! มันคือศิลาอมตะต้องห้ามบนสรวงสวรรค์ซึ่งเป็นหินหายากในระดับจักรวาล!”
“ด้วยศิลาอมตะนี้ ฉันสามารถสร้างเครื่องมือวิเศษได้ถึง 3 ชิ้น! เครื่องมือวิเศษแต่ละชิ้นมีค่ามากกว่าหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่หลายเท่า!”