TMFH ตอนที่ 127 : แต่ทําไมแกถึงพยายามตามหาความตายกันล่ะ
ฉัน…ฉันกําลังจะตายเหรอ…?
เมื่อปลายกระบี่อันแหลมคมของมือสังหารอยู่ห่างจากลําคอของหลินหลานเพียงไม่กี่นิ้ว เธอก็เผยให้เห็นแววตาที่ดูเฉื่อยชาและสิ้นหวัง
เธอไม่นึกว่าเธอกําลังจะต้องตายทันที หลังจากได้รับของขวัญที่ลําค่าที่สุดมาจากเย่เฟิง
ในขณะนั้นหลินหลานไม่กลัวเลยสักนิด แต่ใบหน้างดงามของเธอกลับแสดงสีหน้าที่ไม่เต็มใจและห่วงหา…
จิตใจของเธอเต็มไปด้วยภาพของเย่เฟิง
“ทําไม”
“ทําไมพระเจ้าไม่ให้เวลาฉันมากกว่านี้อีกหน่อย เพื่อที่ฉันจะได้รักและใช้ชีวิตกับผู้ชายที่ฉันรัก
น้ำตาใส ๆ ค่อย ๆ ไหลลงมาตามใบหน้าของหลินหลาน
น้ำตาพวกนั้นเต็มไปด้วยเงาสะท้อนของของเย่เฟิงในทุก ๆ หยาดหยดที่ไหลออกมา!
เมื่อคุมของกระบี่นั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หลินหลานก็รู้สึกหนาวเหน็บใจอย่างรวดเร็ว เธอหลับตาลงและรอเวลาที่ชีวิตของเธอจะต้องถูกพรากจากไป
เธอรู้ว่าเธอนั้นถึงคราวที่จะต้องตายแน่แล้ว!
แต่ในขณะนั้นร่างบางของหลินหลานก็สั่นเล็กน้อยจากเสียงกระทบ
เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ เลยสักนิด เธอลืมตาขึ้นด้วยความสับสนและพบว่าสร้อยข้อมือที่เธอพึงได้รับมานั้นกําลังเปล่งแสงสีเขียวออกมา
ในเวลาเดียวกันกระบี่และแขนของมือสังหารก็แหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
พลังที่รุนแรงได้พุ่งเข้าใส่มือสังหาร
มือสังหารร้องเสียงหลงออกมาอย่างน่าสมเพช ขณะที่เขากระเด็นห่างออกไป 4-5 เมตร เหมือนว่าวสายป่านขาด
โครม!
มือสังหารล้มลงกับพื้น ขณะที่บาดเจ็บอย่างหนัก ราวกับว่าเขาถูกยิงจากกระสุนปืนใหญ่
เขาเสียชีวิตในทันที!
ทั้งห้องจัดเลี้ยงตกอยู่ในความเงียบงัน
เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดภายในระยะเสี้ยววินาทีตั้งแต่การจู่โจมของมือสังหารจนกระทั่งเขาตาย
มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก
อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com
“เขา…เขาตายแล้วอย่างงั้นเหรอ”
ทุกคนในห้องจ้องมองไปที่มีอสังหารที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น
ดวงตาของมือสังหารนั้นแข็งค้างด้วยความกลัวในวาระสุดท้ายของชีวิตเขา
แขนของเขาหักเป็นชิ้น ๆ ขณะที่ร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาได้รับบาดเจ็บและมีบาดแผลอย่างรุนแรง
เขาตายสนิทแล้ว!
ทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างไม่กล้าหายใจเสียงดังออกมา
พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่สร้อยข้อมือหินของหลินหลานด้วยความตกใจอย่างมาก
“สร้อยข้อมือนั่นเพิ่งจะปล่อยแสงสีเขียว นี่ฉันตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย”
“โอ้พระเจ้า! นี่มันอะไรกันแน่เนี่ย ? มันจะทรงพลังขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?”
แขกเหรื่อทุกคนในห้องต่างรู้สึกว่าเปลือกตาของพวกเขากําลังกระตุกอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน
ก่อนหน้านี้หลินหลานกําลังจะต้องตาย ทว่ากลับกลายเป็นมือสังหารที่ต้องตายแทน! มันช่างเป็นการพลิกกลับของสถานการณ์ที่มหัศจรรย์มาก!
“นั่นมันเป็นไปไม่ได้”
“อุปกรณ์เวทมนตร์! โอ้พระเจ้า! มัน มันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์!”
อาจารย์กู๋ร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เขาจ้องเขม็งไปที่สร้อยข้อมือหิน!
“อุปกรณ์เวทมนตร์ ?”
หลังจากได้ยินคําพูดของเขา แขกคนอื่น ๆ ก็จับจ้องไปที่อาจารย์กู๋!
อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com
“อาจารย์กู๋อุปกรณ์เวทมนตร์คืออะไรกันแน่ครับ ?” แขกคนหนึ่งถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อาจารย์กู๋ตอบด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก “อุปกรณ์เวทมนตร์เป็นสิ่งที่ถูกสร้างโดยผู้ฝึกตน! เมื่อเขาสามารถรวบรวมพลังวิเศษของเขาลงในสิ่งของวิเศษ เขาก็จะสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ทรงพลังและมีพลังเกินกว่าจะจินตนาการณ์ได้”
“เมื่อตอนที่ฉันอยู่ที่นิวยอร์กฉันเคยเห็นคนๆ หนึ่ง สามารถป้องกันการโจมตีของปืนไรเฟิลได้ด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์! อุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นนั้นถูกซื้อต่อโดยตระกูลที่มีเกียรติลึกลับในราคาถึง 10,000ล้านหยวนในโรงประมูล!”
“อะไรนะ!”
หลังจากได้ยินคําพูดของอาจารย์ทั้งห้องจัดเลี้ยงก็พูดคุยกันเสียงขรม
อุปกรณ์เวทมนตร์สามารต้านทานการโจมตีของปืนไรเฟิลได้งั้นเหรอ ?!
“ราคา 1 หมื่นล้านหยวน ?”
“มัน…มันเป็นไปไม่ได้”
คําพูดของอาจารย์กู๋ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเกินคาดฝันสําหรับแขกในห้องนี้
ถ้าหากพวกเขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วยตาตัวเอง พวกเขาจะไม่มีทางเชื่อในการมีอยู่ของอุปกรณเวทมนตร์
ทุกคนต่างจับจ้องไปที่สร้อยข้อมือหินของหลินหลานทันทีด้วยท่าทางตื่นเต้น
สร้อยข้อมือนั้นมีมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านหยวนเลยเหรอ ?
ทุกคนต่างตกตะลึง!
พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าสร้อยข้อมือหินที่พวกเขาล้อเลียนและเยาะเย้ยในตอนแรกจะมีค่ามากกว่าดวงใจของราชินี
แม้แต่หลินหลานเองก็ตกตะลึง
ก่อนหน้านี้เธอคิดแค่ว่าสร้อยข้อมือนี้ถูกทําโดยเย่เฟิง เธอจึงรักมันอย่างสุดหัวใจ
เธอไม่เคยคิดเลยว่ามันมีมูลค่ามากขนาดนี้!
10,000 ล้านหยวนเลยงั้นเหรอ ?
“นั่นมันพอ ๆ กับสินทรัพย์รวมทั้งหมดของหลินกรุ๊ปเลยไม่ใช่เหรอ ?
อาจารย์กู๋จ้องมองเย่เฟิงด้วยความตื่นเต้นและตกใจอย่างมาก ขณะที่เขากล่าว “ตามแหล่งที่มาของฉัน มีเพียงผู้มีพลังระดับเซียนเท่านั้นที่สามารถสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ได้! นายน้อยคุณเป็น… ปรมาจารย์น้อยใช่หรือเปล่า”
แม้แต่อาจารย์กู๋แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้เห็น
“ปรมาจารย์น้อย ?”
ทั้งห้องจัดเลี้ยงราวกับถูกระเบิดลง มันเต็มไปด้วยความโกลาหลและเสียงพูดคุยเซ็งแซ่
พวกเขารู้ดีว่าบรรดาปรมาจารย์ในจีนล้วนเป็นผู้มีพลังอํานาจ
หลี่ซงเหยาแห่งภูมิภาคเซียงเจียง อู๋กูหล่าแห่งภูมิภาคเมียว จางเชนจิแห่งภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือและ โซเทียนชิแห่งปักกิ่ง!
บุคคลเหล่านี้ต่างถูกเรียกว่า 4 ปรมาจารย์ของจีน!
แต่ละคนปกครองแต่ละภูมิภาค ดังนั้นจึงเรียกพวกเขาอีกอย่างหนึ่งว่าเสาหลักทั้งสี่ของชาติ!
แต่ละคนล้วนมีอายุมากกว่า 70 ปี
“ปรมาจารย์น้อย ?”
พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อของปรมาจารย์น้อยมาก่อน!
ในขณะนั้นแขกแต่ละคนต่างจับจ้องไปที่เย่เฟิงด้วยความเคารพ!
ดวงตาของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นระคนตกใจ
อย่างไรก็ตาม เย่เฟิงไม่ได้ใส่ใจกับท่าทางเหล่านั้นของพวกเขา เขากวาดสายตาไปรอบ ๆ รอบห้องด้วยดวงตาที่เป็นประกายของเขาแทน
จนกระทั่งเขาได้เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง เขาก็เผยสีหน้าที่ดูราวกับปีศาจที่ชั่วร้าย ขณะที่เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย!
ซวยแล้ว!
ผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่กลางฝูงชนรู้สึกตัวสั่นลามไปทั้งกระดูกสันหลัง
เมื่อเธอเห็นเย่เฟิงจ้องมองเธอ เธอรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างกายราวกับว่าเธอเพิ่งตื่นจากการจําศีล
เธอรู้สึกว่าเธอนั้นกําลังถูกปีศาจจองมอง
“เขา เขาจะรู้ไหมว่าฉันคือคนร้าย…”
ความหวาดกลัวทําให้หญิงสาวไม่กล้าทนอยู่ตรงนั้นอีกต่อไป
ดังนั้นเธอจึงแอบหนีออกจากห้องจัดเลี้ยง
เธอเดินไปห้องน้ำและปิดประตู พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ไอ้สารเลวเอ้ย!”
ผู้หญิงคนนั้นหันหน้าไปมองกระจก เธอถอดหมวกออกและเผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่พอใจหน้านั้นบวมช้ำและเป็นสีม่วง ๆ แดงๆ
เมื่อมองไปที่รอยฟกช้ำบนใบหน้าของเธอ หญิงสาวก็ยิ่งแสดงสีหน้าไม่พอใจ
“เขาล้มเหลวได้อย่างไร! นางนั่นมัน โชคดีจริงๆ!!
ทันใดนั้นเสียงเย็น ๆ ก็ดังขึ้นข้างหลังเธอนั่นทําให้เธอตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น!
“บางคนหาหญิงขายบริการ บางคนหาผู้ชายขายน้ำ แต่ทําไมแกถึงพยายามตามหาความตายกันล่ะ”