พวกแกสามารถตายพร้อมกันได้เลย!‘ เสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นผิดปกติราวกับว่ามันมาจากนรกอเวจี ทำให้อากาศในห้องนั้นเย็นลงทันที
ทันใดนั้น ร่างของหัวหน้ายังคงยืนนิ่งอยู่!
เมื่อพวกเขารีบหันมองกลับไปตามต้นเสียง พวกเขาเห็นคน ๆ หนึ่งในมุมมืด!
“นั่นใครน่ะ! แสดงตัวออกมาจากตรงนั้น!”
ทันทีที่เห็นฉากนี้ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
เมื่อตอนที่พวกเขาเข้ามานั้น พวกเขาไม่เห็นใครเลยในห้อง ‘บุคคลนี้เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร’
ผู้ชายร่างกำยำเหล่านั้น สีหน้าเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัดขณะที่พวกเขาหยิบมีดสั้นออกมาในเสี้ยววินาที เพื่อพร้อมสำหรับการต่อสู้
ขณะเดียวกันกับเสียงก้าวเท้าที่ใกล้เข้ามา ร่างหนึ่งเดินออกจากมุมมืดอย่างช้า ๆ
และแน่นอนคนนั้นก็คือ เย่เฟิง!
ใบหน้าของเย่เฟิงนั้นดูมืดมนอย่างน่ากลัว
คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ลักพาตัวหลินหลานเท่านั้น แต่ยังพาเธอไปที่บ้านของเขาอีกด้วย ซึ่งพวกนี้ตั้งใจจะข่มขืนเธอก่อนจะฆ่าเธอทิ้ง จากนั้นพวกเขาต้องการป้ายความผิดให้เขา ช่างเป็นกลอุบายที่เลวทรามมาก!
และเย่เฟิงก็ตั้งใจที่จะฆ่าพวกเขาทุกคน!
“ไอ้ไร้ค่า แกนี่เอง!”
เมื่อเห็นเย่เฟิง เหล่าชายกำยำก็เริ่มเบาใจมากขึ้น
“ฮึ! ฉันไม่คิดว่าแกจะกลับมาแล้ว! ก็ดี…เกมนี้มันจะได้น่าสนใจยิ่งขึ้น!”
ชายที่เป็นหัวหน้าดูถูกเย่เฟิงอย่างอวดดี
หลังจากมองไปที่หลินหลานผู้ซึ่งไม่ได้สติอยู่บนเตียง ชายที่เป็นหัวหน้าก็พูดด้วยใบหน้าชั่วร้าย “หึหึ! ไอ้เด็กเหลือขอ ตอนนี้แกอยู่ที่นี่มันจะเจ๋งกว่าเดิม! เพราะอีกไม่นานเราจะให้แกเพลิดเพลินไปกับหนังสดฟรี! แกไม่เพียงแต่เป็นผู้ชมเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นแพะรับบาปด้วย!”
ชายหัวหน้าเผยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม
“ฮ่าฮ่า! พวกเราจะข่มขืนเธอและป้ายความผิดให้แก! เราจะสนุกกันแต่แกจะต้องตาย! พวกเรารู้สึกเศร้าแทนแกจริง ๆ !”
จากคำพูดของเขา พวกชายกำยำทุกคนต่างระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับจ้องมองเย่เฟิงอย่างเย้ยหยัน
ทว่าหลังจากได้ยินทุกอย่างแล้วเย่เฟิงก็ยังคงไม่สนใจ เขาจ้องมองคนเหล่านั้นและพูดว่า “แกช่างเป็นคนปากมากซะจริง! ทางไปนรกนั้นมันค่อนข้างไกล เพราะงั้นแกควรรีบไปโดยเร็วที่สุด!“
หืมม?
พวกเขาไม่ได้คิดว่าเย่เฟิงจะใจเย็นได้ โดยเฉพาะกับคำพูดที่อนาจารอย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น
เมื่อหัวหน้าตระหนักว่า ลูกชายนอกสมรสไร้ค่านี่ไม่เกรงกลัวพวกเขาเลย เขาก็พูดอย่างเคร่งขรึมทันทีว่า “ได้! ถ้าแกมีดีอะไรจริง ๆ ! ก็แสดงออกมาให้ฉันดู!”
หลังจากพูดอย่างนั้น หัวหน้าก็โบกมือขณะที่พูดด้วยเสียงกระซิบ “น้องสาม จัดการให้มันพิการ!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของหัวหน้า ชายแข็งแกร่งคนหนึ่งก้าวออกมา ด้วยความสูง 1.9 เมตร ชายผู้นี้นั้นแข็งแรงราวกับเสือ
เมื่อมองดูร่างกายผอมบางของเย่เฟิง ชายร่างใหญ่แสยะยิ้มอย่างน่ากลัวและพูดว่า “หึหึ! ไอ้เปี๊ยก ตรงไหนที่แกอยากให้ฉันหักให้ แขนหรือขาของแกดี?”
ใบหน้าของเขาค่อย ๆ โหดร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็พูดเบา ๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันเลือกทั้งตัวของแกแล้วกัน เริ่มจากหักซี่โครงของแกก่อน!”
ผู้ชายคนนี้พูดอย่างมั่นใจราวกับว่าเย่เฟิง เป็นเพียงแค่ปลาบนเขียงและเขาก็เป็นเชฟปรุงอาหาร
‘ซี่โครง?’
“เป็นตัวเลือกที่ดี!” เย่เฟิงยกมุมปากของเขาขึ้น ดวงตาของเขาประกายจิตสังหารออกมา “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอทำให้แกพึงพอใจเอง!”
‘อะไรนะ?’
คำพูดของเย่เฟิงทำให้ชายคนนั้นตะลึงเล็กน้อย จากนั้นไม่นานใบหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง “ดีมาก! ช่างเป็นเด็กดีเหลือเกิน! ถ้าอย่างนั้นก็ไป…ไปลงนรกซะ!”
หลังจากคำพูดของเขา ชั่วพริบตาชายผู้นั้นพุ่งเข้าใส่เย่เฟิงเหมือนแรดที่เจอกับศัตรู
ผู้ชายคนนี้ปล่อยหมัดที่รวดเร็วปานสายฟ้าไปที่หน้าอกของเย่เฟิง!
จากนั้น เขาก็เผยสีหน้าดูถูก ราวกับว่าเขาจะได้เห็นเย่เฟิงร้องไห้อย่างน่าสมเพช หลังจากที่เขาหักซี่โครงของเย่เฟิง
ฉึก!
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงลั่นของกระดูก ขณะที่ตัวของเขาสั่น
เขาก้มศีรษะของเขาลง และพบว่าหน้าอกของเขาถูกแทงทะลุด้วยฝ่ามือไปแล้ว!
แทงทะลุ!
ฝ่ามือสีขาว ซึ่งเรียวบางและดูอ่อนแอเกินกว่าจะจับลูกไก่ได้ แต่ว่ามันแทงทะลุหน้าอกของเขาราวกับดาบที่คมกริบและโผล่ออกมาจากด้านหลังของเขา
ในไม่ช้าเลือดสีแดงสด ก็เริ่มไหลหยดลงจากฝ่ามือของเย่เฟิง
เสียงเบา ๆ นั้นทำให้ทุกคนในห้องต่างตกใจ
‘อะไร…เกิดอะไรขึ้น!’
เหล่าชายที่ดูแข็งแกร่งที่เหลือต่างวิตกกังวล
พวกเขาสงสัยในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฝ่ามือจะทะลุเข้าไปในร่างกายของคนราวกับดาบได้อย่างไร
‘มันเป็น … มันเป็นไปไม่ได้!’
“อ๊า อ๊าก!”
ขณะนั้น คนที่ถูกเรียกว่าน้องสามคร่ำครวญและใบหน้าของเขาก็ซีดเซียวอย่างมาก ในเวลาเดียวกันความเจ็บปวดที่รวดร้าวนั้นทำให้ เส้นประสาททั่วร่างของเขาสั่นสะท้าน
“อ๊าก! มันเจ็บ!”
คนที่ชื่อว่าน้องสามแทบไม่เชื่อสายตาของเขาเอง เขาไม่เคยนึกเลยว่าหน้าอกของเขาจะถูกแทงทะลุด้วยฝ่ามือเพียงครั้งเดียว และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือความจริงที่ว่าเขานั้นมองไม่ทันว่าไอ้ขยะนั่นลงมืออย่างไร
‘ปีศาจ’
“เขาเป็นปีศาจ!” ชายร่างแกร่งรู้ตัวว่าเขานั้นกำลังจะตาย เขาพยายามจัดการกับกรงเล็บปีศาจนั่นอย่างไร้ค่า
หมอกสีดำจาง ๆ เริ่มไหลเข้าสู่บาดแผลของชายคนนั้นผ่านฝ่ามือเย่เฟิง ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
พวกผู้ชายที่เหลือจ้องสิ่งที่ปูดนูนบนร่างกายของเขาราวกับว่ามีงูกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายของชายคนนั้น
เขาครวญครางอย่างน่าหวาดกลัว ผู้ชายคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
ในท้ายที่สุด เขาหยุดร้องและร่างกายของเขาแน่นิ่งในที่สุด
‘เขาตายแล้ว!’
‘น้องสามตายแล้ว!’
เมื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด คนอื่น ๆ ต่างรู้สึกว่าเลือดในกายนั้นเย็นราวกับน้ำแข็ง
เมื่อมองท่าทางที่น่ากลัวของน้องสาม มันให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังดูสิ่งที่น่าสยดสยอง
มีสายลมเย็น ๆ พัดผ่านเข้ามา ชายที่เป็นหัวหน้าและคนอื่น ๆ นั้นได้เห็นสิ่งที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมได้เลย
เมื่อลมพัดผ่านร่างกายของน้องสาม ตัวเขานั้นก็แตกสลายเป็นฝุ่นและหายไป!
‘นั่นมัน…มันเป็นไปไม่ได้!’
สายตาของหัวหน้าและคนอื่น ๆ เกือบจะถลนออกมา
พวกเขายอมรับถึงความตายของน้องสามได้ แต่พวกเขาไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าศพได้กลายเป็นฝุ่นละอองและหายไป
‘นั่นมันโคตร…เหลือเชื่อ!’
“นี่แก…แกเป็นมนุษย์หรือผีอะไรกันแน่?”
ชายหัวหน้าดูหวาดกลัวเพราะเขาไม่เคยเห็นสิ่งแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน ในสายตาของเขาเย่เฟิงนั้นไม่ใช่มนุษย์!
‘มนุษย์หรือผี?’
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นแล้ว เย่เฟิงส่ายหัวของเขาเล็กน้อย ขณะที่เขายิ้มเยาะและมีประกายแสงอันชั่วร้ายในดวงตาของเขา “ปีศาจ! ฉันเป็นปีศาจ!”
‘ปีศาจ’
ชายร่างกำยำที่อยู่ตรงนั้นทุกคน รู้สึกราวกับว่าเลือดของพวกเขาแข็งตัวอีกครั้ง
การตายที่น่าสังเวชของน้องสาม ทำให้พวกเขากลัวจนแทบขาดใจตาย พวกเขาหันหลังกลับทันทีและตั้งใจจะหลบหนี
ทันใดนั้นเสียงของปีศาจก็ค่อย ๆ ลอยไปทั่วห้อง “ถ้าฉันต้องการให้พวกแกมีชีวิตอยู่ พวกแกก็จะรอด! แต่ถ้าฉันอยากให้พวกแกตาย พวกแกก็ต้องตาย!”