The Man from Hell – ตอนที่ 31 : สุราคำนับมิยอมดื่ม ต้องดื่มสุราลงทัณฑ์

โครม

หลังจากเสียงดัง ที่ด้านหน้าของลัมโบกินี่ก็พังยับ! ในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มทั้งสองคนถูกถุงลมนิรภัยกระแทกเข้าที่หน้า นั่นทำให้พวกเขารู้สึกเวียนหัว!

หากพวกเขาไม่เบรกในช่วงเวลาที่วิกฤติ พวกเขาก็คงจะบาดเจ็บหนัก แม้ว่าถุงลมนิรภัยจะทำงานก็ตาม

“ไอ้ลูกหมา!”

เด็กสองคนโกรธมาก เมื่อพวกเขานึกถึงตัวการในอุบัติเหตุครั้งนี้ เลือดของพวกเขาก็แทบจะเดือดพล่าน

จากนั้นพวกเขาก็หยิบไม้เบสบอล 2 อันจากท้ายรถและรีบตรงไปที่รถตู้อย่างเกรี้ยวกราด

เย่เฟิงได้จอดรถของเขาไว้ที่ไหล่ถนนเรียบร้อยแล้ว

หลังจากเปิดประตู หลินหลานก็ลงจากรถตู้พร้อมกับใบหน้าขาวซีดไม่มีสี

เธอเวียนหัวและรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย

การดริฟท์ของเย่เฟิงนั้น เกือบทำให้หัวใจของเธอกระดอนออกมา

“ไอ้บ้า…”

หลินหลาน ไม่เชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่เย่เฟิงขับรถยนต์

การดริฟท์ที่เชี่ยวชาญของเขา มันต้องเป็นความสามารถของนักแข่งรถมืออาชีพอย่างแน่นอน

แต่ทันใดนั้นหลินหลานหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็น เด็กผมสีเหลืองสองคนกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังเย่เฟิง

“ไอ้สารเลว! แกอยากตายมากนักเหรอ?”

พวกเขาดูโกรธมากยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาเดินมาอยู่ตรงหน้าเย่เฟิง

พวกเขารู้สึกโมโหเพราะความจริงที่ว่าลัมโบกินี่ถูกรถตู้แซงหน้า พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นตัวตลกที่น่าหัวเราะที่สุดในหมู่นักซิ่งรถเมื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ได้ถูกเปิดเผยไปต่อหน้าสาธารณชน

นอกจากนี้ด้านหน้าของลัมโบกินี่ ยังพังยับและเด็กชายทั้งสองคนเกือบจะถูกฆ่าตาย ทั้งหมดนี้เกิดจากไอ้งั่งนี่คนเดียว!

ดังนั้นทั้งสองจึงเกลียดชังเย่เฟิงมาก

ทว่าเย่เฟิงมองไปที่เด็กชายที่โกรธแค้นอย่างสงบ ขณะที่เขาพูดว่า “อะไรนะ? พวกแกกลัวความตายด้วยเหรอ?”

เย่เฟิงถามในขณะที่เขาเปิดเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน พร้อมประกายเย็นชาที่ฉายผ่านดวงตาของเขา “เมื่อพวกแกรักในชีวิตของแก แกจะไม่อนุญาตให้คนอื่น ๆ รักชีวิตของพวกเขาเหรอ หรือไม่ถ้าคนอื่น ๆ ยังตายได้แล้วทำไมพวกแกจะตายไม่ได้?”

ก่อนหน้านี้เด็กชายสองคนเกือบฆ่าเย่เฟิงและหลินหลาน

ตอนนี้เย่เฟิงกำลังจัดการกับพวกเขาด้วยวิธีการเดียวกัน!

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง แล้วเด็กชายสองคนดูโกรธแค้นยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่คาดคิดว่าไอ้งั่งคนนี้จะห้าวมากจนไม่กลัวพวกเขาแม้แต่น้อย!

“เฮ้ไอ้งั่ง! แกรู้หรือเปล่าว่ารถคันนี้มันราคาเท่าไหร่? ฟังนะ ด้านหน้าที่เสียหายมีค่า 1 ล้านหยวน! แกไม่มีปัญญาจะจ่ายด้วยซ้ำแม้แกจะทำงานทั้งชีวิตที่เหลือของแก!”

อาซานจ้องหน้าของเย่เฟิง สายตาที่ร้ายกาจของเขาเผยให้เห็นการเยาะเย้ย “เฮ้! แต่เมื่อแกเป็นคนจนฉันจะไม่เอาเงินแกก็ได้! แต่แกมีสองทางเลือก! ขอให้เราหักขาสองข้างของแกหรือให้แฟนของแกมานอนกับพวกเราสัก 3 วัน!”

เมื่อเธอได้ยินคำพูดของอาซาน หลินหลานก็ตกตะลึงชั่วคราว ใบหน้าที่สวยงามของเธอเปลี่ยนเป็นมืดมน

เธอไม่คิดว่าทั้งสองคน จะยื่นเงื่อนไขที่สกปรกเช่นนี้ได้

หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว เย่เฟิงก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธแค้น เขาเพียงแค่เผยรอยยิ้มที่แปลก ๆ “หักขาของฉันเหรอ? แกแน่ใจนะ?”

เย่เฟิงจ้องไปที่เด็กชายทั้งสองคน

ทั้งสองคนเชื่อว่าเย่เฟิงกำลังกลัวพวกเขา พวกเขาจึงเปิดเผยรอยยิ้มที่ร้ายกาจออกมา “ใช่! หากแกไม่ต้องการโดนหักขา ก็ให้แฟนของแกนอนกับเราเป็นเวลา 3 วัน และเราจะลืมทุกอย่าง!”

เด็กสองคนทำท่าลามกไปที่หลินหลาน

พวกเขาต้องการบังคับให้เย่เฟิง ประนีประนอมด้วยวิธีการสกปรกหรือข่มขู่เขาด้วยเงินจำนวนมาก

หากเย่เฟิงเป็นคนทั่วไป เขาจะต้องกลัวการเรียกร้องที่น่ากลัว และจากนั้นเด็กผมสีเหลืองสองคนจะได้หลับนอนกับหลินหลาน

สำหรับความเสียหายของรถสปอร์ตพวกเขานั้นไม่ได้สนใจเลยเพราะพวกเขาทำประกันที่ดีที่สุดเอาไว้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินแม้แต่นิดเดียว

ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขานั้น จะไม่ยอมเสียโอกาสที่จะได้รับตัวสาวงามที่หาตัวจับยากเช่นนี้

ขณะที่อาซานตอบ เขาและคู่หูของเขามองไปที่หลินหลาน ด้วยสายตาที่หื่นกระหายของพวกเขาเกือบทะลุผ่านความบริสุทธิ์ของหลินหลาน

ทันใดนั้น คำพูดของเย่เฟิงทำให้รอยยิ้มอนาจารของทั้งสองชะงัก

“ฉันอยากให้แกยืนอยู่ตรงนั้นและขอโทษฉัน แต่แกกลับชอบที่จะคุกเข่าและขอโทษฉัน! พอฉันยอมให้แกคุกเข่าและขอโทษฉันได้ แต่แกกลับชอบที่จะขอโทษด้วยขาที่หักมากกว่า!”

“สุราคำนับมิยอมดื่ม ต้องดื่มสุราลงทัณฑ์!”

เย่เฟิงจ้องไปที่เด็กชายทั้งสองขณะที่เขาเผยยิ้มน่ากลัว!

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ใบหน้าของเด็กหนุ่มสองคนก็เปลี่ยนไปทันที!

‘ว่าไงนะ?’

‘ขอโทษเหรอ’

เด็กหนุ่มผมสีเหลืองสองคนสงสัยในสิ่งที่พวกเขาได้ยิน!

พวกเขามีจำนวนคนมากกว่าเย่เฟิง นอกจากนี้พวกเขากำลังถือไม้เบสบอลอยู่ แต่ไอ้งั่งนั้นกลับกล้าพูดแบบนั้นเหรอ?

“ดี! ดีมาก!”

อาซานรู้สึกโมโหมากจนเขาเกือบหัวเราะออกมา เขามองเย่เฟิงอย่างเหี้ยมโหดและไร้ความปราณี

“แกคงอยากตายมากแล้วสินะ!”

เด็กชายผมสีเหลืองทั้งสองคนมองหน้ากันเปิดเผยแสยะยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าเราจะต้องหักขาของแก และก็นอนกับผู้หญิงของแกด้วย! หึหึ!”

หลังจากพูดคำเหล่านั้น ทั้งสองคนก็หวดไม้เบสบอลของพวกเขาใส่เย่เฟิงในเวลาเดียวกัน

ตอนนี้เมื่อไม้เบสบอลเกือบสัมผัสหัวของเย่เฟิง มือสองข้างก็พุ่งออกมาคว้าไม้เบสบอลแล้วหยุดพวกมันเอาไว้ได้!

ปัก!

ไม้เบสบอลทั้งสองถูกจับไว้ในเสี้ยววินาที!

‘หืมม?

ชายหนุ่มทั้งสองต่างตกตะลึง เพราะเขาไม่ได้คิดว่า เย่เฟิงจะสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขนาดนี้!

ทั้งสองตั้งใจจะดึงไม้เบสบอลกลับมา!

แต่พวกเขาพบว่ามือของเย่เฟิงนั้นเป็นเหมือนคีมเหล็ก ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามออกแรงมากแค่ไหนพวกเขาไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่นิดเดียว!

และยิ่งกว่านั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปก็ทำให้พวกเขากลัวจนเกือบจะฉี่ราดกางเกงหมด!

อาซานและคู่หูของเขา เห็นเย่เฟิงหักไม้เบสบอลเพียงแค่ใช้มือของเขา!

จากนั้นเย่เฟิงก็ปล่อยให้เศษไม้ลอยปลิวไปในอากาศ!

เย่เฟิงสามารถบดขยี้ส่วนของไม้เบสบอลให้กลายเป็นขี้เลื่อยได้

‘ไม่…เป็นไปไม่ได้!‘

ตาของอาซานและคู่หูของเขาเกือบจะโผล่ออกมาจากเบ้าตา

นอกจากจะหักไม้เบสบอลเป็นชิ้น ๆ แล้วเขายังบดขยี้ไม้เบสบอลได้ด้วยมือเปล่า!

‘เขาไม่ใช่มนุษย์แน่ ๆ !‘

เด็กชายสองคนหวาดกลัวอย่างมาก!

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เย่เฟิงพูดต่อไปเกือบทำให้พวกเขากลัวจนขาดใจตาย!

“ทิ้งขาของพวกแกไว้ที่นี่!”

อาซานก็รู้สึกว่าส่วนที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งของไม้เบสบอลถูกคว้าไป หลังจากได้ยินคำพูดของเขา!

จากนั้นเย่เฟิงก็หวดไปที่ขาของเขา

ในช่วงเวลาสั้น ๆ อาซาน ก็ร้องคร่ำครวญเสียงดังออกมา

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset