โครม
หลังจากเสียงดัง ที่ด้านหน้าของลัมโบกินี่ก็พังยับ! ในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มทั้งสองคนถูกถุงลมนิรภัยกระแทกเข้าที่หน้า นั่นทำให้พวกเขารู้สึกเวียนหัว!
หากพวกเขาไม่เบรกในช่วงเวลาที่วิกฤติ พวกเขาก็คงจะบาดเจ็บหนัก แม้ว่าถุงลมนิรภัยจะทำงานก็ตาม
“ไอ้ลูกหมา!”
เด็กสองคนโกรธมาก เมื่อพวกเขานึกถึงตัวการในอุบัติเหตุครั้งนี้ เลือดของพวกเขาก็แทบจะเดือดพล่าน
จากนั้นพวกเขาก็หยิบไม้เบสบอล 2 อันจากท้ายรถและรีบตรงไปที่รถตู้อย่างเกรี้ยวกราด
เย่เฟิงได้จอดรถของเขาไว้ที่ไหล่ถนนเรียบร้อยแล้ว
หลังจากเปิดประตู หลินหลานก็ลงจากรถตู้พร้อมกับใบหน้าขาวซีดไม่มีสี
เธอเวียนหัวและรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย
การดริฟท์ของเย่เฟิงนั้น เกือบทำให้หัวใจของเธอกระดอนออกมา
“ไอ้บ้า…”
หลินหลาน ไม่เชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่เย่เฟิงขับรถยนต์
การดริฟท์ที่เชี่ยวชาญของเขา มันต้องเป็นความสามารถของนักแข่งรถมืออาชีพอย่างแน่นอน
แต่ทันใดนั้นหลินหลานหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็น เด็กผมสีเหลืองสองคนกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังเย่เฟิง
“ไอ้สารเลว! แกอยากตายมากนักเหรอ?”
พวกเขาดูโกรธมากยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาเดินมาอยู่ตรงหน้าเย่เฟิง
พวกเขารู้สึกโมโหเพราะความจริงที่ว่าลัมโบกินี่ถูกรถตู้แซงหน้า พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นตัวตลกที่น่าหัวเราะที่สุดในหมู่นักซิ่งรถเมื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ได้ถูกเปิดเผยไปต่อหน้าสาธารณชน
นอกจากนี้ด้านหน้าของลัมโบกินี่ ยังพังยับและเด็กชายทั้งสองคนเกือบจะถูกฆ่าตาย ทั้งหมดนี้เกิดจากไอ้งั่งนี่คนเดียว!
ดังนั้นทั้งสองจึงเกลียดชังเย่เฟิงมาก
ทว่าเย่เฟิงมองไปที่เด็กชายที่โกรธแค้นอย่างสงบ ขณะที่เขาพูดว่า “อะไรนะ? พวกแกกลัวความตายด้วยเหรอ?”
เย่เฟิงถามในขณะที่เขาเปิดเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน พร้อมประกายเย็นชาที่ฉายผ่านดวงตาของเขา “เมื่อพวกแกรักในชีวิตของแก แกจะไม่อนุญาตให้คนอื่น ๆ รักชีวิตของพวกเขาเหรอ หรือไม่ถ้าคนอื่น ๆ ยังตายได้แล้วทำไมพวกแกจะตายไม่ได้?”
ก่อนหน้านี้เด็กชายสองคนเกือบฆ่าเย่เฟิงและหลินหลาน
ตอนนี้เย่เฟิงกำลังจัดการกับพวกเขาด้วยวิธีการเดียวกัน!
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง แล้วเด็กชายสองคนดูโกรธแค้นยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่คาดคิดว่าไอ้งั่งคนนี้จะห้าวมากจนไม่กลัวพวกเขาแม้แต่น้อย!
“เฮ้ไอ้งั่ง! แกรู้หรือเปล่าว่ารถคันนี้มันราคาเท่าไหร่? ฟังนะ ด้านหน้าที่เสียหายมีค่า 1 ล้านหยวน! แกไม่มีปัญญาจะจ่ายด้วยซ้ำแม้แกจะทำงานทั้งชีวิตที่เหลือของแก!”
อาซานจ้องหน้าของเย่เฟิง สายตาที่ร้ายกาจของเขาเผยให้เห็นการเยาะเย้ย “เฮ้! แต่เมื่อแกเป็นคนจนฉันจะไม่เอาเงินแกก็ได้! แต่แกมีสองทางเลือก! ขอให้เราหักขาสองข้างของแกหรือให้แฟนของแกมานอนกับพวกเราสัก 3 วัน!”
เมื่อเธอได้ยินคำพูดของอาซาน หลินหลานก็ตกตะลึงชั่วคราว ใบหน้าที่สวยงามของเธอเปลี่ยนเป็นมืดมน
เธอไม่คิดว่าทั้งสองคน จะยื่นเงื่อนไขที่สกปรกเช่นนี้ได้
หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว เย่เฟิงก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธแค้น เขาเพียงแค่เผยรอยยิ้มที่แปลก ๆ “หักขาของฉันเหรอ? แกแน่ใจนะ?”
เย่เฟิงจ้องไปที่เด็กชายทั้งสองคน
ทั้งสองคนเชื่อว่าเย่เฟิงกำลังกลัวพวกเขา พวกเขาจึงเปิดเผยรอยยิ้มที่ร้ายกาจออกมา “ใช่! หากแกไม่ต้องการโดนหักขา ก็ให้แฟนของแกนอนกับเราเป็นเวลา 3 วัน และเราจะลืมทุกอย่าง!”
เด็กสองคนทำท่าลามกไปที่หลินหลาน
พวกเขาต้องการบังคับให้เย่เฟิง ประนีประนอมด้วยวิธีการสกปรกหรือข่มขู่เขาด้วยเงินจำนวนมาก
หากเย่เฟิงเป็นคนทั่วไป เขาจะต้องกลัวการเรียกร้องที่น่ากลัว และจากนั้นเด็กผมสีเหลืองสองคนจะได้หลับนอนกับหลินหลาน
สำหรับความเสียหายของรถสปอร์ตพวกเขานั้นไม่ได้สนใจเลยเพราะพวกเขาทำประกันที่ดีที่สุดเอาไว้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินแม้แต่นิดเดียว
ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขานั้น จะไม่ยอมเสียโอกาสที่จะได้รับตัวสาวงามที่หาตัวจับยากเช่นนี้
ขณะที่อาซานตอบ เขาและคู่หูของเขามองไปที่หลินหลาน ด้วยสายตาที่หื่นกระหายของพวกเขาเกือบทะลุผ่านความบริสุทธิ์ของหลินหลาน
ทันใดนั้น คำพูดของเย่เฟิงทำให้รอยยิ้มอนาจารของทั้งสองชะงัก
“ฉันอยากให้แกยืนอยู่ตรงนั้นและขอโทษฉัน แต่แกกลับชอบที่จะคุกเข่าและขอโทษฉัน! พอฉันยอมให้แกคุกเข่าและขอโทษฉันได้ แต่แกกลับชอบที่จะขอโทษด้วยขาที่หักมากกว่า!”
“สุราคำนับมิยอมดื่ม ต้องดื่มสุราลงทัณฑ์!”
เย่เฟิงจ้องไปที่เด็กชายทั้งสองขณะที่เขาเผยยิ้มน่ากลัว!
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ใบหน้าของเด็กหนุ่มสองคนก็เปลี่ยนไปทันที!
‘ว่าไงนะ?’
‘ขอโทษเหรอ’
เด็กหนุ่มผมสีเหลืองสองคนสงสัยในสิ่งที่พวกเขาได้ยิน!
พวกเขามีจำนวนคนมากกว่าเย่เฟิง นอกจากนี้พวกเขากำลังถือไม้เบสบอลอยู่ แต่ไอ้งั่งนั้นกลับกล้าพูดแบบนั้นเหรอ?
“ดี! ดีมาก!”
อาซานรู้สึกโมโหมากจนเขาเกือบหัวเราะออกมา เขามองเย่เฟิงอย่างเหี้ยมโหดและไร้ความปราณี
“แกคงอยากตายมากแล้วสินะ!”
เด็กชายผมสีเหลืองทั้งสองคนมองหน้ากันเปิดเผยแสยะยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าเราจะต้องหักขาของแก และก็นอนกับผู้หญิงของแกด้วย! หึหึ!”
หลังจากพูดคำเหล่านั้น ทั้งสองคนก็หวดไม้เบสบอลของพวกเขาใส่เย่เฟิงในเวลาเดียวกัน
ตอนนี้เมื่อไม้เบสบอลเกือบสัมผัสหัวของเย่เฟิง มือสองข้างก็พุ่งออกมาคว้าไม้เบสบอลแล้วหยุดพวกมันเอาไว้ได้!
ปัก!
ไม้เบสบอลทั้งสองถูกจับไว้ในเสี้ยววินาที!
‘หืมม?
ชายหนุ่มทั้งสองต่างตกตะลึง เพราะเขาไม่ได้คิดว่า เย่เฟิงจะสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขนาดนี้!
ทั้งสองตั้งใจจะดึงไม้เบสบอลกลับมา!
แต่พวกเขาพบว่ามือของเย่เฟิงนั้นเป็นเหมือนคีมเหล็ก ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามออกแรงมากแค่ไหนพวกเขาไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่นิดเดียว!
และยิ่งกว่านั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปก็ทำให้พวกเขากลัวจนเกือบจะฉี่ราดกางเกงหมด!
อาซานและคู่หูของเขา เห็นเย่เฟิงหักไม้เบสบอลเพียงแค่ใช้มือของเขา!
จากนั้นเย่เฟิงก็ปล่อยให้เศษไม้ลอยปลิวไปในอากาศ!
เย่เฟิงสามารถบดขยี้ส่วนของไม้เบสบอลให้กลายเป็นขี้เลื่อยได้
‘ไม่…เป็นไปไม่ได้!‘
ตาของอาซานและคู่หูของเขาเกือบจะโผล่ออกมาจากเบ้าตา
นอกจากจะหักไม้เบสบอลเป็นชิ้น ๆ แล้วเขายังบดขยี้ไม้เบสบอลได้ด้วยมือเปล่า!
‘เขาไม่ใช่มนุษย์แน่ ๆ !‘
เด็กชายสองคนหวาดกลัวอย่างมาก!
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เย่เฟิงพูดต่อไปเกือบทำให้พวกเขากลัวจนขาดใจตาย!
“ทิ้งขาของพวกแกไว้ที่นี่!”
อาซานก็รู้สึกว่าส่วนที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งของไม้เบสบอลถูกคว้าไป หลังจากได้ยินคำพูดของเขา!
จากนั้นเย่เฟิงก็หวดไปที่ขาของเขา
ในช่วงเวลาสั้น ๆ อาซาน ก็ร้องคร่ำครวญเสียงดังออกมา