“คุณเฟิง เราขอทำแสดงความเคารพต่อคุณ!“
เสียงที่ดังอย่างพร้อมเพรียงกันนั้นสร้างความตกใจให้กับทุกคนภายในห้อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มของสวี่เฟย ที่ตัวแข็งทื่อไปในทันทีและค่อยๆเผยท่าทางราวกับเจอเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ!
‘นี่ฉัน…ฉันฝันไปหรือเปล่า’
สวี่เฟยหยิกตัวเองอย่างแรงขณะที่ตัวของเขากำลังสั่น
ทว่าภาพแถวของเหล่าพนักงานของโรงแรมคราวน์ ที่กำลังโค้งคำนับต่อเย่เฟิงนั้น ยังชัดเจนอยู่เบื้องหน้า
‘เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นภาพหลอน! มันต้องเป็นภาพหลอนแน่!’
สีหน้าของสวี่เฟยยังคงแสดงออกอย่างไม่น่าเชื่อเหมือนว่าเขาเพิ่งเห็นผีตัวเป็น ๆ
ดวงตาของเสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบินและจางลู่เกือบถลนออกมาจากเบ้าตา พวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสายตาของพวกเขาเอง
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าเหล่าขุมกำลังของโรงแรมคราวน์กำลังจะจัดการกับเย่เฟิงด้วยความรุนแรง แต่พวกเขากลับโค้งคำนับให้กับเย่เฟิงแทน!
‘เป็น…เป็นไปไม่ได้!’
แม้แต่อันซีก็ตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นดวงตาที่คู่งามของก็เธอเปล่งประกาย
“เย่เฟิง… “
อันซีเงยหน้ามองเย่เฟิงในขณะที่เขากำลังโอบไหล่เธอเอาไว้
ในขณะที่คนอื่น ๆ ทั้งหมดกำลังตกตะลึง ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มพนักงานโค้งคำนับและนำการ์ดสีดำมอบให้เย่เฟิง แล้วพูดด้วยความเคารพ “ชายผู้ต่ำต้อยคนนี้ชื่อเหวยฝ่าน เป็นผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมคราวน์ครับ ผมไม่ทราบมาก่อนว่าคุณเย่จะมาที่นี่ โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ! และนี่ครับการ์ดระดับ Emperor ของคุณเย่ครับ!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา สวี่เฟย เสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่ ต่างก็ตัวนิ่งค้างไปในทันที
‘เหวยฝ่าน?’
‘นั่นคือเขาเหรอ!‘
เมื่อได้ยินชื่อของเขากลุ่มของสวี่เฟยก็ตกใจมากยิ่งขึ้น
พวกเขารู้ว่าชายผู้นี้เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงของโรงแรมคราวน์ ด้วยตำแหน่งที่สูงเช่นนี้เขาจึงโด่งดังมากในเมืองเจียงซี
แม้แต่หัวหน้าตระกูลใหญ่บางคนในเมืองเจียงซีก็ยังไม่กล้าจะทำให้เขาขุ่นเคือง
นอกจากนี้ เหวยฝ่านยังมีความสัมพันธ์กับทั้งพวกเจ้าหน้าที่ของรัฐและแก๊งต่าง ๆ เขานั้นเป็นผู้มีอำนาจคนสำคัญในเมืองเจียงซีอย่างแน่นอน
แต่คนรุ่นใหญ่อย่างนี้ กำลังโค้งคำนับต่อหน้าเย่เฟิงด้วยความเคารพอย่างเต็มที่
‘นั่น…เป็นไปไม่ได้!’
ในขณะที่เรื่องทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้น เสี่ยวเหมย กำลังให้ความสนใจในประเด็นอื่น
‘อะไรนะ…เมื่อตะกี้เขาพูดว่าอะไร การ์ด Em…Emperor! นั่นคือการ์ดระดับ Emperor! โอ้พระเจ้า!‘
หลังจากได้ยินอย่างนั้น เสี่ยวเหมยก็ตัวสั่น
“อะไรนะ! การ์ด Emperor!”
สวี่เฟย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่พลันจับจ้องไปที่การ์ดดำนั้นด้วยความตกใจ
การ์ด Emperor นั่นก็หมายความว่าเย่เฟิงเป็น VIP ระดับ Emperor ของโรงแรมคราวน์
ทั่วทั้งเมืองเจียงซีมีไม่ถึง 5 คนที่มีการ์ด Emperor!
แม้แต่หัวหน้าตระกูลใหญ่ ๆ ในเมืองเจียงซีก็ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าของมัน มันเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง!
เจ้าของการ์ด Emperor ทุกคนสามารถมีอิทธิพลต่อทั้งเมืองเจียงซี!
และเย่เฟิง ก็คือหนึ่งในนั้น!
‘มัน…มันโคตรเหลือเชื่อ!‘
แม้แต่เย่เฟิงก็ตกตะลึงเช่นกัน
การ์ด Emperor เป็นของขวัญจากผู้อาวุโสของตระกูลไป๋เพื่อชดเชยกับเสื้อผ้าของเขา
ก่อนหน้านี้เย่เฟิง นั้นไม่รู้ถึงคุณค่าของการ์ดใบนี้เลยด้วยซ้ำ เขาแค่ใส่มันไว้ในกระเป๋าเสื้อเฉย ๆ
เขาไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นการ์ด Emperor ของโรงแรมคราวน์!
หลังจากส่งคืนให้กับคุณเย่แล้ว เหวยฝ่านบอกกับเขาด้วยความเคารพ “คุณเย่ โรงแรมคราวน์นั้นเป็นหนึ่งในกรรมสิทธิ์ของตระกูลไป๋! เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้อาวุโสได้แจ้งเหล่าผู้จัดการทั่วไปของตระกูลไป๋ว่า คุณเย่นั้นสามารถเพลิดเพลินไปกับการรับรองขั้นสูงสุดในทุกอย่างที่เป็นของตระกูลไป๋! และนอกจากนี้ทุกการใช้จ่ายของคุณเย่นั้นจะฟรีทั้งหมด!”
…
กลุ่มของสวี่เฟย ทุกคนรู้สึกเหมือนท้องฟ้าจะถล่มลงตรงหน้า!
พวกเขาไม่รู้จนกระทั่งตอนนี้ว่าโรงแรมคราวน์นั้นเป็นของตระกูลไป๋ ไม่น่าแปลกใจที่ ตระกูลกงไม่กล้าจะทำให้พวกเขาขุ่นเคือง
และเย่เฟิงยังสามารถเพลิดเพลินกับการรับรองขั้นสูงสุดและใช้จ่ายทุกอย่างได้ฟรีที่นี่!
นอกจากนี้ผู้อาวุโสของตระกูลไป๋ ได้กำชับไปยังเหล่าผู้จัดการทรัพย์สินทั่วไปทั้งหมดของตระกูลไป๋อีกด้วยในเรื่องนี้
ไม่มีใครคนอื่นในเมืองเจียงซีที่จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษเช่นนี้!
สวี่เฟย เสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่ต่างรู้สึกเวียนหัวในทันที
พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเย่เฟิง ผู้ซึ่งถูกพวกเขาดูถูกดูแคลน ในตอนนี้ได้พัฒนาจากปลาดุกกลายเป็นมังกร เพียงแค่การ์ดใบเดียว!
และสิ่งที่แย่กว่านั้นคือพวกเขาได้ใส่ร้ายและโยนความผิดทุกอย่างให้กับเขาอีกด้วย
ทั้งสี่คนสบสายตากันอย่างรวดเร็วในขณะที่พวกเขาเกือบจะร้องไห้ออกมา
‘แม่งเอ้ย! เราเกือบตายไปแล้ว!‘
‘ถ้าแกมีการ์ด Emperor ทำไมแกไม่พูดมาตั้งแต่ตอนแรก ทำไมแกถึงบอกพวกเขาว่าแกก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน‘
‘แกทำอย่างนั้นได้อย่างไร‘
เมื่อสวี่เฟย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่ ตระหนักว่าเงินทองทั้งหมดของพวกเขาที่รวมกันอยู่นั้นสามารถซื้อได้แค่ คราวน์วอดก้าหนึ่งขวดเท่านั้น ในขณะที่เย่เฟิงสามารถดื่มได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ พวกเขาก็เกือบจะกระอักเลือดออกมา
ไม่เพียงแค่นั้น เหวยฝ่านยังพูดด้วยความเคารพอย่างสูงสุดอีกว่า “คุณเย่นี่คือห้องวีไอพีระดับต่ำสุด! โปรดมากับผม ผมจะพาคุณไปที่ห้องระดับ Emperor ที่ทันสมัยที่สุด! นอกจากนี้เรารู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดแฟนสาวของคุณ ผมได้บอกให้พนักงานทุกคน ตกแต่งห้อง Emperor สำหรับคุณแล้ว ผมเชื่อว่าพวกเขาจะทำเสร็จในไม่ช้า!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเหวยฝ่าน สวี่เฟยและเพื่อนของเขาก็เกือบจะตายอยู่ตรงนั้น
‘ห้องวีไอพีระดับต่ำสุด?’
คำพูดของเหวยฝ่านนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือพนักงานทุก ๆ คนในโรงแรมคราวน์ กำลังตกแต่งห้อง Emperor ให้เขาอย่างเต็มความสามารถ
บางทีมีเพียงผู้อาวุโสของตระกูลไป๋เท่านั้นที่จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษเช่นนี้
สวี่เฟยและเพื่อนของเขาดูสับสน
หลังจากได้ยินเหวยฝ่าน บอกว่าเธอนั้นเป็นแฟนของเย่เฟิง อันซีก็รู้สึกเขิน
เธอรู้สึกเวียนหัวเนื่องจากความสุข ขณะที่เธอก้มศีรษะไว้ในอ้อมแขนของเย่เฟิง
สวี่เฟย และเพื่อนของเขารวมตัวกันรอบ ๆ เย่เฟิง และตั้งใจจะเดินจากไป แต่ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงทางออก
เย่เฟิงก็ตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อน!”
“คุณเย่ คุณมีคำสั่งอื่น ๆ อีกไหม?” เหวยฝ่านถามเขาอย่างรีบร้อน
หลังจากได้ยินคำถามของเขา เย่เฟิงก็จับจ้องไปที่สวี่เฟยและเพื่อนทั้งสามของเขาด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
‘เราเสร็จแน่!‘
สวี่เฟยและเพื่อนมองหน้าเขาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวอย่างน่ากลัว
“ฉันรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าคนเหล่านี้อย่างมาก!”
คำพูดของเย่เฟิงนั้นดังไปทั่วทั้งห้อง
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง เหวยฝ่านก็เข้าใจในทันที ขณะที่เขาหันกลับมาและบอกกับเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขา “พวกนายกำลังยืนทำอะไรกันอยู่ คนเหล่านี้พูดจาใส่ร้ายคุณเย่ พวกมันคงอยากตายมากแล้วแหละ! โยนพวกมันออกไป! และจากนี้พวกมันทุกคนถูกห้ามไม่ให้เข้ามาเหยียบที่โรงแรมคราวน์อีก ไม่อย่างนั้นก็ฆ่าพวกมันได้เลย! “
เหวยฝ่านออกคำสั่งอย่างร้ายกาจ!
คำสั่งของเขาฟังเหมือนระฆังในงานศพที่ทำให้ สวี่เฟย เสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบินและจางลู่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
“อันซีรีบหน่อย! เร็วเข้าช่วยพวกเราร้องขอความเมตตาจากคุณเย่ด้วย! เรารู้ว่าเราผิดไปแล้ว ขอให้คุณเย่โปรดแสดงความเมตตาต่อเราด้วย!”
เสี่ยวเหมย ตะโกนที่บอกไปยังอันซี ราวกับแสงแห่งความหวังสุดท้าย
ทว่าหลังจากได้ยินเช่นนั้นแล้ว อันซีก็ตบหน้าเธออย่างแรง!
เพียะ!
ช่างเป็นเสียงที่ดังและชัดเจนมาก!
เสี่ยวเหมยตัวแข็งไปในทันที
เธอไม่เคยคิดเลยว่าอันซีที่ดูอ่อนแอและไร้เดียงสาจะกล้าตบเธอได้
ด้วยท่าทางที่เยือกเย็น อันซีก็กล่าวด้วยสายตาที่ขุ่นเคืองของเธอว่า “เสี่ยวเหมย เธอไม่ควรทำร้ายเย่เฟิง! เธอไม่ควรทำอย่างนั้นเลย! และไม่มีวันที่เธอควรทำแบบนั้น!”