เมื่อเย่เฟิงและอันซีเดินออกจากโรงแรมคราวน์มันก็เป็นเวลาดึกแล้ว
ด้วยแก้มสีแดงระเรื่อและดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายของความสุขของอันซี
อันซีนั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกก็เพราะเย่เฟิง
“ขอบคุณมากนะ เย่เฟิง!”
เย่เฟิงคลี่รอยยิ้มจาง ๆ แต่เมื่อเขาต้องการพูดอะไรบางอย่างเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
‘หืมม?’
เขาแปลกใจเล็กน้อยเพราะเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นช่างดูไม่คุ้นเคย
หลังจากหยิบมันขึ้นมาแล้วเย่เฟิง ก็ได้ยินน้ำเสียงกังวลของผู้ชาย เขาพูดว่า “ท่านหัวหน้าใหญ่ ผมมีข่าวร้ายจะแจ้ง! เจ้านายของผมหายไป!”
‘ท่านหัวหน้าใหญ่?’
หลังจากได้ยินอย่างนั้นเย่เฟิงก็รู้สึกประหลาดใจชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อเขารู้ว่าเสียงปลายสายคือหมาป่าคลั่ง
ถ้าอย่างนั้น เจ้านายของหมาป่าคลั่งก็คือเฟยเชี่ยน!
“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล
“หนึ่งชั่วโมงก่อน! หลังจากดื่มกันที่บาร์แล้ว พวกเราทั้งคู่ต่างแยกกันกลับบ้าน! แต่หลังจากกลับถึงบ้านผมก็ไม่สามารถติดต่อไปยังโทรศัพท์ของเจ้านายได้!”
น้ำเสียงของหมาป่าคลั่งฟังดูเป็นกังวลขณะที่เขาพูดต่อ “ต่อมา ผมได้ติดต่อไปยังสมาชิกในครอบครัวของเจ้านาย แต่พวกเขาบอกว่าเจ้านายของผมยังไม่ได้กลับบ้าน!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว เย่เฟิงขอตำแหน่งของเขาก่อนจะพูดว่า “อืม! ฉันรู้แล้วรอฉันอยู่ที่นั่น!”
เมื่อจบประโยค เย่เฟิงก็วางหูโทรศัพท์
“หากมีเรื่องฉุกเฉิน พี่สามารถไปก่อนได้เลย! ฉันจะกลับบ้านโดยรถแท็กซี่เอง!” อันซีสังเกตว่าเย่เฟิงนั้นมีบางสิ่งที่สำคัญมากที่ต้องจัดการ
เย่เฟิงกล่าวขอโทษต่ออันซี ก่อนที่เขาจะมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของหมาป่าคลั่ง
…
เวลา 23.00 น.!
เมื่อเย่เฟิงมาถึงที่ Fit Bar เขาก็ไม่เห็นใครนอกจากหมาป่าคลั่งและผู้ติดตามของเขาที่กำลังสูบบุหรี่อยู่
ทันทีที่เห็นเย่เฟิง หมาป่าคลั่งและผู้ติดตามของเขาก็ผุดลุกขึ้นมาในเวลาเดียวกัน!
“ท่านหัวหน้าใหญ่!”
ทุกคนโค้งคำนับเขาขณะที่ทักทายเขาด้วยความพร้อมเพรียง
อย่างไรก็ตาม เย่เฟิงไม่ได้สนใจ เขารีบถามหมาป่าคลั่ง “นายได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับเฟยเชี่ยนมาบ้าง?”
หมาป่าคลั่งส่ายหัวของเขาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์สายตาของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว เพราะเขารู้สึกว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับเฟยเชี่ยนแน่นอน
เย่เฟิงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เย่เฟิง แกคงต้องได้ยินข่าวแล้ว!”
“ใช่! เพื่อนที่ดีที่สุดของแก เฟยเชี่ยนอยู่ในมือของฉัน! ถ้าแกต้องการจะช่วยเขา ให้มาที่โรงงานเหล็กห่างจากบาร์ประมาณ 3 ไมล์ในชานเมืองทางเหนือ! ฉันรอแกอยู่! แกพาคนมาด้วยได้อีก 4 คน! แต่ถ้ามากกว่าแม้แต่คนเดียว เฟยเชี่ยนจะต้องตาย! ฉันพูดเคลียร์ไหม?
หลังจากกล่าวคำพูดที่น่ากลัวนั่น ชายผู้นั้นก็วางหูโทรศัพท์ไปทันที!
“กงหวู่!” ดวงตาของเย่เฟิงกลายเป็นเดือดดาลอย่างยิ่ง
เย่เฟิงหันหลังกลับและออกเดินในทันที! หมาป่าคลั่งเรียกผู้ติดตามไปอีก 3 คนและมุ่งหน้าไปที่โรงงานเหล็กตามที่กงหวู่บอก
ในขณะเดียวกัน!
ที่โรงงานเหล็กร้างในชานเมืองทางตอนเหนือ
ทั้งอาคารมีแสงสว่างเพียงพอ ผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่า 10 คนกำลังถือไม้กอล์ฟด้วยหน้าตาดุร้าย
ตรงกลางเป็นเสาเหล็กที่มีคนตัวชุ่มไปด้วยเลือดถูกผูกเอาไว้
เพียะ!
ด้วยเสียงแส้ที่ฟาดลงมา รอยแผลลึกก็ถูกทิ้งไว้บนร่างของคนที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด
ทว่าร่างชุ่มเลือดยังคงนิ่งเงียบด้วยดวงตาสีแดงเข้ม
“ร้องไห้สิ! ไอ้อ้วน! ฉันต้องการได้ยินเสียงร้องไห้ของแก!”
กงหวู่ฟาดแส้ใส่เฟยเชี่ยนอีกครั้งด้วยเจตนาที่ชั่วร้าย
‘มันโคตรจะเจ็บเลยจริง ๆ!’
ร่างกายของเฟยเชี่ยนสั่นอย่างหนัก เมื่อบาดแผลลึกอีกอันถูกทิ้งไว้บนร่างของเขา
เลือดสด ๆ กำลังไหลออกมาจากบาดแผล
แต่เฟยเชี่ยนกัดฟันของเขาแน่น ขณะที่จ้องมองกงหวู่ด้วยดวงตาสีแดงเข้มที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ลึกสุดกู่ แล้วตะโกนว่า “กงหวู่แกเป็นผู้หญิงหรือไง ทำไมแกไม่ออกแรงให้มันมากกว่านี้ในการฟาดฉัน?”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฟยเชี่ยนแล้วกงหวู่ก็โกรธมากขึ้น
กงหวู่ไม่ได้นึกว่าว่าไอ้อ้วนจะดื้อรั้นเพียงนี้ หลังจากถูกตีมากกว่า 100 ครั้ง เฟยเชี่ยนก็ยังไม่ร้องไห้แม้แต่น้อย
“ดี! หนังแกหนานักใช่ไหม ฮะ?”
กงหวู่รู้สึกเหนื่อยมาก เขาโยนแส้ทิ้งไปก่อนที่จะบอกเฟยเชี่ยนด้วยท่าทางที่โหดร้าย “ฮึ! ไอ้อ้วน แกมันโชคร้ายเองที่ตอนนี้แกดันเป็นเพื่อนกับไอ้ลูกชายนอกสมรสนั่น!”
สีหน้าของกงหวู่เปลี่ยนเป็นน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เขาพูดต่อไปว่า “ฮึ! ฉันโทรไปหามันแล้ว มันคงจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ ฮ่า ฮ่า…ทั้งแกและมันจะต้องตายในคืนนี้!
กงหวู่พูดในขณะที่ดวงตาของเขาประกายพลังฉีที่ดุร้ายออกมา เห็นได้ชัดว่าเขานั้นตั้งใจจะฆ่าเย่เฟิงในคืนนี้
แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เจ้าอ้วนก็ถุยน้ำลายปนเลือดออกไปที่พื้นด้วยความเกลียดชัง เขาคำรามว่า “แกต้องการฆ่าเย่เฟิงงั้นเหรอ? ฮึ ฉันคิดว่าแกคงกำลังอยากตายมากแล้วสินะ!”
‘หืมม?’
หลังจากได้ยินคำพูดของเขากงหวู่ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะราวกับว่าเขาจดจำบางสิ่งได้ จากนั้นเขาเปิดเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา “ฉันรู้ว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นคนแปลก ๆ นิดหน่อย ฉันรู้ว่ามันสามารถสะกดจิตคนได้! แล้วยังไง! ครั้งที่แล้วฉันถูกมันทำให้ต้องคุกเข่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ทำให้ฉันเสียหน้าต่อสาธารณะ! แต่คราวนี้ฉันจะให้มันจ่ายคืนด้วยชีวิตของมัน! “
ครั้งที่แล้ว กงหวู่ต้องคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฟิง เพราะแสงสีม่วงราวกับตาของปีศาจจากดวงตาของเขา
หลังจากที่เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเกลียดชังเย่เฟิงอย่างมาก!
คราวนี้เขาจะระมัดระวังกับมันให้มากกว่าเดิม!
กงหวู่หักนิ้วของเขาทำให้เกิดเสียง “กร๊อบ”
ทันใดนั้น ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืดของโรงงานเหล็ก
เด็กหนุ่มคนนี้ตัวไม่ค่อยสูงและค่อนข้างผอม และด้วยใบหน้าซีดจนน่ากลัว เขาดูเหมือนคนที่กำลังป่วยหนัก
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เจ้าอ้วนจึงรู้สึกขนลุกอย่างหนักตลอด เมื่อตอนที่เขาเห็นเด็กหนุ่มคนนั้น เขารู้สึกเหมือนว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง ราวกับว่าบุคคลนั้นเป็นงูพิษบ้าเลือดที่พร้อมจะโจมตีและทำลายคนอื่น!
คนที่มีพลังความสามารถ!
เจ้าอ้วนมั่นใจว่าเขาต้องเป็นคนที่มีพลังความสามารถ!
“ฮ่า ฮ่า…คนนี้คือ – อสรพิษหกดัชนี! ฉันเชิญเขามาที่นี่เพื่อฆ่าเย่เฟิง!”
กงหวู่พูดด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว
“เฟยเชี่ยน แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ การกำจัดกลุ่มเศียรพยัคฆ์ ในเมืองเจียงซีเมื่อ 5 ปีที่แล้ว!”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้แล้วเจ้าอ้วนก็ตัวสั่นไปทั้งตัว ในขณะที่เขาจำได้ว่าเมื่อ 5 ปีก่อนในเมืองเจียงซี กลุ่มคนที่คอยกดขี่และทำร้ายผู้อื่นซึ่งเรียกตัวเองว่า เศียรพยัคฆ์!
คนกลุ่มนี้นั้นไม่มีใครเทียบได้ทั่วทั้งโลกด้านมืดที่ผิดกฎหมายของเมืองเจียงซี!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำของกลุ่ม พยัคฆ์อำมหิต ที่เป็นคนโหดร้ายสุด ๆ กลุ่มใหญ่ ๆ ทั้งหมดในเมืองเจียงซีล้วนพ่ายแพ้ให้กับเขา!
พยัคฆ์อำมหิต มีผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 4 คนที่เป็นเหมือนผู้นำกลุ่มย่อยของเศียรพยัคฆ์ ทั้ง 4 คนนั้นล้วนแต่เป็นแชมป์สังเวียนใต้ดินที่สามารถทำให้ทั้งเมืองหวาดหวั่นด้วยพลังอันยิ่งใหญ่!
แต่ว่า กลุ่มเศียรพยัคฆ์ทั้งหมดนั้น ได้ถูกทำลายทั้งหมดในชั่วข้ามคืน!
ศพของพยัคฆ์อำมหิตและผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 4 ถูกทิ้งไว้บนถนนในสภาพที่ถูกหั่นออกเป็นชิ้น ๆ เหตุการณ์ที่โหดเหี้ยมนี้ได้สร้างความตกใจไปทั่วทั้งเมือง
การฆาตกรรมที่ลึกลับและดำเนินการโดยอาชญากรที่สุดยอด!
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ถูกจับตัวได้จนกระทั่งตอนนี้!
“นี่แกหมายถึง… “
เจ้าอ้วนตัวสั่นเมื่อเขาจับจ้องไปที่ อสรพิษหกดัชนีด้วยท่าทางที่ไม่น่าเชื่อ!
“เฮ้ เฮ้! ใช่แล้ว! มันถูกจัดการโดยอสรพิษหกดัชนีคนนี้!”
กงหวู่เปิดเผยรอยยิ้มที่น่าสยดสยองในขณะที่เขากล่าวว่า “คราวนี้ เย่เฟิงได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากกงหยุ่นเฟย พี่ชายคนโตของฉัน หลังจากเขารู้ว่าเย่เฟิงนั้นทำให้ฉันคุกเข่าต่อหน้าสาธารณชน ตระกูลกงถูกย่ำศักดิ์ศรี ดังนั้นพี่ชายของฉันจึงส่งอสรพิษหกดัชนีมาฆ่าเขา ดังนั้น เย่เฟิงจะต้องตาย! “