วันนี้เป็นวันที่แดดจัด
ณ บนสนามกีฬาของโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซี
ในวิชาพละศึกษา เย่เฟิงไม่ได้อยู่รวมกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ เขากลับไปเดินเล่นรอบ ๆ สนามกีฬาคนเดียว
ที่จริงแล้วมันไม่มีความจำเป็นสำหรับ เย่เฟิงที่จะต้องไปโรงเรียน แต่เย่เฟิงกลับพบบางสิ่งที่ค่อนข้างแปลก
เขาพบว่ามีพลังฉีปีศาจลอยกระจายไปทั่วทั้งโรงเรียน
จากการสังเกตการณ์มาประมาณ 2 วัน เย่เฟิงพบว่าพลังฉีปีศาจนั้นมีความบริสุทธิ์อย่างมาก ซึ่งอยู่บริเวณสนามกีฬานี้
‘ดูเหมือนว่ามีพลังฉีปีศาจอยู่มากมายที่ใต้สนามกีฬา!’ เย่เฟิงคิดในขณะที่เขาเดินสังเกตแต่ละมุมของสนามกีฬา ‘บางทีนี่อาจเป็นดวงตาของปีศาจ!’
เย่เฟิงก็พลันตื่นเต้นทันที
‘ถ้ามันเป็นดวงตาปีศาจจริง ๆ จากการสังเกตของฉันแล้ว พลังฉีปีศาจในนั้นจะต้องบริสุทธิ์อย่างมากแน่ ๆ’
‘ถ้าฉันสามารถดูดพลังของดวงตาปีศาจได้ ผลลัพธ์มันจะดีกว่าการรวบรวมพลังฉีปีศาจที่ลอยอยู่ทั่วไป’
จนกระทั่งเขาเดินมาตรวจดูต้นหลิว เย่เฟิงหยุดลง เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแน่ใจว่าดวงตาปีศาจอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา
‘มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ ! เยี่ยมมาก!’
เย่เฟิง กระโดดขึ้นไปบนต้นหลิวทันที หลังจากนั้นเขาก็แตะไปที่ลำต้นและหลับตาลง
พลังฉีบริสุทธิ์ของปีศาจที่อยู่ตามกิ่งไม้ของต้นหลิวก็ค่อย ๆ ไหลเข้าสู่ร่างกายของเย่เฟิง
ในเวลานั้นเย่เฟิงรู้สึกถึงพลังปีศาจทั่วร่างกายของเขานั้นกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังใกล้เข้ามา
หลังจากที่ลืมตาขึ้นมา เย่เฟิงพบว่ามีนักเรียนหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นหลิวมองจ้องเย่เฟิงแล้วถามว่า “เย่เฟิง นายกำลังทำอะไรอยู่บนต้นไม้”
นักเรียนหญิงคนนี้เป็นคนสวย ถึงแม้จะรูปร่างอวบ แต่ดวงตาที่มีเสน่ห์ของเธอนั้นช่างดูบริสุทธิ์
เย่เฟิงตอบด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อเขารู้ว่าผู้หญิงที่เรียกเขาคนนี้คือ เหยาหนา ซึ่งเธอและหยูเฟยถูกเรียกว่าเทพธิดาทั้งสององค์ในชั้นปีที่ 3 ของห้อง 2
ทว่าเธอคนนี้เป็นคนโลภ หยิ่งยโสและไร้ความเมตตา
“ว่าไง?” เย่เฟิงถามพลางขมวดคิ้ว
เหยาหนาพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และน่ารัก “เย่เฟิง นายเคยชอบฉันมาก่อนใช่หรือเปล่า ? แต่หลังจากถูกฉันปฏิเสธ นายก็ไปไล่ตามจีบหยูเฟย! แต่ตอนนี้ในเมื่อนายก็เลิกกับหยูเฟยแล้ว ทำไมนายไม่ชวนฉันไปทานอาหารล่ะ ?”
‘ชวนเธอไปทานอาหาร ?’
เห็นได้ชัดว่าเหยาหนากำลังอยากออกเดทกับเย่เฟิงด้วยความคิดริเริ่มของเธอเอง หลังจากที่เห็นว่าเย่เฟิงได้ให้บทเรียนกับจงเฉียงและกงหวู่ในห้องเรียนไปเมื่อวันก่อน เขาดูเป็นคนมีชื่อเสียงในห้องเรียนเมื่อเร็ว ๆ นี้
หากเป็นก่อนหน้านี้เธอคงจะไม่มองแม้แต่หน้าเย่เฟิงเป็นแน่
ทว่าเย่เฟิงกลับส่ายหัวอย่างสบาย ๆ ขณะที่เขาหลับตา และพูดออกมาดัง ๆ ว่า “ฉันไม่ได้สนใจเธอ!”
‘อะไรนะ?’
ใบหน้าของเหยาหนาเปลี่ยนเป็นสีแดง
เธอไม่คิดว่าเย่เฟิงจะเพิกเฉยต่อความต้องการของเธอ และไม่ตกลงที่จะเชิญเธอไปทานอาหารอีกด้วย
เหยาหนาถามเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เย่เฟิง นี่นายพูดจริงไหม ? นายเคยรักฉันมากมาก่อน ถ้านายไม่คว้าโอกาสนี้เอาไว้ นายจะไม่มีโอกาสได้อยู่กับฉันนะ!”
เหยาหนาพยายามชี้แจงเจตนาของเธอออกมา
อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ เย่เฟิงก็หันหน้าไปทางอื่น เขาทิ้งตัวลงนอนและหลับตาลงขณะอยู่บนต้นไม้โดยไม่สนใจเหยาหนาอีกต่อไป
‘นี่เป็นบ้าอะไรของเขา!’
เหยาหนากัดฟันของแน่นด้วยความโกรธ
เหยาหนาเป็น 1 ในเทพธิดาทั้ง 2 คน ในชั้นปีที่ 3 ห้อง 2 เด็กผู้ชายหลายคนใฝ่ฝันที่จะได้ออกเดทกับเธอ แต่เธอยื่นโอกาสนี้ให้กับเย่เฟิง เธอไม่ได้คาดคิดเลยแม้แต่น้อยว่าเย่เฟิงจะไม่แม้แต่มองหน้าเธอด้วยซ้ำไป
“ได้! เย่เฟิง อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน!”
เหยาหนาหันหลังกลับแล้วเดินทิ้งออกมาจากตรงนั้นทันที พร้อมกับความเกลียดชังที่ยิ่งใหญ่ปรากฏในดวงตาของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้นเธอตรงไปที่ครูสอนวิชาพละศึกษา จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่เย่เฟิงบนต้นไม้และพูดอะไรบางอย่างกับครู
ทันใดนั้นครูสอนวิชาพละศึกษาก็เดินตรงไปที่เย่เฟิงด้วยความโกรธ
ฉากนี้กระตุ้นความสนใจของเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน
เมื่อดูท่าทางไร้ความปราณีของครูพละกับเย่เฟิงที่กำลังนอนหลับอยู่บนต้นไม้ ทุกคนรู้ว่าจะต้องมีโชว์ดี ๆ เกิดขึ้นแน่นอน
“ดูเหมือนว่าเย่เฟิงจะทำให้เหยาหนาไม่พอใจนะ! ครูเหยาเป็นลุงของเหยาหนาฉันกลัวว่าเย่เฟิงคงจะต้องเดือดร้อน!”
“ใช่แล้ว ครูเหยาเป็นที่รู้กันดีในเรื่องการปกป้องหลานสาวของเขา ครั้งล่าสุดนั้นเพราะการยุยงของเหยาหนาเขาจัดการเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นและทุบเขาจนกระอักเลือดออกมา!”
“มันจะต้องบันเทิงแน่! การแสดงโชว์เจ๋ง ๆ กำลังจะเริ่มแล้ว!”
เพื่อนร่วมห้องเรียนทุกคนส่งเสียงพูดคุยกันเหมือนนกแตกรัง
ในสายตาของพวกเขาเย่เฟิงคงจะต้องพ่ายแพ้แน่ ๆ
เหยาหนามองดูเย่เฟิงที่กำลังหลับสนิทอยู่บนต้นไม้ด้วยรอยยิ้มอันยิ่งใหญ่ “ฮึ! สมน้ำหน้า! นายคิดว่านายจะทำเป็นไม่สนใจฉันหลังจากที่นายอับอายในที่สาธารณะแบบนี้ได้เหรอ? คอยดูแล้วกัน!”
ภายใต้สายตาของนักเรียนทุกคน ครูเหยาก็เดินมาถึงที่ใต้ต้นหลิว เขาตะโกนว่า “เฮ้! ตื่น! ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!
ครูเหยายังคงเขย่าไปที่ลำต้นของต้นหลิวด้วย
เย่เฟิงขมวดคิ้ว เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“ว่าไง?”
เสียงของเย่เฟิงฟังดูชัดเจนว่าเขานั้นไม่ได้เคารพครูเหยาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฟิง เหยาเจิ้งก็โกรธจัดทันที จากนั้นเขาจ้องเย่เฟิงเขม็งแล้วตะโกนเสียงดังว่า “เธอ! ลงมาจากที่นั่น เดี๋ยวนี้!
‘หืมม?’
หลังจากได้ยินคำพูดของเหยาเจิ้งแล้ว ดวงตาของเย่เฟิงก็เป็นประกายเย็นชาทันที เขาปล่อยพลังฉีที่น่ากลัวออกมาแล้วตะโกนว่า “อย่ามายุ่งกับผม!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง เหยาเจิ้งก็รู้สึกราวกับว่าเขาถูกสายฟ้าฟาด!
ตึง!
ในหัวของเหยาเจิ้งตื้อไปเลย!
ในขณะนี้เขารู้สึกราวกับว่าเด็กชายที่อยู่ด้านบนต้นหลิวไม่ใช่คน แต่เป็นผี
ด้วยพลังฉีที่น่ากลัวของเย่เฟิงที่ปล่อยออกมานั้น เหยาเจิ้งรู้สึกว่าเลือดในกายของเขาแข็งตัว เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่เย่เฟิง ยิ่งไปกว่านั้นหน้าผากของเขาเริ่มเหงื่อออกและหลังของเขาก็เปียกโชกไปหมด ราวกับว่าเขาอาจจะถูกฆ่าทันทีถ้าเขายังฝืนพูดแม้อีกเพียงหนึ่งประโยค
อึก!
เหยาเจิ้งกลืนน้ำลายอึกใหญ่ขณะที่ความรู้สึกของเขานั้นดูราวกับว่าเขาเพิ่งเห็นผี เขาหันหลังกลับทันทีแล้วรีบเดินไปด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนที่กำลังมองอยู่ก็ตกอยู่ในความโกลาหล
…
‘ครูเหยาจะถูกทำให้กลัวด้วยคำสั้น ๆ 5 คำได้อย่างไร’
ทุกคนที่ดูอยู่นั้นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง!
พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่า ครูเหยาที่เป็นคนอารมณ์รุนแรง จะหวาดกลัวต่อคำพูดของเพื่อนร่วมห้องของพวกเขา ‘อย่ามายุ่งกับผม’
เหยาหนาก็ไม่เชื่อสายตาของเธอเองเช่นกัน
เมื่อเหยาหนาก้าวไปข้างหน้าและตั้งใจจะถามลุงของเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอได้ยินเสียงพูดคุยกันจากเพื่อนร่วมห้องที่อยู่ในสนามกีฬา
“ดูนั่น ไป๋ยี่นี่! โอ้พระเจ้าส่งเทพธิดามาที่นี่!”
“แม่ง! นั่นมันไปยี่จริง ๆ ด้วย! แม่เทพธิดาของฉัน! เธอช่างงดงามเหลือเกิน!”
“ราชินีแห่งความงามหมายเลข 1 ของโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซี! เธอเหมาะสมจะได้ชื่อว่าดาวโรงเรียนโดยแท้จริง! เลือดกำเดาฉันเกือบจะไหลแล้ว โอ้พระเจ้า!”
“…”
พวกเขาต่างจับจ้องไปที่หญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดสีขาว
ด้วยใบหน้าสีแดงอ่อน ๆ และรูปลักษณ์ที่งดงาม พวกเขาต่างเฝ้ามองหญิงสาวที่พวกเขาคิดว่าเธอนั้นเป็นเทพธิดาที่สวยที่สุด
แต่ละย่างก้าวที่เธอขยับเท้าเดินช้า ๆ มันสะกดสายตาของทุกคนได้อย่างดี เธอก็เหมือนนางฟ้าในภาพวาดที่จุติมายังโลกของมนุษย์
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน ไป๋ยี่ค่อย ๆ ไปที่ต้นหลิวและเงยหน้ามองเย่เฟิงด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เธอตะโกนว่า “เย่เฟิง นายสนใจจะเป็นแขกไปทานอาหารกับฉันไหม?”
‘อะไรนะ!’
คำพูดของ ไป๋ยี่สร้างความตกตะลึงกับนักเรียนทุกคนในสนามกีฬาแห่งนั้น
หลังจากนั้นไม่นานหัวใจของนักเรียนชายแต่ละคนก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
พวกเขาไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่าเทพธิดาของพวกเขาจะเป็นฝ่ายเชิญผู้ชายคนอื่นมาเพื่อทานอาหารด้วยกัน
แต่หลังจากนั้นคำพูดของเย่เฟิง นั่นทำให้นักเรียนชายทุกคนต้องกระอักเลือดอย่างแรง “ฉันไม่สนใจ!”