The Man from Hell – ตอนที่ 45 : เขาบอกว่าเธอเป็นคนงี่เง่า!

ที่ชั้นสองในโรงอาหารของโรงเรียนได้รับการออกแบบสำหรับนักเรียนที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย

ไป๋ยี่นั่งดูเย่เฟิงกลืนอาหารของเขาอยู่ที่มุมหนึ่งของโรงอาหารด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ

ที่บนโต๊ะนั้นมีอาหารมากกว่า 20 จาน

แต่ในขณะที่ไอ้บ้านี้กำลังกลืนอาหารเขาก็ส่ายหัวพลางตะโกนว่า “เฮ้อ! นี่มันเป็นความผิดหวังและการสูญเสียครั้งใหญ่! ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าฉันจะสามารถเพลิดเพลินไปกับปลิงทะเล หอยเป๋าฮื้อ หรือพวกอาหารหรู ๆ ! แต่เธอกลับเชิญฉันมากินอะไรแบบนี้! เธอมันใจร้าย ใจร้ายมากจริง ๆ!

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ไป๋ยี่ก็พูดไม่ออก

“เฮ้! คุณดาวโรงเรียน ทำไมไม่ลองชิมล่ะ! จานนี้รสชาติไม่เลวเลย ลองดู… “

เย่เฟิงชี้ไปที่จานพลางส่งสัญญาณให้ไป๋ยี่เพื่อลิ้มรส เขาพูดขณะที่ปากของเขาเต็มไปด้วยอาหาร

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ไป๋ยี่ก็หยิบตะเกียบของเธอขึ้นมาและตั้งใจว่าจะลองชิม ทว่าเย่เฟิงกลับกินอาหารจานนั้นจนหมดเกลี้ยง ขณะที่เธอเอื้อมมือพร้อมตะเกียบออกไป

ช่างเป็นความรวดเร็วที่น่าทึ่ง!

‘โธ่เว้ย!’

ไป๋ยี่เกือบจะเป็นบ้า

หลังจากนั้นเย่เฟิงก็ชี้ไปที่อีกจานหนึ่งเพื่อแนะนำให้ไป๋ยี่ลองชิม

แต่ก่อนที่ไป๋ยี่จะหยิบตะเกียบของเธอขึ้นมา อาหารในจานนั้นก็หมดไปแล้ว

ไป๋ยี่กระแทกตะเกียบของเธอลงด้วยความโกรธ

ไป๋ยี่ขมวดคิ้วและในที่สุดเธอก็ติดสินใจเอ่ยปากขึ้น

“เย่เฟิง จริง ๆ แล้วฉันเชิญนายมาเพื่อคุยเรื่องคุณปู่ของฉัน… “

อย่างไรก็ตามเธอเห็นเด็กหนุ่มสามคนเดินเข้ามาในโรงอาหาร

“พี่เหวิน! พวกเขาอยู่ที่นั่น!”

เด็กหนุ่มทั้งสามมองไปรอบ ๆ เมื่อพวกเขาเข้ามาโรงอาหารนี้ จนกระทั่งหัวหน้ากลุ่มของเด็กทั้งสามคนจะสังเกตเห็นเย่เฟิงและไป๋ยี่ ทันใดนั้นดวงตาของเขาเปล่งประกาย พวกเขาเดินตรงไปยังโต๊ะของทั้ง 2 คน

เมื่อเห็นเด็กหนุ่มทั้งสามคนใบหน้าของไป๋ยี่ก็ดูหนักใจ

“ฮ่า ฮ่า ไป๋ยี่เธออยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย!”

คนที่เป็นหัวหน้าทักทายไป๋ยี่ด้วยรอยยิ้ม รูปร่างของพวกเขาสมส่วนและดูหล่อเหลา ทรงผมของทั้งสามนั้นเซตทรงมาเป็นอย่างดี

หลังจากได้ยินคำพูดของเขาใบหน้าของไป๋ยี่ก็ร้ายกาจ

“กงเหวิน ทำไมนายมาหาฉันที่นี่มีอะไรเหรอ ?”

“มาหาเธอ ?” กงเหวินชะงักเล็กน้อย พลางสบตาเย่เฟิงด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเจอเธอ ฉันมาที่นี่เพื่อเจอเขา!”

‘หืมม?’

ไป๋ยี่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

กงเหวินจ้องหน้าของเย่เฟิง ในขณะที่เขาพูดอย่างขี้เล่นว่า “นายคือเย่เฟิงเหรอ? หืมม นายดูจนอย่างข่าวลือที่คนอื่น ๆ พูดถึงจริง ๆ ด้วย”

หลังจากนั้นกงเหวินก็เหลือบมองดูจานบนโต๊ะ ขณะที่เขาพูดกับเย่เฟิงด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม “ดาวโรงเรียนนั้นเป็นคุณหนูจากตระกูลไป๋ หากนายอยากตามจีบเธอ นายจะพาเธอมายังสถานที่แบบนี้สำหรับทานอาหาร นายนี่ดูถูกเธอเกินไปแล้ว!”

ขณะชี้ไปที่อาหารจานหนึ่ง ใบหน้าของกงเหวินก็แสดงความเหยียดหยามขณะที่เขาพูดต่อว่า “ดูอาหารพวกนี้ กินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถึงอย่างไรนายก็เป็นสมาชิกของตระกูลเย่ แต่การกระทำของนายมันเป็นการทำให้ตระกูลเย่นั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงชัด ๆ“

กงเหวินยังคงดูถูกเย่เฟิงต่อไป นั่นทำให้ใบหน้าของไป๋ยี่เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าปั้นยาก

หลังจากกลืนอาหารในปากของเขาหมดแล้ว เย่เฟิงก็เรอออกมา หลังจากนั้นเขาชี้ไปที่กงเหวินและถามไป๋ยี่ ว่า “ไอ้งั่งคนนี้เป็นใคร ?”

อึก!

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ไป๋ยี่ก็เกือบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

เธอไม่คิดว่าเย่เฟิงจะหยาบคายขนาดนี้ แต่เธอก็ชอบวิธีการที่เขาพูดออกมา

หลังจากพยายามกลั้นที่จะไม่หัวเราะ ไป๋ยี่ยักไหล่และกระซิบ “เขาชื่อกงเหวิน เป็นคนที่ไล่ตามจีบฉันคนหนึ่ง!”

‘คนที่ไล่ตามจีบ’

เย่เฟิงพยักหน้าช้า ๆ เขาเข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมกงเหวินถึงมาที่นี่ เห็นได้ชัดว่ากงเหวินมาที่นี่เพื่อตามหาไป๋ยี่ หลังจากที่รู้มาว่าเย่เฟิงและไป๋ยี่อยู่ที่นี่เพื่อทานอาหารด้วยกัน เย่เฟิงก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขาพูดว่า “กงเหวิน? ฉันรู้สึกว่าคำพูดของนาย มันโคตรจะถูกต้องเลย”

‘อะไรนะ?’

กงเหวินนั้นถือว่าเย่เฟิงนั้นเป็นคู่แข่งของเขาในเรื่องของความรัก และเขาก็พยายามทำร้ายเย่เฟิงด้วยคำพูด แต่เขาไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะมาเห็นด้วยกับคำพูดของเขา

ดังนั้นกงเหวินจึงรู้สึกสับสนในทันที

ไม่เพียงเท่านั้น เย่เฟิงยังคงยิ้มและพูดต่อไป “นายพูดถูกคน ๆ หนึ่งจะเชิญอีกคนมาทานอาหารที่แบบนี้ได้ยังไง นี่มันเป็นการดูถูกมาก ๆ ! ดูที่จานเหล่านี้ซิ พวกมันกินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ?”

กงเหวินคิดว่าเย่เฟิงต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ เขาจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย

ถ้าไม่อย่างนั้นหรือว่าเย่เฟิงจะไม่รู้ตัวว่า กำลังถูกเขาพูดจาไม่ดีใส่ ?

จากนั้นกงเหวินยังคงยิ้มต่อไป “อืมม! จานพวกนี้น่ากลัวจริง ๆ นี่มันเป็นความอัปยศที่เชิญผู้คนมาทานอาหารที่นี่! เจ้าภาพจะต้องเป็นคนงี่เง่าแน่นอน!”

เอ่อ…

เย่เฟิงแสร้งทำสีหน้าตะลึง ขณะเขาบอกกับไป๋ยี่ด้วยรอยยิ้มว่า “เขาบอกว่าเธอเป็นคนงี่เง่า!”

เพียะ!

จากนั้นก็มีเสียงตบหน้าดังขึ้น มันดังจนได้ยินไปทั้งโรงอาหาร

กงเหวินตัวแข็งทื่อไปอย่างสมบูรณ์

ด้วยการรอยฝ่ามือสีแดงสดบนใบหน้าของเขา เขามองไป๋ยี่ด้วยท่าทางที่สับสน

เขาไม่เคยคิดเลยว่าเทพธิดา ไป๋ยี่จะตบหน้าเขา

และมองด้วยความโมโห สายตาของเธอแทบจะฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ และกินเขาไปได้เลย

‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น…’

‘ฉันแค่จงใจพูดจาดูถูกเย่เฟิง ทำไมเธอถึงต้องโกรธขนาดนั้น ?’

กงเหวินยังคงสับสน แต่สิ่งที่ไป๋ยี่กล่าวต่อไปนั้นทำให้เขาตกใจอย่างมาก

“ฉันนี่แหละคนงี่เง่านั่น!”

‘อะไรนะ!’

กงเหวินแทบอยากจะร้องไห้ออกมา

เขาคิดว่าเป็นเพราะเย่เฟิงนั้นยากจน เขาจึงทำได้แค่เชิญไป๋ยี่มาเพื่อทานอาหารในที่ธรรมดาเช่นนี้ โดยไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นไป๋ยี่ที่เป็นคนเชิญเขามา

เขาอวดดีผิดคนจริง ๆ!

นั้นทำให้กงเหวินอยากจะต่อยกำแพงแรง ๆ สักครั้ง

‘เย่เฟิง ไอ้ชั่วเอ้ย!’

กงเหวินยิ่งอารมณ์เสียเมื่อเห็นหน้าเย่เฟิง

เขาเข้าใจแล้วว่าที่เย่เฟิงคล้อยตามเขานั้นก็เพราะมีจุดประสงค์แบบนี้

ดังนั้นกงเหวินจึงโมโหอย่างมาก เขาคำรามถามว่า “ไอ้งั่ง แกมีสองทางเลือก! จะไปจากที่นี่ดี ๆ หรือจะให้ฉันทุบตีแกก่อน จนกว่าแกจะยอมออกไปจากที่นี่!”

‘หืมม?’

หลังจากได้ยินคำพูดของกงเหวิน เย่เฟิงก็หลี่ตาเล็กน้อยและเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดว่า “ฉันจะยอมออกไปก็ได้ แต่นายต้องจ่ายเงินให้ฉัน!”

‘ว่าไงนะ?’

‘เขายอมที่จะไปจากที่นี่เหรอ ?’

กงเหวินไม่ได้คิดว่าเย่เฟิงจะเลือกออกไปด้วยความสมัครใจ

กงเหวินนั้นไม่สนใจเรื่องเงินเลย!

ยิ่งเขาจ่ายมากเท่าไหร่ คนหิวเงินอย่างเย่เฟิงก็จะยิ่งดูแย่มากขึ้นเท่านั้นและไป๋ยี่จะรู้สึกผิดหวังยิ่งขึ้นในตัวของเย่เฟิง นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีของเขา!

กงเหวินตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ “เฮ้! แกช่างเป็นคนจนจริง ๆ ! แกสนใจแต่เรื่องของเงินเท่านั้น! ฟังนะฉันจะให้แก 10,000 หยวน และแกก็ออกไปจากที่นี่ซะ!”

“ไม่ ไม่!”

เย่เฟิงโบกมือและพูดด้วยรอยยิ้ม “10,000 หยวนมันไม่พอ!”

‘ไม่พอ?’

“แกต้องการเท่าไหร่?” กงเหวินตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะที่เขาจ้องตอบด้วยนัยน์ตาวาววับ

“เท่าไหร่เหรอ ? ฉันขอคิดก่อนนะ!” เย่เฟิงเริ่มคำนวณด้วยนิ้วของเขา

“มื้อนี้ใช้เวลาของฉันประมาณ 40 นาทีคือ 2,400 วินาที 10 หยวนต่อวินาที! ก็ 24,000 หยวน! นายสามารถเพลิดเพลินกับส่วนลด 11% ได้ ดังนั้นทั้งหมดก็ 21,360 หยวน!”

เย่เฟิงยื่นมือออกมาพร้อมรอยยิ้ม “เอาเงินมา!”

ไป๋ยี่พูดไม่ออก…

กงเหวินก็พูดไม่ออก…

เมื่อเห็นรอยยิ้มแบบนั้นของเขา ไป๋ยี่รู้สึกราวกับว่ามันจะต้องมีอะไรเบื้องหลังรอยยิ้มแบบนั้นแน่ ‘เย่เฟิงจะต้องมีลูกเล่นอะไรอีกแน่ ๆ !’

“ก็ได้! ฉันจะจ่ายเงินให้แกเอง!”

เพื่อที่จะทำให้เย่เฟิงเสียศักดิ์ศรีต่อหน้าไป๋ยี่ กงเหวินกัดฟันและตกปากรับคำจะจ่ายเงินเขา

ในความเห็นของกงเหวิน มันคุ้มค่ามากที่เงินเพียง 20,000 หยวนนั้น จ่ายเพื่อไม่ให้เย่เฟิงสามารถทานอาหารร่วมกับเทพธิดาของเขา

กงเหวินนำเงินทั้งหมดของตัวเองออกมาทันที แล้วพบว่าเงินที่มีติดตัวนั้นไม่พอ เขาจึงขอให้ผู้ติดตามทั้งสองคนของเขา นำเงินของพวกเขาออกมาสมทบ

อย่างไรก็ตามในที่สุดเมื่อพวกเขารวบรวมเงินสดทั้งหมดพวกเขาพบว่ามันมีมูลค่ารวมกัน 21,360 หยวนพอดี!

‘เอ่อ…’

กงเหวิน ผู้ติดตามสองคนของเขาและไป๋ยี่ต่างก็เงียบในเวลาเดียวกัน

นี่มันเป็นไปไม่ได้! มันจะเป็นเรื่องบังเอิญอะไรขนาดนี้!

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset