The Man from Hell – ตอนที่ 49 : พวกนายไม่สามารถดึงเขาออกมา!

“ตอนนี้ ไหน ๆ พวกนายก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่นั่งพักก่อนล่ะ”

เมื่อกงเหวินและผู้ติดตามทั้งสองของเขาได้ยินเสียงที่เย็นชาของเย่เฟิง ตัวของพวกเขาก็สั่นเทาอย่างมาก

ขณะที่พวกเขาหันหลังกลับมา อย่างแข็ง ๆ พวกเขาก็พบเย่เฟิง ที่กำลังยืนคลี่ยิ้มอยู่ข้างหลังพวกเขา

รอยยิ้มของเขาอบอุ่นราวกับว่าเขาทักทายเพื่อนสนิทของตัวเอง

แต่ในสายตาของกงเหวินและผู้ติดทั้งตามสองคน มันไม่มีอะไรแตกต่างไปจากรอยยิ้มที่น่ากลัวของปีศาจรอยยิ้มที่กระตุ้นและยั่วยุความตาย

“เย่… เย่เฟิง! พะ…พวกเราเพิ่งจะมาถึงที่นี่! เราไม่รบกวนนายดีกว่า พวกเราไปกันเถอะ!”

กงเหวินพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืน ๆ ขณะที่เขาตั้งใจจะเดินหนีไป

“ไม่รบกวนหรอก อย่าเพิ่งรีบไปเลย!”

เย่เฟิงขยับเดินไปข้างหน้า ขณะที่เขาโอบแขนไว้บนบ่าของกงเหวิน พวกเขานั้นดูเหมือนเพื่อนเก่ากันและกัน

“ไปกันเถอะ! ฉันจะแนะนำนายให้รู้จักกับเพื่อนของฉัน!”

เย่เฟิงก็พากงเหวินตรงไปที่กลางสนามกีฬา

พวกเขาเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมายืนอยู่ต่อหน้าโค้ชปีศาจ

จนกระทั่งกงเหวินเห็นผลลัพธ์ที่น่าสังเวชอย่างชัดเจนของโค้ชปีศาจ

บนพื้นดินมีร่างคนที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น กระดูกทั้งตัวของโค้ชปีศาจหักทุกส่วน เขานอนอยู่บนพื้นเหมือนโคลนราวกับเขาเป็นอัมพาต

เนื่องจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ตัวของเขาจึงสั่นสะท้านไปทั่ว ขณะที่เหงื่อบนหน้าผากของเขามีขนาดเท่าเม็ดถั่ว

เขานั้นต้องการที่จะตาย แต่เขาก็ทำไม่ได้

กงเหวินรู้สึกว่าเลือดในกายของเขาแข็งตัว

‘ทำไม…มันถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้!’

เปลือกตาของกงเหวินยังคงกระตุกอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าผู้ชายที่ดูอ่อนแอนั่น ดุร้ายและโหดเหี้ยมราวกับเสือหรือไม่ก็หมาป่า

“นายน้อยกงพอจะรู้จักเขาบ้างไหม ?” เย่เฟิงถามขณะที่เขาชี้ไปที่โค้ชปีศาจด้วยรอยยิ้ม

หลังจากได้ยินคำพูดของเขากงเหวิน ก็สั่นไปทั้งตัวขณะที่เขาโบกมืออย่างเร่งรีบพลางตอบว่า “ไม่… ฉันไม่รู้จักเขา! นายน้อยเย่ ฉัน…ฉันไม่รู้จักจริง ๆ !”

“โอ้ ? จริงเหรอ ?”

เย่เฟิงเผยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่ดวงตาของเขาฉายแววร่าเริง “แล้วทำไมเขาถึงบอกฉันว่า นายเป็นคนที่พาเขามาทำให้ฉันพิการ?”

‘อะไรนะ!’

ใบหน้าของกงเหวินดูซีดเซียว ในขณะที่เขาเถียงกลับอย่างดุเดือดทันทีว่า “ไร้สาระ! นายน้อยเย่ มันเป็นเรื่องสกปรกอย่างที่สุด ฉันไม่รู้จักเขาเลย ฉันไม่เอาเขาให้มาทำเช่นนั้นกับคุณแน่ ๆ! เขาใส่ร้ายฉัน! “

เมื่อมองดูท่าทางที่จริงจังของกงเหวิน เย่เฟิงก็ยิ้มอย่างร่าเริงมากขึ้น “ก็ดี! แม้ว่าเขาจะโดนปลุกปั่นมาโดยนายน้อยกง มันก็ไม่เป็นไร!”

หลังจากพูดด้วยรอยยิ้ม เย่เฟิงก็ถามเพื่อนร่วมห้องของเขา ชั้นปีที่ 3 ห้อง 2 ทุกคนว่า “นี่พวกนายรู้จักกับนายน้อยกงกันหรือเปล่า?”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา กงเหวินก็เริ่มตัวสั่นเหมือนกระต่าย แต่ในทางตรงกันข้ามเย่เฟิงนั้นกลับเป็นหมาป่าที่โหดและดุร้าย

“ใช่พวกเรารู้จัก… “

เพื่อนร่วมห้องทุกคนตอบพร้อมกัน

กงเหวินนั้นเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 3 และยังเป็นพี่ชายของกงหวู่ แน่นอนทุกคนย่อมต้องรู้จักเขา

หลังจากได้ยินคำพูดของพวกเขา เย่เฟิงก็พยักหน้า และเขาก็พูดว่า “นายน้อยกงหล่อและมีความสามารถ! พวกนายรู้ไหมว่าทำไม?”

‘ทำไม?’

‘มีเหตุผลอะไรที่เขาถึงหล่อ?’

ไม่มีนักเรียนคนใดมีเงื่อนงำอะไรตามที่เย่เฟิงหลอกล่อให้ตอบ ขณะที่ทุกคนส่ายหัวและรอคำอธิบายของเขา

อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินคำตอบของเย่เฟิงทุกคนในสนามกีฬาก็ถึงกับอ้าปากค้าง

“นายน้อยกงหล่อมากเพราะ… เพราะเขานั้นคืออุบัติเหตุที่สวยงาม เนื่องจากท่าทางที่ผิดพลาดตอนที่พ่อและแม่ของเขาทำเมื่อตอนสร้างเขาขึ้นมา!”

‘อะไรนะ?’

‘ท่าทางที่ผิดพลาดตอนที่พ่อและแม่ของเขาทำเมื่อตอนสร้างเขาขึ้นมา?’

‘อุบัติเหตุที่สวยงาม?’

นักเรียนทุกคนต่างงุนงง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินรูปแบบของการพูดจาดูถูกที่สร้างสรรค์แบบนี้

และที่ยิ่งไปกว่านั้น!

“ในตอนนั้น พ่อของเขาทำพลาดโดยการไม่ได้ยิงเขาไปที่กำแพง! แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้มันจะเสร็จแล้ว โดยฉันจะทำแทนพ่อของเขาเอง!”

เย่เฟิงยิ้มต่อไปว่า “ฉันจะยิงนายน้อยกงไปที่กำแพงและพวกนายจะไม่สามารถดึงเขาออกมาได้!”

‘ว่าไงนะ!’

กงเหวินและนักเรียนคนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างตัวแข็งเป็นหิน

ก่อนที่ทุกคนจะได้รับรู้จุดประสงค์ของเย่เฟิง พวกเขาก็เห็นเย่เฟิงจับกงเหวินแล้วโยนเขาอัดไปที่กำแพงของสนามกีฬา!

กงเหวินลอยปลิวเข้าไปกระทบกับกำแพงเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์

กงเหวินฝังอยู่ในกำแพงอย่างสมบูรณ์ในรูปของตัวอักษรจีน “大“

ในขณะเดียวกันนั้นเลือดก็ไหลออกจากปากของกงเหวิน

กงเหวินสลบไปแล้ว

 

จนกระทั่งในตอนนั้นผู้ที่มองอยู่ทั้งหมดก็เข้าใจคำพูดของเย่เฟิง เนื่องจากพวกเขารู้ว่ากงเหวินนั้นไม่สามารถถูกดึงออกมาจากกำแพงได้

เย่เฟิงสามารถโยนคนได้ราวกับโยนถุงขยะ พละกำลังของเขาน่ากลัวมาก!

และสิ่งที่น่าเศร้าก็คือเย่เฟิงได้ช่วยพ่อของกงเหวินให้สำเร็จถึงความต้องการในอดีตของเขา

เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ติดตามของกงเหวิน เริ่มซวยจนพวกเขาเกือบล้มลงไปกับพื้น

หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ติดตามของกงเหวินก็หวาดกลัวมาก พวกเขาพยายามที่จะหลบหนี

เย่เฟิงยื่นมือออกมา คว้าผู้ติดตามทั้งสองเอาไว้ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงแขนของเขา โยนทั้งสองคนเข้าไปที่กำแพงเดียวกัน

กำแพงนั้นมีคนฝังอยู่ด้านในสามคน!

เมื่อเห็นแบบนี้ ทุกคนในสนามกีฬาทั้งหมดต่างอยู่ในความเงียบงัน

ทุกคนมองเย่เฟิง ราวกับว่าเขาเป็นไทแรนโนซอรัส

ความโหดเหี้ยมและความดุร้ายของเย่เฟิง ทำให้ทุกคนในสนามกีฬาตัวสั่นไปด้วยความหวาดกลัว

ความเศร้าเสียใจปรากฏบนใบหน้าของโค้ชปีศาจขณะที่เขานอนกองอยู่กับพื้น

ด้วยความจริงที่ว่าเย่เฟิงได้โยนคนสามคนฝังเข้าไปในกำแพง แต่กำแพงก็ยังไม่พัง สิ่งนี้บ่งบอกว่าเย่เฟิงนั้นสามารถควบคุมพลังของเขาได้อย่างแม่นยำ

ขณะนี้โค้ชปีศาจก็ตระหนักได้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นน่ากลัวกว่าที่เขาจะจินตนาการได้

‘บางทีพี่ชายของฉันเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับผู้ชายคนนี้!’

โค้ชปีศาจหลับตาลงอย่างช้า ๆ

พี่ชายของเขานั้นเป็นไอดอลของเขาตั้งแต่เขายังเด็ก พวกเขาทั้งสองมาถึงเมืองเจียงซีด้วยกัน พี่ชายของเขาเอาชนะเหล่าผู้มีอิทธิพลคนอื่น ๆ ด้วยกำลังและได้กลายเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองเจียงซี

โค้ชปีศาจรู้ว่าพี่ชายของเขานั้นมีอิทธิพลอย่างมากและเขารู้ว่าพี่ชายของเขานั้นกำลังจะมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น!

พี่ชายของเขาสัญญาว่าจะมาที่โรงเรียนและแนะนำเขาให้รู้จักกับบุคคลสำคัญในวันนี้!

‘เขาเกือบจะมาแล้ว!’

‘ไอ้เวร ไม่ว่าแกจะเก่งแค่ไหน! แล้วไง! ยังไงแกก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าพี่ชายของฉันอยู่ดี!’

โค้ชปีศาจ จ้องมองเย่เฟิงอย่างดุร้าย จากนั้นเขาหลับตาและรอพี่ชายของเขาอย่างเงียบ ๆ

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่มีใครกล้าก้าวออกมารักษาโค้ชปีศาจ กงเหวินหรือผู้ติดตามสองคนของเขา

กงเหวินนั้นตื่นขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ตามกระดูกของเขามากกว่า 10 ซี่หักเขาก็ไม่สามารถพาตัวเองออกมาจากกำแพงได้เลย เขาทำได้เพียงส่งเสียงร้องโหยหวนแทน

ในขณะที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเขาและเฝ้าดูเย่เฟิงที่กำลังนอนหลับอยู่บนต้นไม้ เพื่อนร่วมห้องทุกคนต่างก็ชื่นชมและเกรงกลัวเย่เฟิงในเวลาเดียวกัน

เมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้น วิชาพละศึกษาจบลง ทันใดนั้นพวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่พร้อมเพียงจากนอกสนามกีฬา ในเสี้ยววินาทีพวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง

จากนั้นพวกเขาเห็นชายกลุ่มหนึ่งสวมเสื้อผ้าสีดำพากันเดินเข้ามาในสนามกีฬา

ทันทีที่โค้ชปีศาจเห็นหัวหน้ากลุ่มของชายที่สวมเสื้อผ้าสีดำนั้น เขาก็มีความสุขทันที!

ในที่สุดพี่ชายของเขาก็มาถึง!

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset