The Man from Hell – ตอนที่ 57 : โปรดยอมรับผมในฐานะลูกศิษย์ของคุณด้วย!

เพียะ!

เสียงตบนั้นดังและชัดเจน!

สมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋แทบจะคลั่ง

พวกเขาไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะทำให้ชายชราต้องเสียเกียรติด้วยการตบหน้าของเขา โดยเฉพาะเมื่อเขาใกล้ความตายแบบนี้!

“ไอ้เวร!”

ไป๋กังรู้สึกโมโหมาก เขารีบพุ่งตัวไปข้างหน้าโดยตั้งใจที่จะจัดการกับเย่เฟิง

แต่ว่าเขากลับถูกเตะกลับมาอย่างแรง!

ปัง

ไป๋กังลอยไปกระแทกกำแพงก่อนที่ร่วงลงบนพื้น และนั่นทำให้เขากระอักเลือดออกมาอย่างหนัก

“ถ้านายต้องการให้ปู่ของนายตาย นายจะวิ่งเข้ามาอีกรอบก็ได้นะ!” เย่เฟิงตวาดขณะที่เขามองตรงไปที่ดวงตาของไป๋กัง

‘อะไรนะ!’

ไป๋กังประหลาดใจ

‘ชายคนนี้หมายความว่ายังไง’

‘เขาช่วยปู่ของฉันด้วยการตบหน้าเขาอย่างนั้นเหรอ ?’

‘เป็นไปไม่ได้’

ไม่เพียงแต่ไป๋กังเท่านั้น แต่คนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจและประหลาดใจกับคำพูดของเย่เฟิง

โดยเฉพาะหมอสูงวัย เขาคำรามใส่เย่เฟิงลั่น ทั้งหนวดและเคราของเขากระตุกด้วยความโกรธ “ไร้สาระ! มันช่างไร้สาระมาก ตั้งแต่สมัยก่อน ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีใครรักษาคนด้วยการตบหน้าพวกเขา แกแค่ต้องการเล่นตลกและทำร้ายร่างกายของชายชราเท่านั้น! “

หมอสูงวัยถามไป๋เจิงกัวว่า “คุณไป๋ คุณยอมให้เด็กเมื่อวานซืนทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้อย่างไร ?”

หลังจากได้ยินคำถามของหมอ ใบหน้าของไป๋เจิงกัวเปลี่ยนเป็นเครียดเคร่งขึ้นมาทันที เพราะเขาไม่คิดว่าเย่เฟิงจะปฏิบัติต่อพ่อของเขาแบบนี้

เมื่อมองดูท่าทางที่ลังเลของไป๋เจิงกัว เย่เฟิงก็เปิดเผยความไม่พอใจออกมา แล้วพูดว่า “คุณไป๋ นี่มันขึ้นอยู่กับคุณ! ถ้าคุณไม่ต้องการรับการรักษาจากผม ผมจะไปจากที่นี่ทันทีและชายชราจะตายในไม่ช้า! แต่หากคุณต้องการความช่วยเหลือของผม ราคามันจะเป็น 10 ล้านหยวนสำหรับการตีหนึ่งครั้ง! “

‘อะไรนะ!’

สมาชิกทั้งหมดของตระกูลไป๋ ต่างตกใจอีกครั้งกับคำพูดของเย่เฟิง

“10 ล้านหยวนต่อการตีหนึ่งครั้ง ?”

‘นั่น…เป็นไปไม่ได้!’

‘ตบหน้าชายชราและยังกล้าจะเรียกร้องเงิน’ พวกเขาไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายเหมือนเย่เฟิงมาก่อน

ไป๋เจิงกัวกำหมัดของเขาแน่น ในขณะที่เขารู้สึกสับสนมาก

เขาไม่เชื่อในตัวของเย่เฟิงเลย แต่พ่อของเขาได้บอกเขาว่ามีแต่เย่เฟิงเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้ก่อนที่เขาจะนอนแน่นิ่งไปแบบนี้

แต่ในตอนนี้…

ไป๋เจิงกัวลังเลใจอย่างมาก

ถ้าเย่เฟิงสามารถรักษาโรคของชายชราได้จริง เขาสามารถยอมจ่ายราคาที่เย่เฟิงเรียกร้องได้

แต่ถ้าเย่เฟิงไม่สามารถช่วยพ่อของเขาได้ ตระกูลไป๋ก็จะเสียศักดิ์ศรี เสียหน้าและยังเสียเงินของพวกเขาไป การสูญเสียชื่อเสียงนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อตระกูลไป๋ หากพวกเขาสูญเสียชื่อเสียงของพวกเขาไป ตระกูลไป๋อาจกลายเป็นเรื่องตลกที่สร้างเสียงหัวเราะไปทั่วเมืองเจียงซี!

เมื่อดูการแสดงออกของ ไป๋เจิงกัว ใบหน้าของไป๋ยี่นั้นซีดเล็กน้อยขณะที่เธอเดินไปหาเย่เฟิงและบอกกับเขาว่า “ฉันเชื่อในตัวนาย เย่เฟิง!”

‘หืมม?’

หลังจากได้ยินคำพูดของไป๋ยี่ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึงในทันที

พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมไป๋ยี่ จึงมีความมั่นใจอย่างมากในตัวของเย่เฟิง

ไป๋ยี่เพิกเฉยต่อคำพูดหรือสายตาของคนอื่น ขณะที่เธอมองตรงไปยังดวงตาทั้งคู่ของเย่เฟิงและพูดออกมาอีกครั้งว่า “เย่เฟิงฉันเชื่อมั่นในตัวนาย”

หลังจากได้ยินคำพูดของไป๋ยี่ ไป๋เจิงกัวก็ตัดสินใจในที่สุด

“ได้! ฉันให้คำสัญญากับคุณ เย่เฟิง! 10 ล้านหยวนต่อการตีหนึ่งครั้ง!”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของไป๋เจิงกัว ทั่วทั้งสมาชิกของตระกูลไป๋ก็ตกอยู่ในความโกลาหล

หมอสูงวัยส่ายหัวและถอนหายใจด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “โกหก! เขาเป็นหมอที่ผิดกฎหมาย เป็นคนโกหก! เฮ้อ! พวกนายทุกคนช่างโง่เง่า

ในสายตาของหมอสูงวัย เย่เฟิงเพียงแค่ต้องการก่อกวนและสร้างความเสื่อมเสีย

‘แค่ดูว่าเขาอายุน้อยแค่ไหน เด็กคนนี้คงไม่เคยรักษาโรคอะไรได้เลย! ไม่เคย!’

หมอสูงวัยจ้องมองเย่เฟิงแล้วพูดว่า “เด็กน้อย ถ้านายสามารถรักษาโรคของชายชราได้ ฉันซู่กวงจะยกย่องให้นายเป็นอาจารย์ของฉันเลย! แต่ถ้านายรักษาเขาไม่หายนายจะต้องติดคุก!”

ซู่กวงเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศจีนในฐานะรองประธานของสมาคมวิทยาศาสตร์การแพทย์แผนโบราณแห่งชาติและเป็นแพทย์ของประจำตระกูลใหญ่ ๆ จำนวนมากในเมืองหลวง

คนอื่น ๆ ต่างตกใจกับคำพูดของซู่กวง

แต่เย่เฟิงเพียงแค่เผยเสียงเย้ยหยัน “ตาแก่ นายไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกศิษย์ของฉัน!”

‘อะไรนะ!’

คำตอบของเย่เฟิง ช่างน่าอวดดีจนทำให้ทุกคนในห้องตัวแข็งทื่อ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซู่กวง ใบหน้าของเขาเป็นสีแดงเหมือนตับหมูเนื่องจากความโกรธและอับอาย

แต่เย่เฟิงไม่สนใจความคิดของพวกเขา เขาลงมือตบหน้าชายชราอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า!

เพียะ! เพียะ! เพียะ!

เสียงตบแต่ละครั้งช่างดังและชัดเจน

สมาชิกของตระกูลไป๋ทำได้เพียงแค่กระพริบตาปริบ ๆ

‘เขากล้าตบหน้าชายชราด้วยวิธีที่โหดร้ายเช่นนั้นได้อย่างไร! หากการรักษานี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนมันจะต้องกลายเป็นข่าวดังไปทั่วเมืองเจียงซีแน่’

นอกจากนี้พวกเขา ยังเห็นว่าแก้มของชายชรานั้นเป็นสีม่วงและบวม

ดังนั้นสมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋ก็ยิ่งโมโหมากขึ้น

ทุกครั้งที่เขาตบลงไป หมอกสีดำก็ค่อย ๆ ปรากฏออกมาจากแก้มของชายชรา

นอกจากนี้ใบหน้าที่เคยซีดของเขาก็เริ่มมีสีเลือดมากขึ้น

เพียะ!

เมื่อตบอีกครั้งชายชราก็ผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับพ่นเลือดสีดำออกมา

‘เขาฟื้นแล้วเหรอ ?’

ทุกคนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ต่างตกตะลึง

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากเลือดสีดำพุ่งออกมาอีกสองสามครั้ง ใบหน้าของชายชราก็ค่อย ๆ เริ่มเป็นปกติ

ด้วยท่าทางที่งุนงงเขาสัมผัสกับแก้มที่บวมช้ำของเขาและถามว่า “มีใครบางคนตบหน้าฉันในความฝัน”

สมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋ ไม่มีใครพูดอะไร เพราะพวกเขากำลังจ้องไปที่เย่เฟิงพร้อมอ้าปากค้าง

แต่พวกเขาก็พบว่าเย่เฟิงมีสีหน้าเป็นปกติ ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ซู่กวงกระโจนออกเข้าไปหาชายชราแล้วถามว่า “นายท่าน รู้สึกอย่างไรบ้าง ?”

“รู้สึก…” ชายชราก็ตกตะลึงในทันทีขณะที่เขาเบิกตากว้าง “ฉัน… ฉันรู้สึกเหมือนฉันมีกำลังไม่จำกัด! อาการเจ็บป่วยเก่า ๆ ทั้งหมดของฉันอาจจะหายเป็นปกติแล้ว…”

‘ว่าไงนะ!’

ซู่กวงตกใจกับคำพูดของชายชรา ขณะที่เขารีบดึงเครื่องมือจากมุมห้องและช่วยชายชราตรวจสภาพร่างกายของเขา

ในขณะที่เขาทำการตรวจสภาพร่างกาย ซู่กวงเกือบฉีกหนวดเคราของตัวเองด้วยความตกใจ “เหลือ…เหลือเชื่อ! ชีพจรปกติ อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ ความดันโลหิตเป็นปกติ…”

ซู่กวงเริ่มรู้สึกตกใจมากขึ้นเมื่อเขากล่าวว่า “ไม่มีทาง! อาการบาดเจ็บเก่า ๆ ทั้งหมดได้หายไป สภาพร่างกายของท่านสามารถเทียบได้กับชายวัยกลางคนได้เลย! นั่นมัน…ไม่น่าเชื่อ!”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของซู่กวง สมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋ก็ตกตะลึงอีกครั้ง

คนที่กำลังจะตายก็สามารถฟื้นตื่นขึ้นมาได้ทันทีและร่างกายทั้งหมดของเขายังเทียบได้กับชายวัยกลางคน

‘แม่งโคตรไม่น่าเชื่อ!’

ถ้าหากพวกเขาไม่เห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาก็คงจะไม่เชื่อเช่นกัน

ในเสี้ยววินาทีใบหน้าของสมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่เย่เฟิง การแสดงออกของพวกเขาทั้งซับซ้อนผสมกับมีความสุข

ในสายตาของพวกเขา เย่เฟิงเป็นเหมือนกับพระเจ้า

จากนั้นเมื่อมีเสียงอู้อี้ของซู่กวง ขณะที่เขาคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฟิง จากนั้นเขาก็พูดว่า “นายน้อย นี่มันเป็นความผิดของผม! ผมได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่! ผมมันตาบอด! โปรดยอมรับผมในฐานะลูกศิษย์ของคุณด้วย!”

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset