The Man from Hell – ตอนที่ 60 : นายน้อยผู้ชั่วร้าย —— กงหยุ่นเฟย!

เหลือเชื่อ! นี่มันโคตร…เหลือเชื่อ!

เมื่อเหล่าคนในตระกูลไป๋ได้ยินเสียงอุทานของชายชรา ทุกคนก็ตกตะลึงในทันที

พวกเขาพบว่าชายชราจ้องดูที่หนังสือมรดกด้วยความดีใจอย่างมาก

ไป๋เจิงกัว ก็ประหลาดใจเช่นกันเพราะเขาไม่เคยคิดว่าพ่อของเขาจะอุทานออกมาแบบนี้ จากนั้นไป๋เจิงกัวก็ถามชายชราด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พ่อมันเป็นยังไงเหรอ ?”

“โอ้พระเจ้า เขาจะต้องเป็นเทพเจ้าแน่นอน!”

ในที่สุดชายชราก็ขยับสายตาของเขาออกไปจากหนังสือมรดก ไปจับจ้องเย่เฟิงด้วยความเคารพอย่างสูงพลางกล่าวว่า “หลังจากที่ฉันได้ลองมหาเวทย์สวรรค์โลกาเวอร์ชั่นใหม่ พลังฉีของฉันราบรื่นและสบายตัวอย่างมาก ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันได้รับการรักษาจากพลังชีวิตของห้วงจักรวาล แม้แต่รอยแผลเป็นตามตัวของฉันก็หายไปทั้งหมด นั่นมัน…เกินจินตนาการเอาไว้มาก!”

‘อะไรนะ!’

หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา ทุกคนในห้องก็ตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไป๋เจิงกัวผู้ฝึกมหาเวทย์สวรรค์โลกามาเป็นเวลาช้านาน เขาได้ลองเวอร์ชั่นใหม่พร้อมกับสีหน้าที่เหลือเชื่อ

จากนั้นเขาก็โคจรพลังฉีของเขาตามกฏใหม่ในหนังสือ

“โอ้โห… มันรู้สึกสบายตัวมาก!”

ไป๋เจิงกัวหลับตาอย่างพึงพอใจ

หลังจากนั้นเขาก็พับแขนเสื้อขึ้น และพบว่ารอยแผลเป็นบนแขนของเขานั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว

 

ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างสับสน

‘นั่นมันผิดหลักวิทยาศาสตร์!’

“ไม่น่าเชื่อ! ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นหลังจากโคจรพลังฉีของฉันตามการฝึกฝนแบบใหม่ และมันหมุนเวียนได้รวดเร็วกว่าเดิมหลายเท่า!”

ไป๋เจิงกัวดูตกใจราวกับว่าเขาเพิ่งเห็นผีขณะที่เขายังพูดต่อว่า “นอกจากนี้ อาการบาดเจ็บเก่า ๆ ของฉันก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรอีกต่อไปแล้ว…”

หลังจากได้ยินความเห็นของชายชราและไป๋เจิงกัวต่อหนังสือมรดกที่เย่เฟิงแก้ไขแล้ว สมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลไป๋ก็ตัวแข็งทื่อไป

พวกเขามองดูเย่เฟิงด้วยสายตาที่เหมือนมองดูเทพเจ้า

แม้ว่าพวกเขาจะเทิดทูนหนังสือต้นฉบับเล่มนี้ ที่เย่เฟิงมองว่าเป็นแค่ขยะ

แต่หลังจากแก้ไขหนังสืออย่างง่าย ๆ แล้ว เย่เฟิงก็สามารถทำให้มันดีขึ้นกว่าแต่ก่อนได้

ในตอนนั้นเองไป๋เจิงกัว โบกมือไปหาลูกน้องคนหนึ่งของเขา หลังจากนั้นทนายความคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบสไตล์ตะวันตกก็ได้มอบการ์ดของธนาคารและเอกสารฉบับหนึ่งให้กับไป๋เจิงกัว

หลังจากรับพวกมันมา ไป๋เจิงกัวมองเย่เฟิงด้วยความชื่นชมอย่างมาก ขณะที่เขาพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น “คุณเย่ ผมขอขอบคุณคุณมากที่ช่วยพ่อของผมและตระกูลไป๋!”

จากนั้นไป๋เจิงกัวก็มอบการ์ดธนาคารและเอกสารนั้นให้กับเย่เฟิงโดยอธิบายว่า “นี่คือการ์ดเงินสดของธนาคารมีมูลค่า 200 ล้านหยวนนี่คือค่าตอบแทนของคุณ! และนี้เป็นเอกสารข้อตกลงการโอนของกลุ่มธุรกิจคราวน์ ที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลไป๋! คุณเพียงแค่ต้องเขียนลายเซ็นของคุณลงไปและมันก็จะกลายเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของคุณ! “

‘อะไรนะ!’

ซู่กวงตกใจมาก

‘200 ล้านหยวน!’

‘รวมทั้งกลุ่มธุรกิจคราวน์ทั้งหมด!’

ซู่กวงรู้แน่ชัดเกี่ยวกับมูลค่าของกลุ่มธุรกิจคราวน์ ก่อนหน้านี้เคยมีนักธุรกิจที่ร่ำรวยในภาคใต้ของจีนได้ทำการขอซื้อกลุ่มธุรกิจคราวน์ ด้วยเงินหลายพันล้านหยวน แต่ตระกูลไป๋ก็ได้ปฏิเสธมันไป

ทว่าตระกูลไป๋กลับมอบของขวัญที่เป็นเหมือนเค้กชิ้นใหญ่ให้กับเย่เฟิงโดยตรง

 

แต่เมื่อเขานึกถึงว่าทุกสิ่งที่เย่เฟิงได้ทำเพื่อช่วยตระกูลไป๋ เขาก็เริ่มสงบจิตใจของเขาได้มากขึ้น

‘ดูเหมือนว่านายน้อยของฉันจะลึกลับกว่าที่ฉันจะจินตนาการได้!’

ซู่กวงได้ตัดสินใจแล้วว่าเขานั้นจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเย่เฟิงเพื่ออนาคตที่สดใสและไม่มีที่สิ้นสุดของเขา

ทว่าอีกฝั่งหนึ่ง เย่เฟิงกลับดูสงบนิ่งเหมือนอย่างเคย

แม้ว่าการแก้ไขมหาเวทย์สวรรค์โลกาขึ้นมาใหม่จะมีมูลค่ามากกว่ากลุ่มธุรกิจคราวน์ทั้งหมด

เขาก็ตัดสินใจรับการ์ดใบนั้นและลงชื่อในเอกสารทันที

 

ช่วงเวลาค่ำ ๆ !

ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้พับและเพลิดเพลินกับชาของเขาอย่างเงียบ ๆ ในบ้านพักขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของเมืองเจียงซี

นอกจากใบหน้าที่หล่อเหลาและรูปร่างที่เพรียวบางของเขาแล้ว เขายังมีนิ้วที่ละเอียดอ่อนเหมือนกับผู้หญิง

แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีใครเห็นเขาเข้า คนพวกนั้นก็จะกลัวจนเหงื่อออกเพราะเขาคือกงหยุ่นเฟย นายน้อยผู้ชั่วร้ายและเป็นหนึ่งในสี่นายน้อยที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองเจียงซี!

และเขายังเป็นหนึ่งในนายน้อยที่ลึกลับที่สุดในเมืองเจียงซีด้วยเช่นกัน

หลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วห้อง กงหยุ่นเฟยเอ่ยปากถามอย่างใจเย็นโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “เป็นยังไงบ้าง สิงโตระห่ำ”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ชายฉกรรจ์ที่ดูแข็งแกร่งนั่นก็หยุดเดินลงที่ด้านข้างของกงหยุ่นเฟยในขณะที่เขาคุกเข่าลงพร้อมโค้งคำนับแล้วตอบว่า “นายน้อย! ผมเพิ่งได้รับข่าวจากตระกูลกง! เมื่อช่วงกลางวันนายน้อยกงเหวินถูกตัดลิ้นของเขาจนขาด”

‘หืมม?’

หลังจากได้ยินคำพูดของสิงโตระห่ำ กงหยุ่นเฟยก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ขณะที่ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็เป็นประกายออกมาพลางพูดพึมพำว่า “ต้องเป็นมันแน่ ๆ !”

“ใช่แล้ว! นายน้อย! นายน้อยกงเหวินได้รับบาดเจ็บสาหัสจากไอ้ลูกชายนอกสมรส สิงโตระห่ำพูดด้วยความเคารพขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นเคร่งเครียด

ดูเหมือนว่ากงหยุ่นเฟย จะคาดคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นฝีมือของเย่เฟิง

หลังจากยกตัวขึ้นยืนอย่างช้า ๆ สิงโตระห่ำก็มองไปที่นอกหน้าต่าง พระจันทร์กำลังทอแสงสีเหลืองนวลตา เขามองไปที่นั่นพลางพูดขึ้นว่า “ทั้งอสรพิษหกดัชนี นายน้อยกงหวู่ และก็นายน้อยกงเหวินเป็นคนที่สาม!”

“น่าสนใจ! ในที่สุดฉันก็มีคู่แข่งที่มีความสามารถคู่ควรในเมืองเจียงซี!”

กงหยุ่นเฟยพูดขณะที่ดวงตาของเขาส่องประกายจากความตื่นเต้น ราวกับนักล่าที่สังเกตเห็นเหยื่อที่เขาโปรดปราน

“นายตรวจสอบหรือยัง ว่ากงหวู่และอสรพิษหกดัชนี เสียชีวิตได้ยังไง ?”

วันก่อนเขาได้มอบหมายให้กงหวู่และอสรพิษหกดัชนีไปฆ่าเย่เฟิง ทว่าทั้งสองคนไม่ได้กลับมา คงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าพวกเขาถูกฆ่าตายไปแล้วแน่นอน

กงหยุ่นเฟยเพียงสงสัยว่าอสรพิษหกดัชนีที่ซึ่งเป็นหนึ่งในสองผู้คุ้มครองที่สำคัญของเขาถูกไอ้ขยะผู้โด่งดังนั่นฆ่าตายได้อย่างไร!

หลังจากได้ยินคำถามของกงหยุ่นเฟย ใบหน้าของสิงโตระห่ำก็มืดมนขณะที่เขาตอบว่า “นายน้อย เราตรวจดูทั้งโรงงานเหล็กร้างแล้ว! ไม่มีอะไรเลยนอกจากคราบเลือด! เราไม่พบแม้กระทั่งศพ ราวกับว่ากงหวู่และอสรพิษหกดัชนีหายตัวไปเฉย ๆ”

“หายตัวไป? น่าสนใจ! น่าสนใจมาก!”

กงหยุ่นเฟยแสยะยิ้มกว้างออกมาแล้วพูดต่อว่า “ดูเหมือนว่าพวกเราจะประเมินไอ้ลูกชายนอกสมรสที่ไร้ประโยชน์นั่นต่ำไป!”

กงหยุ่นเฟยเดินออกจากคฤหาสน์ขณะที่เขาตะโกนว่า “สิงโตระห่ำ ไปเตรียมรถ! ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องหาเหยื่อเพื่อทดสอบไอ้ขยะนั่นกัน!”

สิงโตระห่ำเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจออกมาเล็กน้อย

ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเจ้านายของเขาเริ่มจะเอาจริงแล้ว เมื่อเขากำลังจะฆ่าใครบางคนเท่านั้น กงหยุ่นเฟยถึงจะดูจริงจังมากแบบนี้

สิงโตระห่ำรีบดำเนินการตามคำสั่งทันที

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมาในห้องผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลเฟิร์สพีเพิลเมืองเจียงซี ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียงพร้อมขาของเขาที่พิการ

เขาคือเย่หู!

ไม่กี่วันก่อนเย่หูได้ ส่งเย่เฟิงและหลินหลานไว้ในห้องของโรงแรมแห่งหนึ่งและมอบหมายให้นักข่าว ทำข่าวเรื่องของพวกเขา แต่เขาล้มเหลวอย่างน่าสมเพชและยังสูญเสียขาเนื่องจากตัวอักษรลึกลับที่ทำให้ระเบิดของเย่เฟิง

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาจ้างกลุ่มคนเพื่อลักพาตัวหลินหลานอีกครั้ง และต้องการให้พวกเขานั้นข่มขืนและฆ่าเธอในห้องของเย่เฟิง เพื่อจัดฉากใส่ร้ายเย่เฟิง ทว่าเขาก็ล้มเหลวอีกครั้ง

“เย่เฟิง แกทำให้ฉันพิการ! แกจะต้องตาย! แกจะต้องตายอย่างทรมาน!”

เย่หูคำรามเหมือนสัตว์ร้าย ขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ทันใดนั้นลมหนาวก็พัดเข้ามาในห้องของเขา นั่นทำให้ร่างกายของเขานั้นถึงกับสั่น

“นั่นใครน่ะ!”

เย่หูจ้องมองที่ประตูหน้าห้องขณะที่เขารู้สึกราวกับว่ามีงูพิษซ่อนอยู่ตรงนั้น นั่นทำให้เลือดของเขาแทบแข็งตัว

ทันใดนั้นสายลมก็พัดผ่านม่านหน้าประตูลอยขึ้น ด้านหลังม่านปรากฏเงาของมนุษย์คนหนึ่ง

เมื่อเห็นเขา เย่หูก็เปล่งเสียงออกมาจากปากด้วยความกลัวและตกใจอย่างมาก “กง…กงหยุ่นเฟย!”

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset