The Man from Hell – ตอนที่ 61 : ความแค้นเก่าระหว่างฉันและมันควรจะจบลง!

‘กงหยุ่นเฟย!’

เมื่อได้สบตากับกงหยุ่นเฟย เย่หูกำลังรู้สึกว่าผมบนหัวของเขานั้นลุกชัน

เขานั้นรู้ดีเกี่ยวกับความดุร้ายและโหดเหี้ยมของกงหยุ่นเฟย

ใครก็ตามที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจจะถูกหั่นให้เป็นชิ้น ๆ

‘เขาต้องรู้แน่ว่าฉันเป็นคนสั่งให้ลักพาตัวหลินหลาน’

เย่หูรู้สึกว่าเลือดในกายของเขาเย็นเฉียบ ขณะที่เขาพูดออกไปว่า “กง… กงหยุ่นเฟย คุณมาทำอะไรที่นี่?”

แม้เขาจะดูก้าวร้าวแต่ใบหน้าของเขาซีด และเขาก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่ข้างใน

หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้วกงหยุ่นเฟย ก็ตอบกลับไปเบา ๆ ว่า “อะไรกัน นี่นายน้อยคนที่สองของตระกูลเย่กำลังกลัวฉันอยู่เหรอ ?”

กงหยุ่นเฟยนั่งลงช้า ๆ บนโซฟาด้านในห้องพยาบาล ดาบสีทองเงางามก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ซึ่งเขามักใช้มันทำความสะอาดเล็บของเขาเสมอ ๆ

“หลินหลานเป็นคู่หมั้นของฉัน! นายน้อยคนที่สองของตระกูลเย่ ในเมื่อนายลักพาตัวหลินหลานสองครั้ง นายก็เหมือนคนที่ตายแล้วในสายตาของฉัน แต่ว่าเรามีศัตรูคนเดียวกัน!”

‘หืมม?’

‘ศัตรูคนเดียวกัน?’

เย่หูก็ตกใจมาก ขณะที่เขาจ้องมองที่กงหยุ่นเฟยพลางถามว่า “คุณหมายถึงอะไร กงหยุ่นเฟย ?“

กงหยุ่นเฟยจ้องมองเย่หู ขณะที่เขายกมุมปากข้างหนึ่งของเขาขึ้นพลางตอบว่า “ฉันรู้ว่าเย่หลง พี่ชายคนโตของนายเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่เหมาะสมกับตระกูลเย่ในสายตาของนาย! ดังนั้นนายจึงวางแผนที่จะฆ่าเย่เฟิงโดยการลักพาตัวหลินหลานเพื่อให้ฉันเป็นคนฆ่าไอ้ขยะไร้ค่านั่นสินะ! “

กงหยุ่นเฟยพูดด้วยสายตาที่เย็นชาราวกับว่าไม่มีอะไรสามารถหลบซ่อนจากสายตาของเขาได้

“แต่น่าสมเพช นายพ่ายแพ้เย่เฟิงครั้งแล้วครั้งเล่า!”

“แต่ตอนนี้นายกำลังจะมีโอกาสดี ๆ ที่จะฆ่าเย่เฟิง!”

‘อะไรนะ!’

‘นี่เขารู้ทุกอย่างเลยเหรอ ?!’

เย่หูรู้สึกกังวลเพราะเขาไม่คิดว่ากงหยุ่นเฟย จะอ่านแผนการของเขาออกทั้งหมด

ดังนั้นเย่หูจึงมองกงหยุ่นเฟยด้วยความหวาดกลัวอย่างยิ่งขณะที่เขาถามออกไปว่า “พูด…พูดต่อสิ! โอกาสดี ๆ อะไรกัน!”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้วกงหยุ่นเฟยก็แสยะยิ้มที่ดูน่ากลัวและชั่วร้ายแล้วพูดต่อว่า “โอกาสนี้เหมาะมากสำหรับนาย แต่ฉันต้องยืมอะไรบางอย่างจากนายด้วย!”

‘หืมม?’

เย่หูก็มีลางสังหรณ์แปลก ๆ ในขณะที่เขาตอบกลับอย่างติดอ่าง “สิ่งที่… ที่คุณต้องการมันคือ… อะไร ?”

“มือทั้งสองข้างของนาย!”

หลังจากที่อีกฝ่ายได้เอ่ยคำตอบที่ชั่วร้ายออกมา ทันใดนั้นแสงสีทองสองครั้งก็พุ่งเข้ามาที่เขา

ในพริบตาเดียว เย่หูเห็นมือทั้งสองข้างของเขาลอยกระเด็นออกจากการเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตัวเอง

จากนั้นเลือดสีแดงสองสาย ก็พุ่งออกมาจากบาดแผลของเขาเหมือนกับน้ำพุในฤดูใบไม้ผลิ!

“อ๊าก!”

เย่หูตะโกนเสียงดังเนื่องจากความเจ็บปวดที่คมชัดแล่นเข้ามาในความรู้สึกของเขา ในสายตาของเขากงหยุ่นเฟยเป็นเหมือนปีศาจ

เมื่อมองเย่หูที่กำลังตัวสั่นสะท้านเนื่องจากความเจ็บปวดที่รุนแรง กงหยุ่นเฟยเผยให้เห็นรอยยิ้มที่น่ากลัวและชั่วร้าย

เขาตบลงบนแก้มของเย่หูเบา ๆ ด้วยมือที่เย็น ๆ ของเขา และยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขาพูดเบา ๆ ว่า “นายน้อยคนที่สองของตระกูลเย่! มันเรียกว่าตาต่อตา ฟันต่อฟัน! ในเมื่อมือของนายถูกตัดขาดโดยเย่เฟิง นายก็สามารถฆ่าเขาในการประชุมประจำตระกูลเย่วันพรุ่งนี้ได้! “

หลังจากคำพูดไม่กี่คำของเขากงหยุ่นเฟยก็เดินตรงไปที่ประตูและหายตัวไปท่ามกลางความมืดของราตรี

 

ในเวลาเช้า แสงอาทิตย์กำลังมอบความอบอุ่นให้กับเมืองเจียงซี

บนต้นหลิว เย่เฟิงกำลังนอนหลับตาขณะที่ดูดซับพลังฉีปีศาจที่ปล่อยออกมาจากดวงตาปีศาจใต้ต้นไม้นั่น

ละอองของพลังฉีปีศาจกำลังแทรกเข้าไปในร่างกายของเขาผ่านรูขุมขน นั่นทำให้พลังปีศาจของเขาพัฒนาเพิ่มมากขึ้น

หลังจากขับพลังฉีปีศาจที่ขุ่นมัวออกมาจากร่างกายแล้วเย่เฟิงก็ลืมตาขึ้นมา

‘พลังฉีปีศาจในดวงตาปีศาจนี้บริสุทธิ์อย่างมาก จะต้องมีผลึกปีศาจอยู่ข้างในแน่! แต่น่าเสียดาย! ที่ฉันไม่สามารถไปเอาผลึกปีศาจในตอนนี้ได้!’

เย่เฟิงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

‘ถ้าฉันสามารถไปเอาผลึกปีศาจนั้นได้ มันจะง่ายต่อการตั้งอุปกรณ์เก็บรวบรวมพลังปีศาจและเพิ่มฐานการบ่มเพาะพลังของฉัน’

ตอนนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา

เย่เฟิงแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเขาหันหลังกลับมาเขาเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง – เย่โม่ผู้สืบเชื้อสายคนหนึ่งของตระกูลเย่

จากความทรงจำของเย่เฟิงเกี่ยวกับเย่โม่นั้น เขานิสัยดีกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปเมื่อเทียบกับคนที่เหลือของตระกูลเย่ เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลเย่ ที่ไม่เคยทำให้เขาอับอายมาก่อน

เย่เฟิงก็ เอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ว่า “เย่โม่ นายมาทำอะไรที่นี่ ?”

ด้วยรูปร่างที่ผอมบางและตัวที่ไม่ค่อยสูงของเขาเย่โม่มองเย่เฟิงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

หลังจากลังเลไม่นานนัก เย่โม่ก็ตอบว่า “เย่เฟิง เรากำลังจะมีการประชุมประจำปีของตระกูลเย่ วันนี้!”

‘การประชุมประจำปีของตระกูลเย่ ?’

จนกระทั่งตอนนั้นเย่เฟิงก็จำได้ว่าสมาชิกทุกคนในตระกูลเย่ควรเข้าร่วมการประชุมประจำปีของตระกูลเย่ที่จัดขึ้นปีละครั้ง

แม้ว่าจะเขาที่เป็นลูกชายนอกสมรส เย่เฟิงก็ยังต้องเข้าร่วมด้วย

อย่างไรก็ตามเขามักถูกล้อเลียนและทำให้ขายหน้าเสมอเมื่อเขาปรากฏตัวในงานนี้

“เย่เฟิง ฟังนะ นายไม่ควรเข้าประชุม!” เย่โม่กล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่โม่แล้ว เย่เฟิงก็แปลกใจในขณะที่เขาถามว่า “ทำไม”

“ฉันไม่สามารถบอกเหตุผลได้! แต่จำไว้! นายไม่ควรเข้าประชุม!”

เย่โม่ดูลำบากใจ เห็นได้ชัดว่าเขานั้นมีความกังวลมากมาย

จากนั้นเย่โม่ก็ได้ยินเสียงตำหนิที่ดังขึ้นข้างหลังเขา ตัวของเขาสั่นไปทั้งตัว

“เย่โม่ นายมาทำอะไรที่นี่!”

เย่เฟิงเห็นเด็กชายอีกคนกำลังเดินมาที่ต้นหลิว ในขณะเดียวกันสายตาของเขาก็ประกายความเย็นชาออกมา

‘เย่หลิง!’

‘หนึ่งในคนของตระกูลเย่ที่มักติดตามเย่หู’

‘ก่อนหน้านี้เขาเคยรังแกเย่เฟิงอย่างร้ายกาจ’

เมื่อเห็นเย่หลิง เย่โม่ก็ดูหวาดกลัวมาก

“ฮึ! เย่โม่ นายควรหุบปากซะ!”

เย่หลิงเหลือบตามองเย่โม่อย่างข่มขู่ทันที หลังจากนั้นเขาก็จ้องไปที่เย่เฟิงด้วยตาที่ดูร้ายกาจของเขาแล้วพูดว่า “ฮ่า ฮ่า… เย่เฟิง ฉันไม่นึกเลยว่าแก จะเป็นที่นิยมในโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซีขนาดนี้! นักเรียนคนหนึ่งบอกฉันเกี่ยวกับมัน เมื่อตอนที่ฉันถามว่าแกอยู่ตรงไหน! “

เย่หลิงแสยะยิ้มเพราะเขาไม่สามารถซ่อนความเลวทรามของเขาได้ “ไปกันเถอะ เย่เฟิง! หัวหน้าตระกูลบอกให้ฉันพาแกกลับไป สมาชิกทั้งหมดของตระกูลเย่มาถึงแล้ว พวกเขากำลังรอแกอยู่ !”

เย่หลิงเปิดเผยท่าทางที่น่ากลัวและสนุกสนาน

‘สมาชิกทุกคนในตระกูลเย่มาถึงแล้วเหรอ ?’

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่หลิง เย่เฟิงก็หรี่ตาลงเล็กน้อยในขณะที่ถามว่า “แล้วเย่หูล่ะ ?”

‘หืมม?’

เมื่อพวกเขาได้ยินคำถามของเย่เฟิง ใบหน้าของเย่หลิงและเย่โม่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

“แน่นอนพี่หูก็อยู่ที่นั่นด้วย! เขากำลังรอแกอยู่!”

เย่หลิงตอบพลางเผยอยิ้มอย่างอำมหิต

หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้วเย่เฟิงก็กระโดดลงมาจากต้นไม้ ขณะที่นัยน์ตาของเขาประกายแววเย็นชา จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ไปกันเถอะ! นี่มันก็นานแล้ว! ความแค้นเก่าระหว่างฉันและมันควรจะจบลง!”

‘อะไรนะ!’

เมื่อมองเย่เฟิงที่ออกเดินไปก่อนทั้งเย่หลิงและเย่โม่ต่างก็ตกตะลึง

จากนั้นเย่หลิงก็เผยสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามในขณะที่เขาเดินตามเย่เฟิงไป ตามด้วยเย่โม่ที่มีท่าทางเป็นกังวล

 

เย่หลิง เย่โม่ และเย่เฟิง ได้ออกจากโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซีไปแล้ว

จากนั้นพวกเขาไปที่ถนน

เมื่อพวกเขาเดินไปตามถนนสายสุดท้าย เย่หลิงก็เดินโซเซเอาศีรษะของเขากระแทกเข้ากับกำแพง

ปัง!

ศีรษะของเย่หลิงเปลี่ยนเป็นสีม่วงและแดง

แต่แปลกมาก แทนที่เขาจะแสดงอาการเจ็บปวดเย่หลิงเปิดเผยรอยยิ้มที่น่ากลัว

หลังจากจ้องมองเย่เฟิง เขาก็รีบวิ่งเข้าไปที่ประตูของตระกูลเย่

ในฐานะที่เป็นตระกูลอันดับสอง ตระกูลเย่อยู่ใกล้ ๆ กับตระกูลไป๋และตระกูลกงซึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเจียงซี!

คฤหาสน์ของเขานั้นสวยและงดงาม!

ทว่าเย่หลิงก็เผยความตื่นตระหนกอย่างมากทันทีที่เขาเข้ามาประตูขณะที่เขาร้องโวยวายต่อสมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลเย่ “เร็วเข้า! ช่วยฉันด้วย! เย่เฟิงทำร้ายฉัน”

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset