ตามที่จินตนาการไว้ ในทันทีหลังจากคำพูดของฝางยิ่ง ทุกคนในห้องก็จับจ้องไปที่เย่เฟิงด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายน้อยเถิง เพราะใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
เขาจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยสายตาที่แสดงความเกลียดชังอย่างมาก
“ฝางยิ่ง คุณหาแฟนปลอมที่จน ๆ คนนี้มาจากไหน?”
นายน้อยเถิงถาม ขณะเขามองดูเย่เฟิงด้วยสายตาที่หยิ่งยโส
ถึงแม้ว่าเขาจะดูแต่งกายสะอาดสะอ้าน แต่เย่เฟิงก็ดูแย่กว่ามากเมื่อเทียบกับพวกทายาทรุ่นที่สองของตระกูลที่มั่งคั่ง
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เย่เฟิงก็หรี่ตาเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เขานั้นไม่ต้องการจะมีปัญหาอะไร เพราะเขาแค่อยากจะบอกว่าเขานั้นเป็นเพียงแค่นักเรียนของฝางยิ่ง
แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดที่ดูถูกของนายน้อยเถิง เย่เฟิงก็เผยรอยยิ้มเยาะในขณะที่เขากอดฝางยิ่งไว้ในอ้อมแขนของเขาโดยพูดว่า “ยินดีที่ได้รู้จัก ผมเป็นแฟนของฝางยิ่ง!”
…
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง เหล่าเพลย์บอยแต่ละคนที่อยู่ในห้องก็ส่งเสียงเอะอะโวยวายออกมา
พวกเขาหลายคนจ้องมองนายน้อยเถิง เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขานั้นกำลังจะได้เห็นเหตุการณ์ที่เยี่ยมยอดแน่
ใบหน้าของนายน้อยเถิงเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ เนื่องจากเขาไม่เคยคิดว่าเย่เฟิงจะกล้าเอาแขนโอบรอบเอวของฝางยิ่ง
เมื่อเขาเห็นเทพธิดาของเขาอยู่ในอ้อมแขนของชายที่ดูฐานะยากจน ดวงตาของนายน้อยเถิงก็เปลี่ยนเป็นน่ากลัว
แม้แต่ตัวฝางยิ่งก็ตกตะลึงในทันที
หลังจากรู้สึกว่ามือของเย่เฟิงกำลังโอบรอบเอวของเธอ ใบหน้าของฝางยิ่งก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
‘บังอาจมาก ไอ้งั่งเอ้ย’
ฝางยิ่งอยากให้เย่เฟิงแกล้งเป็นแฟนของเธอ
ดังนั้นเขาต้องทำตามคำสั่ง เพราะเธอเป็นครูของเขา ทว่าเขาไม่ควรจะแตะต้องเธอในทางที่ไม่สุภาพ
อย่างไรก็ตามเย่เฟิงกลับจับมือถือแขนของเธอในทันที ซึ่งทำให้ฝางยิ่งเขินและอายมาก
เมื่อฝางยิ่งพยายามดิ้นรน เธอได้ยินเสียงกระซิบของเย่เฟิงว่า “ถ้าคุณต้องการทำให้มันดูสมจริง คุณควรจะให้ความร่วมมือกับผมดีกว่านะ!”
‘หืมม?’
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ฝางยิ่งก็ชะงักไปในทันที ขณะที่เธอก็เลิกต่อสู้ขัดขืน
จากนั้นเย่เฟิงก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ขี้เล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ “นี่มันควรจะเป็นวันครบรอบปีแรกของการอยู่ด้วยกันของพวกเรา เพื่อเป็นการฉลองผมวางแผนที่จะจัดการเธอ 300 ครั้งบนเตียงนอนที่บ้าน แต่ไม่คาดคิดผมจะหมดแรงก่อนเพราะเธอ! ผมต้องขอโทษด้วยนะ!
แม้ว่าเย่เฟิงจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดของเขาทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 10,000 ดาเมจต่อนายน้อยเถิงและฝางยิ่ง นั่นทำให้พวกเขาเกือบกระอักเลือดออกมา!
‘ครบรอบปีแรกของการอยู่ด้วยกัน ?’
‘ฉลองโดยการจัดการเธอ 300 ครั้ง ?’
‘ไอ้ลูกหมาเอ้ย!’
ฝางยิ่งนั้นโกรธมาก เธอพยายามหายใจเข้าลึก ๆ จนหน้าอกของเธอขยับขึ้นและลง ด้วยใบหน้าสีแดงจัด เธอกัดฟันของเธอแน่น เพราะเธอแทบรอไม่ไหวที่จะกัดเขาจนตาย
‘นี่มันเป็นแค่การแสดง นายต้องพูดไปไกลแค่ไหนกัน ?’
แม้ฝางยิ่งจะหน้าชาไปบ้าง แต่เธอยังแสร้งทำเป็นมีความสุขอยู่
จากการแสดงออกของเธอ เธอก็ดูเหมือนว่าเธอจะยอมรับในเรื่องที่ชายคนนี้พูด ในเสี้ยววินาทีใบหน้าของนายน้อยเถิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกับตับหมู
“โอเค! มาต่อที่ค้างไว้ที่บ้านกันเถอะ! เราต้องหามุมที่จะจูบกันสักหน่อย!”
เย่เฟิงไม่สนใจสายตาของคนอื่น ในขณะที่เขาดึงฝางยิ่งเข้าไปในมุมมืดทันที
เมื่อมองสิ่งนั้นด้วยความกังวลใจ เขาต้องการที่จะทำสิ่งที่น่าอายอย่างชัดเจน
ด้วยความโกรธนายน้อยเถิงบีบแก้วไวน์ในมือของเขาอย่างแรงจนแตก!
“ไอ้เวรเอ้ย!”
นายน้อยเถิงกัดฟันของเขาแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ตอนนั้นเอง เด็กชายผมสีเหลืองที่ดูพิการทางขา ก็ใช้ไม้ค้ำยันมาหานายน้อยเถิงแล้วบอกกับอีกฝ่ายว่า “นายน้อยเถิง ผมรู้จักผู้ชายคนนี้!”
‘หืมม?’
คำพูดของเขากระตุ้นความสนใจของนายน้อยเถิง เขาถามกลับว่า “เล่าให้ฉันฟังถึงภูมิหลังของเขาซิ!”
เด็กชายผมสีเหลืองตอบกลับ ด้วยความเกลียดชังจาง ๆ “นายน้อยเถิงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อพี่ชายของฉันและฉันขับรถไปที่ตัวเมือง มีรถตู้คันหนึ่งขับเอาชนะลัมโบกินี่ของพวกเรา! ผู้ชายคนนี้และหญิงสาวสุดร้อนแรงอยู่ในรถตู้คันนั้น”
เด็กชายผมสีเหลืองก็คืออาซาน ซึ่งเคยแข่งรถกับเย่เฟิงและหลินหลาน
หลังจากได้ยินว่านายน้อยเถิงมาที่เมืองเจียงซี เขาจึงหนีออกจากโรงพยาบาลในทันทีเพื่อที่จะได้มีโอกาสประจบนายน้อยเถิงก่อนที่ร่างกายของเขาจะฟื้นตัว
อาซานไม่ได้คาดหวังว่าจะพบกับเย่เฟิงอีกครั้ง หลังจากที่เขาออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว
อาซานเปิดเผยความเกลียดชังที่ฝังลึกในใจอีกครั้ง เขารู้สึกว่าขาที่หักของเขาเหมือนจะกลับมาเจ็บปวดอีกรอบหนึ่ง!
“รถตู้ ? หญิงสาวสุดร้อนแรง ?” หลังจากได้ยินคำพูดของเขาใบหน้าของนายน้อยเถิงก็โกรธจัด เพราะเขาไม่คิดว่าเย่เฟิงจะกล้ามีผู้หญิงอีกคนหนึ่งนอกจากฝางยิ่ง
“นายแน่ใจไหม?”
นายน้อยเถิงถามขณะที่จ้องมองที่อาซาน
อาซานตัวสั่นไปทั้งตัวเขาตอบกลับพร้อมกับใบหน้าซีด ๆ “แน่ใจที่สุด! แม้ว่ามันจะกลายเป็นขี้เถ้าผมก็ยังจำมันได้! มันเป็นคนที่ทำขาผมหักแบบนี้!”
จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องให้นายน้อยเถิงฟังเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจำได้ถึงบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก “นายน้อยเถิงอย่าประมาทผู้ชายคนนี้! เมื่อมันเป็นบ้า มันเป็นคนบ้าที่สามารถทำสิ่งที่น่ากลัวได้! มันสามารถกำไม้เบสบอลจนแหลกเป็นผุยผงได้! “
อาซานไม่เคยลืม
มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่เขาเคยเจอมาในชีวิตของเขา
“กำไม้เบสบอลจนแหลกเป็นผง ?” นายน้อยเถิงเองก็ตกตะลึงไปในทันที จากนั้นเขาก็เผยความเกรี้ยวกราดออกมา
เขาโบกมือขึ้นทันที ขณะที่เขาส่งสัญญาณบอกคนให้เรียกผู้คุ้มกันให้เข้ามาในห้อง
“ซางเปียว แสดงความสามารถของนายให้เขาดู!”
“ได้ครับ นายน้อย!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ชายผู้แข็งแกร่งในชุดดำเผยรอยยิ้มเยาะในขณะที่เขาถือแผ่นสแตนเลสขึ้นมา
จากนั้นเขากระชากมัน!
ด้วยเสียงแคว๊ก ซางเปียวสามารถฉีกมันออกเป็นชิ้น ๆ โดยใช้กำลัง!
ยิ่งไปกว่านั้นเขาบีบอัดทุกชิ้นส่วนไว้ในหมัดเหล็กขนาดเท่าหม้อของเขา!
แคว๊ก!
แคว๊ก!
แผ่นสแตนเลสทั้งหมดถูกทำให้เป็นลูกบอลด้วยมือของ และเมื่อเขาแบมือของเขาออกมาเศษผงของสแตนเลสก็ตกลงสู่พื้น
‘…’
อาซานรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก
‘ผู้ชายคนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าเย่เฟิง’
‘ซางเปียว’
ทันใดนั้น อาซานก็พูดออกไปแบบตะกุกตะกัก ขณะที่เขาตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและจ้องมองชายแกร่งในชุดสีดำ “นายน้อยเถิง เขา… เขาใช่ซางเปียว คนที่ทำให้ทั้งสังเวียน MMA ใต้ดินในภาคใต้ของจีนตกอยู่ในความหวาดกลัวมาตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา ?”
เมืองเจียงซีนั้นเป็นเพียงเมือง เมืองหนึ่งในภาคใต้ของจีน!
สังเวียน MMA ใต้ดินในภาคใต้ของจีนนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสังเวียน MMA ใต้ดินในเมืองเจียงซี
3 ปีที่แล้วมีผู้ลงแข่ง MMA ที่โหดร้ายปรากฏตัวขึ้นในวงการ MMA ใต้ดินทั่วภาคใต้ของจีน —— ซางเปียว
ในเวลานั้นเขาเอาชนะและสังหารผู้ลงแข่งจากทั้ง 17 เมืองทั่วภาคใต้ของจีนและเริ่มมีชื่อเสียงในวงการ MMA ใต้ดินทั้งหมด
ทว่าหลังจากนั้น ซางเปียวก็ออกจากวงการ MMA ใต้ดิน ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน
อาซาน ไม่คิดว่า ผู้ลงแข่งที่โหดเหี้ยมของวงการ MMA ใต้ดินจะกลายมาเป็นลูกน้องของนายน้อยเถิง
เมื่อมองดูท่าทางประหลาดใจของอาซาน นายน้อยเถิงก็เผยรอยยิ้มที่โหดร้าย ขณะเขาถามอาซานว่า “นายคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะถ้าซางเปียวต่อสู้กับไอ้เด็กคนนั้น ?”
“เยี่ยมมาก! สุดยอด!” อาซานรู้สึกตื่นเต้นมาก จนเขาเกือบจะปัสสาวะรดกางเกงของเขาด้วยความตื่นเต้นเขาพูดต่ออีกว่า “ฮ่า ฮ่า…ไอ้ลูกหมานั่นตายแน่!
หลังจากพูดออกไปแล้ว อาซาน รีบพานายน้อยเถิงไปยังมุมที่เย่เฟิงและฝางยิ่งยืนอยู่ทันที