The Man from Hell – ตอนที่ 68 : ผมจะปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ!

เย่เฟิงนั่งอยู่ในมุมมืดหนึ่งอย่างเงียบ ๆ

เขาไม่สนใจนายน้อยเถิง อาซานหรือซางเปียวเลยแม้แต่น้อย

แต่ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวในชุดโทรม ๆ เก่า ๆ ในมุมมืดหนึ่งของห้องดึงดูดความสนใจของเขา

เขาถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงขวดหนึ่ง และกระดกดื่มอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากดื่มไปแล้ว 4-5 ขวด เขาก็ยังคงไม่เมา แต่ดวงตาของเขากลับดูเปล่งประกายวาวโรจน์

‘เขาต้องเป็นบุคคลที่มีพลังอำนาจ!’

เย่เฟิงตัดสินได้ในทันที

นอกจากนี้เขาแน่ใจว่าชายวัยกลางคนนี้มีพลังมากกว่าอสรพิษหกดัชนีที่เขาเคยสังหารมาก่อน

“น่าสนใจ! น่าสนใจ!”

ดวงตาของเย่เฟิงเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

“อะไรนะ เธอพูดว่าอะไร ?”

จากนั้น ฝางยิ่งก็ทุบศีรษะของเย่เฟิงเบา ๆ

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง ฝางยิ่งรู้สึกโกรธเมื่อเย่เฟิงให้ความสนใจกับผู้ชายคนหนึ่งในมุมมืดมากกว่าตัวเธอ

“ฉันไม่ได้น่าสนใจเหมือน ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวรุงรังนั่นเหรอ ?”

ฝางยิ่งโกรธผสมอายมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เธอกล่าวเสริมว่า “ไหนว่าวันครบรอบปีแรกของการอยู่ด้วยกันของพวกเราไง ? จะจัดการฉัน 300 ครั้งบนเตียง ?”

เมื่อมองเห็นสีหน้าที่ทั้งโกรธทั้งอายของฝางยิ่ง เย่เฟิงก็เลียริมฝีปากของเขาในขณะที่เขาทำท่าทางขี้เล่น “คุณครับ เราแค่กำลังแสดง แต่ถ้าคุณต้องการทำให้มันเป็นจริง ผมก็ไม่ปฏิเสธนะ!”

‘อะไรนะ!’

‘ทำให้มันเป็นจริง!’

ใบหน้าของฝางยิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด

เธอไม่นึกเลยว่านักเรียนนิสัยแย่คนนี้ของเธอจะกล้าพูดจาลวนลามเธอตรงนี้

เมื่อฝางยิ่งกำลังจะสั่งสอนเย่เฟิง เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามา

“ฮ่า ฮ่า… ฝางยิ่ง ทำไมคุณถึงมาหลบอยู่ตรงนี้ ?”

นายน้อยเถิงเดินมาพร้อมกับรอยยิ้ม ตามมาด้วยอาซานและซางเปียวอย่างใกล้ชิด

ฝางยิ่งขมวดคิ้วขณะ คล้องแขนของเย่เฟิงไว้ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อที่จะจูบกัน! โอ้นายน้อยเถิง คุณมาทำอะไรในเมืองเจียงซีเหรอ ?“

เห็นฝางยิ่งคล้องแขนของเย่เฟิงอย่างใกล้ชิด นายน้อยเถิงก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น ในขณะที่เขายังคงฝืนยิ้ม “คุณปู่ของผมเรียกตัวผมมาที่นี่! เขาต้องการที่จะแนะนำผมให้เจอกับผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง!”

นายน้อยเถิงพูดคุยต่อขณะที่เขาจับจ้องไปที่เย่เฟิงแล้วพูดว่า “น้องชาย ฉันขอโทษด้วยสำหรับทัศนคติที่ไม่ดีในตอนแรก โปรดยกโทษให้ฉันด้วย!”

‘หืมม?’

เย่เฟิงไม่นึกว่าเพลย์บอยคนนี้จะขอโทษเขา

แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายของอาซาน เขาก็เข้าใจในทันที

เย่เฟิงเพียงแค่ยักไหล่แต่ไม่ได้ตอบอะไร

“แม่งเอ้ย!”

หลังจากถูกเพิกเฉย ใบหน้าของนายน้อยเถิงก็เปลี่ยนเป็นสีดำ เขาจ้องมองเย่เฟิงอย่างน่ากลัวแล้วพูดว่า “น้องชาย เพื่อนของฉันบอกมาว่า นายเก่งศิลปะการต่อสู้และสามารถบีบไม้เบสบอลเป็นผงได้ด้วยมือของนาย! บังเอิญพอดีที่ฉันมีเพื่อนอีกคนที่เก่งด้านศิลปะการต่อสู้ นายอย่างลองแข่งขันกับเขาบ้างไหม ?”

นายน้อยเถิงจ้องมองเย่เฟิงด้วยสายตาหาเรื่องอย่างมาก

หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว เย่เฟิงก็มองไปที่ซางเปียวที่อยู่ข้าง ๆ นายน้อยเถิงอย่างพิจารณา แต่จากนั้นเขาก็หมดความสนใจ เขาส่ายหัวอย่างไม่แยแส “ผมไม่สนใจ!”

‘หืมม?’

สายตาของนายน้อยเถิงดูเย็นชาในขณะที่เขาพูดว่า “ไม่สนใจหรือว่าไม่กล้า ?”

เห็นได้ชัดว่านายน้อยเถิงกำลังจงใจยั่วยุเขา

ทว่าเย่เฟิงยักไหล่พลางตอบว่า “เมื่อไม่มีการเดิมพัน ผมก็ไม่สนใจหรอก!”

หลังจากพูดแล้วเย่เฟิงก็ สูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ขณะที่เขามองนายน้อยเถิงด้วยท่าทางที่ขี้เล่น “แต่ถ้าคุณใช้สมุนไพรทั้งสองอย่างในเสื้อผ้าของคุณเป็นเดิมพัน ผมก็น่าจะสนใจ!”

‘สมุนไพรทั้งสองอย่าง!’

ฝางยิ่ง อาซาน และซางเปียว สับสนไปในทันทีแต่นายน้อยเถิงกลับตกใจ

‘ไอ้… ไอ้งั่งนี่ รู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อของฉัน ?’

นายน้อยเถิงจ้องมองเย่เฟิงด้วยท่าทางที่ไม่น่าเชื่อ

เขากำลังจะนำสมุนไพรสองอย่างนี้ให้เพื่อเป็นของขวัญกับผู้มีอิทธิพลที่เขาจะได้พบ ดังนั้นเขาจึงนำติดตัวไว้กับเขาเสมอ โดยไม่ได้แสดงให้คนอื่นเห็นเลยสักครั้ง

แต่เขาไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะรู้ถึงการมีอยู่ของมันด้วย

หลังจากเงียบไปสักพัก นายน้อยเถิงก็มองเย่เฟิงด้วยท่าทางที่เคร่งเครียดในขณะที่เขาพูดว่า “ฉันให้ได้แค่สมุนไพรแค่อย่างเดียวเป็นเดิมพัน!

“ตกลง!” เย่เฟิงตอบ ขณะที่เขายืนขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้ม

เมื่อนายน้อยเถิงอยู่ใกล้ ๆ กับเย่เฟิง เขาได้กลิ่นของหญ้าเถาเพ้อฝันและรากสวรรค์อำพันซึ่งเป็นสมุนไพรสองอย่างที่เขาต้องการสำหรับทำเม็ดยาที่ช่วยเพิ่มศักยภาพ

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง นายน้อยเถิงหยิบรากสวรรค์อำพันออกมาทันทีและวางมันลงบนโต๊ะ

หลังจากสังเกตเห็นรากสวรรค์อำพันที่มีคุณภาพสูง เย่เฟิงก็พยักหน้าอย่างน่าพอใจในขณะที่เขาเผยรอยยิ้มที่ดูไม่จริงจัง

“เดี๋ยวก่อน!”

ตอนนั้นเอง นายน้อยเถิงก็บอกกับเย่เฟิงด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ของเดิมพันของฉันคือรากสวรรค์อำพันแล้วของนายล่ะ ?”

‘เดิมพัน ?’

“คุณต้องการอะไร ?” เย่เฟิงถามด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่านายน้อยเถิงคนนี้คิดอะไรอยู่

“ถ้านายแพ้ ฉันหวังว่านายจะต้องไปจากฝ่างยิ่งตลอดกาล!”

นายน้อยเถิงกล่าวขณะที่เขาจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของเย่เฟิง

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเย่เฟิง น่าจะลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทันใดนั้น…

“ได้เลย! นั่นเป็นข้อตกลง!” เย่เฟิงดีดนิ้วมือของเขาขณะที่เขาตกปากสัญญากับนายน้อยเถิงในทันที

‘เอ่อ…’

นายน้อยเถิงชะงักไปในทันที

ฝ่างยิ่งก็พูดไม่ออก

ในสายตาของเธอ มันไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่เฟิงเลยสักนิด เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าของรากสวรรค์อำพัน เย่เฟิงนั้นเป็นฝ่ายได้ประโยชน์อย่างมาก

แม้ว่าเย่เฟิงจะล้มเหลวเขาก็จะไม่เสียอะไรเลย

“ดี! นั่นถือเป็นข้อตกลง!”

นายน้อยเถิงไม่ต้องการให้มีเวลาว่างสำหรับเย่เฟิงที่จะเสียใจกับการตัดสินใจของเขา ในขณะที่เขาวางเดิมพันในทันที

การเดิมพันระหว่างคนทั้งสองคนนั้นดึงดูดความสนใจของคนอื่น ๆ ในห้องอย่างมาก

เพลย์บอยคนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างจ้องมองคู่แข่งทั้งสองคน!

 

เงาที่ดำพุ่งเข้ามาในวงทันที!

นั่นคือซางเปียว

เขาเคลื่อนไหวได้เร็วเท่ากับสายฟ้าผ่าและทำให้ทุกคนที่มองดูอยู่ตกใจ

แม้แต่ดวงตาของฝ่างยิ่งเองก็หดตัวเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่ว่องไวของเขา ในขณะที่เธอเปิดเผยความกังวลอย่างมากและกล่าวเตือนว่า “เย่เฟิงดูแลตัวเองด้วย! เขาคือซางเปียว ลูกน้องที่ทรงพลังที่สุดของนายน้อยเถิง เขาคือคนที่โหดร้ายที่สุดของสังเวียน MMA ใต้ดิน ในภาคใต้ของจีนเมื่อ 3 ปีก่อน!”

เมื่อมองดูร่างบาง ๆ ของเย่เฟิง ฝ่างยิ่งรู้สึกเสียใจที่ลากเย่เฟิงเข้ามาในห้อง

ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่ต้องเผชิญกับเรื่องวิกฤติแบบนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ เย่เฟิงยักไหล่ “ไม่ต้องห่วง! ผมจะปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ!”

‘อะไรนะ!’

ทุกคนในห้องตกใจกับคำพูดของเขาในทันที

หลังจากนั้นพวกเขาก็พากันหัวเราะ

ในสายตาของพวกเขาเย่เฟิงต้องตายแน่

เด็กเหลือขอที่ไม่มีชื่อกล้าต่อสู้กับนักสู้ MMA ที่โหดร้ายเป็นพิเศษ ? นั่นไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!

เมื่อพิจารณาจากรูปร่างผอมและอายุที่น้อยของเย่เฟิง ไม่มีทางที่เขาจะเป็นผู้มีพลังอำนาจได้เลย อย่างมากที่สุดก็เป็นแค่เด็กเหลือขอที่เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาบ้าง

‘เขาต้องตายอย่างแน่นอน!’

เกือบทุกคนจับจ้องไปที่เย่เฟิงด้วยความรู้สึกหลากหลาย

โดยเฉพาะนายน้อยเถิงและอาซานที่เปิดเผยรอยยิ้มเย้ยหยันราวกับว่าเย่เฟิงจะไม่มีชีวิตรอดจากการต่อสู้นี้

‘หึหึ…’

ซางเปียวยิ้มอย่างน่ากลัว ในขณะที่เขาฉีกทำลายเสื้อกั๊กของเขาและเผยให้เห็นร่างกายส่วนบนที่มีความแข็งแกร่งของเขา

ร่างกายส่วนบนของเขามีกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นที่น่ากลัว เมื่อเห็นหน้าอกของเขา ทุกคนก็รู้ได้เลยว่าเขาเป็นคนที่โหดร้ายมาก ที่เคยประสบกับการต่อสู้มามากมาย

“ไอ้เด็กเหลือขอ ฉันสามารถกำจัดแกได้ในการเคลื่อนไหว 3 ครั้ง!”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยการโห่ร้องและเสียงเชียร์

ทว่าเย่เฟิงส่ายหัวแล้วพูดว่า “การเคลื่อนไหว 3 ครั้งนั้นมากเกินไป! เพียงแค่ 1 การเคลื่อนไหวเท่านั้นพอ!”

‘ว่าไงนะ!’

ซางเปียวและคนอื่น ๆ ต่างตกใจเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เย่เฟิงกำลังพูด

จากนั้นเย่เฟิงก็พูดต่อ ซึ่งนั่นทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก “ฉันสามารถเอาชนะแก ได้ในการเคลื่อนไหวแค่ 1 ครั้ง!”

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset