ความมืดมิดยามค่ำคืนกลืนกินแสงที่เคยส่องสว่างในเวลากลางวันไปหมดแล้ว!
ด้วยเสียงดังปึงปัง เย่เฟิงได้ผลักประตูหน้าลานหน้าบ้านของเขาและก้าวยาว ๆ ผ่านมันไป
จากนั้นเขาก็ตกตะลึงไปในทันที!
‘หืมม?’
ในขณะนั้นเย่เฟิงพบว่า ลานหน้าบ้านของเขานั้นกลายเป็นซากของสิ่งที่เคยมีอยู่
ต้นไม้โบราณที่เคยสูงตระหง่านทั้งหมดถูกทำลายลง ในขณะที่ดอกไม้และต้นหญ้าทั้งหมดถูกถอนรากถอนโคนออกมา
ประตูหน้าบ้านของเขาพังและภายในห้องของเขานั้นคงจะเละเทะจนดูไม่ได้อย่างแน่นอน!
วิวตรงลานหน้าบ้านที่เคยสวยงามก็ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี!
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเห็นว่าที่ลำต้นของต้นไม้ที่ถูกตัดไปแล้วถูกเขียนด้วยคำพูดบางคำ — เย่เฟิง ไปตายซะ!
‘แม่งเอ้ย!’
ใบหน้าของเย่เฟิงมืดมนลงอย่างน่ากลัว เพราะเขาไม่ได้จินตนาการว่าจะมีใครบางคนบุกเข้ามาในบ้านของเขาและทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
เย่เฟิงรีบพุ่งเข้ามาในห้องของเขาในทันที ขณะนั้นเขาเห็นผมสีดำกำมือหนึ่งและกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะของเขา
ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในแววตาของเขาในเสี้ยววินาที
‘หลินหลาน!’
เขายืนยันได้เพราะว่านั่นเป็นผมของหลินหลาน เพราะเขาจำกลิ่นหอมจาง ๆ ของเธอได้
เย่เฟิงพลิกกระดาษแผ่นนั้นในทันที เขาเห็นประโยคที่เขียนเอาไว้ – ถ้าแกต้องการให้หลินหลานมีชีวิตรอด ให้มาที่โรงงานเหล็กร้างตอน 20.00 น.! และคนที่จะฆ่าแกคือ —— กงหยุ่นเฟย!”
‘กงหยุ่นเฟย!’
‘โรงงานเหล็กร้าง!’
ครั้งที่แล้วที่กงหวู่ลักพาตัวเฟยเชี่ยน ก็บอกให้เย่เฟิง ไปเจอเขาที่โรงงานเหล็กร้างตามคำสั่งของกงหยุ่นเฟย
แต่คราวนี้มันเป็นแผนการของกงหยุ่นเฟยเอง และสถานที่ที่เดียวกัน ต่างกันที่คนที่ถูกลักพาตัวไปคือหลินหลาน!
“ในที่สุดแกก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว!”
เย่เฟิงพูดพึมพำพร้อมกับจิตสังหารจาง ๆ ในขณะที่เขาแทบจะคลั่งอย่างเต็มที่!
“ถ้าเป็นเช่นนั้น แกก็ไปตายซะ!”
หลังจากทิ้งคำพูดที่น่ากลัวนั้นไว้ เย่เฟิงก็หายตัวไปในยามค่ำคืนเหมือนดั่งวิญญาณ!
…
ในเวลาเดียวกัน ณ โรงงานเหล็กร้างก็มีแสงไฟเปิดอยู่เล็กน้อย
สาวงามคนหนึ่งกำลังถูกมัดไว้กับเก้าอี้เหล็ก!
เธอคือหลินหลาน!
ใบหน้าของหลินหลานดูซีดเซียวอย่างน่ากลัว เมื่อเธอตระหนักถึงความรู้สึกที่อันตรายจากกงหยุ่นเฟย!
“กงหยุ่นเฟย ลืมซะเถอะ! เย่เฟิงจะไม่มาหรอก!”
หลินหลานพูดด้วยท่าทางที่ห่างเหิน
เธอนั้นเกลียดชังกงหยุ่นเฟยมาก
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ กงหยุ่นเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เธอผิดแล้ว! เขาจะมา! เขาจะต้องมาแน่นอน!”
กงหยุ่นเฟยมองดูหลินหลานด้วยความต้องการอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสนใจกับรูปลักษณ์ของเธอ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าหลินหลานนั้นสวยเหมือนกับนางฟ้า
แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่เลือดเย็น แต่เขาก็ยังมีความสนใจในตัวของเธออยู่
“ชู่… คู่หมั้นของฉัน ฉันไม่เคยรู้เลย ว่าเธอสวยมาก!”
กงหยุ่นเฟยจ้องไปที่หลินหลานด้วยความตะกละตะกลามราวกับว่าเธอนั้นเป็นงานศิลปะชิ้นเอก “หลินหลาน ฟังไว้นะ เย่เฟิงจะต้องตาย! แต่เธอยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้!”
กงหยุ่นเฟยพูดด้วยความทะนงตน “ตราบใดที่เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน และตราบใดที่เธอบอกฉันว่าเธอรักฉัน ฉันจะให้อภัยเธอและแต่งงานกับเธอ และจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก! ดีไหมล่ะ ?”
กงหยุ่นเฟยพูดออกมาอย่างมั่นใจ!
ในสายตาของเขา เขานั้นดีกว่าเย่เฟิงมาก ทั้งภูมิหลังของครอบครัว พรสวรรค์และรูปลักษณ์ของเขา
“บอกฉันสิ…ว่าเธอรักฉัน!” กงหยุ่นเฟยมองหลินหลานด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
อย่างไรก็ตามหลินหลานรู้สึกรังเกียจอย่างมาก เมื่อเธอสบตากับกงหยุ่นเฟยราวกับว่าเธอกำลังมองคนโง่
“ฉันรัก…”
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ กงหยุ่นเฟยก็ยกมุมปากของเขาขึ้นเพราะเขารู้ว่าในที่สุดเธอก็จะพูดมันออกมา!
แต่หลังจากได้ยินคำพูดถัดไป ความสุขของกงหยุ่นเฟยก็ถูกแช่แข็งไปทันที
“เย่เฟิง!”
หลินหลานพูดด้วยท่าทางเย้ยหยันในขณะที่เธอพูดซ้ำอีกครั้งว่า “ฉันรักเย่เฟิง!”
‘อะไรนะ!’
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ กงหยุ่นเฟยก็โกรธมาก
เขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าคู่หมั้นของเขา ตกหลุมรักชายคนอื่น!
“เป็นไปไม่ได้! เธอเพิ่งเคยเจอกับเย่เฟิงแค่สองครั้ง มันจะมีความรู้สึกแบบนั้นกับเขาได้ยังไง ? นั่นเป็นไปไม่ได้!”
กงหยุ่นเฟยจ้องหลินหลานด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดและโกรธเกรี้ยว!
หลินหลานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าเธอไม่สนใจใยดีชีวิตของเธอเลย “ฟังนะ ฉันหมายความตามที่พูด! ฉันรักเขา เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันชื่นชอบและก็จะเป็นคนสุดท้ายด้วย!”
“แม่ง!”
ความรู้สึกในใจของกงหยุ่นเฟยค่อย ๆ โหดเหี้ยมขึ้นเรื่อย ๆ!
ในเวลาเดียวกันเขาสะบัดแขนของเขา ดาบสีทองปรากฏขึ้นในมือของเขา!
…
ใบมีดที่คมวางอยู่บนใบหน้าที่งดงามของหลินหลาน ขณะที่กงหยุ่นเฟยถามด้วยดวงตาที่โกรธเกรี้ยว “หลินหลานนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเธอ! บอกฉันสิ ว่าเธอรักฉัน! ไม่งั้นเธอจะต้องตายอย่างทรมาน!”
คมมีดของดาบสีทองนั้นคมมาก!
เลือดสีแดงค่อย ๆ ไหลไปตามดวงแก้มของหลินหลาน
ทว่าเธอยังตอบด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยันและดูถูก “ฉันรัก…เย่เฟิง!”
…
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ กงหยุ่นเฟยก็หมดความอดทนอย่างสิ้นเชิง!
เขาขยับมือของเขาและทิ้งบาดแผลลึก ไว้บนใบหน้าอันสวยงามของเธอในจังหวะนั้น
เมื่อเลือดสีแดงสด ไหลลงมาอาบแก้มของเธอจนหยดลงไปที่คอ ร่างบางของหลินหลานสั่นสะท้านอย่างหนัก แต่เธอไม่แม้แต่จะกรีดร้องออกมา เธอเพียงแต่จ้องมองไปที่กงหยุ่นเฟยด้วยท่าทางที่เยาะเย้ยมากกว่าเดิม “ฉันรัก…เย่เฟิง!”
…
บาดแผลอีกแห่ง ปรากฏบนใบหน้าของเธอ นั่นทำให้เลือดไหลออกมามากกว่าเดิม!
“ฉันรักเย่เฟิง!”
…
การตะโกนของเธอ แผ่เสียงกระจายไปทั่วทั้งโรงงานเหล็กที่ถูกทิ้งร้างแห่งนี้!
คำพูดของเธอ อาจจะเป็นเหมือนการอำลาเย่เฟิงก่อนที่เธอจะต้องตาย!
เธอกำลังแสดงความรักของเธอ ความรักครั้งสุดท้ายของเธอกับเย่เฟิง!
แม้ว่ามันจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่มันก็ดูนานเป็นศตวรรษสำหรับหลินหลาน
บาดแผลที่ไขว้กันบนใบหน้าของเธอนั้น ทำให้เลือดไหลออกมาอย่างมากมาย
แต่เธอก็ยังคงยิ้มอยู่และพูดช้า ๆ ชัด ๆ ว่า “ฉัน รัก เย่เฟิง…”
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ ดวงตาของกงหยุ่นเฟยก็เปล่งประกาย ทว่าเขาไม่ได้ลงมืออะไรต่อ เขาพูดกับหลินหลานด้วยท่าทางที่น่ากลัวแทน “ดีมาก! หลินหลาน พูดได้ดีมาก! ในเมื่อตอนนี้เธอรักมันมาก ฉันก็จะแสดงให้เธอเห็น ว่ามันจะต้องตายอย่างน่าสมเพช!”
หลังจากพูดแล้วกงหยุ่นเฟย ดีดนิ้วของเขา! ทันใดนั้นเงาดำก็พุ่งออกมาจากความมืด
หลินหลานเผยแววตาที่สับสน
แต่หลังจากได้ยินคำพูดของกงหยุ่นเฟยแล้ว ใบหน้าของหลินหลานซีดลงอย่างมาก
“นี่คือ ผู้อาวุโสบลัดดี้โกสท์! หลินหลานเธอต้องเคยได้ยินชื่อของเขาแน่นอน!”
‘บลัดดี้โกสท์!’
ทันใดนั้น ดวงตาคู่งามของหลินหลานก็เต็มไปด้วยความตกใจและตื่นตระหนก ขณะที่เธอตะโกนว่า “กงหยุ่นเฟย นายพาบลัดดี้โกสท์มาเพื่อจัดการกับเย่เฟิงเลยเหรอ!”
แม้ว่าจะเป็นสาวงามอันดับ 1 ในเมืองเจียงซี แต่หลินหลานก็เป็นหญิงสาวในภาคใต้ของจีน ดังนั้นเธอจึงเคยได้ยินชื่อบลัดดี้โกสท์มาตั้งแต่อายุยังน้อย
‘เขาเป็นเหมือนพระเจ้าที่โหดร้ายมาก เป็นปีศาจตัวจริง!’
ดวงตาของหลินหลานฉายความหวาดกลัวอย่างปิดไม่มิด
เธอไม่กลัวความตาย แต่เธอกลัวว่าเย่เฟิงจะต้องตาย!
‘อย่ามานะ! เย่เฟิง อย่ามา…’
หลินหลานเริ่มร้องไห้และอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ทว่าในขณะนั้นน้ำเสียงที่เย็นเฉียบก็ดังมาจากด้านนอกของทางเข้าโรงงานเหล็กร้าง
“กงหยุ่นเฟย ฉันมาที่นี่เพื่อเอาชีวิตของแกแล้ว!”