“คุณปู่กู๋ทำไม ปู๋ถึงไม่ช่วยฉันตอนนั้น!”
ซือกงจิง ถามชายชรากู๋ เมื่อเธอเดินออกมาจากโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซี
ในฐานะคุณหนูของตระกูลซือกง ตระกูลใหญ่ในภาคเหนือของจีน นอกเหนือจากเกอร์สันผู้คุ้มกันของเธอ ซือกงจิง ก็มีผู้ดูแลอีกคนหนึ่ง —— ปู่กู๋
มีเพียงซือกงจิงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าปู่กู๋นั้นทรงพลังมากเพียงไหน เขาเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในภาคเหนือของจีน เมื่อตอนที่เขายังหนุ่มกว่านี้!
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะอายุมากแล้วก็ตาม เขาก็ยังเก่งกาจหาคนที่เปรียบเทียบด้วยยากในภาคเหนือของจีน
หลังจากได้ยินคำถามของซือกงจิง ชายชราก็ขมวดคิ้ว ขณะเขาปาดเหงื่อที่บริเวณหน้าผากของเขา
แล้วเขาก็พบว่าหลังของเขานั้นก็เปียกชุ่มเช่นกัน
“คุณหนูอาจไม่รู้ ถ้าผมเข้าโจมตีเขาในตอนนั้น ตอนนี้เราทั้งคู่คงจะตายไปแล้ว!”
‘อะไรนะ!’
ซือกงจิงตกตะลึง
“ปู่กู๋กำลังพูดเรื่องอะไร! ปู๋สามารถฆ่าไอ้มารภูผาเหล็กนั่นได้ โดยตบเขาเพียงแค่ครั้งเดียว! หากปู๋หยุดเขา ไว้ เกอร์สันก็คงจะไม่ตายไปแบบนั้น!”
ซือกงจิงพูดด้วยท่าทางที่ดูน่ากลัวเมื่อนึกถึงสภาพการตายของผู้คุ้มกันที่จากไปของเธอ
ชายชรากู๋ ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น พลางตอบกลับว่า “ผิดแล้วคุณหนู! คนที่น่ากลัวตัวจริงคือเย่เฟิง!”
“ผมเคยเห็นผู้คนมามากมายในชีวิต แต่ผมไม่เคยเห็นใครเหมือนเขาเลยสักคน!”
ชายชรากู๋พูดด้วยความกลัวอย่างมากพลางขมวดคิ้วแน่น “ก่อนที่เกอร์สันจะถูกฆ่า ผมเคยพยายามช่วยเขาแล้ว! แต่พลังฉีดุร้ายที่น่ากลัวก็พุ่งเข้ามาที่ตัวผม! ผมเชื่อว่าเราทั้งคู่คงจะตายไปแล้วถ้าผมเข้าช่วยเหลือเกอร์สัน!”
ซือกงจิงไม่เคยเห็นคุณปู่กู๋มีท่าทีหวาดกลัวมาก่อนเลยในชีวิตของเธอ ราวกับว่าเขาเห็นเย่เฟิงเป็นเหมือนปีศาจที่น่ากลัว!
จากนั้นซือกงจิงจึงตอบกลับอย่างดุเดือด “ฮึ! มันยังไม่จบแค่นี้แน่! พ่อและปู่ของฉันตอนนี้พักอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเย่! ไปกันเถอะ! ฉันบอกพ่อให้ล้างแค้นให้!”
หลังจากที่เธอพูดเสร็จแล้ว ซือกงจิงก็เดินจากไป ชายชรากู๋ขมวดคิ้วของเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม เขารู้สึกว่ากำลังจะเกิดเรื่องสำคัญรุนแรงขึ้น
“หวังว่าหัวหน้าตระกูลซือกงจะมีสติมากพอ!”
ชายชรากู๋ ส่ายหัวในขณะที่เขาถอนหายใจอย่างแรงออกมา แล้วเดินตามซือกงจิงไป
…
ในเวลาเดียวกันในสนามกีฬา!
เย่เฟิงมองสาวน้อยคนนั้นด้วยความตื่นเต้น
ในเสื้อผ้าที่สกปรกและโทรมเธอก็ดูเหมือนเด็กที่ค่อนข้างซุกซน
เธอสวมรองเท้าปีนเขาขนาดใหญ่ที่มีรูขาด นั่นทำให้เธอดูน่าสงสารมาก
ราวกับว่าเธอสังเกตเห็นว่าเย่เฟิงกำลังมองเธออยู่ ใบหน้าที่น่าเกลียดของเด็กหญิงตัวเล็ก ก็แดงขึ้นมาขณะที่เธอรีบก้มหน้าลงแล้วพูดอย่างกลัว ๆ ว่า “ซวินเอ๋อหน้าตาน่าเกลียดมากเกินไป พี่ชาย หวังว่าพี่จะไม่กลัวหนูด้วยนะคะ… ”
เสียงของซวินเอ๋อเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกภายในใจของเธอที่ซับซ้อน
ไหล่บาง ๆ ของเธอสั่น ขณะที่น้ำตาหยดใสค่อย ๆ ไหลออกมา
ตั้งแต่เธอจำความได้ สิ่งที่เธอจำได้ก็คือเธอเป็นผู้หญิงที่น่าเกลียดที่ไม่มีใครชอบ ไม่มีใครรับเธอไปเลี้ยงหรือดูแล ไม่มีใครจะรู้สึกสงสารหรือเห็นใจเธอ
เธอมักจะเผชิญกับสายตาของผู้คนหรือคำพูด ที่ดูถูกเหยียดหยามและด่าทอ เธอมักรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นสิ่งที่โลกใบนี้ไม่ต้องการ
ไม่มีใครสักคนแสดงความเมตตาต่อเธอ!
“ซวินเอ๋อ ?”
หลังจากได้รู้จักชื่อของเธอ เย่เฟิงเป็นคนแรกที่ยิ้มให้กับเธอขณะที่เขาสัมผัสหัวเล็ก ๆ ของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “ซวินเอ๋อจำไว้นะ ว่าหนูไม่ได้น่าเกลียดเลยสักนิด! จากนี้ไปหนูจะกลายเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งในจักรวาล!”
เย่เฟิงพูดในขณะที่มองตรงไปในดวงตาของซวินเอ๋อ
‘อะไรนะ!’
ซวินเอ๋อตกตะลึง
เธอเงยหน้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตาของเธอขึ้นมา แล้วมองไปที่เย่เฟิงด้วยความสับสน
นี่มันเป็นครั้งแรกที่มีคนบอกเธอว่า เธอนั้นไม่น่าเกลียด
เธอมองเย่เฟิงด้วยสายตาที่เปียกชื้น
เธอพบว่าเย่เฟิงกำลังมองหน้าเธออย่างมั่นใจในคำพูดของเขาและเอ็นดูเธอ เขาไม่ได้แสดงสีหน้าหลอกลวงหรือเหยียดหยามแต่อย่างใด
“พี่ชาย…”
ในเสี้ยววินาทีนั้นเธอก็ร้องไห้หนักมากราวกับบ่อน้ำตาแตก
ขณะนั้นซวินเอ๋อมีความรู้สึกราวกับว่าเธอนั้นเป็นที่รักและได้รับความห่วงใย จากใครสักคนเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเย่เฟิงลูบหัวเล็ก ๆ ของเธอด้วยมืออันอบอุ่นของเขา
เมื่อมองดูร่างกายที่เล็ก ผอมแห้งและน้ำตาที่ไหลมากขึ้นของเธอ หัวใจของเย่เฟิงก็บีบอย่างหนัก
เขารู้ว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะต้องได้รับความขมขื่นมามากมายตลอดชีวิตของเธอ
“ซวินเอ๋อเชื่อพี่นะ! นอกจากปัญหาแล้วปานดำของหนู ก็จะนำความสุขมาให้หนูด้วยนะ!”
เย่เฟิงพูดด้วยแววตาที่เป็นประกาย!
‘กายาพิษระดับสูงสุด!’
‘นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล’
ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตมากมายในกาแลคซีหลายร้อยล้านแห่งในจักรวาลนี้ จะมีกายาพิษระดับสูงสุดเพียงแค่หนึ่งเดียวในแต่ละช่วงร้อยล้านปีแสง!
ตามความรู้ของเย่เฟิง มีปีศาจชราเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีกายาพิษระดับสูงสุดในจักรวาล
ทว่าปีศาจชรานั้นหายไปนานหลายพันล้านปี เขาอาจตายไปแล้วก็ได้!
ถ้าพวกผู้มีอำนาจวิเศษในจักรวาลรู้เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนี้ พวกนั้นคงจะบ้าแน่ ๆ !
ยิ่งมีพิษสะสมในร่างกายมากเท่าไหร่ บุคคลที่มีกายาพิษก็จะยิ่งมีความสวยงามมากขึ้นเท่านั้น!
เมื่อเธอปลุกพลัง กายาพิษระดับสูงสุดของเธอ เธอก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาล
ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ เธอนั้นสามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นแค่การขมวดคิ้วหรือยิ้มออกมาเท่านั้น!
“พี่ชายช่วยรักษาปานดำนี้ได้ไหมคะ ?”
ซวินเอ๋อเอ่ยถามเย่เฟิงด้วยความหวังอย่างมาก ขณะที่เธอกระพริบตาคู่โตของเธอ
หลังจากได้ยินคำถามของเธอ เย่เฟิงตอบพร้อมกับยิ้มว่า “ไม่ต้องกังวลเลย!”
จากนั้นเขาก็หยิบเข็มและขวดเล็ก ๆ ออกมาก่อนที่จะบอกซวินเอ๋อว่า “ซวินเอ๋ออดทนหน่อยนะ มันอาจรู้สึกคันเล็กน้อย แต่หนูจะต้องทนมันไว้!”
ซวินเอ๋อเข้าใจดี เธอพยักหน้าก่อนหลับตาลง
เย่เฟิงแทงเข็มอันแหลมคมลงในปานของเธอทันที
…
จากนั้นเขาใส่พลังฉีปีศาจลงไปในปานดำของเธอ ทันใดนั้นของเหลวสีดำก็ค่อย ๆ ไหลออกมาตามเข็มของเขา พริบตาเดียวก็มีของเหลวสองสามหยดไหลออกมา
เมื่อมองหยดของเหลวสีดำ เปลือกตาของเย่เฟิงก็กระตุกขึ้นอย่างเร็ว
แม้ว่าซวินเอ๋อจะไม่ได้ปลุกพลังของกายาพิษระดับสูงสุดของเธอ แต่นี่ก็เป็นสารพิษที่มีความเป็นพิษมากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน!
ถ้าเย่เฟิงหยดของเหลวสีดำหนึ่งหยดลงในแม่น้ำ แม่น้ำทั้งสายก็จะสูญเสียพลังแห่งชีวิตไปโดยสิ้นเชิงเพราะไม่สิ่งมีชีวิตไหนจะรอดอยู่ได้ ทุกอย่างที่อยู่ใต้ผืนน้ำนั้นจะต้องตาย
นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตภายในระยะ 6 ไมล์รอบ ๆ แม่น้ำก็จะตายเช่นกัน!
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยประมาณ ในที่สุดเย่เฟิงก็ดูดสารพิษออกจากใบหน้าของซวินเอ๋อจนหมด
จากนั้นเขาก็ปาดเหงื่อที่หน้าผาก ขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ซวินเอ๋อ หนูลืมตาได้แล้ว!”
‘หืมม?’
ซวินเอ๋อค่อย ๆ ลืมตาของเธอขึ้นมา ขณะที่เธอเห็นเย่เฟิง ยื่นกระจกให้เธอด้วยรอยยิ้ม
…
ซวินเอ๋อนั้นลังเลใจอย่างมาก
เธอกลัวการที่จะส่องกระจกตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกครั้งที่เธอมองเข้าไปในกระจก เธอรู้สึกเหมือนอยากจะตาย!
“ทุกอย่างปกติดีแล้ว! หนูสามารถชื่นชมใบหน้าที่สวยงามของตัวเองได้ตอนนี้!” เย่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขาลูบหัวเล็ก ๆ ของซวินเอ๋อ
‘สวย ?’
ซวินเอ๋อตกใจมากในขณะที่เธอรีบพยักหน้าของเธอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอมองเข้าไปในกระจก เธอก็ตัวแข็งทื่อไปในทันที