ตอนที่109
ในวันต่อมา ลีก็นั่งดูข่าวผู้พันโรดี้ในทีวี
“ผมเสียใจมากที่ต้องประกาศว่าระหว่างการฝึกซ้อมการบินเมื่อวาน เครื่องบิน F22 ได้พลาดพลั้งและเครื่องตก แต่โชคดีที่นักบินไม่ได้รับบาดเจ็บ”
“สําหรับการระเบิดที่เป็นปริศนาในอัปกานิสถานนั้นยังไม่ ชัดเจนว่าเป็นฝีมือของใคร แต่ผมรับรองได้เลยว่าไม่ใช้ฝีมือของรัฐบาลอเมริกาอย่างแน่นอน”
ลีก็ได้แต่คิดว่ามันคงเป็นฝีมือของโทนี่ทั้งหมดสินะ ระเบิดเสร็จแล้ว ขณะบินกลับก็ไปช่วยนักบินได้ทัน
“ท่านครับ โมเดลสําเร็จพร้อมสร้างแล้ว”
เสียงของจาวิสดังขึ้นมา พร้อมกับมีการแสดงท่าทางการต่อสู้ แบบสามมิติของนักสู้ที่ฝีมือดี
โมเดลพวกนี้เป็นการคัดลอกวิธีการต่อสู้เข้ากับชุดเกราะของโทนี่
แต่สิ่งที่โทนี่กําลังคิดอยู่นั้นคือ เขาต้องบินไกลหลายๆสิบชั่วโมง ซึ่งมันทรหดมาก ถ้าหากมีอะไรมาช่วยให้เขาเดินทางสะดวกกว่านี้ก็คงดี
“ขยะ ขยะ ขยะ”
โทนี่ยืนคิดและค่อยๆปัดสิ่งที่ไม่ต้องการทิ้งออกไปที่ละอย่างในจอสุดไฮเทคของเขา
โทนี่ต้องการอะไรบางอย่างเพื่อมาช่วยลดความเร็วลงขณะ ลงจอดสู่พื้นจนเกิดไอเดียเกี่ยวกับปีกขึ้นมา โทนี้จึงพูดขึ้นทันที
“จาวิส ทําโมเดลมาร์คสามที่”
“ครับท่าน”
สําหรับโมเดลการต่อสู้นั้น จู่ๆโทนี่ก็คิดขึ้นมาว่าถ้าหากแต่งเติมอะไรเพิ่มชุดมันจะแน่นเกินไป รวมถึงปักที่ต้องมีเทอร์โบติดไว้ด้วยก็ตาม
“ผมต้องการเตาปฏิกรณ์พลังงานสูงมาก…”
ทันใดนั้นประตูห้องแล็บของโทนี่ก็ถูกเปิดออกเบาๆ ซึ่งคนที่เข้ามานี้ก็คือเพพเพอร์พอตต เลขาของโทนี่นั่นเอง
“นี่!” โทนี่หันไปมองและพูด
เพพเพอร์ก็เข้ามาเงียบๆยังไม่พูดอะไร และเดินไปดูชุดเหล็กที่โทนี่ใส่ไปถล่มอัฟกานิสถานมาเมื่อวาน ก็พบว่ามีรอยถลอกของกระสุนมากมาย เธอจึงพูดขึ้นมาว่า “ไม่ค่อยว่างหรอ ช่วงนี้”
โทนี่เองก็หลบตาไม่อยากจะตอบตรงๆว่าไปทําอะไรมา “ผมอยากให้คุณไปออฟฟิศในบริษัทสักหน่อย แล้วก็ช่วยไปเอาเอกสารการขนส่งทั้งหมดมา”
หลังจากพูดเสร็จ โทนี่ก็ยินแฟลชไดว์สีดําให้แก่เพพเพอร์ และพูดต่อว่า “สิ่งนี้จะช่วยให้คุณแฮ็กเข้าได้ทุกระบบไฟล์ที่ คุณควรจะค้นหาก็เป็นพวกไฟล์ลับมีรหัสล็อคส่วนตัว ถ้าหากไม่เจอก็หาจากขนาดไฟล์เอาละกัน”
เพพเพอร์จึงถามกลับทันที “คุณมีแผนจะทําอะไรต่อหลัง จากที่ได้ข้อมูลมาแล้ว?”
“ก็เก็บกวาดเหมือนเดิม” โทนี่พูดแบบหลบตา “มันยังมีคนที่คอยลักลอบส่งอาวุธให้พวกโจรอยู่ ผมต้องจัดการและทําลายมันให้หมด”
“โทนี่ คุณก็รู้ใช่ไหมว่าฉันพร้อมทําทุกอย่างให้คุณ แต่ถ้าหากคุณจะทําเรื่องแบบนี้ ฉันก็ไม่สามารถช่วยได้หรอกนะ”
“ก็แค่เอาไฟล์ออกมา แค่นั้นเองนิ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เพพเพอร์ก็ตอบกลับทันทีว่า “มันอันตรายเกินไปนะ”
โทนี่ตอบกลับ “ก็แน่นอน หลังจากนี้จะไม่มีงานศิลปะ งานมูลนิธิไม่มีการติดต่อ จะไม่มีอะไรอีกแล้ว”
“ถ้าเป็นงั้น…. ” เพพเพอร์โบกมือลาและวางแฟลชไดว์ ลงบนโต๊ะ “ฉันขอลาออก!”
“อะไรกัน? หลายปีที่ผ่านมา บริษัทผมก็หากินจากกินผลิตสิ่งของอันตรายฆ่าฟันผู้อื่น คุณก็ยังอยู่เคียงข้างผม แต่ตอนนี้ผมต้องการจะปกป้องทุกคน คุณกลับทิ้งผมไปงั้นหรอ?”
“คุณกําลังทําให้ตัวเองอยู่ในความเสี่ยงนะโทนี่!”
“..…..”
เพพเพอร์จ้องมองโทนี่อย่างเงียบๆ และเอื้อมมือไปหยิบแฟลชไดว์ขึ้นมาและเดินออกไปทันที
เพพเพอร์ตะโกนอย่างเป็นห่วงออกไปว่า “คุณก็รู้นี่ฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากคุณ”
โทนี่ที่ได้ยินแบบนี้ก็รู้ทันทีว่าถ้าหากเขาทําพลาดและตาย เพพเพอร์ก็จะไม่เหลือใคร
แต่โทนี่ได้เลือกเส้นทางนี้แล้ว ต่อจากนี้จะไม่มีคําว่าซีอีโอหนุ่มอีกต่อไป…