ตอนที่2 ความรู้ของซุนโกคู
ในเวลานี้เทพเจ้ามังกรเองก็ถามอีกครั้ง “พูดความปรารถนาของเจ้ามาส้ะ ข้าจะทำให้พรนั้นเป็นจริงได้ 1 ประการ!”
ชายหนุ่ม “ยังอยู่อีกหรอ! ไปลงนรกส้ะเจ้ามังกรจอมปลอมเอ้ย!”
เทพเจ้ามังกรก็นิ่งเงียบไม่ตอบสนองใดๆนอกจากพูดเหมือนเดิม “พูดความปรารถนาของเจ้ามาส้ะ ข้าจะทำให้พรนั้นเป็นจริงได้ 1 ประการ”
เมื่อลีได้ยินแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาก็ปวดหัวหงุดหงิดไปหมด “ช่วยเงียบสักแปปได้มั้ย ข้ากำลังคิดอยู่!
“พูดความปรารถนาของเจ้ามาส้ะ ข้าจะทำให้พรนั้นเป็นจริงได้ 1 ประการ!”
“…”
และในที่สุดเขาก็สงบสติอารมไม่สนใจคำตอบอัตโนมัติของมังกรงี่เง่านี่ และเริ่มคิดอย่างจริงจังว่าจะทำยังไงเพื่อให้อยู่รอดได้ในจักรวาลมาเวลนี้
“เทพเจ้ามังกร มอบพลังให้ข้าที ข้าอยากเป็นซุปเปอร์ไซย่า!”
“ขออภัย ข้าทำแบบนั้นไม่ได้…”
“โอ้ยยย ไอมังกรไร้ค่าเอ้ย สรุปแกทำอะไรได้บ้าง?!”
“ในโลกของดราก้อนบอลหากเจ้าอยากแข็งแกร่งขึ้นก็ต้องฝึกฝน ถ้าเจ้าอยากได้แบบนั้นจริงข้าก็ทำได้แค่ทำให้ผมเจ้าเป็นสีทอง แต่เจ้าก็ไม่มีพลังอยู่ดี”
เมื่อคิดดูแล้ว ลีก็เห็นว่าดีแล้วที่ไม่ได้เป็นไซย่า เพราะไม่งั้นเดินไปไหนก็คงต้องเก็บหางให้ดี พอวันที่ดวงจันทร์ขึ้นเต็มดวงก็กลายเป็นลิงยักษ์อีก
เมื่อคิดแบบนี้แล้วเขาจึงขอใหม่อีกครั้ง “ถ้างั้นทำให้ข้ามีสภาพแบบจอมมารบลู!”
สำหรับเหตุผลที่ลีอย่างเป็นจอมมารบลูก็เพราะว่า เป็นสัตว์เซลส์เดียวซึ่งสามารถไปที่ไหนก็ได้ในจักรวาล อยู่รอดได้ แม้ว่าโลกจะพังสลายก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม…..
“ขออภัย ข้าทำแบบนั้นไม่ได้…”
ลีชักจะเซ็งเต็มทน “ถ้างั้นขอเป็นเซลส์ร่างสมบูรณ์แบบ!”
“ขออภัย ข้าทำแบบนั้นไม่ได้…”
“ฟรีซเซอร์ล่ะ?”
“ขออภัย ข้าทำแบบนั้นไม่ได้…”
“…”
ลีเกาหัวไม่รู้จะข้ออะไรดีแล้ว จะขอให้เป็นพิคโคโร่ก็มีหน้าตาน่าเกลียดอีก แม้ว่าจะมีพลังการฟื้นฟูที่เยี่ยมแต่ก็ไม่เอาดีกว่า
ลีคิดอยู่พักนึงจึงขอใหม่ว่า “ถ้างั้นขอความรู้ของใครก็ได้สักคน นั่นจะได้ไหม?”
“โอ้ว เรื่องนี้ง่ายมาก!”
“ถ้างั้น เทพเจ้ามังกร ข้าขอความรู้ทั้งหมดของซุนโกคูจะได้มั้ย?”
ลีคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เขาจะได้ยิน ‘ขออภัย ข้าทำแบบนั้นไม่ได้…’
แต่ผิดคาดที่เทพเจ้ามังกรตอบมาว่า “พรของเจ้าจะเป็นจริง!”
ทันใดนั้นเทพเจ้ามังกรก็สลายหายไปกลายเป็นควัน ดราก้อนบอลปลิวกระจายทะลุผนังชั้นใต้ดินออกไป ส่วนหนึ่งในนั้นก็เข้ามาในมือของลี
(เมื่อดราก้อนบอลถูกขอพรเรียบร้อยแล้วจะกลายเป็นก้อนหินและกระเด็นไปทั่วรอบโลก)
“เอาล่ะ! ไหนนะความรู้?”
ลีงงเพราะไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง “ข้าโดนหลอกงั้นหรอ?”
ทันใดนั้นขณะที่ลีหลับตาลง เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังกิ!
(กิคือพลังชีวิตตามธรรมชาติ หรือกล่าวได้เลยว่ามันเป็นพื้นฐานพลังของทุกสรรพสิ่งในโลกของดราก้อนบอล)
หลังจากทีลีได้รับความรู้ทุกอย่างของโกคูมาแล้วเขาจึงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังกิ
และแน่นอนว่าซุนโกคูได้ฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กยันโต จึงทำให้ลีนั้นสามารถใช้แขนและขามีทักษะการต่อสู้ได้อย่างโกคู
แต่ถึงอย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งร่างกายของเขานั้นไม่เกิน 5 อย่างแน่นอน และก็แน่นอนว่าเขาไม่สามารถใช้พลังคลื่นเต่าได้ ถ้าหากไม่ฝึกฝนอย่างหนักทั้งวันทั้งคืน
ลีลืมตาขึ้นมามองรอยสักก็พบว่าจากสีทองได้กลายเป็นสีเทาแล้ว เขาจึงหลับตาลงสงบสติอารมณ์ ‘ทั้งหมดนี่มันก็เป็นเพราะมังกรไร้ค่านั่น แต่จะว่าก็ไม่ได้ เพราะที่ข้าสัมผัสพลังกิได้ก็เพราะมัน’