ตอนที่32 ปล่อยให้อยู่อย่างสงบ
“เรามีทักษะพื้นฐานอยู่5อย่าง การฝึกฝนกิ กิเซ้นส์ หน้ากากพลังกิ ปล่อยพลังกิ โอนพลังกิ”
อย่างแรกคือการฝึกฝนเพื่อพัฒนากิของตัวเอง หรือบอกได้ว่ามันเป็นพื้นฐานของทั้งสี่อันที่เหลือ ตราบใดที่ยังคงฝึกฝน พลังกิก็จะเพิ่มมากขึ้น แข็งแกร่งขึ้นนั่นเอง
อย่างที่สองคือสิ่งที่ผมเคยบอกคุณไปก่อนหน้านี้ ผมสามารถสัมผัสพลังของทุกคนรอบข้างได้เหมือนกับเรดาห์ ส่วนระยะการค้นหาต่างๆจะเพิ่มขึ้นตามพลังกิของผู้ใช้
อย่างที่สาม หน้ากากพลังกิ คือสิ่งที่ใช้ป้องกันกิเซ้นส์ มันช่วยในการปิดบังพลังตัวเองไม่ให้คนอื่นรับรู้ได้ถึงพลังของเรา
อย่างที่สี่ ปล่อยพลังกิ มันก็ง่ายๆเลยคือการปล่อยพลังกิออกไปข้างนอก ตัวผู้ใช้ก็เหมือนตัวสร้างพลังกิ แล้วก็ปล่อยออกไป ซึ่งผมใช้บ่อยในการย่างบาบีคิว ลองนึกสภาพถ้าปล่อยใส่คนดู…. อะแฮ่มๆ ยิ่งกว่านั้นคือความรุณแรงของพลังกิที่ปล่อยออกไปก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้
อย่างที่ห้า โอนพลังกิ ไม่ใช่อะไรที่สามารถทำร้ายคนอื่นได้ กิก็คือพลังงานของชีวิตที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งหรือต้านทานบาดแผลได้ ถ้าหากใครสามารถควบคุมพลังกิได้ดี ก็จะสามารถใช้รักษาบาดแผลได้
หลังจากพูดอันนี้เสร็จ ลีก็หยิบแก้วน้ำขึ้นมากินแก้กระหายหลังจากนั้นก็พูดต่อเกี่ยวกับ เทคนิคขั้นสูงขึ้นมา ค้อน กรรไกร กระดาษ
ค้อน คือการใช้พลังกิมาเคลือบหมัดเอาไว้ เพื่อต่อยอย่างทรงพลัง และนี่ก็คือสิ่งที่ผมใช้กับแก็งขวาน
กรรไกรคือการโฟกัสพลังกิไว้ที่ปลายนิ้ว สร้างดาบพลังกิขึ้นมา เพื่อใช้ฟันหรือตัด ถ้าหากผู้ใช้มีพลังกิที่มาก ก็จะทำให้ดาบนี้ไวและแหลมคมมาก ก็เหมือนกับตอนที่ผมตัดโต๊ะโชว์คุณไป
กระดาษ คือรวมพลังกิไว้ที่ฝ่ามือ เพื่อใช้ในการผลัก ดัน หรือดึงศัตรู แล้วก็เหมือนเดิม ยิ่งผู้ใช้มีพลังกิมากขนาดไหนก็จะมีแรงมาขึ้นเท่านั้น
ลีจิบน้ำอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พูดว่า “สำหรับเทคนิคที่สูงกว่านี้ ผมไม่สามารถบอกได้”
“เดี๋ยวสิ! แล้วเทคนิคที่เหมือนระเบิดแฟลชนั่นล่ะ? ยังไม่ได้บอกเลยนะ”
“อ๋อ กำลังพูดถึง หัตตะวันอยู่สินะ! นั่นไม่ได้เรียนมาจากโรงเรียนคาเมะ แต่ดูมาจากคนที่ชื่อ เทนชินฮัง เขารวบรวมพลังกิไว้ที่หัวหลังจากนั้นก็ฉายแสงจ้าออกมา ซึ่งก็นั่นแหละยิ่งผู้ใช้มีพลังกิมากก็จะสว่างมากยิ่งขึ้น”
“เทนชินฮัง…” หลังจากนั้นคอลสันก็ถามต่ออย่างไม่ลังเล “แล้วแสงสีทองที่ใช้ช่วยชีวิตคอลลีน วิงหล่ะ?”
ลีส่ายหัว “นั่นไม่ใช่โรงเรียนคาเมะ แล้วก็ขอโทษด้วยเทคนิคนั่นมันรุณแรงเกินไป ผมไม่อยากจะพูดถึงมัน”
“โอเค” หลังจากนั้นคอลสันก็เปลี่ยนคำถามทันที “งั้นสองเทคนิคล่าสุดที่บอกมา ก็คือไม่ใช่เทคนิคของโรงเรียนคาเมะสินะ?”
“ใช่ แน่นอน!” ลีพยักหน้า “สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ แค่ทำ5พื้นฐาน และค้อน กรรไกร กระดาษได้ก็ถือว่าจบหลักสูตรโรงเรียนคาเมะแล้ว”
“จริงๆ คุณจะบอกว่าสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดก็แค่พื้นฐานงั้นหรอ? ตัวคุณเองก็ยังอยู่ระดับต่ำงั้นหรอ?”
“ใช่ ก็ผมแค่อายุ 19 ได้เท่านี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“…”
หลังจากนั้นคอลสันก็เงียบไป แล้วก็เชื่อสิ่งที่ลีพูด เขาจึงหยุดถาม จบการหาข้อมูลเพียงเท่านี้
ตั้งแต่ที่ลีพบกับแดนนี่ครั้งแรก ลีก็ได้สร้างเรื่องโม้พวกนี้ขึ้นมาเนิ่นนาน จนเขามีประสบการณ์การโม้เรื่องนี้จนทุกคนเชื่อ ดั่งเช่นคอลสันที่เชื่ออย่างไม่ลังเลอะไร
เขาไม่พูดอะไรต่อ หลังจากที่ได้ข้อมูลที่ต้องการแล้วก็รีบออกไปทันที พร้อมกับบอกกองหนุนอีกสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ให้แยกย้าย
ลีเองก็กลับเข้าห้องไปนอน แต่เมื่อเขาเข้าห้องไปแล้วก็ต้องพบกับดวงตาสีเขียวที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ “ทำไมยังไม่นอนอีกเนี่ย!?”
เมื่อได้ยินคำถามของลี ลอวน่าก็รีบหลับตาและพูด “ก็เจ้าหน้าที่ชิลด์อยู่ข้างล่าง หนูจะนอนได้ยังไงหล่ะ?”
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก หลังจากนี้พวกเขาจะไม่มายุ่งกับเราแล้ว” หลังจากนั้นลีก็ลากลอวน่าไปส่งที่ห้องของเธอ “นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
“เดี๋ยวสิ!”
ลอวน่ากำเสื้อของลีเอาไว้ ไม่ให้เดินหนีไป “หัวหน้าคิดว่าพวกเขาจะยังไม่สงสัยอะไรในตัวหนูใช่มั้ย?”
“ใช่ พวกเขาไม่สงสัยหรอก” หลังจากนั้นลีก็หันหลังกลับมาพูด “พวกเขาไม่สนใจเด็กตัวเล็กๆอีกต่อไปแล้ว..”
ลอวน่ากำหมัดด้วยความโมโห “กล้าดียังไง? เด็กตัวเล็กๆงั้นหรอ?”
“…”
ลีมองไปที่ลอวน่าและพูด “อยากถูกจับได้งั้นหรอ? คนที่ถูกโดนจับตามาอยู่นี่!”
“หัวหน้าถูกชิลด์จับตามองอยู่หรอ?”
“ก็ใช่นะสิ้!”
“…”