ตอนที่4 สไตล์คาเมะ
“คุณลีครับ คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลย”
“ขอโทษที่เสียมารยาทครับ พอดีตกใจอยู่หน่ะ” ลีก้มหน้าขอโทษ “ใช่ครับ ผมใช้พลังกิในการทำอาหาร”
แดนนี่แรนด์มองด้วยความสงสัย “ถ้าทำได้จริง ผมรบกวนขอดูหน่อยได้ไหม?”
“แน่นอนครับ เชิญนั่งรอสักครู่เดียวจะนำมาเสริฟให้นะครับ ว่าแต่ต้องการจำนวนเท่าไหร่ครับ?”
แดนนี่นั่งลงพร้อมกับหยิบเมนูขึ้นมาดู “’งั้นขอเนื้อวัวสองที่พร้อมกับไวน์ขาววครึ่งแก้วและเครื่องเคียงนิดหน่อยนะครับ”
“โอเคครับ จะรีบนำมาเสริฟให้นะครับ”
ลีเดินตรงเข้าไปในครัว หั่นเนื้อวัวดิบให้บางเฉียบ หลังจากนานโรยด้วยเครื่องเคียงนิดหน่อยเสริฟพร้อมกับไวน์หลังจากนั้นก็เอาออกมาเสริฟ
แดนนี่แรนด์เห็นแบบนี้ก็งงเล็กน้อย เลยถามขึ้น “คุณลีครับ คุณจะทำบาบีคิวยังไงโดยไม่มีไฟ?”
ลียิ้มมุมปาก หลังจากนั้นก็ตอบ “คุณแรนด์ครับ คุณก็รู้หนิว่าพลังกิไม่จำเป็นต้องใช้ไฟ”
หลังจากนั้นลีก็ยกมือขึ้นมาอังไว้เหนือเนื้อ หลังจากนั้นอากาศระหว่างมือและเนื้อก็เริ่มสั่นตัว กลิ่นเนื้อเริ่มโชยออก
“ว้าว…”
แดนนี่เองก็สัมผัสได้ถึงความร้อนที่เกิดขึ้น “นี่มันเจ๋งมากเลย!”
“ทานให้อร่อยนะครับ”
ลีรู้สึกมีความสุขมาก หลังจากที่ฝึกมา1สัปดาห์เขาก็เริ่มจะปล่อยพลังกิเบื่องต้นได้เล็กน้อย
“อยู่ด้วยกันก่อนสิครับ” ขณะที่ลีกำลังเดินกลับไปในครัว แดนนี่ก็ตะโกนเรียกทันที “ผมขอโทษที่ไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผมคือแดนนี่แรนด์ ไอร่อนฟิส แห่งขุนหลุน”
“ขุนหลุน!?”
แม้ว่าลีจะเดาถูก แต่การแนะนำของแดนนี่ก็ทำให้เขาตกใจมาก “ผมได้ยินชื่อเสียงคุณมานานมากแล้ว ผมดีใจมากที่ได้เจอคุณที่นี่”
“ครับ ผมลี เซนต์ลี ฝึกพลังกิมาจากโรงเรียนคาเมะ”
แดนนี่งงเพราะเขาก็ไม่เคยได้ยินชื่อโรงเรียนนี้ “โรงเรียนคาเมะ… ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“ลี ลี พลังกิของเจ้าสุดยอดไปเลย ว่าแต่พลังกิจากโรงเรียนคาเมะนี่แข็งแกร่งมากเลยหรอ?”
“ไม่ไม่ คุณกำลังเข้าใจผิดอยู่ พลังกิของผมยังอ่อนแอมาก ถ้าเทียบกับไอร่อนฟิสของคุณแล้วล่ะก็ ผมเทียบไม่ติดเลย”
จริงๆแล้วพลังกินั้นแข็งแกร่งกว่ามาก เพราะถ้าให้เทียบกันจริงๆยังไงพลังกิก็แข็งแกร่งกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว แค่ตอนนี้ลียังไม่เก่งกาจเท่านั้นเอง
“แหม๋ลี คุณนี่ถ่อมตัวจริงๆ ผมเองต้องฝึกฝนเป็น10ปีกว่าจะทำแบบนั้นได้!”
“ผมไม่ได้ถ่อมตัวเลยนะ ในบรรดาพลังกินี้ เราสามารถวัดค่าพลังได้โดยใช้ กิเซนส์ ซึ่งผมลองใช้ดูแล้วพบคุณมีพลังมากกว่าผมตั้ง 10เท่า!”
“กิเซนส์?”
แดนนี่เริ่มสนใจมากในตอนนี้ “กิเซนส์คือ?..” แต่ทันใดนั้นก็มีลูกค้าเข้ามาในร้าน
ลีจึงต้องหันไปต้อนรับทันที “สวัสดีครับ ต้องการทานอะไรเอ่ย?”
แต่ทันใดนนั้นขณะที่ลูกค้าคนใหม่กำลังจะสั่งอาหาร แดนนี่ก็หยิบ ธนบัตร 100ดอลล่าออกมาพร้อมกับพูดว่า “ขอโทษนะครับวันนี้ร้านค้าปิดแล้ว!”
เมื่อชายคนนั้นเห็นเงิน 100ดอลล่าก็รีบรับแล้วไปที่อื่นทันที
แดนนี่เดินไปปิดร้านด้วยตนเอง หลังจากนั้นก็หันมาพูดเนื่องจากทำให้ร้านต้องเสียชื่อเสียง “ขอโทษนะที่ทำแบบนี้ แต่อย่าถือสาผมเลย ผมแค่ต้องการคุยกับคุณ ซึ่งผมจะจ่ายค่าเสียหายตรงนี้ให้คุณเป็นเวลา 1เดือน!”
ลีมองด้วยความงุนงงหลังจากนั้นแดนนี่ก็ยื่นบัตรเครดิตมาให้เขา ลีเลยจัดให้เต็มๆเลยรูดบัตรเครดิตเป็นจำนวน 10000ดอลล่า “แล้วนอกเหนือจากนี้ก็อยากให้คุณช่วยโปรโมทร้านอาหารของผมให้หน่อย”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา”
แดนนี่พยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ว่าแต่ กิเซนส์ที่คุณหมายถึง นั่นคืออะไรหรอ?’