ตอนที่ 15: ปราบมอนสเตอร์ (3)
ในสายตาของรัสเซลเลอร์และลาน่าแล้ว คังชอลอินเป็นดั่งแสงสว่างที่สาดส่องมาในช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดในชีวิต
เคราะห์กรรมที่ประชั้นชิดเข้ามาจากการรุกรานของพวกออร์ค
และราชันย์ที่มาปรากฏตัวในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย
ความแข็งแรงและการกระทำที่อาจหาญตอนเฉือนหัวออร์คได้ด้วยเพียงจังหวะเดียวจากบุรุษผู้นั่งอยู่บนหลังอาชาขาว สำหรับพ่อลูกคู่นี้ คังชอลอินเป็นผู้ช่วยชีวิตที่เป็นเหมือนดั่งเชือกสวรรค์ถูกส่งลงมาให้ขึ้นจากหลุมโลกันตร์
“โอ้ ราชันย์มาถึงแล้ว!”
รัสเซลเลอร์สามารถเอาชนะความกลัวได้ในที่สุด
ลาน่าก็เช่นเดียวกัน นางคิดว่าวันนี้จะต้องเป็นจุดจบชีวิตของนางเสียแล้ว
เสียงหายใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของออร์คเมื่อนางและพ่อล้มลงไปกับพื้นเพียงพอแล้วที่จะทำให้ความหวั่นกลัวซึมเข้าถึงกระดูก นางหมดซึ่งความหวังและตั้งใจยอมรับต่อชะตากรรม
แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น
‘โอ้ องค์ราชันย์!’
ขณะที่ชีวิตของนางกำลังถูกแขวนอยู่กับเส้นดายแห่งความตาย หัวใจของนางเต้นระรัวเมื่อได้เห็นคังชอลอินที่มาพร้อมกับอาชาขาว
‘องค์ราชันย์แห่งลาพิวต้า!’
ท่ามกลางสถานการณ์นองเลือด สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิได้พัดผ่านร่างของเด็กสาวคนหนึ่งในที่สุด มันเป็นสิ่งที่นางไม่เคยคิดฝันมาก่อน แต่ก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วว่าการได้รับความช่วยเหลือจากอัศวินบนอาชาขาวเป็นดั่งความฝันของหญิงสาวทุกนาง!
อย่างไรก็ตาม คังชอลอินไม่สนใจความรู้สึกที่ลาน่ากำลังเป็นอยู่เลยแม้แต่นิด
เขาไม่ได้คิดสนใจนางมาแต่แรก ทุกความสนใจของเขาอยู่ที่พวกออร์คที่กล้ามารุกรานชาวบ้านและพื้นที่การเกษตรของเขา
“พวกเจ้าสี่คน!”
เขาเรียกทหารกลุ่มหนึ่งที่ติดอาวุธด้วยโล่และหอก
“เคลื่อนย้ายพ่อลูกคู่นี้ไปยังที่ที่ปลอดภัยซะ!”
“ขอรับ!”
ทหารทั้งสี่นายที่ได้รับคำสั่งกระทันหันรีบพารัสเซลเลอร์และลาน่าออกจากเขตพื้นที่อันตรายอย่างรวดเร็ว
“เจมส์!”
“ขอรับ!”
“ส่งทหารสิบนายไปคุ้มกันชาวบ้านที่กำลังหลบหนี! ข้าจะจัดการที่เหลือตรงนี้เอง!”
“ต แต่นายท่านจะ…”
“เดี๋ยวนี้!”
“ขอรับ!”
เช่นนั้น เจมส์และทหารอีกสิบนายจึงพากันออกไปจากความวุ่นวายนองเลือดนี้
‘ส่งทหารออกไปดูแลชาวบ้าน 15 นายทำให้ตอนนี้ที่เหลืออยู่มีเพียง 35 นาย … เท่านี้ก็น่าจะพอ ข้าจะจบเรื่องทั้งหมดภายใน 10 นาทีให้พวกเจ้าได้เห็นเอง!’’
แม้คังชอลอินจะแบ่งกำลังพลออกไปจนทำให้ตอนนี้มีกำลังพลเหลือน้อยกว่าที่ควรแต่เขาก็ยังคงความสงบ
“คนที่ถือโล่ก้าวมาข้างหน้าแล้วจัดกระบวนป้องกันแนบชิด!”
คังชอลอินส่งเสียงคำรามและเริ่มนำทัพ
“คนที่ใช้ปืนคาบศิลามาอยู่ด้านหลังโล่!”
ทหารเคลื่อนตัวตามคำสั่งของคังชอลอินได้อย่างรวดเร็วและเตรียมพร้อมสำหรับรับคำสั่งต่อไป
กรือออ
กรือออ
พวกออร์คที่ตั้งใจออกมาล้างผลาญมนุษย์ส่งเสียงข่มขู่แยกเขี้ยวเมื่อรับรู้ได้ถึงสถานการณ์อันตราย
‘กล้าดีอย่างไร?!’
นัยน์ตาคังชอลอินเต็มไปด้วยความเดียดฉันท์และโทสะเมื่อเขามองดูสัตว์ประหลาด
สิ่งมีชีวิตสกปรกที่ไม่เคยแม้แต่จะอยู่ในสายตาเขามาก่อนแต่ตอนนี้กลับกำลังคุกคามพื้นที่และคนของเขา
สิ่งนี้ถือเป็นการดูหมิ่นจอมราชันย์คังชอลอินยิ่งนัก
“เฮ้อ”
คังชอลอินถอนหายใจขณะก้าวลงจากหลังม้า
แน่นอนว่าความเร็วและน้ำหนักในการออกแรงที่ได้จากม้าวิ่งนั้นทรงพลังจนทำให้เขาสามารถฆ่าออร์คได้ภายการลงดาบแค่เพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม สำหรับการสู้รบแบบนี้มันจะเป็นการดีกว่าหากได้ต่อสู้ด้วยการเดินเท้า และคังชอลอินเองก็ชอบการต่อสู้ด้วยการเดินเท้าของตัวเองมากกว่าการไปนั่งอยู่บนหลังม้า
“พลปืน ยิง!”
คังชอลอินออกคำสั่งทันทีหลังลงมาจากหลังม้าเพื่อเข้าร่วมกับกองทหารคุ้มกัน
ตู้ม! ตู้ม!
กระสุนดินปืนพุ่งใส่ออร์คจนทำให้เกิดควันหนาทึบ
“โล่! ตั้งค้างไว้เพื่อป้องกัน! หากพวกเจ้าพังทลายพวกเราจะตายกันหมด!”
คังชอลอินเป็นกังวลมากที่สุดกับทหารด้านหน้าแถวที่ต้องเผชิญหน้ากับออร์ค เพื่อให้ทหารปืนสามารถยิงได้อย่างปลอดภัย บทบาทของทหารแบกโล่จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
“หากเห็นโอกาสใช้หอกเมื่อไหร่จงใช้มันในทันที เล็งไปที่คอของพวกมันซะ!”
หอกของทหารเจาะทะลุคอออร์ค
‘ออร์คพวกนี้จัดการง่ายเสียจริง’
คังชอลอินกำลังจ้องมองพวกออร์คด้วยรอยยิ้มสบายใจที่ฉายอยู่บนใบหน้า
ออร์คเป็นสัตว์ประหลาดที่อันตราย
ด้วยสถานะปัจจุบันของคังชอลอิน มันค่อนข้างยากสำหรับเขาที่จะจัดการกับออร์คสองตัวพร้อมกัน และจะยิ่งเป็นการฝืนเกินกำลังเมื่อต้องสู้กับออร์คถึงสามตัว แต่เมื่อใดที่ต้องเผชิญหน้ากับออร์คสี่ตัวนั่นหมายถึงชีวิตของเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย อย่างไรก็ตามนั่นเป็นในกรณีของการสู้แบบ 1: 1
แต่ในตอนนี้เขามีกำลังเป็นกองทัพ
ออร์คมีความแข็งแกร่ง แต่ชั้นเชิงเพียงอย่างเดียวของพวกมันคือการใช้ร่างกายขนาดใหญ่และการรวมกลุ่มเพื่อทำลายและทุบทุกอย่างที่ขวางหน้า ชั้นเชิงนี้อาจจะมีประสิทธิภาพในการต่อสู้แบบระยะประชิดตัว แต่หากเป็นการต่อสู้ที่มีการจัดตำแหน่งจะต่างออกไปโดยสิ้นเชิง มนุษย์จะรู้วิธีการจัดแบบกลุ่มและนำสิ่งนั้นมาใช้เพื่อประโยชน์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคังชอลอิน เจ้าแห่งสงครามกลยุทธ์!
ตู้ม! ตู้ม!
ทหารปืนคาบศิลาทั้งสิบนายออกอาวุธของตนออกไปอีกครั้ง
“เติมกระสุน!”
พื้นฐานของปืนคาบศิลาจะบรรจุกระสุนได้สองนัด เมื่อยิงออกไปแล้วมันจำเป็นต้องใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อเติมดินปืนเข้าไปใหม่
“โล่! ออกแรงผลักให้มากกว่านี้! จงอดทน!”
คังชอลอินตะโกนสั่ง
หากจะมีอะไรที่ถือเป็นอันตรายสำหรับการต่อสู้นี้ … ก็คงจะเป็นในตอนนี้เสียละมัง
ช่วงเวลาที่อาวุธปืนหยุดชั่วขณะเพื่อเติมกระสุนดินปืน มันเป็นโอกาสอันดีที่พวกออร์คจะใช้เวลานี้เข้ามาโจมตี
และมันก็เป็นไปตามคำทำนายของคังชอลอินไม่มีผิด
กรออ!
เมื่อพวกออร์คตระหนักได้ว่าปืนจะหยุดการโจมตีไปชั่วขณะหนึ่ง มันได้ยกระดับความโหดเหี้ยมเพิ่มมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบกลับ พวกมันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีความเฉลียวฉลาดไม่น้อย
“เตรียมตัวให้พร้อมและรั้งตัวเองไว้ให้มั่น! มันจะไม่ยอมหยุดง่าย ๆ!”
คังชอลอินเตือนทหารที่ถือโล่อยู่ด้านหน้า
ตู้ม!
เมื่อเสียงระเบิดจบลง โล่ของทหารและร่างของพวกออร์คก็ได้ปะทะเข้าหากัน ทหารเกิดการเอนเอียงไปมา น้ำหนักเฉลี่ยของออร์คจะอยู่ที่ประมาณ 120 กิโลกรัมซึ่งหนักกว่ามนุษย์มาก นอกจากนี้ยังมีความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อที่ดีอีก
‘อันตราย!’
เมื่อคังชอลอินได้เห็นถึงสิ่งนี้เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าต่อไปจะต้องเป็นคราวของเขา เขานั่งลงไปอย่างช่วยไม่ได้
หากโล่ด้านหน้าถูกทำลาย ทหารที่อยู่หลังโล่ก็จะถูกโจมตีโดยพวกออร์คในทันใด เพื่อที่จะเอาชนะการต่อสู้ในครั้งนี้มันจำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
“เฮ้อ”
คังชอลอินพ่นลมหายใจเสียงดัง
ใจของเขากำลังเต้นแรง
ตั้งแต่ส่วนบนของหัวไปจนถึงส่วนล่างของเท้า เขารู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อทั้งหมดของตัวเองกำลังกระชับตัว
ความหนาวสั่นลงทะลุไปถึงกระดูกสันหลัง
เป็นเพราะเขากำลังกลัวอยู่งั้นหรือ?
ไม่ใช่เลย
ร่างกายของคังชอลอินที่อยู่ห่างจากการต่อสู้กำลังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
มันเป็นอารมณ์ในรูปแบบหนึ่ง
เช่นเดียวกับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาผาดโผน คังชอลอินชื่นชอบชีวิตที่ได้ต่อสู้และนำพาตัวเองไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งชีวิต มันเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองของดินแดนไม่ควรทำแต่เป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง เขามีจิตวิญญาณของนักรบโดยกำเนิดพร้อมกับหัวใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า เมื่ออยู่ท่ามกลางการต่อสู้เขาไม่สามารถควบคุมความเดือดพล่านในตัวได้เลยสักครา
‘มาทำอะไรที่สนุกยิ่งกว่านี้กันเถอะ’
คังชอลอินลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากหลังโล่เพื่อตรงเข้าหาพวกออร์คอย่างไม่เกรงกลัว
“อ่า!”
“องค์ราชันย์!”
ทหารสองนายส่งเสียงเรียกเมื่อได้เห็นการกระทำที่ไม่คาดคิดของเขา
“ไม่ต้องกังวล!” คังชอลอินตะโกน “อย่าเป็นกังวลและรักษาลำดับตำแหน่งเอาไว้!”
เมื่อเขาออกคำสั่งเสร็จ คังชอลอินก็เริ่มเหวี่ยงดาบกลืนโลหิตราวกับว่าเขากำลังถูกครอบงำด้วยพลังบางอย่าง
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
อาวุธหนาจากออร์คกำลังพุ่งเข้าหาเขาจากทุกทิศทาง เหมือนกับว่าเขาตั้งใจที่จะเดินตรงเข้าไปใจกลางของพวกออร์ค
‘แค่ต้องสร้างความวุ่นวายให้มากพอ’
คังชอลอินดูเป็นผู้นำที่น่าชื่นชมอย่างมากขณะที่เขาเดินเข้าไปในดงออร์คทั้งที่เป็นราชันย์แค่เพียงระดับหนึ่ง
เพราะเขารู้อะไรบางอย่าง
ออร์คมีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่กว่ามนุษย์มากซึ่งหมายความว่ามันจะมีที่ว่างไม่เพียงพอให้ออร์คมากกว่าสามตัวเข้ามาโจมตีเขาในคราวเดียว แม้จะมีออร์คจำนวนมากเพียงใดก็จะไม่มีทางเกิดการโจมตีเกินสามครั้งในคราวเดียวได้ แม้ว่านี่จะเป็นการต่อสู้แบบ “เชิงทฤษฎี” ทั่วไป แต่หากให้พูดแบบง่าย ๆ การกระทำแบบนี้เปรียบเหมือนเกือบจะเป็นการฆ่าตัวตายไม่มีผิด
แต่คังชอลอินทำได้
การต่อสู้นับไม่ถ้วนและคัมภีร์ดาบที่เขาเคยอ่านยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ แม้ว่าสภาพร่างกายจะยังไม่สนับสนุนเขาโดยสมบูรณ์แต่ก็เพียงพอที่จะซื้อเวลาได้เล็กน้อย
ฟึ่บ!
ฟึ่บ!
ดาบกลืนโลหิตไม่ได้ทำอันตรายถึงตายเมื่อเจาะผ่านร่างของออร์ค คังชอลอินไม่ได้แสดงความกล้าหาญที่ดุร้ายหรือความโง่เขลา
เขาเผชิญหน้ากับอาวุธที่เข้ามาแต่ไม่ได้ต่อสู้อยู่บนพื้นฐานของความแข็งแกร่ง หากเขาต่อสู้จนเต็มกำลังเขาจะเสียเปรียบและอาจต้องข้ามหุบเขาแห่งความตาย ดังนั้นวิธีที่เขาเลือกใช้คือการหลอกว่าเขากำลังตอบโต้การโจมตีของออร์คในขณะที่ปล่อยให้พวกมันเคลื่อนตัวผ่าน มันเป็นทักษะที่สามารถทำได้โดยนักดาบที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและมีประสบการณ์เท่านั้น
“ห๊า?”
เหล่าทหารพากันประหลาดใจขณะมองดูการกระทำของคังชอลอิน
การที่ราชันย์ใช้ตัวเองไปสร้างความไขว้เขวในหมู่ออร์คด้วยการเสี่ยงชีวิตของตัวเอง เขาจะต้องเป็นคนกล้าแบบไหนกัน?
และมันจะเป็นไปไม่ได้ที่ทหารจะมีความรู้สึกอื่นนอกจาก…
“แก … ไอ้พวกออร์คสารเลว!”
ทหารที่หลงใหลในการกระทำของคังชอลอินตะโกนด้วยความเดือดดาล
และนั่นคือจุดเริ่มต้น
“กล้าดีอย่างไร?!”
“ข้าจะฆ่าพวกมันให้สิ้น!”
“บัดซบ พวกมันจะต้องตาย ตายเท่านั้น!”
ขณะที่ทหารปืนคาบศิลากำลังเติมดินปืนอัดกระสุน ทหารโล่ก็เริ่มใช้พลังต่อสู้อันยิ่งใหญ่และออกแรงผลักพวกออร์คกลับ พวกเขามีกำลังใจในการต่อสู้เพิ่มสูงขึ้นมาก อาจเป็นเพราะคังชอลอินที่ใจกล้าเข้าไปสร้างความโกลาหลในหมู่ออร์ค
“เสร็จ!”
ในที่สุดการเติมดินปืนก็สิ้นสุด
“ยิงได้!”
คังชอลอินคำราม
เขายังคงอยู่ในใจกลางของออร์ค มันมีโอกาสที่เขาจะโดนการโจมตีจากกระสุนไปด้วย
“ตะ แต่ว่า…!”
“บอกให้ยิง!”
คังชอลอินตะโกนสั่งอีกครั้ง ทหารปืนคาบศิลาลังเลชั่วครู่ จากนั้นก็เล็งตำแหน่งการยิงไปที่ออร์คและลั่นไก
ตู้ม! ตู้ม!
ทหารปืนทั้งสิบระดมยิงปืนคาบศิลาใส่พวกออร์ค
‘ก้มตัว!’
ก่อนที่ทหารจะทำการยิง เขาได้ทรุดตัวลงกับพื้นไปอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ย … !!”
ออร์คสามถึงสี่ตัวถูกยิงจนล้มลงไปกับพื้น บางร่างของออร์คบางตัวที่ล้มลงมีหอกเสียบคาอยู่
หอกแหลมพุ่งทะลุคอของพวกมัน
“ออกแรกผลักต่อไป! อย่าให้พวกมันได้มีโอกาสคิดหาวิธีโต้กลับ!”
คังชอลอินเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังที่ ๆ ปลอดภัยทันทีพร้อมตะโกนเพื่อสนับสนุนกองทหารของเขา
และมันก็เป็นไปเช่นนั่น
เหล่าทหารที่เป็นกังวลจนอยากยอมแพ้เริ่มต่อสู้กลับและออกแรงผลักพวกออร์คต่อไปพร้อมกับการจัดลำดับตำแหน่ง พวกเขาปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อพิสูจน์ว่ามันไม่มีอะไรดีไปกว่าการฝึกฝน
‘มันจบแล้ว’
คังชอลอินฉายรอยยิ้มเมื่อตระหนักได้ว่าทหารของเขาออกแรงสู้รบกันได้เป็นอย่างดี
ณ ช่วงเวลานี้ เกิดการล้มตายร่วงหล่นจนทั่วอาณาบริเวณ สิ่งที่ทหารทำคือการเคลื่อนไหวตัวเหมือนเครื่องจักรเพื่อกำจัดออร์คลงทีละตัว ๆ จนมีออร์คล้มตายไปเป็นสิบ แม้จะยังมีออร์คเหลืออยู่แต่ผลของการต่อสู้ในครั้งนี้พวกเขาได้รับชัยชนะมาครอบครองแล้ว
“ป เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
ผู้บัญชาการเจมส์ที่ตั้งใจกลับเข้ามาร่วมทัพกับคังชอลอินหลังเคลื่อนย้ายชาวเมืองลาพิวต้าเรียบร้อยตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น เขาไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขาได้
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่
ตอนนี้ไม่มีออร์คที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือแม้แต่ตัวเดียว พวกมันทั้ง 20 ตัวถูกพบเป็นศพบนที่ราบจนเกลื่อนกลาด
เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันยิ่งน่าตกใจเมื่อหันไปมองกองกำลังทหาร
มีทหารบางคนที่ได้รับรอยถลอกเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงขั้นเสียชีวิต
“หากพวกเจ้าทำตามคำสั่งของข้า ข้าให้สัญญาว่าจะไม่มีใครต้องมาสละชีพ! จงเชื่อมั่นในตัวข้า! วางใจในตัวข้า! และอย่าได้สงสัยถึงชัยชนะของพวกเรา!”
ผู้บัญชาการเจมส์จดจำสิ่งที่ราชันย์ของเขาพูดไว้ก่อนเกิดการสู้รบ
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ไม่มีใครต้องตายแม้แต่คนเดียว!
มันค่อนข้างยากสำหรับเจมส์ที่จะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะมันเป็นสิ่งที่เขาสงสัยว่าจะเป็นไปได้จริงหรือ การปราบปรามออร์คทั้ง 20 ตัวด้วยทหารเพียง 35 นายโดยไม่มีใครต้องสละชีวิตได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นไปได้จริง ๆ!
“เจ้าอพยพชาวบ้านไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้วใช่ไหม?”
เจมส์ได้ยินเสียงคำถามดังจากคังชอลอินในขณะที่เขากำลังประหลาดใจและชื่นชมราชันย์ของตัวเอง
“ขอรับ องค์ราชันย์!”
เจมส์รีบหันไปทางเสียงที่ดังขึ้นมาแล้วตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
ตรงนั้น ที่ ๆ คังชอลอินกำลังอยู่
เขากำลังนั่งเอนหลังอยู่บนที่นอนฟางพร้อมจิบเบียร์เหมือนทหารเดินเท้าคนอื่น ๆ
.
.