ตอนที่ 38: คังชอลอินฟื้นตัว จักรกลสงครามลูเซีย!
“…!”
คังชอลอินรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับการแสดงออกที่ผิดแปลกไปของลูเซียแต่ไม่ทันที่จะสงสัยให้มากความเขาก็รีบค้นหาสาเหตุโดยทันใด
อย่างแรก เขาได้มองตามทิศทางที่สายตาลูเซียกำลังจ้องมอง
ลูเซียที่กำลังออกวิ่งนั้นไม่ได้จ้องมองมาที่เขาหากแต่กำลังมองไปยังท้องฟ้าด้านหลังเขาที่อยู่ไกลออกไป
“ข้างหลังท่าน!”
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นศัตรูจากทางด้านหลังเว้นเสียแต่จะมีดวงตาอีกคู่หนึ่งอยู่หลังศีรษะ
คังชอลอินค่อย ๆ หันไปมองตามทิศทางสายตาของลูเซีย
“…!”
ดวงตาพลันเบิกกว้างในทันใดพร้อมกับความประหลาดใจที่ได้พุ่งชนเข้าสู่ตัว
“…!”
บางสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตกำลังปราดเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วที่น่ามหัศจรรย์เพื่อโจมตี
“ตัวเมียงั้นรึ!”
คังชอลอินรู้สึกเกร็งช่วงหน้าท้องไปในทันทีเมื่อตระหนักได้ถึงเอกลักษณ์ของสิ่งนั้น
“บ้าเอ๊ย มันคือตัวเมีย!”
เขารู้ดีว่ามังกรพีคอคมีการสืบพันธุ์กันในช่วงฤดูใบไม้ผลิจึงเป็นเรื่องแปลกที่ได้พบมังกรพีคอคมากกว่าหนึ่งตัวในคราวเดียวเช่นนี้ และยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นคู่ผัวตัวเมียที่มาอยู่อาศัยกันในลุ่มน้ำที่ป่าไซปรัสช่วงฤดูกาลนี้อีก
แต่แทนที่จะพร่ำบ่นและสงสัยถึงสิ่งที่ผิดแปลกเขาต้องคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้เสียก่อน
ตอนนี้คังชอลอินกำลังตกอยู่ในสภาวะไร้ซึ่งพลังแม้แต่จะยกนิ้วขึ้นมายังแทบทำไม่ได้เนื่องจากการต่อสู้ที่ยืดเยื้อและการใช้มานาไฟที่มากเกินตัวรวมถึงพลังระเบิดภายในที่เขาใช้ออกไปก่อนหน้า คังชอลอินกำลังหมดแรงโดยสมบูรณ์ เขาต้องการช่องว่างของเวลาที่มากกว่านี้เพื่อการพักฟื้นจะได้เคลื่อนไหวร่างกายได้
“เร็วเข้า!”
คังชอลอินจดจ่อทั้งจิตใจเพื่อพยายามขยับขาของตัวเอง
“เดินสิ เดิน!”
แต่เพราะความจริงที่ว่าเขาได้ใช้พลังไปหมดสมบูรณ์แล้วนั้นทำให้เขาไม่สามารถขยับร่างกายใด ๆ ได้เนื่องจากความเหนื่อยล้า แต่ถึงอย่างไรก็เขาก็ต้องฝืนขยับมันให้ได้หากไม่ต้องการจบชีวิตอยู่ที่นี่
แต่แม้จะมีความคิดที่เหนือมนุษย์อย่างไรเขาก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
คังชอลอินพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีจากมังกรพีคอคตัวเมียที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้ แม้มันจะช้าเพียงใดแต่นั่นคือทั้งหมดที่เขาจะสามารถทำได้ในตอนนี้ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าความแข็งแกร่งและมานาทั้งหมดของเขาถูกชาร์จกลับคืนสภาพเดิมเนื่องจากระดับที่ถูกเลื่อนขึ้นแต่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้แค่ในเกมเท่านั้น ไม่ใช่กับในชีวิตจริง
“ทำอะไรไม่ได้แล้วสินะ”
ในที่สุดคังชอลอินก็ตัดสินใจยอมแพ้และยอมรับต่อชะตากรรมที่พระเจ้ากำลังมอบให้
เขาคือคังชอลอินราชันย์นักล่า บุรุษผู้เป็นจอมราชันย์เมื่อครั้งในอดีต หากเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และแม้เขาจะต้องตายก็ขอปล่อยให้ตัวตายไปในคราวเดียวเสียจะดีกว่า เขาไม่ต้องการถูกทำร้ายให้ทรมานจนถึงแก่ชีวิต
“ดวงตา”
คังชอลอินเพ่งเล็งไปที่ตาข้างขวาของมังกรพีคอคตัวเมียซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล มีเพียงดวงตาของมันเท่านั้นที่เขาจะสามารถสร้างความเสียหายได้ในขณะนี้
“เข้ามาเลย”
คังชอลอินพยายามบีบเค้นความแข็งแกร่งของตัวเองและแผ่ดาบกลืนโลหิต
“ข้า…”
ทันใดนั้นลูเซียที่รวดเร็วเหมือนสายฟ้าก็วิ่งเข้ามาตั้งโล่ป้องกันจากด้านหน้า
“ลูเซียผู้นี้…”
ฉึ้ก!
โล่อีจิสถูกเรียกใช้งานเพื่อมาคุ้มกันให้กับคังชอลอิน
“ขอให้ข้าได้ปกป้องท่านด้วยเถอะเจ้าค่ะ องค์ราชันย์”
และทันใดนั้นมังกรพีคอคตัวเมียและโล่อีจิสของลูเซียก็ได้ปะทะเข้าหากัน
แคร่ง!
ทั้งคังชอลอินและลูเซียต่างบินลอยออกไปไกลหลายสิบเมตรจนถูกส่งตัวเข้าไปในป่าไซปรัสที่อยู่รอบ ๆ ลุ่มน้ำพร้อมเปล่งเสียงคำรามและเสียงแห่งหยดน้ำตาที่หลั่งไหล
“แค่ก ๆ!”
ด้วยแรงกระแทกส่งผลให้มีเลือดพุ่งออกจากปากของคังชอลอินจนท่วม มันเป็นอาการบาดเจ็บครั้งแรกที่เขาได้รับหลังการฟื้นคืนชีพ
“เฮ้อ…มันเกือบจะ…ข้าฆ่าได้อยู่แล้วเชียว”
คังชอลอินก้มลงมองที่ส่วนหน้าท้องของเขาขณะพึมพำ ขณะที่เกิดการชนกันเมื่อครู่ดูเหมือนว่าจะงอยปากของมังกรพีคอคจะได้สร้างรอยขีดข่วนไว้ทางด้านซ้ายของลำตัวจนทำให้มีเลือดไหลซึมออกมา
“นายท่าน เป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ?!”
ลูเซียที่กำลังอยู่ในอ้อมแขนของคังชอลอินเงยหน้าขึ้นมอง นางประหลาดใจอย่างมากที่ได้เห็นแผลบริเวณหน้าท้องของเขา
“…!”
การแสดงออกของลูเซียกลายเป็นแข็งกร้าวขึ้นฉับพลัน
“น นายท่าน … กล้าดีอย่างไร สัตย์ร้ายที่แสนต่ำต้อยนั่น… ต่อนายผู้เป็นดั่งจิตวิญญาณของข้า…”
ลูเซียพูดกับตัวเองเพียงลำพังด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธก่อนจะลุกขึ้นยืนกะทันหัน
“นายท่านเจ้าคะ ข้า ลูเซียจะขอปกป้องท่าน องค์ราชันย์ ได้โปรด แม้เพียงชั่วขณะ แต่ท่านโปรดหลับตาลงสักเดี๋ยวเถอะนะเข้าคะ หลับตาของท่าน…”
ด้วยคำพูดเหล่านั้น ลูเซียผละออกจากคังชอลอินและเริ่มมุ่งหน้าไปทางมังกรพีคอคทันที
คังชอลอินไม่อาจมองเห็นถึงการแสดงออกทางสีหน้าของนางที่เปลี่ยนไปจนน่าสะพรึงกลัวได้ มันคือใบหน้าที่ถูกตรึงด้วยความเยือกเย็นและนิ่งเรียบราวกับเป็นใบหน้าของตุ๊กตาไร้ชีวิต ไม่นานหลังจากนั้น … ความมืดที่ดำลึกก็เริ่มแพร่กระจายในสายตาของลูเซีย
[โหมดจักรกลสงคราม เ.ต.รี.ย.ม.พ.ร้.อ.ม]
เสียงดั่งเครื่องยนต์ดังออกมาจากปากของลูเซีย
[เป้าหมาย ยืนยัน!]
[กำจัด]
[โหมดจักรกลสงคราม ทำงาน!]
เมื่อสิ้นสุดคำว่า “ทำงาน” พลังงานรุนแรงได้ถูกปล่อยออกมาจากร่างของลูเซียทันที แม้จะเป็นเพียงการมองแค่ผ่าน ๆ ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่ยิ่งกว่าซึ่งต่างไปจากลูเซียคนเดิมหลายเท่า
[โหมดจักรกลสงครามเหลือเวลา 4:59… 4:58…. 4:57…]
ลูเซียออกตัววิ่ง
ด้วยดาบแห่งสววรค์เซนิธในมือซ้ายและโล่ป้องกันจากพระเจ้าอีจิสในมือขวา การปรากฏตัวของลูเซียในขณะนี้เต็มไปด้วยความสง่างามที่น่าหวาดกลัว นางเป็นนักรบที่เกิดมาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะ
[ตาย]
ด้วยเสียงราบนิ่งไร้อารมณ์ที่ชวนน่าขนลุก ลูเซียเริ่มการโจมตีไปที่มังกรพีคอค
[ตาย]
ลูเซียเอาแต่พูดย้ำอยู่เพียงคำเดียวและต่อสู้เหมือนกับเครื่องจักร การโจมตีและการป้องกันของนางมีพลังมากพอที่จะต่อกรกับมังกรพีคอคตัวเมียที่มีความยาวถึง 8 เมตรได้อย่างเท่าเทียม…แต่ก็ในตอนนี้เท่านั้น
“องค์ราชันย์!”
“ท่านแม่ทัพ!”
ในขณะที่ลูเซียกำลังป้องกันและโจมตีมังกรพีคอค โพดอลส์กี้และบิลลี่ก็รีบวิ่งเข้ามาหาคังชอลอินอย่างรีบเร่ง
“ข ข้าจะพิทักษ์ท่านเองขอรับ”
แม้จะประหลาดใจอย่างมากกับการได้เห็นภาพตอนนี้ของคังชอลอินแต่โพดอลส์กี้พยายามสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือปฏิกิริยาตอบกลับที่ได้รับ…
“ปล่อยข้า”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความนิ่งสงบ
“……!”
“อย่าแม้แต่จะคิดพาข้าไปยังที่อื่นใด”
“ตะ แต่ว่า…”
“มีด้ายและเข็มบ้างหรือไม่?”
“ท่าน…ท่านจะเย็บแผลที่นี่หรือขอรับ?!”
“แค่บอกข้ามาว่าเจ้ามีหรือไม่”
“มีขอรับ ข้าสามารถทำแผลให้ได้”
“ทำซะ”
“…!”
“อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
โพดอลส์กี้เปิดกระเป๋าที่เขาพกติดตัวมาทันทีเนื่องด้วยการแสดงออกที่หนักแน่นของคังชอลอินแล้วรีบหยิบด้าย เข็ม ผ้าพันแผลและยาออกมาสองขวด
“ข้าไม่มียาสลบนะขอรับ เพราะฉะนั้นมันจะเจ็บปวดอย่างมาก…”
“ทำซะ”
คังชอลอินได้หันหน้าหนีสายตาไปทางอื่น
“ข้า…กำลังได้รับความคุ้มครองจากผู้ช่วยตรงหน้าข้างั้นหรือเนี่ย?”
เป็นเรื่องธรรมดาที่ราชันย์จะได้รับการคุ้มครองจากผู้ช่วยส่วนตัวแต่คังชอลอินคือบุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก สำหรับเขาแล้วมันช่างเป็นเรื่องน่าอายจนชวนให้ทำอะไรไม่ถูก
“เร็วเข้า ไม่มีเวลาแล้ว”
“ข ขอรับ!”
ด้วยคำสั่งของคังชอลอิน โพอดอลส์กี้รีบเริ่มดำเนินการปฐมพยาบาลบาดแผลของเขาทันที
“อุ่ก…!”
คังชอลอินข่มกลืนความเจ็บปวดและปฏิเสธที่จะร้องไห้แม้จะรู้สึกมากเพียงใดก็ตาม
เขาอดทนต่อความเจ็บปวดด้วยความแน่วแน่และคิดถึงแต่เรื่องการฟื้นตัวกลับคืนอีกครั้ง
“ห้านาที … เวลาจำกัดแห่งการเปิดโหมดจักรกลสงคราม”
อย่างที่เขาได้เห็น โหมดจักรกลสงครามของลูเซียนั้นมีพลังงานแต่มันยังเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะมังกรพีคอคเพียงลำพังตราบใดที่นางมีเวลาจำกัดอยู่แค่ห้านาที
“นักผจญภัยบางส่วนเองก็หมดแรงไม่ต่างกัน หากลูเซียแพ้นั่นจะหมายถึงจุดจบโดยสิ้นเชิง”
คังชอลอินพยายามคิดหาวิธีเอาชนะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสงบเงียบขณะที่โพดอลส์กี้กำลังเย็บแผลข้างลำตัวให้กับเขา
“ข้าปฐมพยาบาลเสร็จแล้วขอรับ” โพดอลส์กี้กล่าวขณะมัดปมเพื่อปิดบากแผลด้วยผ้าสะอาด
“โพดอลส์กี้”
“ขอรับองค์ราชันย์”
“ไปเอาหัวใจมังกรพีคอคมาให้ข้า”
“……!”
“เร็วเข้า!”
“ขอรับ!”
โพดอลส์กี้รีบวิ่งออกไปในทันที
“ทะ ท่านนายพล รีบหนีกันจะดีกว่า…” บิลลี่ ชายร่างใหญ่กล่าวพร้อมน้ำตานองหน้าซึ่งไม่ตรงกับภาพลักษณ์ของเขาเลยแม้แต่
“เจ้าพูดว่าให้หนีงั้นรึ?”
“ชะ ใช่?”
“ดูนั่น”
บิลลี่จ้องมองไปยังทิศทางที่คังชอลอินชี้ไป
“…!”
นักผจญภัย… เหล่านักผจญภัยที่ยังพอมีกำลังได้เคลื่อนไหวเพื่อทำการสนับสนุนลูเซียขณะลากร่างที่เป็นเหมือนศพจากความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ครั้งก่อน
“เจ้าคิดว่ามันสมควรหรือไม่ที่จะบอกให้ข้าหนีไปในสถานการณ์เช่นนี้?”
“มันก็จริง แต่ทว่า…”
“ไม่ต้องกังวล”
“…?”
“ข้าจะกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง และจะฆ่าไอ้นกสารเลวนั่นให้ได้” คังชอลอิลประกาศความตั้งใจ
หากคังชอลอินได้กล่าวคำสาบานใดเขาจะรักษาคำพูดและทำให้เป็นจริงให้ได้ตามความประสงค์แม้จะต้องทำให้ท้องฟ้าร่วงหล่นลงมาบนภูเขาก็ตาม
“องค์ราชันย์ นี่ขอรับ หัวใจมังกรพีคอค!”
โพดอลส์กี้นำหัวใจมังกรพีคอคตัวผู้ที่ตายแล้วมามอบให้เขาภายในเวลาไม่นาน
“เยี่ยมมาก”
คังชอลอินพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะรับหัวใจมังกรมากจากโพดอส์กี้
หัวใจมังกรมีขนาดที่ใกล้เคียงกับหัวใจของมนุษย์ซึ่งไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดหากยังจำกันได้ถึงขนาดร่างกายของมันว่ามีความยิ่งใหญ่มากเพียงใด
อย่างไรก็ตามหัวใจมังกรจะเป็นไปเช่นนี้ ยิ่งมันมีระดับสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ขนาดหัวใจจะยิ่งมีขนาดเล็กลงสวนทางกับความยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันละเอียดและบริสุทธิ์เหมือนกับเพชร
คังชอลอินนำหัวใจของมังกรยัดใส่เข้าปากของเขาไปในทันทีทั้งอย่างนั้น
อึก!
เสียงที่น่าขนลุกของเครื่องในสด ๆ ที่ฉีกขาดชวนให้ออกอาเจียนเป็นอย่างยิ่ง
“….!”
“….!”
โพดอลส์กี้และบิลลี่ต่างตกตะลึง
คังชอลอินที่จู่ ๆ ก็เคี้ยวหัวใจมังกรดิบพร้อมหยดเลือดที่ไหลออกจากปากนั้นช่างน่ากลัวราวกับปีศาจ มันดูเหมือนว่าเขาเป็นดั่งราชาแห่งนรกที่กำลังกัดกินหัวใจของศัตรู
“หลังจากกินเจ้านี่แล้วจะแข็งแรงขึ้น”
แม้ว่ามันจะเป็นหัวใจมังกรแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเคี้ยวเนื้อก้อนหนึ่งในเมื่อเลือดยังคงไหลออกมาจากปาก คังชอลอินจำเป็นต้องอดทนกับพื้นผิวที่น่ากลัวเพื่อให้เขาฟื้นความแข็งแกร่งกลับคืนมา
และเมื่อเขาเกือบกินหัวใจมังกรจนหมด ปฏิกิริยาตอบสนองก็เริ่มต้น
“…!”
[ได้รับการยกระดับ! บรรลุระดับ 29!]
[ได้รับการยกระดับ! บรรลุระดับ 30!]
คังชอลอินรู้สึกได้ว่ามานาของเขาที่พร่องไปในตอนแรกได้รับการฟื้นฟูในเวลาเดียวกันเมื่อเขาได้เลื่อนระดับ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาฟื้นตัวขึ้นในระดับหนึ่ง แม้มังกรพีคอคจะอ่อนแอที่สุดในบรรดาสายพันธุ์มังกรแต่อย่างน้อยหัวใจมังกรของมันก็ยังมีประโยชน์
“ยาน้ำ”
โพดอลส์กี้รีบดึงยาออกมาทันทีและเปิดฝายาส่งให้กับคังชอลอิน เขารับมันมาแล้วกลืนยาน้ำ 250 มล. หมดในคราวเดียว
“ฟู่ว”
คังชอลอินที่กินยาเสร็จก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ แล้วโยนขวดไปให้พ้นตัว
“ราชันย์! องรค์ราชันย์ขอรับ! ท่านฟื้นตัวเรียบร้อยแล้วหรือขอรับ!”
“ไปกันเถอะ!”
โพดอลส์กี้พยายามยืนกรานห้ามไม่ให้เขาเคลื่อนไหวแต่คังชอลอินยังคงดันทุรัง มันไม่ดีที่เขาจะไปต่อสู้ด้วยตอนนี้เพราะที่บาดแผลของเขายังมีเลือดไหลอยู่มากและอาจเป็นอันตรายได้
“ถ้าเจ้ายังเข้ามาขวางข้า ข้าจะฆ่าเจ้า”
คังชอลอินยกคำขู่ที่ว่างเปล่าขึ้นมาแล้วใช้ดาบกลืนโลหิตยันพื้นเพื่อยกร่างกายของตัวเองให้ลุกขึ้น
ซู่!
ไอน้ำสีขาวพ่นออกจากร่างของคังชอลอิน มันเติบโตเหมือนหมอกควันและมานาที่เข้มข้นก็เริ่มหลั่งไหล
“กล้าดีอย่างไรมาทำให้ข้าจนมุม”
บุรุษที่กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งด้วยพลังของมังกร หากมองเข้าไปในสายตาของคังชอลอินแล้วนั้นมันเต็มไปด้วยแสงสว่างจ้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ข้าจะฆ่าเจ้า”
คำพูดของคังชอลอินที่กล่าวออกมาตามสามัญสำนึกดูไร้สาระเป็นอย่างมาก
มันเป็นความจริงที่ว่าร่างกายของเขายังอยู่ในสภาพที่แย่มากแม้ว่าเขาจะลุกขึ้นยืนได้โดยใช้พลังจากหัวใจมังกร หากให้เทียบเป็นตัวเลขสภาพเขาตอนนี้คงอยู่ที่ประมาณ 40% เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าเขายังอ่อนแอ
แต่ทันทีที่เขาเลื่อนระดับขึ้นมาถึง 30 คังชอลอินมีไพ่ไม้ตายที่สามารถทำลายมังกรพีคอคได้อยู่
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้แสดงมันแล้ว
ลูเซียที่เปิดใช้งานโหมดเครื่องจักสงครามพิสูจน์คุณค่าของนางโดยการจับตัวมังกรพีคอค
แม้มันจะเป็นตัวเมียแต่ความจริงที่ว่าภายในเวลาห้านาทีลูเซียสามารถต้อนสัตว์ประหลาดที่แม้แต่คังชอลอินยังไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้เพียงลำพังได้ก็เพียงพอแล้วที่จะยอมรับถึงพลังและความกล้าหาญของนาง
แต่…เมื่อหมดเวลาห้านาทีที่เป็นขีดจำกัดของโหมดจักรกลสงคราม ลูเซียจะตกอยู่ในภาวะวิกฤติ
[4, 3, 2, 1… 0!]
การนับถอยหลังสิ้นสุด
[โหมดจักรกลสงครามปิดตัว ระบายความร้อน: 168 ชั่วโมง]
การประกาศสงครามของลูเซียสิ้นสุดลงแล้ว
“……!”
จากนั้นการโต้กลับของมังกรพีคอคก็เริ่มขึ้น
“ท่านลูเซีย!”
“อันตราย!”
“เลี่ยงมันซะ!”
นักผจญภัยที่ต่อสู้ร่วมกันกับลูเซียต่างพากันตะโกนเตือน แต่ลูเซียผู้ซึ่งได้รับผลกระทบจากโหมดจักรกลสงครามไม่สามารถขยับตัวได้ในตอนนี้
ขาหลังยักษ์ของมังกรพีคอคพร้อมที่ร่อนลงมาที่ตัวนางทุกเมื่อ
คงจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ลูเซียจะถูกบดขยี้จนตายหากนางถูกกระทืบด้วยกรงเล็บแหลมคมนี้
“… น นายท่าน!”
ลูเซียรู้สึกได้ถึงความพึงพอใจและความคิดของคังชอลอินแม้นางกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
‘องค์ราชันย์ ขอให้ท่านรีบหลบไปยังที่ ๆ ปลอดภัยเถิดนะเจ้าคะ เนื่องจากข้าได้ทำงานของข้าเสร็จสิ้นแล้วจึงไม่มีความเสียใจแม้แต่น้อยหากข้าต้องตาย ทิโมธี โปรดดูแลราชันย์ข้าให้ดีด้วย! องค์ราชันย์ ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ท่านหมายมั่นได้สำเร็จ’
ลูเซียหลับตา
นางคือคนที่เฝ้ารอคอยคังชอลอินมาชั่วนิรันดร์ในมิติที่แตกต่าง มันเป็นการสิ้นสุดหน้าที่อันรุ่งโรจน์สำหรับนางแล้วหากได้ตายเพื่อคังชอลอิน
แน่นอนว่าคังชอลอินจะไม่ยอมปล่อยให้มันจบลงทั้ง ๆ แบบนี้
“เจ้าทำได้ดีมาก”
คังชอลอินที่กระโดดมาเหมือนผีจากที่ไหนสักแห่งโอบกอดร่างของลูเซียเพื่อพานางกระโดดหลบส่งผลให้เท้าของมังกรพีคอคต้องทุบพื้นไปอย่างไร้ประโยชน์
“น นายท่าน!”
ลูเซียประหลาดใจมากขณะตกอยู่ในอ้อมกอดของคังชอลอิน อาการของคังชอลอินรุนแรงมาก มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดที่เขาจะสามารถเคลื่อนไหวตัวได้อย่างรวดเร็ว
“เท่านี้ก็พอแล้ว”
“แต่…”
“ข้ามีพลังมากพอจะฆ่ามันได้”
“…!”
“ดังนั้นลุกไปซะ”
“……?”
“ข้าหนัก”
“ข ขออภัยเจ้าค่ะ…!”
ลูเซียที่ยังคงประหลาดใจรีบบิดตัวออกจากอ้อมแขนของคังชอลอินพร้อมใบหน้าของนางที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“เพียงแค่ 10 วินาที” คังชอลอินประกาศ
“แล้วเจ้าจะได้เห็นจุดจบของมัน”
ทันใดนั้นเข้าก็รีบพุ่งตัวเข้า “ใส่” มังกรพีคอคด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างมากจนเกิดเสียง
ในตอนนั้นเอง ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นสามารถมองเห็นได้ว่ามังกรพีคอคมีคุณภาพการโจมที่ต่ำเพียงใดเมื่อเทียบกับการโจมตีที่รุนแรงของคังชอลอิน
.