The Overlord of Blood and Iron – ตอนที่ 40: ราชันย์คังชอลอินผู้มีชัย

ตอนที่ 40: ราชันย์คังชอลอินผู้มีชัย

 

“วู้วววววว….!!!”

 

“องค์ราชันย์คังชอลอิน! ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งขอรับ ฮูเร่! โชโย!”

 

“องค์ราชันย์คังชอลอินสามารถปราบอสูรร้ายตัวนั้นได้!”

 

“ฮูเร่! ฮูเร่! ฮูเร่!”

 

ชาวเมืองลาพิวต้าต่างส่งมอบแรงใจให้กับคังชอลอินด้วยความกระตือรือร้นอย่างล้นหลาม

 

คังชอลอินถูกมองเป็นวีรบุรุษผู้กล้าท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมาของพวกเขา

 

เห็นได้ชัดถึงความสุขที่พวกเขากำลังยินดีหลังได้ทราบว่าการพิชิตมังกรพีคอคเป็นผลสำเร็จ

 

ความกลัวที่อาจทำร้ายพวกเขาหรือครอบครัวอยู่เหนือเกินกว่าจะจินตนาการ ร่างไร้วิญญาณของมังกรพีคอคทั้งสองที่เป็นต้นเหตุแห่งความหวาดหวั่นถูกลากเข้าเมืองด้วยสภาพหัวที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะมองคังชอลอินว่าเป็นวีรบุรุษ

 

นอกจากนี้รูปลักษณ์ที่สง่างามและน่าประทับใจของเขายิ่งทำให้ชาวเมืองเกษมสันต์

 

เพราะถึงแม้มังกรพีคอคจะเป็นเพียงสัตว์สายพันธุ์ย่อยของมังกรแต่มันก็ยังคงมีความเป็นมังกรอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

 

และแม้ว่าเขาจะต้องออกตามล่าสัตว์ประหลาดที่โหดร้ายเช่นนี้ถึงสองตัวทว่าคังชอลอินกลับดูไร้อารมณ์และดูไม่เหนื่อยล้าราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ยากหรือยิ่งใหญ่อะไร

 

เช่นนั้นแล้วใครบ้างเล่าจะไม่เคารพหรือภักดีต่อราชันย์ผู้เก่งกาจเช่นนี้? ไม่ว่าธรรมชาติของคังชอลอินจะเป็นเช่นไรแต่ในสายตาของชาวเมืองในตอนนี้คังชอลอินคือราชาที่เกรียงไกรและยิ่งใหญ่ที่สุดของดินแดนอย่างที่ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

 

ในทางกลับกัน เหล่านักผจญภัยยังคงประหลาดใจและมึนงงไม่หาย

 

“ที่จริงแล้วตัวตนของท่านแม่ทัพคือใครกัน?”

 

“แล้วคนพวกนี้คือใคร?”

 

“โอ้พระเจ้า… มีปราสาทตั้งอยู่ที่แพนเจียแห่งนี้ด้วย!”

 

“ราชางั้นหรือ? หรือว่าท่านแม่ทัพจะเป็นราชาจริง ๆ?”

 

ทุกอย่างล้วนดูน่าสงสัย

 

ป้อมปราการลาพิวต้า ผู้คนในดินแดน ตัวตนที่แท้จริงของคังชอลอิน… ฯลฯ มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ทำให้เหล่านักผจญภัยเกิดความสงสัยและสับสน ยิ่งไปกว่านั้นเพราะไม่มีใครสามารถอธิบายได้ในเวลาที่ต้องการคำตอบมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ความข้องใจของพวกเขาจะเติบโตเหมือนดั่งต้นหญ้าแตกใบเมื่อเวลาผ่านไป

 

“ว้าว ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ทราบรายละเอียดใด ๆ ก็เถอะ แต่ข้าสามารถมองเห็นถึงความยอดเยี่ยมของท่านแม่ทัพได้อย่างเด่นชัด เขาเป็นคนจากราชวงศ์งั้นหรือ? ข้าคิดว่าแม้กระทั่งราชินีแห่งอังกฤษเองก็ยังไม่ได้รับความนิยมขนาดนี้เท่าเขาเลยด้วยซ้ำ”

 

“ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน…แล้วนี่มัน…? อ่ะใช่! ท่านคิมจากทางเหนือเองก็คิดเห็นเช่นนั้นเหมือนกันสินะ?”

 

“ไร้สาระ! เขาเป็นเผด็จการ! นี่หรือสิ่งที่เจ้าเรียกว่าได้รับความนิยม?”

 

“อุ๊ปส์!”

 

“มองดูพวกเขาให้ดี ๆ สิ ดูการแสดงออกของพวกเขา ทุก ๆ คนล้วนแต่จ้องมองไปยังท่านแม่ทัพกันทั้งนั้น ข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพจะใช่ราชาของคนพวกนี้จริงหรือไม่”

 

“บ้าเอ๊ย! ตราบใดที่เขายังเป็นมนุษย์ที่โลกอีกฝั่ง… อ่า นั่น นั่นมันอะไรน่ะ?!”

 

ความอยากรู้อยากเห็นและการสนทนาของนักผจญภัยต้องสิ้นสุดเมื่อมาถึงจุดนี้

 

“อ๊ายย!”

 

“เหล่านักรบผู้กล้าหาญเจ้าขา~”

 

“ต้องขอบพระคุณมาก ๆ เลยนะเจ้าคะ!”

 

“มานี่สิคะ มาร่วมเต้นรำเพื่อฉลองชัยด้วยกันเถอะ ~”

 

ทันใดนั้นเหล่าหญิงสาวชาวเมืองลาพิวต้าก็เข้ามาเกาะกลุ่มกับนักผจญภัยโดยที่พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัว

 

นักผจญภัยเองก็เป็นดั่งวีรบุรุษสำหรับชาวเมืองลาพิวต้าด้วยเช่นกัน มันก็สมเหตุสมผลเช่นกันที่พวกเขาจะถูกหญิงสาวเข้ามายึดติดด้วยความภาคภูมิใจและทึ่งในความสามารถ

 

“เยี่ยม!”

 

“ฮ่า ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกนะ! ฮ่า ๆ!”

 

“ขอบคุณนะเจ้าคะ ขอบคุณท่านจริง ๆ”

 

“โอ้ ไม่ ๆ ข้าแค่ทำในสิ่งที่ข้าทำได้ก็เท่านั้น ฮ่า ๆ”

 

พวกเขาสามารถมองเห็นฉากแห่งความอบอุ่นและรื่นเริงที่เกิดขึ้นได้ทั่วเมือง

 

“พ่อหนุ่ม ~ เจ้าแข็งแกร่งขนาดไหนกันล่ะหึ? โอ้ ดูที่แขนล่ำ ๆ ของเจ้านี่สิ!”

 

“นั่นคือ เอ่อ…”

 

“เหอะ! แล้วเจ้ามาจากไหนกันล่ะพ่อหนุ่ม?!”

 

และแน่นอนว่าย่อมมีฉากอันตรายเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

 

แต่ภาพรวมส่วนใหญ่ก็เป็นไปได้ด้วยดี

 

โดยการกำจัดสัตว์ประหลาดในครั้งนี้ ราชันย์แห่งลาพิวต้าได้พิสูจน์ถึงความสามารถของเขาได้เป็นที่ประจักษ์และในขณะเดียวกันนักผจญภัยก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไม่มีใครที่ไม่มีความสุข ทุก ๆ คนล้วนแต่พึงพอใจ

 

“วิกฤตได้ผ่านพ้นไปแล้ว”

 

คังชอลอินมองดูภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความเงียบสงบจากด้านบนอาชาขาวที่เขาขึ้นขี่ แม้ว่าเขาจะอารมณ์ดีแต่เขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกไป การรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นราชันย์นั้นค่อนข้างเป็นหน้าที่ที่หนักมากทีเดียว

 

“องค์…องค์ราชันย์เจ้าคะ?”

 

“องค์ราชันย์ ได้โปรดมอบโอกาสแก่พวกเราเพื่อฉลองชัยแด่ท่านในครั้งนี้ด้วยเถอะนะเจ้าคะ”

 

เมื่อคังชอลอินมองดูบรรยากาศรื่นเริงของกลุ่มหญิงสาวที่เดินก้าวเข้ามาในขบวน พวกเขาคือหญิงสาวชาวเมืองของลาพิวต้า

 

“หืม?”

 

คังชอลอินรู้สึกเขินอายไปครู่หนึ่ง

 

‘ทำไมพวกนางถึงมีจำนวนมากเพียงนี้?’

 

ดูเหมือนว่าหญิงสาวชาวเมืองตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยยี่สิบได้เข้ามาห้อมล้อมที่คังชอลอินกันจนหมด และแน่นอนว่าพวกนางนั้นโดดเด่นยิ่งกว่าหญิงสาวที่เข้าหาเหล่านักผจญภัยเป็นไหน ๆ

 

“องค์ราชันย์เจ้าคะ…สิ่งนี้คือนาฬิกาที่ท่านปู่ผู้ล่วงลับของข้าสวมใส่…”

 

“นี่เป็นเหล้าแมนเดรกที่มีอายุ 77 ปีเจ้าค่ะ”

 

“สำหรับองค์ราชันย์แล้ว ข้าขออุทิศกายและใจของข้า….”

 

“นี่คือแหวนที่บรรพบุรุษของข้าสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนเจ้าค่ะ”

 

หญิงสาวหลายคนต่างพากันมอบของบรรณาการที่แตกต่างกันไปให้แก่คังชอลอิน

 

พวกเขาต่างมอบสิ่งของพร้อมความตั้งใจที่หลากหลาย

 

หญิงสาวที่มีหัวใจบริสุทธิ์ หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความต้องการทางตัญหา หญิงสาวที่พยายามไต่เต้าเพื่อเลื่อนระดับสถานะ … เป้าหมายและความปรารถนาของพวกนางล้วนแตกต่างกันไปมากทีเดียว

 

“สำหรับของบรรณาการพวกนี้นั้น”

 

คังชอลอินเปิดปากของเขาในที่สุด

 

“ข้าจะขอรับเพียงสินน้ำใจที่เจ้ามอบให้มาก็แล้วกัน เพียงแต่…”

 

คนที่ได้ยินเขาพูดต่างพากันประหลาดใจยิ่งนัก

 

เขาจะปฏิเสธข้อเสนอทุกอย่างที่กล่าวมาเลยอย่างนั้นหรือ?

 

การปฏิเสธข้อเสนอโดยสมัครใจถือเป็นเหตุการณ์พิเศษอย่างหนึ่งและยิ่งไปกว่านั้นการเพิกเฉยต่อความจริงใจของหญิงสาวที่เสนอข้าวของมาให้อาจสร้างปัญหาจนเกิดกับเขาได้

 

“มันยังไม่ถึงเวลาที่ข้าจะต้องได้รับสิ่งของเหล่านี้”

 

อย่างไรก็ตามคังชอลอินเป็นคนที่มีความคิดและสามารถตัดสินใจทำการอะไรได้อย่างชาญฉลาด

 

ของบรรณาการที่เสมอมาให้ไม่ใช่ไม่สำคัญ

 

มันเป็นสิทธิ์ของราชันย์ที่จะเลือกรับของด้วยความสมัครใจ

 

แต่สิ่งที่ชั่งน้ำหนักในใจของเขามากที่สุดคือสถานะของหญิงสาวที่เข้ามามอบของให้

 

ไม่มีฐานะใดนอกจากราชันย์ที่ต้องการให้ใครสักคนระมัดระวังและตระหนักถึงสิ่งที่คนอื่นคิดถึงเขาอยู่เสมอมากเท่าขนาดนี้ ผู้ที่มีสถานะสูงทุกคนล้วนแต่เป็นเช่นนั้นกันทั้งสิ้น แต่ราชันย์เป็นตำแหน่งที่สูงสุดในตอนนี้ดังนั้นเขาจึงต้องทำอะไรที่มันมากกว่านั้น

 

‘ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ล้วนได้มาอย่างเสียเปล่า แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเราแต่มันอาจเป็นสิ่งของที่มีค่าสำหรับพวกเขาได้ นอกจากนี้หากชนชั้นราชันย์ได้กลายเป็นที่รู้จักต่อหน้าสาธารณชนมันคงจะตามมาด้วยความยากลำบากอย่างมาก ทุก ๆ การกระทำในชีวิตของเราที่นี่จะถูกตีความว่าเป็นสิ่งที่ทำขึ้นโดยเจ้าพนักงานของรัฐแทน’

 

ตัวอย่างเช่นสมมุติว่าคังชอลอินยอมรับนาฬิกามาจากหญิงสาวที่มีผมสีส้มคิดว่ามันจะเป็นเช่นไร?

 

มันคือสิ่งที่ปู่ของนางสวมใส่ แม้จะมีราคาแต่นาฬิกานั่นก็มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์สำคัญ บางทีนางอาจคิดว่าเขามีใจให้ได้

 

แล้วถ้าหากเขารับแหวนที่ส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคนเล่า?

 

ถึงนางจะหัวเราะยินดีแต่นางก็ได้แสดงความรู้สึกภายในออกมาแม้จะเพียงชั่วขณะหนึ่ง บางทีนางอาจถูกผลักออกมาโดยพ่อแม่ของนางก็เป็นได้

 

แล้วถ้าเขายอมรับทุกสิ่งอย่างนี้ไปจนหมดล่ะ?

 

ถ้าเขาทำเช่นนั้นมันจะทำให้เกิดการนินทาว่าร้าย แต่เขาจะจัดการกับหญิงสาวที่เสนอเรือนร่างและหัวใจของพวกนางได้อย่างไร? นั่นน่าจะเป็นปัญหาที่มีความสำคัญมากที่สุก

 

บุคคลที่กลายมาเป็นราชันย์ต้องสงสัยแม้กระทั่งของบรรณาการที่เรียบง่าย หญิงสาวหลายคนอาจมีแรงจูงใจที่บริสุทธิ์แต่ปัญหาคือความหยิ่งผยองในหมู่ของพวกนางกันเอง ผู้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้หญิงของคังชอลอินก็อาจกลายเป็นปัญหาไปได้เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ยุติธรรมที่ต้องยอมรับข้อเสนอเฉพาะอย่างเจาะจง แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะขอไม่ยอมรับสิ่งใดเลย เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสถานการณ์ที่น่าเบื่อหน่ายในหลาย ๆ ด้าน

 

ด้วยเหตุนี้คังชอลอินจึงได้แสดงเชาวน์ปัญญาที่ชาญฉลาดของเขาออกมา

 

“เจ้า”

 

นิ้วของคังชอลอินชี้ไปยังเด็กสาวที่น่าประทับใจด้วยผมสีน้ำตาลแดง ทำให้สายตาของทุกคนหันไปจ้องมองยังเด็กสาวที่คังชูลอินชี้ไปในทันที

 

“เจ้าค่ะ!”

 

เด็กสาวประหลาดใจที่ได้กลายมาเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างกะทันหัน

 

“ร ราชันย์…ข้า…!”

 

ลาน่า บุตรสาวของรัสเซลเลอร์รู้สึกประหลาดใจและสับสน

 

“ข้าจะยอมรับของ ๆ เจ้า ส่งเครื่องเครื่องบรรณาการนั่นมาให้ข้าสิ” คังชอลอินว่ากล่าว

 

“ตะ…แต่…องค์ราชันย์…ของ ๆ ข้า…เป็นเพียงของชั้นต่ำ…”

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ถ้าอย่างนั้น… รา…องค์ราชันย์…ข้า…จะ…มอบ…สิ่งนี้…ที่ข้าทำ…ขึ้น ด้วยตัวเอง….”

 

ของบรรณาการของลาน่าคือพวงดอกไม้ที่ดูเหมือนสร้อยคอซึ่งทำมาจากดอกไม้ป่า ตามความเป็นจริง การเสนอของที่ต้องการมอบให้ของนางนั้นมีราคาถูกที่สุด

 

อย่างไรก็ตามตัวเลือกของคังชอลอินนั้นสมควรและเลือกได้ฉลาดอย่างมาก

 

“ทำไมล่ะ…ทำไมท่านถึงเลือกของเช่นนั้น?”

 

“พวงดอกไม้ที่ทำมาจากดอกไม้ป่า…ข้าขอมอบสิ่งนี้แด่ท่านเจ้าค่ะ!”

 

“เด็กสาวและพวงดอกไม้ของนาง! ดูเหมือนว่าท่านจะยอมรับเฉพาะผู้ที่มีใจบริสุทธิ์แท้จริงเท่านั้น!”

 

การที่คังชอลอินเลือกพวกดอกไม้มาจากเด็กสาวตัวน้อยเท่านั้นได้เป็นการปฏิเสธคำพูดที่ว่าเขาไม่สนใจความจริงใจของหญิงสาวทั้งหมดและได้จัดการกับปัญหาริษยาของหญิงสาวในคราวเดียว หากเป็นคังชอลอินที่ผ่านมาคงไม่ได้มีจุดยืนทางการเมืองที่ซับซ้อนเช่นนี้

 

ในขณะที่คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น คังชอลอินได้ก้าวลงจากหลังม้าเพื่อเดินไปหาลาน่า

 

แต่ทว่า…

 

ป๋อม!

 

ลาน่ากลับยุบตัวลงไปเสียอย่างนั้น

 

“……”

 

แค่เพียงความคิดที่จะยืนอยู่ใกล้กับราชันย์ก็อาจทำให้ใครบางคนเป็นลมขึ้นมาได้

 

“…ลูเซีย”

 

“เจ้าค่ะ”

 

“พาเด็กคนนั้นไปหาพ่อแม่ของนางซะแล้วแขวนพวงดอกไม้ของนางไว้ที่อานม้าข้า”

 

คังชอลอินพบหนทางแห่งการประนีประนอมที่เหมาะสมเพราะเขาไม่สามารถแขวนพวงดอกไม้นี้ไว้รอบคอได้

 

“ไปกันเถอะ”

 

เมื่อได้สลัดเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ทิ้งไว้ด้านหลัง คังชอลอินปีนกลับขึ้นไปบนอาชาขาวพร้อมกับพวงดอกไม้และมุ่งหน้าไปยังด้านในของดินแดน

 

แม้หลังจากที่เขามาถึงห้องโถงราชันย์ คังชอลอินก็ยังไม่ได้รับการพักผ่อน

 

อย่างแรก เขาได้สั่งให้ทิโมธีมอบตั๋วผ่านชั้นเยี่ยมแก่นักผจญภัยและให้ที่พักรวมถึงอาหารพวกเขาชั่วขณะหนึ่ง

 

หลังจากนั้นเขาได้ออกไปพบกับครอบครัวที่ต้องสูญเสียจากการออกตามล่ามังกรพีคอค เขาเลือกเดินทางไปเองโดยส่วนตัวเพื่อปลอบโยนครอบครัวของผู้สูญเสียและจ่ายค่าชดเชยให้

 

จากนั้นเขาก็ได้ไปพบกับผู้บัญชาการเจมส์เพื่อมอบรางวัลบางอย่างที่เขาสามารถปกป้องดินแดนไว้ได้อย่างปลอดภัยในขณะที่คังชอลอินไม่ได้อยู่ประจำที่แห่งนี้

 

ส่วนรางวัลสำหรับลูเซีย โพดอลส์กี้และทหารชั้นยอดอีกสิบนายจะถูกเลื่อนออกไปก่อนเพราะพวกเขาต้องได้รับรางวัลใหญ่ที่สุด นี่คือการการหยุดพักของการแจกจ่ายรางวัลในรอบแรก

 

“จงใจกว้างเมื่อเป็นเหล้าเบียร์และอาหาร เพราะฉะนั้นวันนี้จงทานกันให้เต็มที่”

 

สุดท้ายคังชอลอินได้ออกคำสั่งให้จัดตั้งเทศกาลรำลึกถึงการพิชิตมังกรพีคอค มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาสามารถทำได้เพื่อบรรเทาความโศกเศร้าของผู้คนและเพื่อเพิ่มความสุข

 

“เฮ้อ…”

 

คังชอลอินผู้ซึ่งได้ทำงานทั้งหมดนี้จนเสร็จสิ้นในที่สุดก็สามารถนั่งลงบนบัลลังก์และสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อผ่อนคลายในขณะมองดูของบางสิ่งที่เหมือนกิมจิหัวหอมสุกข้าง ๆ เสียงแห่งการสรรเสริญร้องลั่นเพื่อถวายเกียรติแด่องค์ราชันย์อย่างเป็นอิสระเมื่อเทศกาลเริ่มขึ้น

 

“มาตรวจสอบสิ่งนี้เป็นอย่างสุดท้ายแล้วพักผ่อนกันเลยเถอะ”

 

เขาสั่งการเพื่อเปิด [สถานะปัจจุบัน]

 

―――――――――――――――――

 

[สถานะปัจจุบัน]

 

ชื่อ: คังชอลอิน/ ชนชั้น: ราชันย์/ คลาส: นักรบ

 

คะแนน: 140 คะแนน / การจัดอันดับสมบูรณ์: D-100 สู่สาธารณชน

 

ระดับ: ระดับ 31 / ความชำนาญพิเศษ: พิชิต (เกรด B) / แนวโน้ม: พิชิตราชันย์

 

เผ่าพันธุ์: มนุษย์ / ทักษะ: ล็อค (จะปลดล็อคเมื่อได้รับสถานะจอมราชันย์แล้วเท่านั้น)

 

คู่สมรส: (สูงสุด 7)

 

อำนาจชักจูง: 77 (B++)

 

HP: 119/1412 (คำเตือนโปรดพัก)  มานา: 63/1954

 

การโจมตีทางกายภาพ: 248

 

การโจมตีทางเวทมนตร์: 79

 

ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 187 / ความฉลาด: 141

 

ความว่องไว: 161 / การจัดการเวทย์: 20

 

อัตราความแม่นยำ: B+

 

อัตราการหลบหลีก: B-

 

การโจมตีช่วงวิกฤติ: B+

 

พลังป้องกัน: 17 / ความทนทาน: 14

 

การเงิน: D- / กิจการภายใน: E-

 

ทรัพยากร: B- / การเมือง: C +

 

การทูต: C- / บัญชาการ: A +

 

การโจมตี: A + / ป้องกัน: C-

 

กองกำลังทหาร: A + / เสน่ห์: A +

 

คะแนนที่ได้รับ: 30 (+5 ต่อระดับ)

 

คะแนนที่เหลืออยู่: 30

―――――――――――――――――

 

“เลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็วมากทีเดียว” คังชอลอินพึมพำ

 

เริ่มจากระดับ 25 ก่อนการตามล่าเพื่อพิชิตมังกรพีคอคตัวผู้ ระดับของถูกเลื่อนขึ้นมาสองระดับ

 

เมื่อทำเควสพิเศษสำเร็จก็ได้รับการเลื่อนระดับขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ

 

ในการกลืนกินหัวใจมังกรได้รับการเลื่อนขึ้นมาอีกสองระดับ

 

จากนั้นเมื่อได้ฆ่ามังกรพีคอคตัวเมียก็ได้รับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ กำไรทั้งหมดที่เขาได้รับในครั้งนี้คือเลื่อนขึ้นมาด้วยกันหกระดับจนมาหยุดอยู่ที่ระดับ 31

 

ผลกระทับของหัวใจมังกรทำให้จำนวนมานาทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 800

 

นอกจากนี้หากเขากินหัวใจมังกรของมังกรพีคอคเพศเมียแล้วเขาจะสามารถรับประสบการณ์และมานาได้มากขึ้นอีก 1.5 ระดับ

 

นอกเหนือไปจากนั้นส่วนสำคัญคือคะแนนราชันย์ที่เพิ่งได้รับเพิ่มขึ้นมาอีก 70 แต้มจากการล่าจะทำให้เขาได้รับการพิจารณาสำหรับการจัดอันดับเพื่อชนชั้นจอมราชันย์ได้ในที่สุด

 

“เยี่ยม ตอนนี้ถ้าเราสามารถแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินของดินแดนนี้ได้ก็จะสามารถเอาชนะได้ทุกสิ่ง”

 

ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยยกเว้นเพียงแต่การขาดทองซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างเดียวที่สำคัญสำหรับเขาที่สุดในตอนนี้ เขากำลังวางแผนที่จะเอาชนะที่ราบตะวันออกทั้งหมดหลังจากแก้ไขปัญหาด้านการเงินเสร็จ

 

และในตอนนั้นเอง

 

อั่ก!

 

ความเจ็บปวดก็ได้เริ่มกระจายออกจากบาดแผลด้านข้างของเขาที่เย็บไว้อีกครั้ง

 

“เอาล่ะ…ตอนนี้เราคงต้องกลับไปพักผ่อนได้แล้วจริง ๆ”

 

ในการล่าสัตว์เป็นเวลาสามสัปดาห์ เขาได้ออกต่อสู้กับมังกรพีคอคและทำงานหลายอย่างจนทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บมาอย่างสาหัส หากเกิดขึ้นกับคนอื่นพวกเขาอาจทรุดตัวลงไปกับพื้นอย่างน้อยสิบครั้งได้

 

“องค์ราชันย์!!”

 

ขณะที่คังชอลอินกำลังพยายามจะถอดฝายาออกเพื่อนำมาใส่ปาก

 

“ทะ ท่านโดเรียน…เขา!”

 

ลูเซียก็ได้รีบร้อนวิ่งมาบอกข่าวร้ายแก่เขา มันเป็นดั่งประโยคสังหารสำหรับคังชอลอินที่เพิ่งคลายความเครียดทั้งหมดที่มีออกไปได้ไม่นาน

.

The Overlord of Blood and Iron

The Overlord of Blood and Iron

Author:
มหาศึกจอมราชันย์ The Overlord of Blood and Iron บทนำ คังชอลอิน จอมราชันย์ผู้แกร่งกล้าจนใครต่างต้องสยบ เหตุสูญเสียทำให้เขาต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อพิชิตกับความท้าทายอีกครั้งในการขึ้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่และผู้ควมคุมทวีปแพนเจีย คังชอลอินจะสามารถเอาชนะจอมราชันย์ทั้งเก้าเพื่อปกครองทวีปแพนเจียได้หรือไม่?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset