ตอนที่ 40: ราชันย์คังชอลอินผู้มีชัย
“วู้วววววว….!!!”
“องค์ราชันย์คังชอลอิน! ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งขอรับ ฮูเร่! โชโย!”
“องค์ราชันย์คังชอลอินสามารถปราบอสูรร้ายตัวนั้นได้!”
“ฮูเร่! ฮูเร่! ฮูเร่!”
ชาวเมืองลาพิวต้าต่างส่งมอบแรงใจให้กับคังชอลอินด้วยความกระตือรือร้นอย่างล้นหลาม
คังชอลอินถูกมองเป็นวีรบุรุษผู้กล้าท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมาของพวกเขา
เห็นได้ชัดถึงความสุขที่พวกเขากำลังยินดีหลังได้ทราบว่าการพิชิตมังกรพีคอคเป็นผลสำเร็จ
ความกลัวที่อาจทำร้ายพวกเขาหรือครอบครัวอยู่เหนือเกินกว่าจะจินตนาการ ร่างไร้วิญญาณของมังกรพีคอคทั้งสองที่เป็นต้นเหตุแห่งความหวาดหวั่นถูกลากเข้าเมืองด้วยสภาพหัวที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะมองคังชอลอินว่าเป็นวีรบุรุษ
นอกจากนี้รูปลักษณ์ที่สง่างามและน่าประทับใจของเขายิ่งทำให้ชาวเมืองเกษมสันต์
เพราะถึงแม้มังกรพีคอคจะเป็นเพียงสัตว์สายพันธุ์ย่อยของมังกรแต่มันก็ยังคงมีความเป็นมังกรอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
และแม้ว่าเขาจะต้องออกตามล่าสัตว์ประหลาดที่โหดร้ายเช่นนี้ถึงสองตัวทว่าคังชอลอินกลับดูไร้อารมณ์และดูไม่เหนื่อยล้าราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ยากหรือยิ่งใหญ่อะไร
เช่นนั้นแล้วใครบ้างเล่าจะไม่เคารพหรือภักดีต่อราชันย์ผู้เก่งกาจเช่นนี้? ไม่ว่าธรรมชาติของคังชอลอินจะเป็นเช่นไรแต่ในสายตาของชาวเมืองในตอนนี้คังชอลอินคือราชาที่เกรียงไกรและยิ่งใหญ่ที่สุดของดินแดนอย่างที่ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์
ในทางกลับกัน เหล่านักผจญภัยยังคงประหลาดใจและมึนงงไม่หาย
“ที่จริงแล้วตัวตนของท่านแม่ทัพคือใครกัน?”
“แล้วคนพวกนี้คือใคร?”
“โอ้พระเจ้า… มีปราสาทตั้งอยู่ที่แพนเจียแห่งนี้ด้วย!”
“ราชางั้นหรือ? หรือว่าท่านแม่ทัพจะเป็นราชาจริง ๆ?”
ทุกอย่างล้วนดูน่าสงสัย
ป้อมปราการลาพิวต้า ผู้คนในดินแดน ตัวตนที่แท้จริงของคังชอลอิน… ฯลฯ มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ทำให้เหล่านักผจญภัยเกิดความสงสัยและสับสน ยิ่งไปกว่านั้นเพราะไม่มีใครสามารถอธิบายได้ในเวลาที่ต้องการคำตอบมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ความข้องใจของพวกเขาจะเติบโตเหมือนดั่งต้นหญ้าแตกใบเมื่อเวลาผ่านไป
“ว้าว ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ทราบรายละเอียดใด ๆ ก็เถอะ แต่ข้าสามารถมองเห็นถึงความยอดเยี่ยมของท่านแม่ทัพได้อย่างเด่นชัด เขาเป็นคนจากราชวงศ์งั้นหรือ? ข้าคิดว่าแม้กระทั่งราชินีแห่งอังกฤษเองก็ยังไม่ได้รับความนิยมขนาดนี้เท่าเขาเลยด้วยซ้ำ”
“ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน…แล้วนี่มัน…? อ่ะใช่! ท่านคิมจากทางเหนือเองก็คิดเห็นเช่นนั้นเหมือนกันสินะ?”
“ไร้สาระ! เขาเป็นเผด็จการ! นี่หรือสิ่งที่เจ้าเรียกว่าได้รับความนิยม?”
“อุ๊ปส์!”
“มองดูพวกเขาให้ดี ๆ สิ ดูการแสดงออกของพวกเขา ทุก ๆ คนล้วนแต่จ้องมองไปยังท่านแม่ทัพกันทั้งนั้น ข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพจะใช่ราชาของคนพวกนี้จริงหรือไม่”
“บ้าเอ๊ย! ตราบใดที่เขายังเป็นมนุษย์ที่โลกอีกฝั่ง… อ่า นั่น นั่นมันอะไรน่ะ?!”
ความอยากรู้อยากเห็นและการสนทนาของนักผจญภัยต้องสิ้นสุดเมื่อมาถึงจุดนี้
“อ๊ายย!”
“เหล่านักรบผู้กล้าหาญเจ้าขา~”
“ต้องขอบพระคุณมาก ๆ เลยนะเจ้าคะ!”
“มานี่สิคะ มาร่วมเต้นรำเพื่อฉลองชัยด้วยกันเถอะ ~”
ทันใดนั้นเหล่าหญิงสาวชาวเมืองลาพิวต้าก็เข้ามาเกาะกลุ่มกับนักผจญภัยโดยที่พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัว
นักผจญภัยเองก็เป็นดั่งวีรบุรุษสำหรับชาวเมืองลาพิวต้าด้วยเช่นกัน มันก็สมเหตุสมผลเช่นกันที่พวกเขาจะถูกหญิงสาวเข้ามายึดติดด้วยความภาคภูมิใจและทึ่งในความสามารถ
“เยี่ยม!”
“ฮ่า ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกนะ! ฮ่า ๆ!”
“ขอบคุณนะเจ้าคะ ขอบคุณท่านจริง ๆ”
“โอ้ ไม่ ๆ ข้าแค่ทำในสิ่งที่ข้าทำได้ก็เท่านั้น ฮ่า ๆ”
พวกเขาสามารถมองเห็นฉากแห่งความอบอุ่นและรื่นเริงที่เกิดขึ้นได้ทั่วเมือง
“พ่อหนุ่ม ~ เจ้าแข็งแกร่งขนาดไหนกันล่ะหึ? โอ้ ดูที่แขนล่ำ ๆ ของเจ้านี่สิ!”
“นั่นคือ เอ่อ…”
“เหอะ! แล้วเจ้ามาจากไหนกันล่ะพ่อหนุ่ม?!”
และแน่นอนว่าย่อมมีฉากอันตรายเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
แต่ภาพรวมส่วนใหญ่ก็เป็นไปได้ด้วยดี
โดยการกำจัดสัตว์ประหลาดในครั้งนี้ ราชันย์แห่งลาพิวต้าได้พิสูจน์ถึงความสามารถของเขาได้เป็นที่ประจักษ์และในขณะเดียวกันนักผจญภัยก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไม่มีใครที่ไม่มีความสุข ทุก ๆ คนล้วนแต่พึงพอใจ
“วิกฤตได้ผ่านพ้นไปแล้ว”
คังชอลอินมองดูภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความเงียบสงบจากด้านบนอาชาขาวที่เขาขึ้นขี่ แม้ว่าเขาจะอารมณ์ดีแต่เขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกไป การรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นราชันย์นั้นค่อนข้างเป็นหน้าที่ที่หนักมากทีเดียว
“องค์…องค์ราชันย์เจ้าคะ?”
“องค์ราชันย์ ได้โปรดมอบโอกาสแก่พวกเราเพื่อฉลองชัยแด่ท่านในครั้งนี้ด้วยเถอะนะเจ้าคะ”
เมื่อคังชอลอินมองดูบรรยากาศรื่นเริงของกลุ่มหญิงสาวที่เดินก้าวเข้ามาในขบวน พวกเขาคือหญิงสาวชาวเมืองของลาพิวต้า
“หืม?”
คังชอลอินรู้สึกเขินอายไปครู่หนึ่ง
‘ทำไมพวกนางถึงมีจำนวนมากเพียงนี้?’
ดูเหมือนว่าหญิงสาวชาวเมืองตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยยี่สิบได้เข้ามาห้อมล้อมที่คังชอลอินกันจนหมด และแน่นอนว่าพวกนางนั้นโดดเด่นยิ่งกว่าหญิงสาวที่เข้าหาเหล่านักผจญภัยเป็นไหน ๆ
“องค์ราชันย์เจ้าคะ…สิ่งนี้คือนาฬิกาที่ท่านปู่ผู้ล่วงลับของข้าสวมใส่…”
“นี่เป็นเหล้าแมนเดรกที่มีอายุ 77 ปีเจ้าค่ะ”
“สำหรับองค์ราชันย์แล้ว ข้าขออุทิศกายและใจของข้า….”
“นี่คือแหวนที่บรรพบุรุษของข้าสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนเจ้าค่ะ”
หญิงสาวหลายคนต่างพากันมอบของบรรณาการที่แตกต่างกันไปให้แก่คังชอลอิน
พวกเขาต่างมอบสิ่งของพร้อมความตั้งใจที่หลากหลาย
หญิงสาวที่มีหัวใจบริสุทธิ์ หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความต้องการทางตัญหา หญิงสาวที่พยายามไต่เต้าเพื่อเลื่อนระดับสถานะ … เป้าหมายและความปรารถนาของพวกนางล้วนแตกต่างกันไปมากทีเดียว
“สำหรับของบรรณาการพวกนี้นั้น”
คังชอลอินเปิดปากของเขาในที่สุด
“ข้าจะขอรับเพียงสินน้ำใจที่เจ้ามอบให้มาก็แล้วกัน เพียงแต่…”
คนที่ได้ยินเขาพูดต่างพากันประหลาดใจยิ่งนัก
เขาจะปฏิเสธข้อเสนอทุกอย่างที่กล่าวมาเลยอย่างนั้นหรือ?
การปฏิเสธข้อเสนอโดยสมัครใจถือเป็นเหตุการณ์พิเศษอย่างหนึ่งและยิ่งไปกว่านั้นการเพิกเฉยต่อความจริงใจของหญิงสาวที่เสนอข้าวของมาให้อาจสร้างปัญหาจนเกิดกับเขาได้
“มันยังไม่ถึงเวลาที่ข้าจะต้องได้รับสิ่งของเหล่านี้”
อย่างไรก็ตามคังชอลอินเป็นคนที่มีความคิดและสามารถตัดสินใจทำการอะไรได้อย่างชาญฉลาด
ของบรรณาการที่เสมอมาให้ไม่ใช่ไม่สำคัญ
มันเป็นสิทธิ์ของราชันย์ที่จะเลือกรับของด้วยความสมัครใจ
แต่สิ่งที่ชั่งน้ำหนักในใจของเขามากที่สุดคือสถานะของหญิงสาวที่เข้ามามอบของให้
ไม่มีฐานะใดนอกจากราชันย์ที่ต้องการให้ใครสักคนระมัดระวังและตระหนักถึงสิ่งที่คนอื่นคิดถึงเขาอยู่เสมอมากเท่าขนาดนี้ ผู้ที่มีสถานะสูงทุกคนล้วนแต่เป็นเช่นนั้นกันทั้งสิ้น แต่ราชันย์เป็นตำแหน่งที่สูงสุดในตอนนี้ดังนั้นเขาจึงต้องทำอะไรที่มันมากกว่านั้น
‘ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ล้วนได้มาอย่างเสียเปล่า แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเราแต่มันอาจเป็นสิ่งของที่มีค่าสำหรับพวกเขาได้ นอกจากนี้หากชนชั้นราชันย์ได้กลายเป็นที่รู้จักต่อหน้าสาธารณชนมันคงจะตามมาด้วยความยากลำบากอย่างมาก ทุก ๆ การกระทำในชีวิตของเราที่นี่จะถูกตีความว่าเป็นสิ่งที่ทำขึ้นโดยเจ้าพนักงานของรัฐแทน’
ตัวอย่างเช่นสมมุติว่าคังชอลอินยอมรับนาฬิกามาจากหญิงสาวที่มีผมสีส้มคิดว่ามันจะเป็นเช่นไร?
มันคือสิ่งที่ปู่ของนางสวมใส่ แม้จะมีราคาแต่นาฬิกานั่นก็มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์สำคัญ บางทีนางอาจคิดว่าเขามีใจให้ได้
แล้วถ้าหากเขารับแหวนที่ส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคนเล่า?
ถึงนางจะหัวเราะยินดีแต่นางก็ได้แสดงความรู้สึกภายในออกมาแม้จะเพียงชั่วขณะหนึ่ง บางทีนางอาจถูกผลักออกมาโดยพ่อแม่ของนางก็เป็นได้
แล้วถ้าเขายอมรับทุกสิ่งอย่างนี้ไปจนหมดล่ะ?
ถ้าเขาทำเช่นนั้นมันจะทำให้เกิดการนินทาว่าร้าย แต่เขาจะจัดการกับหญิงสาวที่เสนอเรือนร่างและหัวใจของพวกนางได้อย่างไร? นั่นน่าจะเป็นปัญหาที่มีความสำคัญมากที่สุก
บุคคลที่กลายมาเป็นราชันย์ต้องสงสัยแม้กระทั่งของบรรณาการที่เรียบง่าย หญิงสาวหลายคนอาจมีแรงจูงใจที่บริสุทธิ์แต่ปัญหาคือความหยิ่งผยองในหมู่ของพวกนางกันเอง ผู้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้หญิงของคังชอลอินก็อาจกลายเป็นปัญหาไปได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามมันไม่ยุติธรรมที่ต้องยอมรับข้อเสนอเฉพาะอย่างเจาะจง แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะขอไม่ยอมรับสิ่งใดเลย เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสถานการณ์ที่น่าเบื่อหน่ายในหลาย ๆ ด้าน
ด้วยเหตุนี้คังชอลอินจึงได้แสดงเชาวน์ปัญญาที่ชาญฉลาดของเขาออกมา
“เจ้า”
นิ้วของคังชอลอินชี้ไปยังเด็กสาวที่น่าประทับใจด้วยผมสีน้ำตาลแดง ทำให้สายตาของทุกคนหันไปจ้องมองยังเด็กสาวที่คังชูลอินชี้ไปในทันที
“เจ้าค่ะ!”
เด็กสาวประหลาดใจที่ได้กลายมาเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างกะทันหัน
“ร ราชันย์…ข้า…!”
ลาน่า บุตรสาวของรัสเซลเลอร์รู้สึกประหลาดใจและสับสน
“ข้าจะยอมรับของ ๆ เจ้า ส่งเครื่องเครื่องบรรณาการนั่นมาให้ข้าสิ” คังชอลอินว่ากล่าว
“ตะ…แต่…องค์ราชันย์…ของ ๆ ข้า…เป็นเพียงของชั้นต่ำ…”
“ไม่เป็นไร”
“ถ้าอย่างนั้น… รา…องค์ราชันย์…ข้า…จะ…มอบ…สิ่งนี้…ที่ข้าทำ…ขึ้น ด้วยตัวเอง….”
ของบรรณาการของลาน่าคือพวงดอกไม้ที่ดูเหมือนสร้อยคอซึ่งทำมาจากดอกไม้ป่า ตามความเป็นจริง การเสนอของที่ต้องการมอบให้ของนางนั้นมีราคาถูกที่สุด
อย่างไรก็ตามตัวเลือกของคังชอลอินนั้นสมควรและเลือกได้ฉลาดอย่างมาก
“ทำไมล่ะ…ทำไมท่านถึงเลือกของเช่นนั้น?”
“พวงดอกไม้ที่ทำมาจากดอกไม้ป่า…ข้าขอมอบสิ่งนี้แด่ท่านเจ้าค่ะ!”
“เด็กสาวและพวงดอกไม้ของนาง! ดูเหมือนว่าท่านจะยอมรับเฉพาะผู้ที่มีใจบริสุทธิ์แท้จริงเท่านั้น!”
การที่คังชอลอินเลือกพวกดอกไม้มาจากเด็กสาวตัวน้อยเท่านั้นได้เป็นการปฏิเสธคำพูดที่ว่าเขาไม่สนใจความจริงใจของหญิงสาวทั้งหมดและได้จัดการกับปัญหาริษยาของหญิงสาวในคราวเดียว หากเป็นคังชอลอินที่ผ่านมาคงไม่ได้มีจุดยืนทางการเมืองที่ซับซ้อนเช่นนี้
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น คังชอลอินได้ก้าวลงจากหลังม้าเพื่อเดินไปหาลาน่า
แต่ทว่า…
ป๋อม!
ลาน่ากลับยุบตัวลงไปเสียอย่างนั้น
“……”
แค่เพียงความคิดที่จะยืนอยู่ใกล้กับราชันย์ก็อาจทำให้ใครบางคนเป็นลมขึ้นมาได้
“…ลูเซีย”
“เจ้าค่ะ”
“พาเด็กคนนั้นไปหาพ่อแม่ของนางซะแล้วแขวนพวงดอกไม้ของนางไว้ที่อานม้าข้า”
คังชอลอินพบหนทางแห่งการประนีประนอมที่เหมาะสมเพราะเขาไม่สามารถแขวนพวงดอกไม้นี้ไว้รอบคอได้
“ไปกันเถอะ”
เมื่อได้สลัดเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ทิ้งไว้ด้านหลัง คังชอลอินปีนกลับขึ้นไปบนอาชาขาวพร้อมกับพวงดอกไม้และมุ่งหน้าไปยังด้านในของดินแดน
แม้หลังจากที่เขามาถึงห้องโถงราชันย์ คังชอลอินก็ยังไม่ได้รับการพักผ่อน
อย่างแรก เขาได้สั่งให้ทิโมธีมอบตั๋วผ่านชั้นเยี่ยมแก่นักผจญภัยและให้ที่พักรวมถึงอาหารพวกเขาชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากนั้นเขาได้ออกไปพบกับครอบครัวที่ต้องสูญเสียจากการออกตามล่ามังกรพีคอค เขาเลือกเดินทางไปเองโดยส่วนตัวเพื่อปลอบโยนครอบครัวของผู้สูญเสียและจ่ายค่าชดเชยให้
จากนั้นเขาก็ได้ไปพบกับผู้บัญชาการเจมส์เพื่อมอบรางวัลบางอย่างที่เขาสามารถปกป้องดินแดนไว้ได้อย่างปลอดภัยในขณะที่คังชอลอินไม่ได้อยู่ประจำที่แห่งนี้
ส่วนรางวัลสำหรับลูเซีย โพดอลส์กี้และทหารชั้นยอดอีกสิบนายจะถูกเลื่อนออกไปก่อนเพราะพวกเขาต้องได้รับรางวัลใหญ่ที่สุด นี่คือการการหยุดพักของการแจกจ่ายรางวัลในรอบแรก
“จงใจกว้างเมื่อเป็นเหล้าเบียร์และอาหาร เพราะฉะนั้นวันนี้จงทานกันให้เต็มที่”
สุดท้ายคังชอลอินได้ออกคำสั่งให้จัดตั้งเทศกาลรำลึกถึงการพิชิตมังกรพีคอค มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาสามารถทำได้เพื่อบรรเทาความโศกเศร้าของผู้คนและเพื่อเพิ่มความสุข
“เฮ้อ…”
คังชอลอินผู้ซึ่งได้ทำงานทั้งหมดนี้จนเสร็จสิ้นในที่สุดก็สามารถนั่งลงบนบัลลังก์และสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อผ่อนคลายในขณะมองดูของบางสิ่งที่เหมือนกิมจิหัวหอมสุกข้าง ๆ เสียงแห่งการสรรเสริญร้องลั่นเพื่อถวายเกียรติแด่องค์ราชันย์อย่างเป็นอิสระเมื่อเทศกาลเริ่มขึ้น
“มาตรวจสอบสิ่งนี้เป็นอย่างสุดท้ายแล้วพักผ่อนกันเลยเถอะ”
เขาสั่งการเพื่อเปิด [สถานะปัจจุบัน]
―――――――――――――――――
[สถานะปัจจุบัน]
ชื่อ: คังชอลอิน/ ชนชั้น: ราชันย์/ คลาส: นักรบ
คะแนน: 140 คะแนน / การจัดอันดับสมบูรณ์: D-100 สู่สาธารณชน
ระดับ: ระดับ 31 / ความชำนาญพิเศษ: พิชิต (เกรด B) / แนวโน้ม: พิชิตราชันย์
เผ่าพันธุ์: มนุษย์ / ทักษะ: ล็อค (จะปลดล็อคเมื่อได้รับสถานะจอมราชันย์แล้วเท่านั้น)
คู่สมรส: (สูงสุด 7)
อำนาจชักจูง: 77 (B++)
HP: 119/1412 (คำเตือนโปรดพัก) มานา: 63/1954
การโจมตีทางกายภาพ: 248
การโจมตีทางเวทมนตร์: 79
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 187 / ความฉลาด: 141
ความว่องไว: 161 / การจัดการเวทย์: 20
อัตราความแม่นยำ: B+
อัตราการหลบหลีก: B-
การโจมตีช่วงวิกฤติ: B+
พลังป้องกัน: 17 / ความทนทาน: 14
การเงิน: D- / กิจการภายใน: E-
ทรัพยากร: B- / การเมือง: C +
การทูต: C- / บัญชาการ: A +
การโจมตี: A + / ป้องกัน: C-
กองกำลังทหาร: A + / เสน่ห์: A +
คะแนนที่ได้รับ: 30 (+5 ต่อระดับ)
คะแนนที่เหลืออยู่: 30
―――――――――――――――――
“เลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็วมากทีเดียว” คังชอลอินพึมพำ
เริ่มจากระดับ 25 ก่อนการตามล่าเพื่อพิชิตมังกรพีคอคตัวผู้ ระดับของถูกเลื่อนขึ้นมาสองระดับ
เมื่อทำเควสพิเศษสำเร็จก็ได้รับการเลื่อนระดับขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ
ในการกลืนกินหัวใจมังกรได้รับการเลื่อนขึ้นมาอีกสองระดับ
จากนั้นเมื่อได้ฆ่ามังกรพีคอคตัวเมียก็ได้รับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ กำไรทั้งหมดที่เขาได้รับในครั้งนี้คือเลื่อนขึ้นมาด้วยกันหกระดับจนมาหยุดอยู่ที่ระดับ 31
ผลกระทับของหัวใจมังกรทำให้จำนวนมานาทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 800
นอกจากนี้หากเขากินหัวใจมังกรของมังกรพีคอคเพศเมียแล้วเขาจะสามารถรับประสบการณ์และมานาได้มากขึ้นอีก 1.5 ระดับ
นอกเหนือไปจากนั้นส่วนสำคัญคือคะแนนราชันย์ที่เพิ่งได้รับเพิ่มขึ้นมาอีก 70 แต้มจากการล่าจะทำให้เขาได้รับการพิจารณาสำหรับการจัดอันดับเพื่อชนชั้นจอมราชันย์ได้ในที่สุด
“เยี่ยม ตอนนี้ถ้าเราสามารถแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินของดินแดนนี้ได้ก็จะสามารถเอาชนะได้ทุกสิ่ง”
ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยยกเว้นเพียงแต่การขาดทองซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างเดียวที่สำคัญสำหรับเขาที่สุดในตอนนี้ เขากำลังวางแผนที่จะเอาชนะที่ราบตะวันออกทั้งหมดหลังจากแก้ไขปัญหาด้านการเงินเสร็จ
และในตอนนั้นเอง
อั่ก!
ความเจ็บปวดก็ได้เริ่มกระจายออกจากบาดแผลด้านข้างของเขาที่เย็บไว้อีกครั้ง
“เอาล่ะ…ตอนนี้เราคงต้องกลับไปพักผ่อนได้แล้วจริง ๆ”
ในการล่าสัตว์เป็นเวลาสามสัปดาห์ เขาได้ออกต่อสู้กับมังกรพีคอคและทำงานหลายอย่างจนทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บมาอย่างสาหัส หากเกิดขึ้นกับคนอื่นพวกเขาอาจทรุดตัวลงไปกับพื้นอย่างน้อยสิบครั้งได้
“องค์ราชันย์!!”
ขณะที่คังชอลอินกำลังพยายามจะถอดฝายาออกเพื่อนำมาใส่ปาก
“ทะ ท่านโดเรียน…เขา!”
ลูเซียก็ได้รีบร้อนวิ่งมาบอกข่าวร้ายแก่เขา มันเป็นดั่งประโยคสังหารสำหรับคังชอลอินที่เพิ่งคลายความเครียดทั้งหมดที่มีออกไปได้ไม่นาน
.