ตอนที่ 7: การอัญเชิญครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง!
คังชอลอินพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินให้ได้ 100 ล้านวอน นอกเหนือจาก 30 ล้านวอนที่เขากู้ยืมมาจากธนาคารได้แล้ว ดอกเบี้ยสำหรับส่วนอื่นที่เหลือทั้งหมดคือ 34.9% ต่อปี (หรืออาจมากกว่านั้น) แต่คังชอลอินไม่คิดกลัวจำนวนดอกเบี้ยพวกนี้เลยแม้แต่น้อย
มันเป็นความประมาทที่เกิดขึ้นจากความมั่นใจ
“นี่เงิน 20 ล้านวอน ฉันใส่เพิ่มไปอีก 5 ล้านวอนเพราะงั้นก็เอาไปซื้ออะไรกินกับพวกลูกน้องของแกซะ”
ตามสัญญา คังชอลอินมาหาปาร์คดูชิกที่สำนักงานพร้อมเงินสดจำนวน 20 ล้านวอนและใบสัญญา
“โอ้ คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้นะครับ ฮ่า ๆ ๆ”
ปาร์คดูชิกที่อยู่บนเส้นคาบเกี่ยวระหว่างความไว้วางใจคังชอลอินตลอดสามวันที่ผ่านมาถูมือของตัวเองด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นคังชอลอินเดินเข้ามาพร้อมเงินสด
“ถ้ารู้อะไรเพิ่มเติมก็รีบแจ้งฉันทันที”
“ได้ครับบอส!”
“โอ้ แล้วก็…”
“ครับ?”
“หารถมาให้ฉันสักคันได้ไหม?”
“รถ..หรอครับ?”
“เท่าที่ฉันรู้มา งานแบบพวกแกก็ทำธุรกิจขายรถมือสองด้วยใช่ไหม?”
“อ่า พวกผมไม่ได้มีชื่อเสียงมากพอที่จะจัดการรถมือสองได้เพราะอย่างที่บอสก็รู้พวกเราเป็นเพียงแก๊งเล็ก ๆ แต่ถ้าคุณต้องการผมสามารถจัดหาให้ได้นะครับ”
หลังจากได้ยินสิ่งที่ปาร์คดูชิกพูด คังชอลอินก็คิดกับตัวเองอยู่พักหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า
“หาให้ฉันตอนนี้เลย จะแบบเช่าแบบเหมาหรือใช้แล้วก็ได้หมด ฉันไม่เกี่ยง ฉันต้องการใช้มันแค่ 3 เดือน”
เขาต้องการรถยนต์อย่างมาก
เขาเป็นถึงจอมราชันย์เพราะฉะนั้นมันคงไม่เหมาะกับเขาที่จะใช้บริการบางสิ่งที่ “สามัญ” ใช้เช่นรถบัสหรือรถไฟ
“รถแบบไหนหรือครับ?”
“รถเก๋งอย่างเชฟโรเลต คอร์เวทท์หรือฟอร์ด มัสแตง ฉันไม่ได้จะใช้มันนาน”
เนื่องจากตอนนี้เขามีงบประมาณที่จำกัดเขาจึงต้องการรถยนต์เช่นคอร์เวทท์หรือมัสแตงค์ที่ราคาไม่ได้สูงจนเกินไป
“ได้ครับ ผมจะรีบจัดการให้ในทันที”
ปาร์คดูชิกนำสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมาเพื่อกดโทรหาใครบางคนและพูดคุยทางโทรศัพท์อยู่ประมาณ 10 นาที
“พวกเขาจะนำมัสแตงมาให้ในทันทีครับ มันเป็นแบบเช่าแต่พวกเขาต้องการเงินดาวน์ประมาณ 10% เพราะเป็นรถยนต์ต่างประเทศ”
“เห้ย แกอ่ะ”
คังชอลอินกวักมือเรียกโอกวางพิลทันทีเมื่อได้ยินเรื่องเงินดาวน์
“คะ ครับ!”
โอกวางพิลที่เกือบจะคางหักเพราะหมัดของคังชอลอินลังเลเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาด้วยท่าทีหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้จะทำอะไร”
“อ่า ครับ ขอบคุณครับ”
“ไปกดเงินให้ที รหัสผ่านคือ 4581”
คังชอลอินยื่นการ์ดกดเงินสดให้กับโอกวางพิลไป
“จะให้ผมกดออกมามากแค่ไหนครับ?”
โอกวางพิลถามด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นคังชอลอินไม่ได้คิดที่จะทำร้ายเขา
“20”
“20 … 2,000 หรอครับ?”
โอกวางพิลถามด้วยท่าทีโง่ ๆ
“นี่ ดูชิก”
คังชอลอินหันไปมองที่ปาร์คดูชิก
“พวกแกเป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือเปล่า?”
“ผม … ผมต้องขออภัยด้วยครับ!”
ใบหน้าของปาร์คดูชิกขึ้นสีแดงขณะที่เขาก้มศีรษะลงด้วยความอับอาย
“ไอ้งี่เง่า!”
ปาร์คดูชิกคำรามขณะเตะก้นใหญ่ ๆ ของโอกวางพิล
“อั่ก!”
“ทำไมแกถึงยังยืนอยู่อีกห๊ะ! รีบไปกดเงินมาสิโว้ย!”
“แล้วจำนวนเงิน…”
“แกคิดว่าบิ๊กบอสจะให้แกไปกด 2,000 วอนหรือไง? ห๊ะ? ไอ้โง่เอ้ย!”
ปาร์คดูชิกเริ่มใช้คำเรียกคังชอลอินว่าบิ๊กบอสเพื่อตีสนิท
“ผม ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละครับ!”
โอกวางพิลรีบวิ่งออกจากอาคารสำนักงานไปเหมือนหมูป่าที่ถูกไฟไหม้หลังถูกตบไปหลายครั้ง ในสภาพแวดล้อมทางสังคมไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็เหมือนกันหมด มันค่อนข้างเหนื่อยที่จะต้องมาจัดการกับคนที่ไม่มีความนึกคิดใด ๆ
“ถ้าเป็นราคาของมัสแตงที่ 10% เงินดาวน์ก็น่าจะประมาณ 10 กว่าล้านวอน และค่าเช่ารายเดือนก็จะอยู่ที่ 1 ล้านกว่าวอน ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ มันอยู่ในช่วงเรทราคานั้น”
“ดูแลเรื่องประกันและความเรียบร้อยให้ดี เงินส่วนที่เหลือก็เอาไปแบ่งครึ่งกับคนที่นำรถมาซะ”
“จริงเหรอครับ?!”
ตาของปาร์คดูชิกเบิกกว้าง ใครจะคิดว่าคังชอลอินจะเป็นคนที่ใจกว้างมากขนาดนี้
“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
“ครับบอส!”
เช่นนั้นคังชอลอินจึงได้จบข้อตกลงทุกอย่างกับปาร์คดูชิก
‘ควักจอง …นี่คือจุดสิ้นสุดแล้ว ฉันจะต้องตามหาตัวนายให้เจอให้ได้ และถ้าหากเรามีชะตากรรมร่วมกันจริง สักวันเราจะต้องได้พบกัน’
แน่นอนว่าแม้มันจะไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ทุกอย่างแต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้
ถ้ามันเป็นไปไม่ได้
ก็ทำให้มันเป็นไปได้ซะสิ
เขาจะใช้ทุกวิธีที่จำเป็นเพื่อให้ได้ตัวควักจองมา นั่นคือรูปแบบและวิธีการของจอมราชันย์คังชอลอิน
“ถ้างั้นก็ให้รายงานฉันทุก ๆ 2 สัปดาห์ แล้วอีก 3 เดือนฉันจะมาหาใหม่”
“ครับบอส เดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะครับ!”
คังชอลอินเดินออกจากสำนักงานของปาร์คดูชิกพร้อมมัสแตงที่จอดรออยู่ด้านหน้า
มัสแตงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมัสเซิลคาร์อเมริกันที่มีเครื่องยนต์ V8 ดูเหมือนว่ามันจะอวดอ้างพลังของตัวเองทุกครั้งเมื่อเครื่องยนต์เริ่มทำงาน
‘ไม่เลว’
แม้ว่ามันจะไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจเท่าบูกัตติ เวย์รอนที่เคยใช้ในชีวิตที่ผ่านมา แต่มัสเซิลคาร์อเมริกันก็ล้วนแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์
คังชอลอินจะสอบถามเรื่องของควักจองกับปาร์ดูชิกและพวกลูกน้องเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่เขาจะเน้นเรื่องการออกกำลังกายในขณะรอให้การอัญเชิญครั้งใหญ่มาถึง
อย่างที่เคยกล่าวไป แพนเจียเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดอันตรายที่เดินทางท่องไปทั่ว และเพื่อความอยู่รอดในสถานที่ดังกล่าว เขาจำเป็นต้องสร้างร่างกายของเขาให้แข็งแกร่ง
และสองเดือนก็ผ่านไปทั้ง ๆ แบบนั้น
วันนี้คือวันที่ 24 ธันวาคม 2020 หนึ่งวันก่อนการอัญเชิญครั้งใหญ่ คังชอลอินรีบเข้านอนในคืนนั้นด้วยความสงบและสำรวม “การขานชื่อ” ในความฝันที่จะนำพาทุกคนสู่แพนเจียจะมาหาเขาเมื่อเขาหลับ
พ่อ…
ก่อนที่เขาจะหลับ คังชอลอินนึกถึงพ่อที่จากไป
โดยปกติแล้วคนที่ไว้ใจมากที่สุดจะปรากฏขึ้นใน “การขานชื่อ” ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าหรือมนุษย์ ในกรณีของคังชอลอินคือพ่อผู้ล่วงลับของเขาที่มาปรากฏตัวและนำเขาไปยังจุดกำหนด บางทีพ่อผู้ล่วงลับของเขาอาจปรากฏตัวในความฝันของเขาอีกครั้งหลังจากเขาหลับไป ขณะที่เขากำลังคิดอย่างนั้น ดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ
น่าแปลกที่ “การขานชื่อ” ครั้งนี้กลับไม่ใช่ผู้เป็นพ่ออย่างที่เขาคิด
แต่มันคือตัวของเขาเอง จอมราชันย์คังชอลอินซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยอาวุธมหากาพย์ ‘ฟรากราค’ดาบแห่งสงครามและ‘วัลลี’ชุดเกราะแห่งการล้างแค้น
“ฉันทำเต็มที่แล้วจริง ๆ”
คังชอลอินในปัจจุบันแอบหัวเราะเบา ๆ
สิ่งที่เขาไว้วางใจและเชื่อในสิ่งที่เขาทำก็คือตัวเขาเอง ช่างตลกสิ้นดี
“เจ้าจะไม่ล้มเหลวอีกใช่ไหม?”
คังชอลอินในอดีตเอ่ยถาม
“ไม่แน่นอน”
คังชอลอินปัจจุบันตอบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
จะไม่มีการล้มเหลวเป็นครั้งที่สอง
หากเขาล้มเหลวอีกครั้งหลังการกลับไป เขาจะไม่มีอะไรมากไปกว่าจอมราชันย์ผู้ไร้ประโยชน์มากที่สุดในประวัติศาสตร์
เช้าวันรุ่งขึ้น
ผู้คนกว่า 30,000 คนจากทั่วโลกเพื่อกลายเป็นนักเดินทางข้ามมิติเริ่มออกค้นหาจุดกำหนดของตัวเอง
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไร้เสียง
ประเทศมหาอำนาจที่สำรวจโลกทั้งใบผ่านดาวเทียมรวมถึงเครือข่าย Echelon (ระบบเฝ้าระวังที่ดักฟังทั้งโลกภายใต้การควบคุมของอังกฤษและสหรัฐอเมริกา) ก็จะไม่รับรู้ถึงสัญญาณของการอัญเชิญครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงนี้
มีเพียงคังชอลอินเท่านั้นที่เห็นสิ่งที่กำลังจะมาถึง
ทันทีที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไป คังชอลอินรีบขับมัสแตงเพื่อมุ่งหน้าไปยังตึก 63 ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของกรุงโซล เขาอาจมองหาจุดกำหนดอื่น ๆ ได้แต่เขาเลือกที่จะไปยังตึก 63 ในกรณีที่มีตัวแปรสุ่ม เช่นเดียวกับทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก สิ่งเล็กน้อยที่ไม่สำคัญก็สามารถบิดเบือนอนาคตที่กำหนดไว้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการความอับโชคที่อาจทำให้เขาต้องพลาดการได้รับชนชั้นราชันย์ไปเพราะเขาเคยไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่แตกต่างกันมาก่อน
คังชอลอินเดินไปรอบ ๆ หน้าตึก 63 อย่างเคร่งขรึมเพื่อรอการอัญเชิญครั้งใหญ่
5 นาที … 4 นาที … 1 นาที
เมื่อเวลาเริ่มเดินเข้าใกล้ 10 โมงเช้า ท้องฟ้าจากที่แจ่มใสก็เริ่มเต็มไปด้วยเมฆพายุ
เปรี้ยง!
แสงสว่างวาบส่องลงมาจากฟ้า
ปัง!
และทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องที่ดูเหมือนจะฉีกหูของเขาให้ขาดออกจากกันและสามารถเขย่าขวัญได้ทั้งโลกก็ดังก้อง
แล้วหลังจากนั้น …
ท้องฟ้าลำแสงสีทองก็ร่วงหล่นและส่องประกายไปยังคังชอลอินและอีกสองสามคนในบริเวณนั้น
ได้เวลาแล้ว!
เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่กำลังกรีดร้องหรือล้มลงไปกับพื้น คังชอลอินยืนรับแสงสว่างด้วยท่าทีสงบ
ไม่มีเหตุผลใดให้ต้องประหลาดใจ
เขาเคยผ่านประสบการณ์การอัญเชิญครั้งใหญ่มาก่อนและตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้กลับไปสู่สถานะจอมราชันย์อีกครั้ง ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมที่เขาจะล้มลงไปกับพื้นอย่างไร้เกียรติภูมิ
พรึ่บ!!
ผู้ที่โดนแสงสีทองสาดส่องจะสลายตัวกลายเป็นอนุภาคและหายไปเหมือนควัน คังชอลอินเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เขาสลายตัวเป็นอนุภาคและหายไปเหมือนอย่างคนอื่น ๆ มันเป็นทางเข้าสู่แพนเจีย การอัญเชิญครั้งใหญ่เริ่มแล้ว!
หลังจากนั้นไม่นาน ในวิสัยทัศน์ของคังชอลอินก็มีข้อความปรากฏขึ้นมา
[ยินดีต้อนรับสู่แพนเจีย]
และข้อความต่อไป …
[ขอแสดงความยินดี! ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นชนชั้น: ราชันย์]
เป็นไปตามที่คาดไว้ไม่มีผิด …