The Overlord of Blood and Iron – ตอนที่ 8: อาเคน ตัวแทนของพระเจ้า

ตอนที่ 8: อาเคน ตัวแทนของพระเจ้า

 

ท่ามกลางนักเดินทางข้ามมิติทั้ง 30,000 คนที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกที่ถูกลำแสงสีทองสาดส่องได้ถูกส่งตัวไปยังมหาทวีปแพนเจียแล้วในตอนนี้ แต่จะมีนักเดินทางข้ามมิติ “พิเศษ” เพียง 300 คนที่เริ่มต้นด้วยชนชั้นราชันย์และจะยังไม่ข้ามผ่านไปยังแพนเจียในทันทีเช่นคนอื่น ๆ ที่ ๆ พวกเขาอยู่ในตอนนี้คือห้องโถงโล่งกว้างขนาดใหญ่ มีโคมระย้าตระการตาแขวนประดับอยู่บนเพดานเพื่อมอบแสงสว่าง ตามผนังถูกจัดวางด้วยภาพจิตรกรรมทางชีวิตและภาพบุคคลสวมมงกุฏที่ล้วนแต่มีผมสีดำเข้ม

 

“อะไร นี่มันอะไรกัน?”

 

“ที่นี่ที่ไหน?!”

 

“ฉันอยู่ที่เมดิสันสแควร์การ์เดนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม…?!”

 

บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นราชันย์อย่างกระทันหันกำลังอุทานด้วยความตกใจและสับสนไปตามภาษาพูดของตัวเอง

 

“ที่นี่ที่ไหน?! หรือที่ฝันไว้จะเป็นจริง…! อัลลอหุ อักบัร!”

 

“โอ้พระเจ้า!”

 

นอกจากนี้ยังมีคนที่เรียกหาพระเจ้าของพวกเขา(ผู้ที่อาจมาปรากฏใน“การขานชื่อ”เมื่อคืนก่อน) ขณะที่ทุกคนกำลังร้องระงมด้วยความสับสน มีชายคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกด้วยท่าทีใจเย็นและค่อย ๆ ตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบของเขาท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย

 

‘เหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่าง’

 

ชายคนนั้นก็คือคังชอลอินอดีตจอมราชันย์แห่งวัลฮัลลา

 

‘เราเคยเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยมาบ้าง’

 

คังชอลอินไม่ได้รู้จักราชันย์ทั้ง 300 คนที่กำลังรวมตัวกันอยู่ในห้องโถงนี้แต่อย่างใด แต่เขาสามารถจดจำใบหน้าที่คุ้นเคยได้บ้าง ในบรรดากลุ่มคนเหล่านี้มีคนที่เขาเคยฆ่าตายด้วยน้ำมือของเขาอยู่

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกชื่อเขาดังแทรกเข้ามา

 

“คุณชอลอิน…?”

 

เมื่อเขาหันหน้าไปตามที่มาของเสียงเรียก หญิงสาวชาวเอเชียที่ดูน่าทะนุถนอมและไร้เดียงสากำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาเบิกกว้าง เธอก็คือลีแชรินพนักงานบริษัทบันเทิงที่เขาเคยทำงานด้วยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

 

‘พระเจ้า ผู้หญิงคนนี้ก็ได้เป็นราชันย์กับเขาด้วยเหรอเนี่ย…’

 

คังชอลอินรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าผู้หญิงคนนี้ก็ได้เป็นราชันย์ด้วยเหมือนกัน มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน

 

“คุณชอลอินใช่ไหมคะ?”

 

“ครับ ผมเอง”

 

“โอ้ ฉันกังวลจังเลยค่ะ! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ? ไม่สิ ที่สำคัญยิ่งกว่าคือตอนนี้เรากำลังอยู่ที่ไหน? คุณพอจะรู้ไหมคะ?”

 

ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของลีแชรินกำลังเต็มไปด้วยความสับสนและไม่เป็นตัวของตัวเอง

 

มันเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะนอกจากคังชอลอินที่รู้รายละเอียดทุกอย่างอยู่ก่อนแล้ว ที่นี่คือส่วนหนึ่งของโลกที่แตกต่างเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้เสียด้วยซ้ำ

 

“คุณรอดูก็พอ”

 

คังชอลอินไม่ได้แกล้งทำเป็นไม่รู้หรือทำตัวสับสนตามคนอื่น

 

“คะ? คุณหมายถึงอะไรหรอคะ?”

 

“เดี๋ยวเขาก็จะมาอยู่ตรงนั้น ถ้าคุณตั้งใจฟังดี ๆ คุณก็จะรู้เรื่องราวทั้งหมดได้เอง แน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริงแม้จะดูไม่น่าเชื่อเลยก็ตาม” คังชอลอินชี้ไปยังแท่นเวทีกลางห้องโถง

 

แคร่ก!

 

ทันใดนั้นก็มีประกายไฟจากบางสิ่งเกิดขึ้น และหลังจากนั้นไม่นานก็มีพอร์ทัลสีม่วงปรากฏออกมา

 

[ยินดีต้อนรับ เหล่าราชันย์]

 

สิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากพอร์ทัลไม่ใช่มนุษย์หากแต่เป็นเพียงบางสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนดั่งมนุษย์และถูกห่อหุ่มไว้ด้วยแสงสีทอง

 

[ข้ามีนามว่าอาเคน ตัวแทนพระเจ้าผู้ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโลกใบนี้รวมถึงพวกเจ้าทุกคน]

 

เสียงของอาเคนสั่นสะเทือนและเติมเต็มความว่างเปล่าในห้องราวกับว่ามันเป็นเสียงที่สะท้อนกลับ

 

“ดูแล?”

 

“ตัวแทนพระเจ้า”

 

“นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่เนี้ย?!”

 

ราชันย์สองสามคนสบถกับสิ่งที่อาเคนพูดออกมา

 

[เงียบ ๆ!]

 

ตู้ม!

 

เสียงของอาเคนดังขึ้นราวกับเสียงฟ้าร้อง

 

ทันใดนั้นภายในห้องโถงก็เต็มไปด้วยความเงียบและบรรยากาศที่น่าอึดอัด

 

มีเพียงคังชอลอินที่ยังคงสงบและอยู่ในท่ากอดอกดั่งเช่นตอนแรก

 

เขาไม่มีประเด็นอะไรให้ต้องบ่นเหมือนอย่างคนอื่น ๆ

 

คังชอลอินรู้จักอาเคนตัวแทนพระเจ้าเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับบทบาทที่เขาได้รับ หากอธิบายในแง่มุมของการเล่นเกม อาเคนก็เป็นเหมือนผู้ดูแลหรือผู้ควบคุมเกมและเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถแตะต้องได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม

 

[ข้ารู้ว่าทุกคนกำลังสับสนและฉงนมากเพียงใด แต่อย่างไรก็ตาม!]

 

อาเคนพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยพลัง

 

[ตอนนี้บทบาทของพวกเจ้าคือการตั้งใจฟังและจะไม่มีอะไรเพิ่มเติม โปรดตั้งใจฟังสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้ให้ดี]

 

หมายความว่าเขาต้องการทำการสื่อสารแต่เพียงด้านเดียวและไม่มีใครสามารถคัดค้านเขาได้ คำพูดของอาเคนมีอำนาจเหนือการควบคุมทุกอย่าง

 

[พวกเจ้าได้รับการเรียกขานจากพระเจ้าในฐานะราชันย์ ชนชั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดที่นักเดินทางข้ามมิติจะพึงมี]

 

อาเคนเริ่มการอธิบายต่อ

 

[ในฐานะราชันย์ นั่นหมายความว่าพวกเจ้าจะต้องจัดการกับดินแดนด้วยตัวของพวกเจ้าเอง นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องขยายดินแดนเพื่อควบคุมแพนเจียและเป็นผู้ปกครองรัชสมัยที่สูงส่ง]

 

ทุกคนตั้งใจฟังกันอย่างระวัง

 

เว้นเพียงแต่คังชอลอินที่แตกต่างออกไป

 

‘รอสต์ไชลด์ ไอ้สารเลวนั่นมันอยู่ที่ไหน?’

 

คังชอลอินไม่ได้ใส่ใจกับคำอธิบายของอาเคนมากนัก เขากำลังขยับดวงตาไปมาเพื่อค้นหาใบหน้าที่คุ้นเคย

 

คำพูดของอาเคนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคังชอลอินและมันก็ค่อนข้างที่จะน่าเบื่อเกินกว่าจะชวนให้ตั้งใจฟัง

 

‘มันยากที่จะหาเจอตัวมันได้’

 

เขาเฝ้าดูใบหน้าทั้ง 300 คนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วแต่กลับไม่เห็นใบหน้าของอเล็กซ์ รอสต์ไชลด์แต่อย่างใด ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองจะอยู่ห่างไกลจากกันมากเกินกว่าที่จะมองเห็นได้ในตอนนี้

 

[นับจากนี้เป็นต้นไป ทุก ๆ การกระทำและการตัดสินใจทั้งหมดของพวกเจ้าจะถูกบันทึกลงในระบบและจะถูกวิเคราะห์เพื่อการเติบโตร่วมถึงการล่มสลายของการเป็นราชันย์ โปรดดำเนินการทุกอย่างด้วยสติปัญญาและความระมัดระวังเป็นอย่างมาก]

 

คำอธิบายของอาเคนยังคงดำเนินต่อไปอีกนานในขณะที่คังชอลอินกำลังมุ่งเน้นความสนใจไปที่สิ่งอื่น

 

หากต้องให้สรุปคำอธิบายของอาเคนแล้วนั้น

 

ราชันย์ทุกคนจะต้องจัดการกับดินแดนของตัวเองตามลำดับขั้นต่าง ๆ จากนั้นทุกการกระทำของราชันย์จะถูกบันทักลงเป็นคะแนนส่วนตัว ราชันย์จะมีการรวมตัวกันเป็นประจำทุกปี หากราชันย์คนใดมีคะแนนมากสุดสิบอันดับแรกจะถูกแต่งตั้งให้กลายเป็น “จอมราชันย์” และจะได้รับผลประโยชน์รวมถึงอำนาจต่าง ๆ

 

และเพื่อให้ได้คะแนนที่มากยิ่งขึ้น … วิธีหนึ่งในการเพิ่มคะแนนที่ดีที่สุดก็คือการเอาชนะและพิชิตสงครามกับราชันย์คนอื่น

 

นอกจากนี้ …

 

[ยังคงมีบางคนที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ข้าเข้าใจดี โลกไม่ใช่สถานที่ที่มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม … ]

 

อาเคนพยายามพูดอย่างชัดเจนเพื่อให้พวกเขาทั้ง 300 คนเข้าใจในสิ่งที่จะสื่อ

 

[แพนเจียไม่ใช่สถานที่ที่สร้างขึ้นมา แพนเจียคือความจริง ดังนั้นความตายในแพนเจียเอง …]

 

อึก

 

เหมือนได้ยินเสียงคนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ท่ามกลางห้องโถงที่เงียบสงัด

 

[ก็จะมีความหมายเช่นเดียวกันกับการตายบนโลก ไม่ว่าพวกเจ้าจะตายบนโลกหรือบนแพนเจีย ความจริงที่ว่าเจ้าตายนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง โปรดระวังข้อเท็จจริงข้อนี้และอย่าให้ต้องใช้ชีวิตกันไปอย่างสูญเปล่า]

 

ทันใดนั้นใบหน้าของราชันย์ทุกคนก็เกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขาแสดงใบหน้าแห่งความสยดสยองและหวาดกลัวขึ้นมาพร้อมกันเมื่อได้ยินคำพูดของอาเคน

 

อย่างไรก็ตามอาเคนยังคงดำเนินการอธิบายต่อไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาไม่สนใจถึงการแสดงออกของราชันย์ใด ๆ

 

[รายละเอียดเพิ่มเติมพวกเจ้าจะได้รับในภายหลัง ดังนั้นโปรดทำความเข้าใจกันอย่างรอบคอบ ส่วนตอนนี้… ถึงเวลาเลือกดินแดนของพวกเจ้าแล้ว]

 

จากนั้นก็มีรูปร่างแบบจำลองกว่าเก้าร้อยแบบปรากฏขึ้นเมื่ออาเคนโบกมือไปในอากาศ

 

[แบบจำลองที่ปรากฏขึ้นนี้คือดินแดนที่พวกเจ้าจะได้ปกครอง ขณะนี้การคลังของพวกเจ้าจะมีอยู่หนึ่งหมื่นทอง ด้วยทองคำที่พวกเจ้ามี พวกเจ้าจะต้องเลือกซื้อดินแดนตามที่ต้องการ เมื่อเจ้าทำการซื้อสำเร็จตัวของพวกเจ้าจะถูกส่งไปยังแพนเจียโดยทันที เช่นนั้นก็ขอให้พวกเจ้าทุกคนโชคดี]

 

อาเคนจากไปที่พอร์ทัลที่ปรากฏตัวออกมาในตอนแรกพร้อมด้วยคำพูดเช่นนั้น และเมื่อพอร์ทัลหายไป เหล่าราชันย์ที่รวมตัวกันอยู่ในห้องโถงก็เริ่มส่งเสียงโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง

 

“นี่ … นี่มันอะไร?!”

 

“บ้าเอ้ย! ฝันประหลาดอะไรขนาดนี้”

 

“ไอ้ตัวไร้ความรับผิดชอบนั่นมันอะไรกันแน่?!”

 

เหล่าราชันย์ผู้ที่ไม่สามารถเชื่อในความจริงที่เกิดขึ้นกับพวกเขาได้พากันส่งเสียงร้องประท้วงราวกับตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในตลาดนัด

 

ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม

 

คังชอลอินได้รับการแจ้งเตือนขึ้นมาใหม่อีกครั้งว่าเขาคือผู้ที่มาเกิดใหม่

 

“คุณชอลอิน…”

 

ตอนนั้นเองลีแชรินก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดกับเขาก่อนอีกครั้ง

 

“ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันควรทำอย่างไรต่อไปหรือคะ?”

 

คังชอลอินคิดลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบไปว่า

 

“อย่างที่อาเคนบอกเมื่อสักครู่นี้ คุณต้องเลือกซื้อดินแดนของคุณ”

 

“ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี…”

 

“ถึงคุณจะถามผมต่อไปคุณก็ไม่ได้คำตอบที่มากไปกว่านี้หรอกครับ”

 

“อะไรนะคะ?”

 

“มันมีคำกล่าวอยู่ว่า “ต้องได้เห็นเองถึงจะเชื่อ” อยู่ ตอนนี้มันอาจเร็วเกินไปสำหรับคุณแต่มันจะเป็นประสบการณ์ที่มีแค่ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะจัดการได้” คังชอลอินรับบทดูแลลีแชรินอย่างเย็นชา

 

‘เราไม่สามารช่วยเธอได้…แต่อย่างนั้นมันก็อาจเป็นการเพิ่มตัวแปรที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้เช่นกัน ดังนั้นต้องระวังคำพูดของตัวเองไว้ให้ดี’

 

หากเขาช่วยลีแชรินเลือกดินแดน มันก็มีแนวโน้มที่เธอจะเลือกต่างไปจากที่เธอเคยเลือกมาก่อน จากนั้นอนาคตที่กำหนดไว้ก็อาจบิดเบือน เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรออกไปอีก แน่นอนว่าตอนนี้อนาคตได้เริ่มเปลี่ยนไปแล้วแต่ถ้ากรอบเหตุการณ์ใหญ่ ๆ เปลี่ยนไปมันคงจะไม่ดีแน่ การไม่ทำอะไรที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อนคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในตอนนี้

 

“ก่อนอื่นเรามาแยกตัวออกห่างจากกันก่อนเถอะนะครับ แล้วไว้ค่อยไปพูดคุยรายละเอียดกันอีกครั้งในตอนที่พวกเรากลับโลกใบเดิม”

 

ด้วยคำพูดเหล่านั้น คังชอลอินเดินไปที่แบบจำลองเพื่อเลือกดินแดนของตัวเอง

 

“คุณชอลอิน…”

 

ลีแชรินเหมือนกับจะร้องไห้ขณะจ้องมองแผ่นหลังของคังชอลอินที่จากไป

 

คังชอลกำลังทำการเลือกดินแดนของเขา

 

‘เราต้องการป้อมปราการเคลื่อนที่ มันคงจะดีถ้าเป็นทางอากาศ’

 

สำหรับคังชอลอินที่ต้องทนทุกข์เพราะป้อมปราการเคลื่อนที่ของอเล็กซ์ รอสต์ไชลด์แล้วนั้น การตั้งค่าเพื่อเลือกดินแดนเคลื่อนที่ได้นั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด เขาจะไม่เลือกวัลฮัลลามาเป็นกองบัญชาการใหญ่แบบในอดีต ในระหว่างสงครามราชันย์ “ป้อมปราการเคลื่อนที่” ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์หนึ่งเท่านั้นแต่ยังเป็นการ์ดยุทธวิธีและความได้เปรียบอย่างหนึ่งอีกเช่นกัน เขาขบฟันด้วยความเจ็บใจเมื่อนึกถึงตอนที่โดนไซโมดัสบุกวัลฮัลลาและทำให้เขาต้องพบจุดจบ

 

แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดจบเสียทีเดียว

 

เขาพยายามหลายครั้งเพื่อกำจัดรอสต์ไชลด์แต่เขาก็สูญเสียรอสต์ไชลด์ไปหลายครั้งเพราะป้อมปราการเคลื่อนที่ได้หลบหนีไปด้วยความเร็วที่ยอดเยี่ยม หากคังชอลอินมีป้อมปราการเคลื่อนที่เขาก็จะสามารถฆ่ารอสต์ไชลด์ก่อนหน้านี้ได้และเขาก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของพันธมิตรระหว่างบัลเดอร์และกัลเวก

 

แม้มันจะส่งผลกระทบต่อความภาคภูมิใจ แต่อย่างน้องเขาก็สามารถหลบหนีและมีชีวิตรอดต่อไปได้

 

หากรอสต์ไชลด์มีข้อได้เปรียบทางยุทธวิธีเพียงเพราะความคล่องตัว เขาก็จะสอนบทเรียนให้กับรอสต์ไชลด์โดยการเลือกป้อมปราการทางอากาศ

 

‘เดี๋ยวก่อน … มันมีอะไรที่ดูแตกต่างออกไป’

 

คังชอลอินผู้ที่กำลังดูแบบจำลองกว่าเก้าร้อยแบบอย่างระมัดระวังหยุดให้ความสนใจดินแดนหนึ่งที่อยู่บนหลังวาฬ ข้อมูลเกี่ยวกับดินแดนจะปรากฏขึ้นหลังจากประกายไฟลอยหายขึ้นไปในอากาศ

 

[ยูเรนัส]

 

ประเภท: เมืองทางอากาศ

 

จุดประสงค์เฉพาะ: การพิชิต

 

ที่ตั้ง: ภาคใต้แคว้นอัลฟอน

 

คำอธิบาย: ที่ดินบนยอดหลังวาฬบินยูเรนัส

 

ความสามารถ: อาวุธทางยุทธวิธี, ลำแสงธารา

 

ราคา: 8,000 ทอง

 

ลำแสงธารา … มันจะใช่พลังปืนใหญ่ที่พุ่งด้วยความเร็วสูงหรือไม่?

 

ดินแดนที่ราชันย์เลือกซื้อจะมีความสามารถพิเศษหนึ่งหรือสองอย่างและจะมีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นเขาต้องตัดสินใจให้ละเอียดและรอบคอบมากที่สุด

 

ทันใดนั้นก็เหมือนมีเสียงคนมาพูดกับเขาดังขึ้นขณะที่เขากำลังอ่านคำอธิบายดินแดน

 

“เป็นไปได้ไหมที่คุณจะช่วยบอกผมหน่อยว่าข้อมูลที่คุณกำลังยืนดูอยู่นี้ปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร?”

 

คังชอลอินหันหน้าไปมองคนที่เข้ามาพูดกับเขาและบุคคลคนนั้นก็คือ …

The Overlord of Blood and Iron

The Overlord of Blood and Iron

Author:
มหาศึกจอมราชันย์ The Overlord of Blood and Iron บทนำ คังชอลอิน จอมราชันย์ผู้แกร่งกล้าจนใครต่างต้องสยบ เหตุสูญเสียทำให้เขาต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อพิชิตกับความท้าทายอีกครั้งในการขึ้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่และผู้ควมคุมทวีปแพนเจีย คังชอลอินจะสามารถเอาชนะจอมราชันย์ทั้งเก้าเพื่อปกครองทวีปแพนเจียได้หรือไม่?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset