The Rise of Otaku – ตอนที่ 120

บทที่ 120 ภาพยนตร์ล่าขุมทรัพย์สําเร็จแล้ว

 

เหล่าแฟนๆบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ได้ถูกเตะออกไปจากสวนสนุกเป็นที่เรียบร้อย และพวกนั้นยังได้ถูกห้ามเข้ามายังที่นี้อย่างสมบูรณ์ ด้วยอาชญากรรมที่รุนแรงที่พวกเขาอาจจะก่อขึ้นได้ในอนาคต โจวหยูจึงได้ทําแบบนี้ แม้ว่าเรื่องพวกนี้จะดูเป็นเรื่องร้ายแรงในสายตาของคนอื่น แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก มันจึงเป็นเรื่องที่จําเป็น

 

อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าปัญหานี้มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

 

ในความเป็นจริงมีการปกครองสองแห่งในโลก ACG หนึ่งคือเมืองสตาร์ไลน์ และอีกหนึ่งคือเมืองแบล็กสตาร์ โดยที่พลเมืองไม่ดีจํานวนมากจากโลกACG ต่างก็อาศัยอยู่ที่นั้น และเช่นเดียวกับชื่อของเมืองนี้ มันจึงทําให้เมืองเต็มไปด้วยพลังงานด้านลบ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในการผลิตภาพยนตร์ผู้ใหญ่อีกด้วย

 

เมืองทั้งสองต่างก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีมากนักต่อกันและกัน เช่นเดียวกับภาพยนตร์แอดชั่นทั่วไปที่จะมีการแบ่งฝังของตัวเอกและตัวร้ายออกมาจากัน เมื่อผู้คนในโลก ACG เข้าสู่วงการบันเทิงพวกเขาก็จะต้องเลือกฝ่ายเช่นกัน แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนฝ่ายได้ในภายหลัง แต่นั้นมันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ในส่วนของคนธรรมดาของโลก ACG นั้นไม่จําเป็นต้องเลือกกลุ่ม อย่างไรก็ตามในบางครั้งจะมีบางคนในโลก ACG ที่มีคุณสมบัติที่บิดเบี้ยว เช่น อาชญากร และแฟนคลับสุดบ้าคลั่ง เกิดขึ้น

 

ที่จริงแล้วเรือนจําหรือคุกจะทําหน้าที่เป็นศูนย์การศึกษาเพื่อปฏิรูปผู้คนเหล่านั้น แต่ยิ่งคนตกต่ำลงไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีเงื่อนไขที่จําเป็นในการปฏิรูปมากขึ้นเท่านั้น คุกในหมู่บ้านมินิลู่หัวสามารถปฏิรูปอาชญากรที่อยู่ในระดับคราส C ลงไปได้เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าแฟนๆเหล่านั้นจะเป็นเพียงอาชญากรคราส F ทั้งหมด แต่คุกในหมู่บ้านก็ไม่สามารถปฏิรูปได้ เหตุผลก็คือระดับของคุกในตอนนี้ยังเป็นเพียงระดับเริ่มต้นอยู่นั้นเอง

 

หลังจากทําการเก็บกวาดสตูดิโอแล้วเสร็จ พนักงานที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเหล่าแฟนๆก็ได้รับการรักษาเสร็จแล้วเช่นกัน นอกจากแฟนๆที่ถูกจับเข้าคุกแล้วนอกจากนั้นต่างก็ถูกบังคับให้ออกไปจากสวนสนุกนี้ทั้งหมด

 

แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่คุกจะไม่ยอมรับนักโทษพวกนี้เข้าไป ดังนั้นโจวหยูจึงทําได้เพียงไล่กลุ่มคนเหล่านี้ออกไปได้เท่านั้น แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่พวกเขามี มู่ลี่ได้ขอร้องให้โจวหยูทําการรักษาพวกเขาก่อนที่จะไล่กลับไป

 

และมันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เหล่าแฟนๆที่ได้รับการรักษาโดยมู่ลี่และแม่มดสีขาดต่างก็แสดงสีหน้าขอบคุณพร้อมกับน้ำตาไหลไม่หยุด

 

เมื่อไม่ได้สวมบทบาทอยู่ มู่ลี่ตัวน้อยก็กลับมามีอาการขี้อายแบบเดิม หลังจากที่เธอรักษาคนบาดเจ็บไปไม่กี่คน เธอก็ไม่สามารถเก็บความอายได้อีกต่อไป เธอได้รีบวิ่งมาซ่อนตัวอยู่ในกระเป๋าของพ่อของเธอทันที

 

แม้ว่าฉากในโลกแห่งความเป็นจริงจะไม่ถูกทําลาย แต่สตูดิโอในโลกของ ACG กลับเต็มไปด้วยความเสียหาย มันจึงจําเป็นต้องเรียกตัวช่างไม้บีเวอร์และลิงช่างหินมาทําการซ่อมแซมพวกมัน

 

ในระหว่างที่พวกเขากําลังรออยู่นั้น ก็ปรากฏเรือบินสีดําที่บ่งบอกถึงลางร้ายขึ้นในหมู่บ้านมินิลู่หัว ดูจากสภาพการณ์แล้วเรือเหาะลํานี้ดูจะไม่ใช้คนดีอะไรมากนัก

 

หลังจากที่เรือเหาะลงจอดเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้มีคนลึกลับสองคนที่แต่งตัวเหมือนเจ้านายจอมวายร้ายผู้ยิ่งใหญ่ในอนิเมะซึ่งทําให้เสี่ยฮวนประหม่าทันที แต่สําหรับโจวหยูแล้วพวกเขาเป็นเพียงคนสองคนเท่านั้นที่สูงน้อยกว่า 20 เซนติเมตร นอกจากนี้เขายังเห็นคนร้ายมากมายจากอนิเมะมามาก จึงไม่ได้มีอาการตกใจอะไรมากนัก

 

อย่างไรก็ตามพนักงานรวมไปถึงเซี่ยฮวนต่างก็มีใบหน้าที่จริงจังมาก เมื่อเห็นพวกเขาเป็นแบบนี้โจวหยูแทบจะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

 

“ผู้คนในเมืองแบล็กสตาร์ไม่ควรอยู่ที่นี่และต้องทนทุกข์ นี่คือค่าไถ่ที่พระเจ้าของข้าประทานให้ข้า ข้าหวังว่าพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด”

 

เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองได้จงใจพูดถึงพลังที่อยู่เบื้องหลังของตัวเอง

 

“ฮะ? มีค่าไถ่ตัวด้วย?”

 

ปฏิกิริยาแรกของโจวหยูคือการเอื้อมมือออกไปหยิบถุงดํานั้นขึ้นมาดู แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมนัก เขาไม่รู้ว่าการซื้อและขายนักโทษเป็นการกระทําที่ผิดกฎหมายหรือไม่? ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อต้องรับมือกับตัวละครเหล่านี้มันทําให้เขามีความรู้สึกแปลกๆอยู่เสมอ เขาไม่รู้ว่าถ้าเขาตอบปฏิเสธออกไปมันจะมีกองกําลังพิเศษกระโดดออกมาในวินาทีถัดไปและเล็งปืนไปที่หัวของพวกเขาตะโกนว่า “ถ้าไม่ส่งตัวคนของเราออกก็เตรียมตัวตายได้เลย!” แบบนี้ไหม?

 

แต่สิ่งสําคัญที่สุดในตอนนี้คือถ้าเขาปล่อยคนเหล่านั้นไป มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะกลับมาที่นี้และก่อนปัญหาแบบเดิมอีกครั้ง ซึ่งถ้ามันเป็นแบบนั้นมันจะทําให้เกิดปัญหาไม่สิ้นสุด

 

เมื่อคิดได้แบบนั้นโจวหยูจึงได้ค่อยๆขยับมือของเขากลับไปด้านหลัง จากนั้นก็กันไปทางเซี่ยฮวนและกระซิบอยู่พักหนึ่ง

 

“ไม่ต้องกังวล! ข้อตกลงประเภทนี้เป็นเรื่องปกติในโลกของเรา หลังจากเรื่องนี้จบลงก็จะไม่มีใครจะมารบกวนนายอีก ส่วนคนที่ได้ถูกไถ่ตัวไปเหล่านั้นก็จะกลายเป็นคนงานตลอดชีวิตของพวกเขาหรือจนกว่าพวกเขาจะหาเงินมาจ่ายให้เท่ากับค่าไถ่ตัวเองได้ ซึ่งวิธีอย่าหลังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นนายมั่นใจได้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่กลับมาสร้างปัญหาได้อีก”

 

ด้วยคําอธิบายของเซี่ยฮวนมันก็ทําให้โจวหยุไม่ต้องกังวลอีกต่อไป จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยเหล่าแฟนๆสุกบ้าคลั่งนี้ไปพร้อมกับรับเงินค่าไถ่มาอย่างมีความสุข

 

หลังจากการแลกเปลี่ยนเสร็จลง เขาก็ได้กลับมานับจํานวนเงินที่เขาได้รับจากเหตุการณ์นี้ สรุปว่านอกเหนือจากเงิน 500 เหรียญโมแล้ว เขายังได้รับรูปปั้นสุดยอดของเทพธิดาที่ล้มเหลวมาอีกด้วย

 

ด้วยผลประโยชน์ที่ได้รับนี้มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ เพียงแค่เขาจับคนร้ายเหล่านี้ได้อีกมากๆ ในอนาคตเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินใช้ ดังนั้นเขาจึงหวังให้คนเหล่านี้กลับมาที่นี้อีกครั้ง

 

ความหวังที่เป็นอยู่ในส่วนของความหวัง มันไม่สามารถเป็นจริงได้ ดังนั้นโจวหยูจึงได้เลิกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และหันมาสนใจเจ้ารูปปั้นที่ตัวเองถือแทน

 

ในตอนนี้เขาไม่สามารถเห็นค่าสถานะของมันได้ มันจําเป็นที่จะต้องให้นกอมตะเฒ่าทําการประเมินก่อน

 

รูปปั้นเทพธิดาที่ล้มเหลว: การตกแต่งในสตูดิโอ

 

เสน่ห์ความเป็นผู้หญิงของตัวละครหญิงทั้งหมด +10;

 

สําหรับตัวละครเซ็กซี่หรือฉากเซ็กซ์: + 10 คะแนนเซ็กซี่ + 10 คะแนนยั่วยวน;

 

เพิ่มเอฟเฟกต์แสงอ่อนโดยอัตโนมัติ

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ โจวหยูถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความประหลาดใจอย่างมาก

 

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเจ้ารูปปั้นนี้มันหยาบคายเกินไป ใบหน้าของมู่ลี่ตัวน้อยถึงกับแดงขึ้นมาทันทีที่เธอเห็นรูปปั้นอันนี้ เธอถึงกับวิ่งมาปิดตาของพ่อเธอทันที เพราะเธอไม่ต้องการให้พ่อของเธอเห็นสิ่งไม่ดีแบบนี้

 

ตรงกันข้ามกับเธอ พี่สาวอย่างนิ่งห้อยนั้นให้ความสนใจเข้ารูปปั้นนี้เป็นอย่างมาก เธอถึงกับไปสัมผัสกับมันโดยตรง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาไม่หยุด มันทําให้โจวหยูที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของลูกสาวคนนี้ขึ้นมา

 

“เจ้ารูปปั้นนี้ดูไร้ประโยชน์จริงๆ…อืม! แต่มันก็ยังคงมีประโยชน์เช่นกัน ฉันยังสามารถนํามันมาตกแต่งสตูดิโอได้ เนื่องจากมันเป็นงานศิลปะ … อืม … ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานศิลปะแนวผู้ใหญ่ แต่มันก็ยังถือว่าเป็นงานศิลปะใช่ไหม?”

 

ในช่วงบ่ายฉากที่ได้รับความเสียหายก็ได้รับการซ่อมเสร็จ และตั้งแต่นั้นมาการถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่มีอุบัติเหตุอีกต่อไป มันจึงทําให้การถ่ายทําเสร็จในช่วงปลายเดือนตามกําหนด

 

ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทําคะแนนได้ 7 คะแนน ซึ่งไม่ดีเท่ากับภาพยนตร์ก่อนหน้าอย่างโจรสลัดผลไม้ แต่มันก็มันก็มีความหมายที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโจวหยู เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มันเป็นผลงานชิ้นแรกที่เขาและนักแสดงจากหมู่บ้านมินิลู่หัวเป็นคนทําขึ้นมา

 

แม้แต่การถ่ายทําเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยความพยายามที่เขาทุ่มลงไปรวมไปถึงการสอนงานอย่างดีของคนจากบริษัทเซี่ยฮวน มันจึงทําให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สําเร็จลงได้ในที่สุด

 

แน่นอนว่าหลังจากนี้ก็คือคิวของงานเลี้ยงฉลอง ซึ่งมันเต็มไปด้วยก็เสียงเพลงและการเต้นรํา เซี่ยฮวนยังได้เชิญกลุ่มไอดอลหญิงมาแสดงในครั้งนี้ แน่นอนว่าด้วยสถานะทางการเงินในตอนนี้ของอีกฝ่าย กลุ่มนักร้องที่เชิญมานั้นไม่ใช้นักร้องระดับA แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ต่ำกว่าระดับC

 

โจวหยูเองที่ได้เห็นกลุ่มไอดอลหญิงกลุ่มนี้ มันก็เป็นเหมือนตัวจุดไฟในใจของเขาขึ้นมา เขาถึงกับสัญญากับตัวเองว่าในอนาคตเขาจะต้องมีกลุ่มไอดอลหญิงเป็นของตัวเองให้ได้

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงเรื่องการสร้างกลุ่มไอดอลหญิง มันก็ทําให้เขาอดคิดไปถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดมาไม่นานนี้ไม่ได้ มันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์กลุ่มแฟนๆบ้าคลั่งขึ้นมา ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เขาต้องรีบพัฒนาการป้องกันของหมู่บ้านให้เร็วที่สุด

 

“เฮ้อ! ทําไมความฝันนี้มันถึงมีอุปสรรคมากแบบนี้นะ?”

 

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku
Score 7.8
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง The Rise of Otaku เรื่องย่อย โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset