The Rise of Otaku – ตอนที่ 51

บทที่ 51 โรงเบียร์

การทำงานของคนในโลก ACG ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพมาก เพราะหลังจากทีมงานถ่ายทำเสร็จประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมาโจวหยูก็ได้รับจดหมายจากเซี่ยฮวนว่าซี่รี่เรื่อง “รักใส่ๆหัวใจวัยรุ่น” ถูกซื้อโดยสถานีโทรทัศน์ และในที่สุดบริษัทของเซี่ยฮวนก็รอดพ้นจากการล้มละลายมาได้ในที่สุด

สำหรับความช่วยเหลือของโจวหยูที่ผ่านมานั้น เซี่ยฮวนก็รู้สึกซาบซึ้งมาก นอกจากนี้เขายังได้แนบเหรียญโม จำนวน 2,000 เหรียญ เพื่อเป็นวิธีขอบคุณเขาสำหรับงานหนักในภาพยนตร์นี้

ในเวลาเดียวกันเขายังกล่าวด้วยว่าบริษัทของเขาจะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะทำให้นีเนียนเป็นดาราดัง แม้ว่าในอนาคตบริษัทจะสามารถรับสมัครไอดอลที่มีคุณภาพสูงขึ้น แต่บริษัทของเขาก็ยังคงดูแลนีเนียนอยู่ดี

‘เอาละ! นี่คือทั้งหมดที่พ่อสามารถทำเพื่อลูกชายได้’ โจวหยูที่ได้อ่านจดหมายนี้ก็รู้ว่าแผนการของตัวเองนั้นประสบความสำเร็จตามคาด

……………………………

บนพอร์ทัลของบริษัทเกมฉันโอตาคุเองก็มีโฆษณาเกมออนไลน์ใหม่ปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆในหน้าแรก สโลแกนของการโฆษณาคือ “รสชาติของพุดดิ้งถั่วเหลืองขึ้นอยู่กับคุณที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ”

หลังจากคลิกโฆษณาเข้าไป ผู้คนจะเห็นภาพตัดต่อของวิดีโอเกมเพลย์มี CG สั้นๆอยู่ในนั้น

“สงครามพุดดิ้งถั่วเหลืองมาเลือกฝ่ายของคุณ! ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหวานหรือฝ่ายเค็มกันเถอะ การต่อสู้ที่แท้จริงสำหรับรสชาติของพุดดิ้งถั่วเหลืองอยู่ในมือของคุณแล้ว! “

จากนั้นก็เป็นฉากของการรบทางอากาศ สงครามทางทะเล การทำสงครามภาคพื้นดิน ควบคู่ไปกับการตั้งค่าของตัวเกม มันจึงทำให้ผู้เล่นที่เห็นคลิปวิดีโอนี้ต่างก็สนใจในมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อมีคนเห็นทีมพัฒนาเป็นทีมที่ดีที่สุดของผู้สร้างเกมอย่างหมู่บ้านสงครามลู่หัวด้วยแล้ว จำนวนคนที่ติดตามเกมมากขึ้นเรื่อยๆ

มันเป็นความอัปยศที่เบต้าจริงปิดเป็นหนึ่งเดือนต่อมา ตอนนี้มันเป็นเพียงช่วงเวลาการโฆษณาเท่านั้น

ในส่วนของข้อมูลชุดแรกของคีย์ทดสอบเบต้าแบบปิดได้เต็มจำนวนอย่างรวดเร็ว นี้มันพิสูจน์ให้เห็นว่าความนิยมของทีมพัฒนาของลัทธิเต๋านั้นไม่ลดลงเลย และดูเหมือนว่าผู้เล่นจะไม่มีความขัดแย้งกับความคิดที่ว่าทีมพัฒนาเกมของลัทธิเต๋าอีกด้วย

ด้วยโอกาสนี้มันจึงทำให้จางเฟิงมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาถึงกับตัดสินใจที่จะเพิ่มการประชาสัมพันธ์และทำให้ทีมพัฒนาลัทธิเต๋ากลายเป็นที่นิยมทั้งในแวดวงเกมออฟไลน์และวงเกมออนไลน์

…………………………

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูฮันเชงเห็น “ภูเขาแห่งเพลิง” – ผลสืบเนื่องของอนิเมชั่นบนอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ เขาก็ได้หมกมุ่นกับมันจนไม่สนใจอย่างอื่น เขาถึงกับกระตุ้นให้ลูกศิษย์ของเขาทำการสืบค้นซ้ำๆ เพื่อค้นหาผู้สร้างภาพยนตร์โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นพวกเขาก็ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

ไม่ใช่ว่าลูกศิษย์ของเขาไม่ได้ทำงานหนัก แต่เพราะมันไม่มีข้อมูลการติดต่อของบริษัทผู้ผลิตในภาพยนตร์ – “ภูเขาแห่งเพลิง” และเขาไม่คุ้นเคยกับรายชื่อที่ปรากฏในรายการเครดิต

มีผู้คนมากมายในประเทศและผู้คนนับไม่ถ้วนที่มีชื่อคล้ายกัน มันจะต้องใช้เวลามากเกินไปถ้าพวกเขาต้องการตรวจสอบทุกคนตามรายชื่อพวกนั้น

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้ลองติดตามกลับไปยังแหล่งข้อมูลดั้งเดิมของตัวอนิเมชั่นนี้ ถึงยังงั้นพวกเขาก็ไม่สามารถหาอะไรเพิ่มจากเดินได้ นอกจากรู้ชื่อของผู้อัปโหลดว่า – ‘ลัทธิเต๋าที่นิยมเครื่องบิน’

เมื่อมันเหลือเพียงทางเลือกสุดท้าย ลูฮันเชงก็ได้กลับไปที่เว็บไซต์เพื่อค้นหาไอดี ‘ลัทธิเต๋าที่นิยมเครื่องบิน’ อย่างไรก็ตามหลังจากมีการรายงานไอดีไปก่อนหน้า มันจึงทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนจะหายไป  และไม่ว่าเขาจะติดต่อผู้อัปโหลดได้

ดูเหมือนว่าอนิเมชั่นยอดเยี่ยมเรื่องนี้ – “ภูเขาแห่งเพลิง” ดูเหมือนจะเป็นปริศนาที่ไม่สามารถแก้ไขได้

…………………………

กลับมาทางด้านของโจวหยู ตอนนี้เขารู้สึกรำคาญมาก สาเหตุก็มาจากที่มีอาคารขนาดเล็กจำนวนมากในสนามหญ้าบ้านของเขา

หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำละครโทรทัศน์ ทีมงานก็จากไปทันทีโดยที่พวกเขาได้ปล่อยให้อุปกรณ์ประกอบฉากพวกนี้ให้โจวหยูจัดการอีกที มันจึงทำให้ตอนนี้มีโมเดลอย่างโรงเรียนรวมถึงถนนการค้าและย่านที่อยู่อาศัย ฯลฯ

พวกมันมีขนาดใหญ่เกินไป จึงทำให้การนำพวกมันไปไว้ในเรือนกระจกดูจะไม่เหมาะ นอกจากนี้พวกมันไม่ใช่อาคารที่จะให้เอฟเฟคพิเศษอะไร

ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องถูกย้ายพวกมันเข้าไปในเรือนกระจก และดูเหมือนว่ากลุ่มเด็กๆเองก็ดูจะชอบพวกมันมาก เพราะหลังจากที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้สัมผัสพวกโมเดลได้ พวกเขาก็ปรากฏตัวในบ้านของโจวหยูตลอดทั้งวัน

แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหนูโจวเฮานั้นจะมีความคิดที่พิเรนบางอย่าง ด้วยที่เจ้าตัวได้นำกล่องสีเหลี่ยมมาใช้แทนกล้องถ่ายละคร จากนั้นเขาและเหล่าลูกสมุนต่างก็ได้ใช้ตัวโมเดลของโจวหยูเป็นฉากถ่ายละคร

อาจจะเป็นเพราะพวกเด็กๆติดอนิเมชั่นอย่างฟอซ่ามากเกินไป มันจึงทำให้เนื้อเรื่องที่พวกเขาเล่นนั้นต่างก็เต็มไปด้วยตัวละครและฉากในอนิเมชั่นเกือบหมด แต่ก็มีที่แตกต่างเช่นกันนั้นคือชุดสำหรับสัตว์ประหลาดตัวน้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเด็กๆที่จะหามันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่งตัวเหมือนกับสิงโตและเสือแทน

เมื่อโจวหยูเห็นแบบนั้นก็ได้เกิดความคิดเกี่ยวกับการถ่ายทำหนังเอ็กชั่นขึ้นมา โดยที่มันจำเป็นจะต้องทำลายโมเดลอาคารเหล่านั้นทั้งหมดในระหว่างการถ่ายทำทุกครั้ง ยังไงก็ตามข้อเสนอนี้ได้ถูกปฏิเสธโดยพวกเด็กทุกคน แม้แต่เจ้าหนูน้อยโจวเฮาเองก็รู้สึกว่าน่าเสียดายที่จะต้องทำลายโรงเรียนที่สวยงามแห่งนี้

ข่าวเรื่องที่โจวหยูกำลังมีปัญหาในการจัดเก็บพวกโมเดลต่างๆ ก็ได้ลอยไปถึงหูของหลี่ฮันเซิงจนได้ อีกฝ่ายได้มาที่บ้านของโจวหยูเป็นพิเศษ หลังจากที่งานสร้างบ้านใหม่ของลุงโจวเสร็จสิ้น

ก่อนหน้านี้เขาต้องการซื้อแบบจำลองอาคารเช่นวิหารลัทธิเต๋าจากโจวหยู อย่างไรก็ตามเขาได้ถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาดโดยอีกฝ่าย มาตอนนี้เขากลับมีโอกาสที่ดีแบบนี้ เขาจึงไม่มีทางที่จะพลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอน

ยิ่งเมื่อเขามองดูโมเดลนี้ใกล้ๆ มันก็ยิ่งทำให้เขาหลงใหลมากขึ้น โดยการออกแบบที่สมบูรณ์และรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถบอกได้เลยว่านี้เป็นงานฝีมือที่ไม่มีใครสามารถทำได้มาก่อน

………..

หลังจากที่ปัญหาของโมเดลประกอบฉากถูกจัดการแล้ว โจวหยูก็ได้ไปตกปลาที่ริมแม่น้ำตามปกติ เขายังสามารถเห็นเจ้าชายมังกรองค์ที่สามที่ลอยอยู่บนแม่น้ำเหมือนศพ

อาจจะเป็นเพราะอีกฝ่ายคุ้นเคยกับทะเลที่เต็มไปลมและคลื่นแรงๆ การที่ต้องมาติดอยู่ในแม่น้ำสายนี้มันจึงทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่พอใจ

โจวหยูยังสังเกตเห็นว่าเจ้าชายมังกรที่สามนั้นลอยตัวบนน้ำตลอดทั้งวัน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามจับพวกกุ้งปูมาเป็นลูกน้อง แต่มันก็ยังทำให้เขาดูไม่มีความสุขอยู่ดี

เหตุการณ์นี้มันกับเป็นสิ่งที่ยืนว่าเจ้าชายมังกรที่สามนั้นไม่พอใจต่อสภาพแวดล้อมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็วๆนี้เขาถึงกับพึมพำออกมาอย่างต่อเนื่องว่าตัวเองนั้นได้พลาดวันโต้คลื่นในทะเลไป

อย่างไรก็ตามโจวหยูก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้วิธีจะสร้างทะเลขึ้นมาได้มาก่อน ถ้าเกิดว่าเจ้าชายมังกรอ้วนตัวนี้ทนไม่ไหวจริงๆ เขาคงต้องหาเวลาไปเที่ยวทะเลเป็นระยะ

แต่เมื่อพูดถึงความไม่พอใจต่อสภาพแวดล้อมแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนอีกคนที่ไม่พอใจเช่นกัน นั้นก็คือชายขี้เมาเฒ่า แม้ว่าเจ้าตัวจะยังคงถูกเสิร์ฟด้วยไวน์แดงหนึ่งขวดทุกวัน แต่ดูเหมือนว่าเจ้านายคนนี้ก็ยังดูไม่มีความสุขเลย เขาถึงกับบ่นว่าไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ในอากาศ

‘กลิ่นตูดของฉันนี้! คิดว่านี่เป็นสวรรค์สำหรับแอลกอฮอล์หรือไง? เมื่อก่อนตอนที่ในหมู่บ้านเล็กๆเขายังสามารถอยู่กับแอลกอฮอล์ที่ถูกที่สุดอย่าง – เบียร์ได้ทุกวัน แล้วมาทำไมตอนนี้เขาที่ได้ดื่มไวน์แดงทุกวัน ถึงยังบ่นอยู่อีก?  ‘

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถรีบเร่งได้ เพราะเจ้าตู้ขายอัตโนมัติหยอดเหรียญสามารถรีเฟรชบ้านได้ 10 หลังทุกวัน และทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคเท่านั้น

เรื่องเงินเองเขาก็ได้เตรียมเอาไว้พร้อมแล้วเช่นกัน ด้วยเหรียญโมที่ได้รับจากครั้งที่แล้วถึง 2,000 เหรียญ มันก็เพียงพอแล้ว

ด้วยการกระตุ้นและการตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่องของชายขี้เมาเฒ่า มันจึงทำให้โจวหยูลุกออกไปตรวจสอบตู้อัตโนมัติอย่างช่วยไม่ได้

‘เฮ้! วันนี้โชคไม่เลวเลย! ในที่สุดก็มีโรงเบียร์ออกมาจนได้ ‘

เขารีบส่งพิมพ์เขียวที่เขาซื้อให้กับช่างไม้บีเวอร์และลิงช่างหินทันที ส่วนค่าใช้จ่ายในการจ้างงานทั้งสองคนเองก็ถูกเพิ่มขึ้น 50% แต่เงินที่เขาใช้ไปนั้นคุ้มค่า เพราะเวลาในการก่อสร้างได้ลดลงครึ่งหนึ่งและคุณภาพของอาคารดีกว่าเมื่อก่อนมาก

ในวันถัดไป ‘เขตอุตสาหกรรม’ ของหมู่บ้านมินิลู่หัวก็ได้มีอาคารหลังใหม่ – โรงเบียร์ ปรากฏขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อเสร็จสิ้นการสร้างโรงเบียร์ สถานะของโรงเบียร์ก็ยังคงแสดงให้เห็นว่า “ไม่ทำงาน” เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะตอนนี้มันไม่มีวัตถุดิบนั้นเอง

หมู่บ้านมินิลู่หัวในตอนนี้มีพื้นที่สำหรับตกปลาและพื้นที่สำหรับปลูกดอกไม้ แม้กระทั่งเหมืองแร่ก็มีด้วยเช่นกัน สิ่งเดียวที่ขาดหายไปคือการทำฟาร์ม

จอบที่โจวหยูเป็นเจ้าของอยู่ในปัจจุบันคือจอบดอกไม้และจอบแบบสมุนไพร พวกมันสามารถใช้เพื่อปลูกเมล็ดพันธุ์ดอกไม้หรือสมุนไพรได้ อย่างไรก็ตามพวกมันไม่ได้มีเอฟเฟคที่ใช้ในการปลูกพืชได้ นอกจากนี้โจวหยูยังไม่ได้รับเมล็ดพืชใดๆอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงคิดเสมอว่าไม่มีเกษตรกรรมในโลก ACG

ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าความคิดของเขาจะผิด มันก็แค่เขายังไม่ได้เปิดฟังก์ชั่นเกษตรกรรมก็เท่านั้น

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku
Score 7.8
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง The Rise of Otaku เรื่องย่อย โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset