ตอนที่22 นี่คือความคืบหน้าไง! เจ้าก้อนแป้ง!
เมื่อเล็กซี่กลับมาถึงบ้าน เธอก็มุ่งตรงไปที่ห้องทำงานของพ่อทันที เธอเคาะประตู แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยบอก พ่อของเธอก็ตอบกลับมา ราวกับว่ารอให้เธอมาหา
” เข้ามาสิ ” จากด้านในห้อง เธอได้ยินเสียงพ่อของเธอตอบ ซึ่งเธอก็เข้ามาในห้องทำงานทันที ที่นั่นเธอเห็นพ่อของเธอกำลังดูกองเอกสาร ซึ่งเธอมั่นใจว่ามันต้องเกี่ยวกับปัญหาบริษัท ของพวกเขา
” กลับมาแล้วเหรอ ” เมื่อเห็นลูกสาวที่สง่างามของเขา เขาก็ถาม
เล็กซี่ก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพจากนั้น เธอก็ตอบอย่างสงบนิ่ง ” ค่ะ “
พ่อหยางหยุดงานในมือตนเอง เขาลุกจากโต๊ะทำงานและก้าวไปที่ชุดโซฟา แล้วก็ทำท่าบอกให้ลูกสาวมานั่ง เมื่อทั้งคู่พ่อลูกเผชิญหน้ากัน เล็กซี่ไม่อ้อมค้อม เธอพูดสิ่งที่เธอคิดออกมา
“ พวกเราจะได้รับเชิญไปงานเลี้ยงตระกูลเยว่หรือเปล่าคะ? ”
คำถามแรกของเธอทำให้พ่อหยางขมวดคิ้วด้วยความสับสน แต่เมื่อได้เห็นสายตาที่กระตือรือร้นของเล็กซี่ เขาก็ตอบอย่างตรงไปตรงมา ” พ่อได้รับคำเชิญแล้ว “
” พวกเขาเชิญพวกเราทั้งครอบครัวหรือเปล่าคะ? ” ดวงตาของเล็กซี่เปร่งประกาย แม้ว่าเร็นจะเชิญเธอเอง แต่อนิจจา เธอต้องการยืนยันว่าตระกูลหยางได้รับเชิญหรือไม่ ในกรณีนี้เธอไม่อยากใช้อิทธิพลของคนอื่น เธออยากจะไปงานเลี้ยงในฐานะคนตระกูลหยางอย่างภาคภูมิใจ ไม่ใช่ได้รับการช่วยเหลือจากเร็น
“ พ่อไม่ได้คิดที่จะให้ใครหรือพวกเราไปงานเลี้ยงตระกูลเยว่หรอกนะ ” หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เฟรดเดอริคหยางก็ส่ายหัวเล็กน้อย ซึ่งทำให้เล็กซี่ย่นคิ้ว
” ทำไมล่ะคะ ได้ยินมาว่าตอนนี้ตระกูลเยว่ กำลังก้าวหน้าขึ้นและมีความสัมพันธ์กับผู้คนมากมาย หากเราไปที่นั่นเราอาจจะได้พบนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทของเรา และอาจจะช่วยบริษัทของเราได้”
“ เล็กซี่…ลูกรักของพ่อ พ่อรู้ แต่นี่มันคือตระกูลเยว่ ”
“ อะไรกัน หนูไม่เข้าใจ … ”
” เล็กซี่ ลูกไม่เข้าใจหรอก แม้ว่าพ่อจะอธิบายให้ลูกฟังก็ตาม ” สายตาที่อ่อนโยนของพ่อหยางมองไปที่ดวงตาที่สับสนและงุนงงของเล็กซี่ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เข้าใจเหตุผลของพ่อของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเฟรดเดอริคจะไม่ยอมพูดชี้แจงใด ๆ
“ พ่อคะ หนูไม่รู้เหตุผลเบื้องหลังกับการปฏิเสธของพ่อ แต่ตอนนี้… บริษัทของเราใกล้จะล้มละลาย และมันเป็นความผิดของหนูตั้งแต่แรกที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และมอรริส…เขาไม่ต้องการช่วยเราจริงๆหรอกค่ะ .. ความตั้งใจจริงของเขาคือกลืนกินตระกูลหยาง พ่อก็รู้ดี” เล็กซี่หลับตาลง และเปิดตาขึ้นอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
แม้ว่าเธอจะรักและยังคงมีเยื้อใยให้กับมอริส อนิจจาการฆ่าตัวตาย ความขุ่นเคืองและฉากที่พ่อของเธอโดนกดดันจากมอริส เธอจะลืมได้อย่างไรว่าสาเหตุที่พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เป็นเพราะตัวเธอเอง เพราะความรักไร้เดียงสาของเธอ
ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เล็กซี่ต้องการปลดปล่อยตัวเองและครอบครัวให้เป็นอิสระจากมอริส ยิ่งไปกว่านั้น เธอสาบานกับตัวเองไว้ว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและมีความสุข เพื่อการนั้น เธอจำเป็นต้องยุติมันด้วยการวางแผนให้เร็นและมอริสได้เจอกัน ท้ายที่สุดแล้วการได้พบทานากะ แม้ว่าจะไม่ใช่ในเชิงธุรกิจแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะผู้ชายคนนี้กำลังฮอตมากในวงการธุรกิจ
ด้วยความมุ่งมั่นเธอ และเขารู้เหตุผลว่าทำไมเล็กซี่ถึงดันทุรังที่จะทำ เฟรดเดอริคจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างหนัก เขาสั่นศีรษะด้วยความพ่ายแพ้และเอ่ยออกมา
” ก็ได้ “
“ ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ หนูจะไม่ทำให้ตระกูลหยางของพวกเราต้องอับอายอีกแล้ว ” เล็กซี่ยิ้มแสดงความดีใจกับการตัดสินใจของพ่อ แม้ว่าเธอจะเคยทำให้ตัวเองอับอายด้วยการไล่ตามมอริสหลิวในอดีตอย่างไม่ลดละ แต่เธอก็ยังคงมีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเอง
หลังจากการสนทนากับพ่อของเธอ เล็กซี่ก็ขอตัวไปพักผ่อน ในห้องของเธอ เล็กซี่ไม่สามารถกักเก็บความสุขของเธอได้อีกต่อไป เธอกระโดดไปมาอย่างปลดปล่อย ราวกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ
“ เอ่ออ…ชู ” ชูรูที่อยู่ด้านข้างเห็นการกระทำที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเธอ หญิงสาวที่มีความซับซ้อนและไว้ตัวคนนั้น เธออดไม่ได้ที่จะเกาแก้มนุ่ม ๆ ของตัวเอง
” อะไรเหรอ? “
“ ดูไม่เหมือนคุณเลยชู ” ชูรูพูดอย่างเชื่องช้าหลังจากครุ่นคิดว่าเธอควรจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจของเธอหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็ยังคงพูดอย่างห้วนๆอยู่ดี
“ฉันรู้ แต่ขอให้ฉันมีความสุขในตอนนี้ได้ไหม นี่คือความคืบหน้าเลยนะ เจ้าก้อนแป้ง ” เล็กซี่ที่ดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งที่ชูรูพูด และยิ้มให้เธออย่างสดใส เนื่องจากเล็กซี่พลังจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังได้รับผลกระทบจากชูรู ทำให้เธอเรียกร้องการเฉลิมฉลอง
“ เอาล่ะ…ถึงเวลามาส์กหน้าแล้วนะชู!”