ตอนที่26 เล็กซี่ขณะเดินทาง
สองวันผ่านไป และนี่เป็นคืนงานเลี้ยงของตระกูลเยว่ เมื่อมองไปที่ชุดคัสของเธอแล้ว เล็กซี่ก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ เธอสวมชุดหรูหราแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นที่ดูหรูหราและมีระดับ
เนื้อผ้าพันรอบร่างเล็กของเธอ แม้ว่าองศาโค้งงอที่ถูกรัดไปตามสรีระแสดงให้เห็นรูปร่างอย่างชัดเจนของเธอ ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่เผยให้เห็นผิวของเธอมากนัก นอกจากรอยแหวกถึงครึ่งขาของเธอ ที่เผยออกมาเพียงวับ ๆแวม ๆ ราวกับว่ากำลังหยอกล้อและซ่อนสิ่งล่อใจไว้ภายในชุดที่สวยงาม
โดยรวมแล้ว ผมที่ม้วนงอคลอเคลียที่ไหล่บางและพาดไปด้านหลังของเธอ ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งถูกดึงไว้ที่หลังใบหูแสดงให้เห็นต่างหูที่เรียบง่ายแต่ดูแพงและสะดุดตา เล็กซี่ไม่ลืมที่จะสวมใส่เครื่องประดับที่เรียบง่าย แต่หรูหราที่เข้ากับเครื่องแต่งกายของเธอทำให้เธอดูฉลาดและเหนือกว่า
เมื่อรู้ถึงพื้นฐานของการพบปะสังสรรค์ทุกครั้ง เล็กซี่มั่นใจว่าผู้เข้าร่วมงานที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้โดดเด่นด้วยการสวมเครื่องประดับที่มีราคาแพงแต่ดูไม่เด่น และชุดแบบที่เธอบอกนั้น ความจริงแล้วเธอก็เคยใส่แบบนั้นในช่วงที่เธออายุยังน้อย..ตามกระแสนิยมน่ะนะ
ดังนั้นเมื่อรู้ถึงความแตกต่าง เล็กซี่จึงมั่นใจว่าแม้ว่าเธอจะไม่ได้พยายามมากขนาดนั้น แต่กลิ่นอายและสไตล์ของเธอ ก็ทำให้เธอดูเด่นกว่าคนทั่วไป
“ คุณดูสวยมากเลยนะชู!” ดวงตาของชูรูส่องสว่างกว่าดวงจันทร์ในตอนกลางคืนเสียอีกเมื่อมองไปที่เครื่องแต่งกายของเล็กซี่ แน่นอนว่าเล็กซี่ไม่เคยพลาดที่จะประหลาดใจกับเกี๊ยวตัวน้อยด้วยเครื่องแต่งกายที่คิดมาอย่างดีของเจ้าตัว
เมื่อมองไปที่เกี๊ยวน้อยแสนแวววาว เล็กซี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกเหนื่อยใจกับเธอ เธอถอนหายใจ ” เธอทำแบบที่นางฟ้าปกติทำไม่ได้เหรอ เช่นร่ายเวทย์มนต์และเสกชุดอะไรแบบนั้น? ” แม้ว่าสิ่งที่เธอบอกจะฟังดูงี่เง่า แต่พระเจ้าก็รู้ดีว่าเล็กซี่ต้องการตามใจเกี๊ยวตัวน้อยมากแค่ไหน
โดยไม่คำนึงถึงอารมณ์บูดบึ้งของเล็กซี่ ชูรูก็ยังคงรักษาความมีชีวิตชีวาของเธอเอาไว้ “สบายดีมากชู ~! พอฉันวิวัฒนาการแล้ว บางทีฉันอาจจะแต่งตัวได้ด้วยนะชู ~!” การมีความคิดเชิงบวกสำหรับชูรู มันคือความคิดที่มีค่าต่อเล็กซี่ ท้ายที่สุดมีเพียงเล็กซี่เท่านั้นที่สามารถมองเห็นและได้ยินเธอได้ แม้ว่าเธอจะแต่งตัวหรือไม่ก็ตามก็ไม่มีใครประทับใจนอกจากเล็กซี่
“ เอาล่ะ…” เล็กซี่ถอนหายใจอย่างระอา ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเงินใบหรูของเธอและเตรียมออกสู่สนามรบ
—-
[โรงแรม สปาร์คกิ้ง ]
เมื่อเล็กซี่มาถึงสถานที่ดังกล่าวเธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเกี่ยวกับจำนวนผู้เคนที่ข้าร่วมนับไม่ถ้วน ไม่เพียงแต่มีผู้ประกอบการธุรกิจเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าแม้แต่พนักงานของ เยว่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็มไพรส์ ก็ได้รับเชิญเช่นกัน
โดยปกติแล้ว งานสังสรรค์ประเภทนี้จะมีเพียงคนสำคัญเท่านั้นที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน อย่างไรก็ตามด้วยขนาดสถานที่ที่ไม่ดูแออัดในห้องโถงจัดงานขนาดใหญ่ เล็กซี่สามารถคาดเดาได้โดยไม่ต้องออกแรงคิดมากว่าแขกส่วนใหญ่เป็นพนักงาน
เนื่องจากเธอมาตรงเวลา และงานยังไม่เริ่ม แต่เธอก็ได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่สองสามคนแล้ว ราชินีมัลติมีเดีย มาร์ก้า เยว่ รวมถึงตัวเต็งหน้าใหม่แห่งปีอย่าง นาดีน และคนอื่น ๆ ที่คุ้นเคยเช่น เช่อเตียหยู หนึ่งในนั้นก็มี ซีอีโอถัง ที่มีบุคคลทางธุรกิจที่มีอิทธิพล และอื่น ๆ อีกมากมาย
แม้จะเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยมากกว่าที่เธอคาดไว้ แต่เล็กซี่ก็ยังเชิดคางของเธอไว้สูง ต่อให้เรื่องอื้อฉาวของเธอจะเรื่องลือแค่ไหนก็ตาม เธอต้องรักษาหน้าให้คงที่ไม่หวั่นไหว เมื่อมาถึงที่นั่งที่ถูกจัดไว้ให้แล้ว ก็มีนาดีน หญิงสาวที่เพิ่งได้รับความสนใจในวงการบันเทิงเมื่อไม่นานมานี้ นาดีนก้มศีรษะทักทายเธออยางสุภาพ
” สวัสดีค่ะรุ่นพี่หยาง ” ภาพลักษณ์ที่อ่อนน้อมถ่อมตนของนาดีนคือสิ่งที่เป็นที่รู้กันดี ทำให้คิ้วของเล็กซี่โค้งขึ้นด้วยความระมัดระวัง ว่าเธอเป็นศัตรูหรือเป็นแค่ศิลปินรุ่นน้อง เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อภาพที่แสดงต่อที่สาธารณะ ไม่ว่าเล็กซี่จะคิดอย่างไรก็ตาม แต่เธอก็ยิ้มตอบกลับไป
” สวัสดีเช่นกันค่ะ ” เล็กซี่ตอบ อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อดวงตาของนาดีนเป็นประกายหลังจากที่เล็กซี่ทักทายเธอกลับ ราวกับว่าไอดอลของเธอรับทราบการมีอยู่ของเธอในที่สุด
“ แฮะๆ ฉันไม่รู้จักใครที่นี่เลยค่ะ ดีใจจริง ๆที่รุ่นพี่หยางก็มางานนี้ด้วยเหมือนกัน แล้วเรายังได้นั่งโต๊ะเดียวกันด้วย ” นาดีนตอบเธอด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เนื่องจากทานากะเร็นไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ เล็กซี่จึงคุยกับนาดีนและค่อย ๆลดการป้องกันลง
เพียงไม่นาน ต่อมาความสนใจของเล็กซี่และนาดีน ก็ถูกดึงดูดด้วยความสับสนวุ่นวายที่อยู่ไม่ไกลนัก เมื่อเห็นว่ามันคือ เช่อเตียหยู ที่ทำให้เกิดฉากดังกล่าว ซึ่งเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคนรอบข้างที่อยู่ใกล้ๆเธอ