ตอนที่37 มาเป็นเพื่อนกันเถอะ
อีธานลู่ลืมตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อมอง เขาเห็นเล็กซี่ที่กำลังหัวเราะคิกคักซึ่งพยายามกลั้นหัวเราะด้วยการใช้มือปิดริมฝีปากของเธอ ตอนแรกเขารู้สึกตกใจเล็กน้อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นปฏิกิริยาที่แปลกออกไปจากเธอ
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะตลอดงานเลี้ยงที่ผ่านมานั้น อีธานรู้ว่านั่นคือรอยยิ้มทางธุรกิจของเธอ แต่ตอนนี้คนตรงหน้าเขานั้นแตกต่างออกไป เล็กซี่เหมือนละทิ้งภาพลักษณ์หยิ่งทะนงและสุขุมไว้ แต่ยังคงความสง่างามอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ราวกับว่าความงามของเธอเปล่งประกายในช่วงเวลาสั้นๆ และทำให้เขาตกตะลึง
อีธานลู่ยิ้มออกมาจากภวังค์ของเขา “ คุณหนูหยาง ผมรู้ว่าผมทำให้คุณขุ่นเคืองในวันนี้และผมก็เสียใจกับเรื่องนั้นจริงๆ”
” ประธานลู่ ฉันขอขอบคุณสำหรับคำขอโทษของคุณนะคะ แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ” หลังจากปรับท่าทางของเธอใหม่แล้ว เล็กซี่หันกลับมาที่ด้านหน้าของเธออีกครั้ง อนิจจาตอนนี้เธอไม่ปฏิเสธเขาอย่างที่เคยเป็น ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เธอรู้สึกไม่พอใจ เล็กซี่จึงไม่ดื้อรั้นที่จะไม่ยอมรับคำขอโทษอย่างจริงใจจากใครบางคน สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องยากที่จะเห็นคนที่อยู่ในจุดที่ไม่จำเป็นต้องขอโทษใครแล้วจะยอมรับความผิดของพวกเขาเอง
เธอรู้ดีเลยล่ะ เพราะเธอเองก็เคยมีมุมมองแบบนี้มาก่อนในตอนที่ยังเป็นเด็ก อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเติบโตขึ้น ด้วยการบ่มเพาะของครอบครัวอย่างดี ความคิดเธอก็เปลี่ยนไปทีละนิด แต่สาเหตหนึ่งที่ทำให้พ่อแม่ของเธอผิดหวังอย่างมาก คงเป็นการที่เธอลืมสิ่งที่พวกท่านพร่ำสอน ด้วยตาที่มืดบอดจากรักข้างเดียว
“ไม่ คือผม – คุณรู้ไหมคุณหนูหยาง ผมต้องการเริ่มต้นอย่างถูกต้อง “
“ฮะ?”
” มาเป็นเพื่อนกันเถอะ ” อีธานลู่ประกาศอย่างไม่อ้อมค้อม อันที่จริงความรู้สึกจากการรู้จักกันในระยะเวลาสั้น ๆ ที่เขามีกับเล็กซี่ ความนับถือของอีธานที่มีต่อผู้หญิงตรงหน้าค่อยๆเพิ่มขึ้นราวกับรอยขีดข่วนที่ละนิด ทั้งที่เขาก็ไม่ได้หวังอะไรจากเธอเช่นนี้
ในการพบกันครั้งแรก เขาพาเล็กซี่พร้อมกับเขาไปที่ห้องทำงานของมอริสหลิว เพียงเพื่อความบันเทิงและยังรบกวนเพื่อนของเขาด้วย เขารู้แค่ว่าเล็กซี่เป็นเด็กเอาแต่ใจที่ทำทุกอย่างที่เธอต้องการโดยไม่ใช้หัวคิด แต่ที่น่าแปลกใจคือเขาคาดหวังว่าเธอจะทำให้เกิดความโกลาหลในวันนั้น แต่กลับกลายเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
เธอไม่ใช่คนที่จะแพ้ในสงคราม เธอรู้ว่าเมื่อไรควรหยุดและเมื่อใดควรยอมรับความพ่ายแพ้ เธอเป็นผู้ใหญ่และไม่ใช่เด็กสาวที่เลวร้ายอย่างที่ข่าวลือพูดกัน อีธานที่เคยพัวพันมากับคุณหนูมาหลายคน ด้วยเหตุนี้เขาถึงคิดว่าเธอก็คงจะเป็นเหมือนกัน
ดังนั้นเพื่อเปิดเผยด้านที่แท้จริงของเล็กซี่ เขาจึงขอให้เธอไปกินข้าวข้างนอกกับเขา เนื่องจากเขารู้ดีเกี่ยวกับความคิดของคนรวยทั่วไป เขาจึงจงใจพาเธอไปที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เขาชื่นชอบ ด้วยความคาดหวังว่าเธอจะเข้าสู่โหมดสัตว์ร้ายอย่างเต็มตัว
อนิจจา อีธานแปลกใจ แม้ว่าเธอจะแสดงท่าทีไม่เต็มใจในตอนแรก แต่จริงๆแล้วเล็กซี่กลับชอบบะหมี่สไตล์โฮมเมดที่ไม่สามารถเทียบได้กับเชฟชั้นนำที่ปรุงให้เธอ มีอะไรอีกนะ? เขาเห็นเธอกลับไปที่นั่นคนเดียว และเพลิดเพลินกับอาหารที่เขาแนะนำให้เธอรู้จักอย่างแท้จริง
ซึ่งทำให้เขาสนใจในตัวอดีตคู่หมั้นของเพื่อนสนิทของเขาขึ้นมาอีก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมอริสจึงรู้สึกกังวลกับการมีอยู่ของเธอ ในความคิดของเขาเล็กซี่ไม่ได้แย่อะไร ซ้ำด้วยสถานะทางสังคมก็ดีและการศึกษาที่ไม่ด้อย หรือเขาอาจจะไม่เข้าใจกระบวนการคิดของเพื่อน
สิ่งที่เขาอยากทำตอนนี้คือเป็นเพื่อนกับเล็กซี่… ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
” เพื่อนเหรอคะ ประธานลู่ฉันไม่คิดว่า -“
“ อีธาน ” โดยไม่ปล่อยให้เธอปฏิเสธต่อไป อีธานก็ขัดจังหวะเธอด้วยรอยยิ้ม อนิจจา รอยยิ้มของเขาค่อยๆหายไปในขณะที่เขามองไปข้างหลังเธอ
” เอ่อ นี่มันออกจะ-” อีกครั้งคำพูดของเล็กซี่ถูกขัดจังหวะอย่างแรง ในวินาทีถัดมาขณะที่อีธานดึงและหมุนตัวเธออย่างกะทันหัน ตอนนี้หลังของเล็กซี่จึงเอนไปกับด้านข้างของรถที่จอดอยู่ ในขณะที่อีธานปิดบังหน้าเธอพร้อมกับวางมือทั้งสองข้างของเธอไว้
” นี่มันอะไร –!”
“ ชู่ว…ใจเย็น แปปเดียวนะ” อีธานที่มีสีหน้าตกใจและวิตกกังวลเล็กน้อยทำให้เธอเงียบลง ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอจึงยืนอยู่นิ่งๆ เมื่อเล็กซี่สงบลงอีธานก็จ้องมองผ่านด้านบนของรถและเห็นร่างบางคนที่ซ่อนปืนไว้ที่หลังของพวกเขา ทันใดนั้นเขาก็ละสายตาจากกลุ่มที่ไม่รู้จักพวกนั้นทันทีขณะที่ชายคนหนึ่งหันมาสนใจพวกเขา
เมื่อเห็นว่ามีสองคนคู่รักที่ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุข พวกเขาก็ไม่สนใจพวกเขาอีก
” รถของคุณอยู่ที่ไหน ” อีธานกระซิบกับเล็กซี่ที่ยังคงสับสนเล็กน้อยกับคำพูดที่ผิดปกติของเขา เมื่อได้ยินคำถามของเขา เล็กซี่ก็เงยหน้าขึ้นและพูดไม่ออก ด้วยระยะห่างขนาดครึ่งฝ่ามือระหว่างใบหน้าของพวกเขา หากคนใดคนหนึ่งขยับมาข้างหน้าโดยประมาท ริมฝีปากของพวกเขาก็คงจะบรรจบกันอย่างแน่นอน
ริมฝีปากล่างของเธอสั่นระริกขณะที่เธอพูดติดอ่างและชี้ทิศทางไปที่รถของเธอจอดอยู่ “อะ – ถัดไปอีกช่องนึง “
อีธานพยักหน้าก่อนที่จะหันกลับไปมองกลุ่มคนที่ดูอันตราย เขารอให้คนกลุ่มนั้นเดินออกไปไกลจากพวกเขาให้นานกว่านี้ ก่อนที่เขาจะจับมือของเล็กซี่อย่างไม่คิดอะไรและลากเธอไปที่รถของเธอราวกับว่าชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับมัน
” ไปกันเถอะ “
เมื่อไปถึงที่รถเช่นเดียวกัน อีธานที่คิดว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ต้องตัวแข็งกับภาพตรงหน้า เมื่อเห็นว่ารถตู้ข้างรถของเล็กซี่มีร่างที่หมดสตินอนอยู่บนพื้นคอนกรีต โดยมีชายสามคนคนกำลังเคลื่อนย้ายเขาเข้าไปข้างในรถ แม้ว่าดูเหมือนร่างที่อยู่ตรงนั้นยังไม่ตาย แต่ก็ยังทำให้เล็กซี่ตกใจแทบสติแตก