เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะถามกับเลขาไป๋ว่า
“แล้วงานประมูลที่ว่านั่นจัดที่ไหนงั้นเหรอครับ ?”
เลขาไป๋มองไปที่เอกสารเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ
“ดูเหมือนจะจัดที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาอะนะ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
“อา ~ ประเทศแห่งเสรีภาพ”
เลขาไป๋ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“งานประมูลจะจัดขึ้นในอีกสามวันต่อมาจากนี้ เอาเป็นว่าเธอกลับไปเตรียมตัวก่อนก็แล้วกัน แล้วอีกสามวันมาเจอกันที่ฐาน อย่าลืมเอาเอกสารพวกนั้นไปอ่านด้วยล่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
เทียนหลางพูดก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเอกสารข้อมูลของภารกิจและออกจากห้องไป หลังจากเทียนหลางออกไปนายทหารที่เคยอยู่เฉยๆมานานก็ได้หันมาถามกับเลขาไป๋
“มั่นใจเหรอที่จะให้เขาทำทั้งหมดนั่นคนเดียว ?”
เลขาไป๋ที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า
“แน่นอนครับ เขาคือมือหนึ่งของหน่วยเรา”
นายหทารคนนั้นได้ยินคำยืนยันของเลขาไป๋เขาก็พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เอาเป็นว่าเดียวผมจะไปรายงานท่าน ผบ. ให้เตรียมการสนับสนุนทุกอย่างให้ก็แล้วกันนะครับ”
เลขาไป๋ยิ้มพร้อมกับพูดว่า
“รบกวนคุณแล้วครับ พันตรีหยวน”
หลังจากพันตรีหยวนออกไปเลขาไป๋ก็กลับไปทำงานของเขาต่อ ทางด้านของเทียนหลางนั้นก็กำลังขับรถกลับบ้านพร้อมกับอ่านเอกสารในมือไปด้วย
ระหว่างทางนั้นเสียงไซเรนรถตำรวจก็ดังขึ้นไล่หลังรถของเทียนหลางมาจากไกลๆ เขามองกระจกหลังเล็กน้อยก่อนจะเลิกสนใจเพราะตัวเขานั้นก็ไม่ได้ทำผิดกฏจราจรอะไรสักหน่อย ไม่มีเหตุผลอะไรที่ตำรวจจะมาไล่เขา
ในขณะนั้นเองก็ได้มีรถตู้สีดำคันหนึ่งขับแซงขึ้นมาด้วยความเร็ว ทำเอาเทียนหลางถึงกับแปลกใจเล็กน้อย
“ไอบ้าพวกนี้มันจะรีบไปไหนของมัน”
เขาบ่นเล็กน้อยก่อนจะขับรถต่อไป แต่แล้วขับมาได้ไม่นานก็ต้องมาติดไฟแดงซึ่งด้านหน้าถัดไปจากรถของเทียนหลางอีกสองคันเป็นรถตู้สีดำคันนั้นซึ่งกำลังจอดติดไฟแดงอยู่
ส่วนด้านหลังไม่ไกลก็เป็นรถตำรวจ เทียนหลางกำลังสงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรแต่ไม่นานนักตำรวจสามคนก็ได้ลงมาจากรถ
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นตำรวจสาวสวยเสียด้วย ทำเอาเทียนหลางแปลกใจไม่น้อยเลย
ตำรวจทั้งสามเดินตรงมายังรถของเทียนหลางซึ่งเป้าหมายของพวกเขาก็น่าจะเป็นรถตู้คันสีดำด้านหน้าไม่ผิดแน่ จากที่ตัวของเทียนหลางสังเกตุดู ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนเจ้ารถตู้คันนั้นก็น่าสงสัยสุดๆ
ทั้งตัวรถที่เป็นสีดำสนิท ฟิล์มสีดำที่ติดอยู่ตรงกระจก ป้ายทะเบียนที่ถูกถอดออก มองยังไงมันก็รถสำหรับผู้ร้ายชัดๆ
เทียนหลางนั่งมองเหตุการณ์เหล่านี้ในรถอย่างสนอกสนใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็นการทำงานของตำรวจในเมืองนี้เลย เขาจึงอยากรู้ว่าตำรวจพวกนี้มีความสามารถมากแค่ไหน
ในขณะนั้นเองก็ได้มีรถตำรวจมาเพิ่มพร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกหลายคนลงมาจากรถ เทียนหลางรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นั่งอยู่แถวหน้ารอดูการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่
ในจังหวะนั้นเองประตูหลังของรถตู้ก็ได้เปิดออกเผยให้เห็นปืนกลหนักขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่พร้อมกับกระสุนกล่องใหญ่ที่พร้อมจะยิงออกมา เทียนหลางที่เห็นท่าไม่ดีก็หันไปทักตำรวจที่กำลังเดินผ่านรถของเขา
“พี่ชายตำรวจ”
ตำรวจหนุ่มหันมามองเทียนหลางด้วยความสงสัย เทียนหลางจึงยิ้มพร้อมกับพูดว่า
“ผมจะบอกข้อมูลของรถตู้นั้นให้เอาไหม ?”
นายตำรวจหนุ่มได้ยินก็แสดงสีหน้าสงสัยออกมาแต่เขาก็พยักหน้าตอบรับ เทียนหลางจึงบอกว่า
“ด้านหลังของรถตู้คันนั้นมีปืนกลหนักพร้อมยิงอยู่น่ะ”
นายตำรวจหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดูก็พบว่าคำกล่าวของเทียนหลางเป็นจริง เขาจึงรีบหยิบวิทยุสื่อสารออกมาและรีบแจ้งข่าวทันที
“ระวังๆ ด้านหลังของรถเป้าหมายมีอาวุธหนัก !!”
ทันทีที่ตำรวจหนุ่มพูดจบผู้ร้ายในรถตู้ก็กดลั่นไกปืนกลทันที
ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง