หลังจากนอนคิดอะไรเพลิน ๆ เทียนหลางก็เดินออกจากวิลล่าและเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นไม่มีรถ
”อืม… ถึงแม้รถจะไม่จำเป็นเท่าที่ควรก็เถอะ แต่มีไว้ก็ไม่เสียหาย”
เทียนหลางเดินออกจากหมู่บ้านและตรงไปยังร้านขายรถ เทียนหลางไม่ค่อยสนใจเรื่องรถมากนักแม้เขาจะชอบพวกรถสปอร์ตก็ตาม แต่ตัวเทียนหลางก็ไม่คิดว่ามันจะจำเป็นถึงขั้นจะต้องซื้อมันมาใช้ เว้นแต่เขาจะมีเงินเหลือใช้เท่านั้นแหละ
เทียนหลางคิดว่าจะซื้อรถ SUV ให้กับพ่อแม่เขาสักคันเพราะหมู่บ้านเทียเฮอนั้นอยู่ไกลจากร้านพอสมควรเหตุผลที่เขาเลือก SUV นั้นเพราะมันทนทานและมีพื้นที่เยอะไว้สำหรับขนของหรือใช้ทำอย่างอื่นและดูจากรสนิยมของแม่ของเขาแล้ว แม่ของเขาคงไม่ชอบอะไรที่ฟุ้งเฟื้อ
เทียนหลางนั่งแท๊กซี่มาถึงโชว์รูมของ BMW และเดินเข้าไปซื้อรถ SUV มาคันนึงอย่างรวดเร็วและขับกลับไปยังร้าน เมื่อมาถึงเทียนหลางก็เล่าเรื่องที่เขาซื้อบ้านและรถมาให้พ่อกับแม่ของเขา พร้อมกับช่วยพวกเขาขนของขึ้นรถเพื่อย้ายเข้าบ้านใหม่
โชคดีที่ครอบครัวของเขานั้นมีข้าวของไม่มากทำให้ไม่จำเป็นต้องจ้างบริษัทขนของ
มีเพียงแค่เสื้อผ้าและข้าวของเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียนหลางเห็นอย่างงี้เขาก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้กับความยากลำบากของครอบครัวตัวเอง
เทียนหลางติดป้ายปิดปรับปรุงไม่มีกำหนดที่ด้านหน้าร้านเพื่อบอกเหล่าลูกค้าขาประจำเอาไว้ก่อน ก่อนจะโพสในเว่ยป๋อของร้านถึงเรื่องที่เขานั้นจำเป็นจะต้องปิดร้านสักพักซึ่งทำให้เหล่าลุกค้าเศร้าหมองไปไม่น้อย และเทียนหลางก็ยังโทรไปบอกยู่หลินกับถังหยานอีกด้วยว่าร้านจะปิดปรับปรุงสักระยะ แต่ก็บอกให้พวกเขานั้นเขามาดูแลความเรียบร้อยของบริเวณร้านในช่วงเวลากลางคืนให้ด้วย
ไม่นานนักเทียนหลางก็พาพ่อกับแม่ของเขามาถึงบ้านใหม่ ทันทีที่พ่อกับแม่ของเทียนหลางได้เห็นบ้านใหม่พวกเขาก็ได้แต่ทำตาโตอ้าปากค้าง ตกตะลึงกับความใหญ่โตของบ้านเทียนหลางให้พวกท่านเลือกห้องของตัวเองก่อนจะช่วยขนของขึ้นไปให้
หลังจากเหตุการณ์ย้ายบ้านสั้น ๆ จบลงเทียนหลางก็นั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในห้อง
”ฉันคงจะต้องหาวิธีหาเงินเพิ่มแล้วสินะ อืม… คนในยุคนี้เขาชื่นชอบอะไรกันน๊า ~”
เทียนหลางลองค้นหาจากเน็ตดูก็พบว่าคนสมัยนี้เริ่มหันมารักสุขภาพกันมากขึ้นโดนเฉพาะเครื่องดื่มบำรุงร่างกายและ อาหารเสริมต่าง ๆ ทำให้เทียนหลางปิ้งไอเดียดี ๆ ได้
”เช่นนั้นข้าคงต้องผลิตอาหารเสริมสักอย่างสองอย่างสะแล้ว เอาเป็นอะไรดีน๊า ~”
ระหว่างที่เทียนหลางกำลังขบคิดบางอย่างอยู่นั้นเขาก็สัมผัสได้มีสิ่งหนึ่งไหลออกมาจากแหวนมังกรของเขา เมื่อเขามองไปที่แหวนในมือเขาก็เห็นว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากดวงตาของมังกรดำ
ทันทีที่เทียนหลางเห็นมันเขาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเขารีบนำขวดแก้วออกมารองมันทันที
”ไม่คิดว่าเจ้าจะมีน้ำตามังกรให้กับข้าเหมือนเมื่อก่อนนะเนี้ย อี้หลง”
อี้หลงคือชื่อของแหวนมังกรดำที่เทียนหลางสวมอยู่ เมื่อราวสามพันปีก่อนเทียนหลางได้ลงไปที่แดนมนุษย์(คนละโลกกับปัจจุบัน) เพื่อไปปราบมังกรที่สร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์ตามหน้าที่ของเขาและได้สังหารจักรพรรดิมังกรดำ จากนั้นเทียนหลางก็นำส่วนต่าง ๆ ของมันมาหลอมเป็นแหวน
และหนึ่งในส่วนผสมทั้งหมดนั้นก็มีหัวใจแห่งจักรพรรดิมังกรรวมอยู่ด้วยทำให้ตัวแหวนมังกรดำนั้นมีจิตสำนึกของจักรพรรดิมังกรเหลืออยู่ และด้วยที่มันมีจิตสำนึกของจักรพรรดิมังกรฝังอยู่จึงทำให้มันสร้างน้ำตามังกรออกมาโดยบังเอิญ
น้ำตามังกรนั้นมีคุณสมบัติพิเศษมากมายไม่ว่าจะเพิ่มคุณสมบัติทางร่างกาย จิตวิญญาณ หรือแม้แต่ขยายขอบเขตทะเลลมปราณ และทะเลจิตวิญญาณ รวมถึงช่วยในการพัฒนาดวงดาวอีกด้วย
แต่ด้วยน้ำตามังกรนั้นเป็นสิ่งที่หายากแสนยากยิ่งเสียกว่าสมบัติระดับพระเจ้าเสียอีก เพียงหนึ่งของน้ำตามังกรก็สามารถทำให้ผู้บ่มเพาะนับสิบล้านต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงมัน
แต่แหวนมังกรดำของเทียนหลางนั้นสามารถผลิตน้ำตามังกรออกมาได้สิบวันต่อหนึ่งหยด เรียกได้ว่าเทียนหลางนั้นมีโครตขุมทรัพติดตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ตอนที่เทียนหลางมาเกิดใหม่แหวนมังกรดำยังคงติดตามเขามาด้วย และยังคงผลิตน้ำตามังกรให้เขาเช่นเดิม
”อืม… ถ้าหากมีน้ำตามังกร การหาเงินก็คงไม่ยากเกินไปแล้วสิเนี้ย ~”
ทันทีที่เทียนหลางรู้ว่าแหวนมังกรดำของเขานั้นสามารถผลิตน้ำตามังกรออกมาได้ เขาก็คิดออกทันทีว่าจะหาเงินยังไง
”อ๊าาาา ข้าคงต้องทำยาทิพย์ขายซะแล้วสินะ”
เทียนหลางลุกขึ้นและออกจากบ้านไปยังตลาดเพื่อเลือกซื้อสมุนไพรและขวดแก้วจำนวนมาก เทียนหลางเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เพื่อเลือกซื้อสมุนไพรชนิดต่าง ๆ มากมายนับร้อยก่อนจะกลับบ้าน
เมื่อกลับมาถึงเทียนหลางก็หมกตัวเองอยู่ในห้อง ก่อนจะนำหม้อต้มยาออกมาและเริ่มใส่สมุนไพรและเริ่มหลอมพวกมันจนกลายเป็นโอสถอย่างรวดเร็วจากนั้นเทียนหลางก็หยดน้ำตามังกรลงไปในหม้อ ทันทีที่โอสถในหม้อได้ผสมรวมเข้ากับน้ำตามังกรมันก็กลายเป็นน้ำทิพย์สีขาวใสทันที
แต่งานของเทียนหลางยังไม่จบเนื่องด้วยน้ำทิพย์นั้นมีฤทธิ์มากเกินไปที่คนธรรมดาจะรับไหวเทียนหลางจึงต้องเจือจางมันจนเหลือหนึ่งในหมื่นส่วน แต่ก่อนที่เทียนหลางจะเจือจางมันเขาก็ได้เก็บส่วนของเขาเอาไว้ก่อนสิบขวด
”คงจะต้องเจือจางให้เหลือ หนึ่งในหมื่นส่วนไม่งั้นคนที่ดื่มมันคงร่างระเบิดตายพอดี ข้าไม่อยากเป็นฆาตกรตอนนี้”
หลังจากผ่านไปสองสามชั่วโมงเทียนหลางก็เจือจางน้ำทิพย์จนเสร็จในตอนนี้ผลของน้ำทิพย์เหลือเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้นแต่ถึงจะเหลือคุณสมบัติเพียงน้อยนิดแต่นี้ก็มากพอที่จะทำให้มนุษย์นั้นแย่งกันแทบเป็นแทบตายแล้ว
เทียนหลางเก็บน้ำทิพย์ที่เจือจางแล้วทั้งหมดสามสิบขวดลงในแหวนก่อนจะหยิบโทรศัพขึ้นมาโทรหาหลี่ไห่ ไม่นานนักหลี่ไห่ก็รับสาย
”ฮัลโหล นั่นใคร ?”
”เอ่อ… ผมเทียนหลางเองครับ”
”โอ้ ~ เธอนั่นเองมีอะไรงั้นรึ ?”
”พอดีผมมีของอย่างหนึ่งอยากจะให้ปู่หลี่เป็นของขวัญหน่ะครับ จึงอยากรู้ว่าปู่หลี่ว่างรึเปล่า ?”
”โอ้ ~ ว่างสิเธอมาหาปู่ได้ที่ออฟฟิตเลยนะ”
”เข้าใจแล้วครับ”
เมื่อรู้ว่าหลี่ไห่ว่างเทียนหลางจึงรีบออกจากบ้านและเรียกแท๊กซี่ตรงไปยังบริษัทหลี่เมื่อมาถึงเทียนหลางก็ตรงไปยังลิฟท์และขึ้นไปยังชั้นของผู้บริหารทันทีไม่นานนักเทียนหลางก็มาถึงออฟฟิตของหลี่ไห่
เทียนหลางกล่าวทักทายคุณเลขาคนสวยเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน เมื่อเข้ามาเทียนหลางก็กล่าวทักทายหลี่ไห่เล็กน้อยก่อนจะหยิบขวดแก้วใบเล็ก ๆ ที่ด้านในใส่น้ำทิพย์เอาไว้ขึ้นมาก่อนจะพูดขึ้น
”ผมมาเพื่อมอบสิ่งนี้ให้กับปู่หลี่นะครับ”
หลี่ไห่ที่ได้ยินก็มองไปยังขวดแก้วใบเล็ก ๆ ตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถาม
”มันคืออะไรงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางยิ้มพร้อมกับตอบกลับ
”มันคือน้ำทิพย์ครับ”
หลี่ไห่ได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
”น้ำทิพย์ ?”
”ใช่แล้วครับ”
เทียนหลางพยักหน้า หลี่ไห่จ้องมองขวดแก้วใบเล็ก ๆ ตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถาม
”แล้วมันมีสรรพคุณอะไรงั้นเหรอ ?”
”มันจะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูอวัยวะภายในและกระดูกทั่วร่างกาย พร้อมกับช่วยปรับโครงสร้างร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย และส่วนที่สำคัญที่สุดเลยนะครับปู่หลี่มันยังช่วยยืดอายุให้กับผู้ที่ดื่มมันอีกสิบปีด้วย”
ทันทีที่หลี่ไห่ได้ยินสรรพคุณของน้ำทิพย์เขาก็ตกตะลึงทันที แต่ไม่นานเขาก็เปลี่ยนท่าทีเป็นสงบนิ่งเหมือนเดิม แต่เทียนหลางรู้ว่าภายในใจของหลี่ไห่นั้นเต้นโครมครามอยู่แน่นอน
เทียนหลางยิ้มให้กับท่าทีของหลี่ไห่เล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
”ผมมอบมันให้กับปู่หลี่แล้วกันครับ”
เมื่อหลี่ไห่ได้ยินก็ตกใจเป็นอย่างมากก่อนจะเอ่ยถามกับเทียนหลางด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
”จะ… จริงงั้นเหรอ ?”
”แน่นอนครับผม”
หลี่ไห่พยักหน้าพร้อมกับรับขวดน้ำทิพย์มาและเมื่อเขามองหน้าเทียนหลางเขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง ของมีค่าขนาดนี้เหตุใดทำไมเทียนหลางถึงมาให้กับเขาฟรี ๆ แบบนี้ต้องมีอะไรแน่ หลี่ไห่ตัดสินใจถามเทียนหลางออกไป
”การที่เธอมอบสิ่งมีค่าขนาดนี้ให้กับปู่เธอต้องการอะไรงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบ
”แหม ~ ปู่หลี่เก่งจริง ๆ นะครับอันที่จริงผมต้องการให้ปู่หลี่ช่วยอะไรผมสักหน่อย”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลี่ไห่ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับเอ่ยถามถึงสิ่งที่เทียนหลางต้องการ
”แล้วเธอต้องการให้ฉันช่วยอะไรงั้นเหรอ ?”
”พอดีผมต้องการจะขายน้ำทิพย์นี้อะนะครับ แต่ว่าผมนั้นไม่ค่อยจะรู้จักคนใหญ่คนโตที่มีเงินจำนวนมากสักเท่าไหร่”
หลี่ไห่ที่ได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยขึ้น
”เธอกะจะให้ฉันแนะนำน้ำทิพย์ให้กับพวกคนรวยที่มีอำนาจสินะ ว่าแต่เธอจะขายมันเท่าไหร่หล่ะ ?”
เทียนหลางยิ้มพร้อมกับถามกลับ
”แล้วปู่หลี่คิดว่าผมควรจะขายมันเท่าไหร่ดีครับ ?”
หลี่ไห่ที่ได้ยินคำถามของเทียนหลางก็ขมวดคิ้วพร้อมกับคิดอย่างหนักทันที จนในที่สุดหลี่ไห่ก็ต้องถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้น
”ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เทียนหลางก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยต่อ
”เอาเป็นว่าถ้ามีคนต้องการซื้อผมค่อยบอกราคาก็แล้วกันนะครับ เรื่องบอกต่อผมต้องรบกวนปู่หลี่ด้วย”
”แน่นอนเธอไว้ใจฉันได้เลย”
หลังจากนั้นเทียนหลางก็ขอตัวกลับ ระหว่างทางกลับบ้านเทียนหลางก็ขบคิดถึงราคาของขวดน้ำทิพย์ขวดเล็ก ๆ นี้เทียนหลางคาดว่าคงมีคนมาขอซื้อจากเขาในราคาที่สูงลิ่วเป็นอย่างแน่นอนเพราะผู้คนมักต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ที่ยาวนาน และการเพิ่มอายุขัยขึ้นถึง 10ปีนั้นถือว่าเป็นสุดยอดสมบัติที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน
แต่ถ้าหากมันถูกตีราคาหล่ะ ? มันจะมีราคาเท่าไหร่ ?
เทียนหลางขบคิดพร้อมกับหลุดหัวเราะออกมา แต่ในระหว่างที่เขากำลังหัวเราะอยู่นั้นความจำส่วนหนึ่งก็กระตุ้นเขาทำให้เทียนหลางนั้นต้องห่อเหี่ยวเล็กน้อย
”อาาา… อีกไม่กี่วันโรงเรียนก็เปิดแล้วงั้นเหรอ ?”