แอนเดียร์รู้สึกสนใจเล็กน้อยก่อนจะจ้องหน้าของเทียนหลางอย่างจริงจังพร้อมกับถามออกไปว่า
“คุณจะขายยันต์พวกนี้ในราคาเท่าไหร่กันคะ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ลูบคางคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ
“ก็ไม่แพงในเมื่อเราเองก็เป็นคนคุ้นเคยกันดีผมจะขายให้ถูกๆแล้วกัน”
“ระดับหนึ่ง 1ล้าน ระดับสอง 3ล้าน ระดับสาม 6ล้าน และระดับสี่ 10ล้าน แน่นอนว่าหน่วยเงินเป็นดอลลาร์นะ”
เทียนหลางพูดพร้อมกับยิ้มออกมา แอนเดียร์ที่ได้ยินแบบราคาก็ถึงกับครุ่นคิดเล็กน้อยแม้ราคาของพวกมันจะไม่ได้แพงแต่ก็ไม่ได้ถูกเช่นกัน
แม้วาติกันจะสามารถใช้จ่ายซื้อยันต์เหล่านี้ได้ก็ตามแต่หากจะซื้อมันในจำนวนมากล่ะก็เธอก็จำเป็นจะต้องขอความเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือเหล่าอาร์คบิชอปเสียก่อน
เธอครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยในขณะเดียวอาหารก็ได้เสิร์ฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นสเต็กเนื้ออย่างดี เทียนหลางทานมันก่อนจะอดไม่ได้ที่ร้องออกมา
“โอ้ ~ รสชาติดีทีเดียวเลยแหะ ไม่เข้าใจเลยทำไมพวกนั้นถึงเลือกที่จะกินอาหารกล่องแทนที่จะกินสเต็กพวกนี้ ?”
เทียนหลางพูดขึ้นพลางคิดถึงเจ้าหน้าที่อีกสองคนที่อยู่ในบ้าน เทียนหลางที่เห็นแอนเดียร์กำลังครุ่นคิดอย่างหนักอยู่นั้นก็อดไม่ได้ที่จะบอกว่า
“คุณค่อยๆคิดก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก กินอาหารก่อนเถอะเดียวมันจะเย็นเสียก่อน”
แอนเดียร์พยักหน้าก่อนที่ทั้งคู่จะทานอาหารกัน หลังจากทานอาหารเสร็จแอนเดียร์ก็พาเทียนหลางขับรถกลับมาที่บ้านพร้อมกับบอกว่าให้เขาพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับงานประมูลที่จะเริ่มในคืนพรุ่งนี้
ในค่ำคืนวันต่อมาเจ้าหน้าที่ของแอนเดียร์ได้ขับรถพาเทียนหลางและแอนเดียร์มายังสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อเข้าร่วมงานประมูลที่กำลังจะเริ่มขึ้น
ตอนนี้เทียนหลางกำลังอยู่ในชุดสูทสีดำ ใบหน้าที่ดูหล่อเหลา และรูปร่างที่สูงสมส่วนของเขานั้นเข้ากับชุดสูทเป็นอย่างมากเทียนหลางก้าวลงมาจากรถอย่างใจเย็นก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปด้านในรถเพื่อพยุงแอนเดียร์ออกมา
แอนเดียร์ตอนนี้อยู่ในชุดราตรีสีน้ำเงินที่สวยงาม บวกกับใบหน้าอันสวยงามของเธอสามารถทำให้ผู้ชายที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองเธอได้ในทันทีที่ปรากฏตัว
เมื่อทั้งคู่มาถึงก็กลายเป็นชุดสนใจของคนบริเวณนั้นทันที เมื่อเข้ามาในงานเทียนหลางก็พบกับบรรยากาศที่ดูหรูหราราวกับนี่เป็นงานของชนชั้นสูง
เมื่อยื่นบัตรเชิญให้กับพนักงานต้อนรับ ก็ได้มีพนักงานพาเขาทั้งคู่ไปที่ห้องรับรองระดับ VIP ทันที เมื่อเข้ามาในห้องรับรองพนักงานก็ถามกับทั้งสองคนว่า
“ไม่ทราบว่าทั้งคู่ต้องการจะรับอะไรเพิ่มหรือไม่ครับ ?”
แอนเดียร์ส่ายหน้า แต่เทียนหลางเขายิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับพนักงาน หลังจากพูดคุยกันอยู่สักพักพนักงานก็ตอบกลับเทียนหลางว่า
“ถ้าเช่นนั้นเชิญคุณชายมาทางนี้เลยครับ”
เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะเดินตามพนักงานออกไปจากห้อง ก่อนออกไปเทียนหลางก็พูดกับแอนเดียร์ว่า
“เดียวผมไปทำธุระแป๊ปหนึ่งเดียวกลับมา”
แอนเดียร์พยักหน้าเพราะเธอคิดว่าเทียนหลางคงจะไปทำภารกิจของเขา เทียนหลางเดินตามพนักงานไปยังห้องด้านหลังเวทีประมูล ในขณะนั้นเองเขาก็ได้เดินสวนเข้ากับผู้หญิงผมบรอนซ์คนหนึ่ง
เธอมาพร้อมกับบอดี้การ์ดร่างใหญ่จำนวนสองคน ทั้งคู่เดินสวนกันเล็กน้อยก่อนที่เทียนหลางจะหันกลับมองเธอพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวพร้อมกับยิ้มออกมา
ไม่กี่นาทีต่อมาเทียนหลางก็กลับมาที่ห้องรับรอง แอนเดียร์ที่เห็นเทียนหลางกลับมาเธอก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“ภารกิจของคุณเสร็จแล้วงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกับตอบกลับไปว่า
“อ๋อ นั่นเรื่องส่วนตัวน่ะ”
เขายิ้มก่อนจะกลับมานั่งลงที่โซฟาพร้อมกับรับชมการแสดงโชว์ที่ทางโรงประมูลจัดขึ้นเพื่อต้อนรับเหล่าบรรดาลูกค้าทั้งหลาย
หลังจากการแสดงโชว์จบลงก็ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเขามาบนเวทีเพื่อเปิดงานประมูล ในเวลาเดียวกันเทียนหลางก็จ้องมองไปยังห้องรับรองห้องหนึ่งอย่างไม่วางตา