หลังจากอธิบายเกี่ยวกับพลังฟ้าดินให้แอนเดียร์ฟังอย่างคร่าวๆแล้วเทียนหลางก็ขอตัวไปพักผ่อน เมื่อกลับมาถึงที่ห้องของตัวเองเทียนหลางก็ได้หลับตาลงเพื่อสัมผัสถึงจิตวิญญาณที่เขาทิ้งไว้ที่ร่างกายของ ดร.พาเลร่า
ดูเหมือนว่าตัวเธอตอนนี้กำลังอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งนั่งไปที่ไหนสักที่หนึ่ง เทียนหลางคาดว่าคงจะเป็นศูนย์วิจัยของเธอ
เทียนหลางลืมตาขึ้นพร้อมกับถอนหายใจออกมา เขาคงจะต้องเสียเวลาอีกสักสองถึงสามวันเพื่อที่รอให้ ดร.พาเลร่าเดินทางไปถึงศูนย์วิจัยของตัวเองเสียก่อน
เพราะเขามีภารกิจที่จะต้องทำลายข้อมูลของเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ทิ้ง เทียนหลางกลับไปพักผ่อนเพื่อรอเวลา
สามวันต่อมาในที่สุดตำแหน่งของดร.พาเลร่าก็คงที่ ในตอนนี้เธออยู่ที่อีกซีกโลกหนึ่ง ซึ่งเทียนหลางสามารถเดินทางไปที่นั่นได้อย่างง่ายดาย ในตอนนี้คงถึงเวลาที่จะต้องจบภารกิจอันแสนยาวนานนี่สักที
เทียนหลางที่กำลังกินอาหารเช้าอยู่นั้นก็ลุกขึ้นจากโต๊ะสร้างความสับสนให้กับแอนเดียร์ไม่น้อย
“คุณจะไปไหนงั้นเหรอ ?”
“ผมจะไปจัดการภารกิจให้มันเสร็จๆน่ะ”
แอนเดียร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับแสดงสีหน้างุนงงออกมาทันที ซึ่งเทียนหลางก็ไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงแค่เดินออกจากบ้านพักไปก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปและหายตัวไป
ร่างของเทียนหลางมาโผล่ยังสถานที่แห่งหนึ่งที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งไกลสุดสายตา ห่างไปไม่ไกลนักได้มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ปรากฏอยู่
เทียนหลางเดินเข้าไปอย่างใจเย็นก่อนที่พื้นน้ำแข็งบริเวณนั้นจะลอยขึ้นมาและแปรเปลี่ยนกลายเป็นเข็มน้ำแข็งจำนวนมาก
เขามองไปที่เหล่ายามบริเวณทางเข้าเล็กน้อยก่อนจะส่งเข็มน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่กลางหน้าผากคนเหล่านั้นทีละคน เพียงเวลาไม่กี่วินาทียามทั้งหมดที่อยู่ตรงทางเข้าก็กลายเป็นเพียงศพที่มีรูอยู่กลางหน้าผากเท่านั้น
เทียนหลางเดินเข้าไปด้านในอาคารอย่างง่ายดายหากใครที่มาขวางทางเขาก็เพียงแค่สร้างรูบนหน้าผากให้พวกเขาเท่านั้น ไม่นานนักเทียนหลางก็เดินมาถึงห้องทดลองห้องหนึ่งซึ่งด้านในมี ดร.พาเลร่ากำลังทำการทดลองอะไรบางอย่างอยู่
เทียนหลางจ้องมองการกระทำของเธอเล็กน้อย เพราะดูเหมือนตอนนี้เธอกำลังตั้งใจกับการทดลองนั้นเป็นอย่างมากโดยที่ไม่รู้สึกเลยว่าด้านนอกห้องนั้นกำลังมีเหตุการณ์ร้ายแรงอยู่
ซึ่งตัวของเทียนหลางเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรมากนักเพราะเขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าตัว ดร.พาเลร่ากำลังทำการทดลองอะไรเขาจึงเฝ้าดูการกระทำของเธอย่างใจเย็น
ในขณะเดียวกัน ดร.พาเลร่าที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำการทดลองอยู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติอะไรบางอย่าง เพราะรอบข้างนั้นเงียบเกินไป แม้ในเวลาที่เธอทำการทดลองจะเงียบเป็นปกติอยู่แล้วก็ตามแต่นี่มันผิดสังเกตุมากเกินไป เธอจึงเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆก่อนจะต้องแปลกใจที่พบกับเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ไม่คุ้นเคยยืนอยู่ด้านนอก
เธอจ้องมองเขาอย่างสับสนก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“นายเป็นใคร ?”
เด็กหนุ่มส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับ
“ผมเป็นใครไม่สำคัญ แต่ดูเหมือนว่าคุณกำลังวุ่นวายอยู่กับการทดลองของคุณนี่ ทำไมไม่ทำต่อละ ?”
ดร.พาเลร่าส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับ
“มันล้มเหลวนะ การทดลองวันนี้คงจะต้องจบเอาไว้แค่นี้ก่อน แต่ว่าฉันไม่เคยเห็นหน้านายเลยนายเป็นเจ้าหน้าที่ใหม่งั้นหรอ ?”
เด็กหนุ่มส่ายหน้าอีกครั้งพร้อมกับตอบกลับ
“ผมมาหาคุณ”
ดร.พาเลร่าที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาก่อนจะรีบกดสัญญาณเตือนภัยทันที เมื่อสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเธอคิดว่าจะมีกลุ่มติดอาวุธเข้ามาช่วยเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครเลยสักคนที่มา
ดร.พาเลร่าตกใจเป็นอย่างมาก่อนจะถามกับเด็กหนุ่ม
“นายทำอะไรลงไป ?”
เด็กหนุ่มไม่ตอบกลับเขาเพียงแค่เคาะไปที่กระจกของห้องทดลองเบาๆเท่านั้น ทันใดนั้นกระจกของห้องทดลองก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆสร้างความตื่นตกใจให้กับตัวของเธอเป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ ทำเอาเธอหวาดกลัวเล็กน้อย
ดร.พาเลร่าเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังเดินใกล้เข้ามาเธอก็พยายามจะทำอะไรบางอย่างแต่ก็ถูกเขาจับข้อมือเอาไว้อย่างรวดเร็ว
เทียนหลางที่กำลังจับข้อมือของดร.พาเลร่าอยู่นั้นก็ส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า
“อย่าทำอะไรโง่ๆเลย ไปกับผมอย่างว่าง่ายจะดีกว่า”
ดร.พาเลร่าคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า เทียนหลางยิ้มพร้อมกับเดินนำเธอออกมาที่ด้านนอกสถานีวิจัย ระหว่างทางดร.พาเลร่าก็ได้พบกับศพของทหารจำนวนมากที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น พวกเขาทั้งหมดต่างมีรูเล็กๆอยู่ตรงหน้าผาก เธอคาดว่าพวกเขาคงน่าจะถูกอะไรบางอย่างยิง
ดร.พาเลร่าที่สงสัยก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“ใครเป็นคนจ้างนายมาจับฉันกัน ? รัฐบาลสหรัฐหรอ !?”
เทียนหลางไม่ตอบอะไรเขาเพียงเดินนำดร.พาเลร่าออกจากศูนย์วิจัยเท่านั้น เมื่อออกมาด้านนอกดร.พาเลร่าก็อดไม่ได้ที่จะถามกับเทียนหลาง
“นายจะพาฉันไปไหน ?”
“ไปที่บ้านของผม”
เทียนหลางตอบกลับสั้นๆก่อนจะหันกลับไปมองที่ศูนย์วิจัยจากนั้นเขาก็ขยับมือเล็กน้อย ตึกศูนย์วิจัยก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นทันทีพร้อมกับที่พื้นน้ำแข็งค่อยๆแตกออกและจมเศษซากทั้งที่เหลืออยู่ของศูนย์วิจัยแห่งนั้นทิ้งทันที
พื้นที่ที่เคยมีศูนย์วิจัยลับตั้งอยู่ในตอนนี้ได้กลายเป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว