( เปลี่ยนจากน้ำทิพย์ เป็นยาทิพย์ )
หลังจากที่เทียนหลางจากไปหลี่ไห่ก็จ้องมองขวดยาทิพย์อยู่นานก่อนจะตัดสินใจโทรถามเทียนหลางถึงผลข้างเคียงของมันเพราะเขารู้ว่าของดีอย่างนี้ต้องมีผลข้างเคียงอยู่บ้างสักหนึ่งหรือสองอย่าง
ไม่นานนักเทียนหลางก็รับโทรศัพและเอ่ยถาม
”ปู่หลี่มีอะไรงั้นเหรอครับ ?”
”พอดีปู่อยากจะถามเธอสักหน่อยว่ายาทิพย์ที่เธอให้ปู่มานั้นมีผลข้างเคียงอะไรบ้างรึเปล่า ?”
เทียนหลางได้ยินที่หลี่ไห่พูดก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะบอกถึงผลข้างเคียงของยาทิพย์
”มันก็มีเล็กน้อยนะครับปู่หลี่ ผมแนะนำว่าปู่หลี่ควรจะดื่มมันหลังจากกลับไปบ้านแล้วนะครับเพราะหลังจากดื่มทั่วทั้งร่างกายจะมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย หลังจากความเจ็บปวดหายไป แนะนำให้ปู่หลี่กินน้ำมาก ๆ จากนั้นก็เข้านอนครับ ถ้าผมคาดเดาไม่ผิดต้องรอสัก 5 ถึง 6 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายขับสิ่งสกปรกภายในออกและปรับสภาพร่างกาย หลังจากนั้นปู่หลี่ลองไปตรวจร่างกายที่โรงบาลเพื่อพิสูจน์ผลนะครับ”
เมื่อหลี่ไห่ได้ยินก็ถอนหายใจออกมาเพราะตอนแรกเขาคิดว่าผลข้างเคียงจะร้ายแรงกว่านี้ เขากล่าวขอบคุณเทียนหลางจากนั้นวางสายและครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะกลับบ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้านหลี่ไห่ไม่รีรอรีบดื่มยาทิพย์ของเทียนหลางเข้าไปทันที ทันทีที่ยาทิพย์เข้าสู่ร่างกายของหลี่ไห่เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าภายในร่างกายของตัวเองนั้นเริ่มร้อนขึ้น ร่างกายของเขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดจากภายในและค่อย ๆ เริ่มรุนแรงขึ้นจนเขาร้องออกมาก่อนจะก้นด่าเทียนหลางอยู่ในใจ
‘เล็กน้อยบ้านเธอสิเทียนหลาง !’
หลี่ไห่ดื้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียงอยู่สักพักก่อนจะหมดสติไป
………………………………….
หลี่ไห่ลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าด้านนอกนั้นเช้าแล้วและเมื่อเขามองดูนาฬืกาก็พบว่าตอนนี้ 9โมงเช้าแล้ว หลี่ไห่ลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างแปลกไปร่างกายของเขารู้สึกเบาขึ้นกว่าแต่ก่อน และรู้สึกกระฉับกระแฉงขึ้นกว่าเดินเยอะ ทั่วทั้งร่างกายของเขารู้สึกเต็มไปด้วยพลังราวกับเขาย้อนกลับไปยังอายุ 30ต้น ๆ
หลี่ไห่รองขยับร่างกายอย่างต่อเนื่องและได้รู้ว่าร่างกายของเขานั้นรู้สึกสบายกว่าเดิมเยอะเลย ทั้งครั้งที่เขาขยับร่างกายมักจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยและเริ่มรู้สึกว่าข้อเข่า และข้อต่อของร่างกายเริ่มอ่อนแอ แต่ดูเหมือนตอนนี้มันดูเหมือนจะหายไปหมดแล้ว
ในขณะที่หลี่ไห่กำลังดีใจกับการเปลี่ยนแปลงของร่ายกายของเขาอยู่นั้นเขาก็เริ่มได้กลิ่นเหม็นบางอย่างลอยโชนมาจากทางเตียงนอนของตนเอง เมื่อเขาหันไปก็พบว่าบนเตียงนอนของเขานั้นเต็มไปด้วยของเหลวสีดำที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมา และไม่เพียงแต่บนเตียงเท่านั้น บนร่างกายของเขาก็มีด้วยเช่นกันในตอนแรกหลี่ไห่ไม่ได้รู้สึกถึงมันเพราะเขายังคงดีใจกับความแข็งแรงที่ฟื้นกลับมาอยู่ แต่เมื่อมองดูรอบ ๆ ให้ดีแล้วทั่วทั้งร่างกาย และเตียงของเขานั้นเต็มไปด้วยของเหลวสีดำเหล่านี้
หลี่ไห่เข้าไปอาบน้ำล้างตัวและให้แม่บ้านเข้ามาจัดการเตียงของเขา หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยหลี่ไห่ก็รีบเดินทางไปโรงบาลเพื่อตราจร่างกายตามที่เทียนหลางได้แนะนำไว้เมื่อวาน
…………………………………
หลังจากที่หลี่ไห่ได้ให้หมอประจำตัวตรวจร่างกายของเขาแล้ว เขาก็นั่งรอผลตรวจอย่างใจจดใจจ่อไม่นานนักหมอก็เข้ามาในห้องพร้อมกับเอกสารในมือ หลี่ไห่จึงเอ่ยถามออกมาด้วยอาการร้อนรน
”หมอชิง ร่างกายของผมเป็นยังไงบ้างครับ ?”
หมอชิงที่ได้ยินคำถามของหลี่ไห่เขาก็ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
”ร่างกายของคุณหลี่นั้นดีขึ้นเป็นอย่างมากเลยครับ เรียกได้ว่าดีกว่าเมื่อก่อนเสียด้วยซ้ำ แทบทั้งกระดูกและเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายนั้นก็ฟื้นฟูกลับมาในสภาพที่ดีเยี่ยม และที่หน้าตกใจยิ่งกว่านั้นนะครับคุณหลี่ ดูเหมือนว่าโรคหัวใจของคุณนั้นจะหายเป็นปกติแล้วด้วยแถมหัวใจของคุณก็กลับมาแข็งแรงเสียยิ่งกว่าเดิมอีก”
เมื่อหลี่ไห่ได้ยินคำอธิบายของหมอชิงเขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าหากเขายังเป็นโรคหัวใจอยู่ละก็เขาคงหัวใจวายไปเรียบร้อยแล้ว โรคหัวใจที่เขาเป็นมากว่า 20ปี ถูกรักษาหายเพียงข้ามคืนถ้านี่ไม่เรียกว่าปาฏิหาริย์แล้วจะเรียกว่าอะไร
หลังจากที่หลี่ไห่พูดคุยกับหมอชิงอยู่สักพักเขาก็ขอตัวกลับบ้านและโทรหาเทียนหลางทันที ไม่นานนักเทียนหลางก็รับสายพร้อมกับถามคำถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
”ฮัลโหลครับปู่หลี่ เป็นยังไงบ้างครับผลของยาทิพย์ของผม ?”
หลี่ไห่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงยินดี
”มันสุดยอดมากเลยหล่ะเทียนหลาง ปู่ไม่คิดว่ายาทิพย์ของเธอจะดีขนาดนี้ถึงขั้นรักษาโรคหัวใจของปู่ได้เลย”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ตกใจเล็กน้อยพร้อมกับขมวดคิ้วเบา ๆ
‘ผลของมันจะดีเกินไปรึเปล่านะ สงสัยต้องเจือจางลงอีกสักหน่อยไม่งั้นผลมันจะดีเกินไป เดียวขาดทุนกันพอดี’
เทียนหลางคิดพร้อมกับเอ่ยแสดงความยินดีกับหลี่ไห่
”ยินดีด้วยนะปู่หลี่ที่หายขาดจากโรคหัวใจแล้ว”
”ขอบใจเธอมากเลยนะ แล้วก็เรื่องที่จะขายมันเธอคิดราคาไว้รึยัง ?”
เทียนหลางได้ยินก็กุมขมับเบา ๆ ก่อนจะเอ่ย
”ยังเลยครับ ผมคิดว่าออกว่ามันจะราคาเท่าไหร่ดี จะลองเอาไปประมูลดูดีไหมครับ ?”
หลี่ไห่ที่ได้ยินก็ปฏิเสธทันควัน
”อย่าดีกว่า ยาทิพย์ของเธอนั้นยังไม่มีคนรู้จักมากนักและผลของมันก็มีเพียงฉันเท่านั้นที่รับรองได้ ฉันว่าเธอน่าจะลองขายสักหนึ่งหรือสองขวดก่อนดีกว่าและค่อยนำมันไปประมูล”
”ก็ดีนะครับ งั้นอืม…”
เทียนหลางครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยกับหลี่ไห่
”งั้นผมตั้งราคาไว้ที่ 1พันล้านเหรียญแล้วกัน ผมคิดว่ามันพอจะคุ้มค่านะครับ”
หลี่ไห่ที่ได้ยินราคาก็ตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเทียนหลางจะตั้งราคาสูงถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเทียบกับคุณสมบัติของมันแล้วเรียกได้ว่า 1พันล้านอาจจะถูกไปด้วยซ้ำแถมมันยังมีผลคือยืดอายุของผู้ใช้ขึ้นอีก 10ปี ระยะเวลา 10ปีนั้นหากเทียบกับมหาเศรษฐีแล้วละก็พวกเขานั้นหาเงินคืนได้อย่างไม่ยากเย็น หลี่ไห่คิดสักพักก่อนจะตอบเทียนหลาง
”อืม… ราคานี้ฉันก็คิดว่าสมเหตุสมผลอยู่นะ เดียวปู่จะเป็นธุระติดต่อหาคนซื้อให้”
”ขอบคุณมากครับปู่หลี่”
หลังจากที่หลี่ไห่วางสายจากเทียนหลางเขาก็กดโทรออกไปยังเบอร์นึง ไม่นานนักปลายสายก็รับ
”ว่าไงหลี่จิง ฉันไม่คิดเลยว่านายจะโทรมา”
เมื่อหลี่ไห่ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสายเขาก็เอ่ยธุระของเขาทันที
”ฉันมีบางอย่างที่นายอาจจะสนใจมาเสนอ”