ในขณะที่เทียนหลางกำลังก้มมองดูเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในสระน้ำทางเข้าของสวนก็ได้มีเสียงเดินของคนสองคนเดินเข้ามา เมื่อเทียนหลางหันไปก็พบว่าทั้งคู่นั้นเป็นหลี่ไห่กับหลินจินทง
เทียนหลางสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมทั้งคู่ถึงมาหาเขาในช่วงเวลานี้ จึงได้เอ่ยถามออกไป
”พวกคุณมาหาผมมีธุระอะไรงั้นเหรอครับ ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินจินทงก็พูดขึ้นทันที
”ฉันมาที่นี้เพื่อให้เธอส่วนสอนเทคนิคการบ่มเพาะของเซียนยังไงละ”
”อ้อ ~ แล้วคุณปู่หลี่ไห่ละครับมาหาผมด้วยธุระอะไร ?”
หลี่ไห่ที่ได้ยินคำถามก็หัวเราะออกมาก่อนจะพูดขึ้น
”ฉันก็อยากจะสัมผัสกับการบ่มเพาะของเซียนมั่งเหมือนกัน และเมื่อได้ยินจากตาแก่จินทงพูดถึงเรื่องที่เธอได้ยื่นโอกาสให้กับเขา ฉันก็เลยสนใจและขอตามมาด้วยนะ”
เทียนหลางที่ได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะนำทั้งสองคนเข้ามาที่ห้องอ่านหนังสือของเขา ระหว่างทางหลี่ไห่และหลินจินทงก็ต่างชมความสวยงามของสวนของเทียนหลางไม่หยุดพวกเขาบอกว่าอยากจะได้สวนอย่างงี้ไว้ที่บ้านบ้าง มันอาจจะทำให้พวกเขาผ่อนคลายจากเรื่องเคลียด ๆ ได้ซึ่งเทียนหลางก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกับบอกหากทั้งคู่ต้องการ เขาสามารถออกแบบให้ได้ ซึ่งดูแล้วทั้งคู่คงชอบใจอย่างมาก
หลังจากเข้ามาในห้องหนังสือแล้วเทียนหลางก็นำเม็ดยาสีดำออกมาจากกระเป๋าวางตรงหน้าของหลินจินทง ซึ่งนั่นก็คือเม็ดยาสลายตันเถียนที่เทียนหลางสร้างขึ้นมาด้วยสมุนไพรที่มีอยู่ในโลกนี้แม้ผลของมันจะไม่ได้รุนแรงมากนักแต่ก็เพียงพอที่จะสลายการบ่มเพาะของหลินจินทงในตอนนี้ได้
เทียนหลางอธิบายเกี่ยวกับเม็ดยาสลายตันเถียนให้กับหลินจินทงฟังอย่างง่าย ๆ ซึ่งดูเหมือนตัวหลินจินทงเองก็ตกใจเล็กน้อยที่มีเม็ดยาแบบนี้อยู่ ซึ่งเทียนหลางก็บอกให้หลินจินทงฟังอีกว่าในโลกแห่งเซียนนั้นมีเม็ดยามากมายหลายชนิดมากกว่าที่หลินจินทงจะนึกถึงเสียอีกมีตั้งแต่งอกแขนขา หรือกระทั้งฟื้นชีพให้กับคนตายได้
หลังจากที่อธิบายให้หลินจินทงฟังเสร็จเทียนหลางก็ถามอีกครั้ง
”คุณแน่ใจนะที่จะกินมัน ?”
หลินจินทงที่ได้ยินก็สงสัยพร้อมกับถามขึ้น
”มันทรมานงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้น
”การสลายการบ่มเพาะนั้นง่ายดายพอ ๆ กับการหั่นเนื้อฉะนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แต่ที่ผมเป็นห่วงคืออย่างอื่นมากกว่า”
”อย่างอื่น ?”
หลินจินทงสงสัยเล็กน้อย เทียนหลางจึงคลายข้อสงสัยให้ทันที
”การบ่มเพาะในเส้นทางของเต๋าสวรรค์นั้นเป็นการบ่มเพาะที่ยากและใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล เรียกได้ว่ามีหลายคนหมดตัวกับเส้นทางของเต๋าสวรรค์เลยทีเดียว”
หลินจินทงที่ได้ยินก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่สนใจเรื่องหมดตัวอยู่แล้วเพราะหากเขาแข็งแกร่งพอเขาก็สามารถจะแย่งทรัพยากรมาจากคนอื่นได้ และเรื่องการแย่งชิงนั้นก็มีได้เห็นกันบ่อย ๆ ระหว่างสำนักและอีกอย่างหลินจินทงยังมีสำนักของเขาคอยหนุนหลังเรื่องทรัพยากรเขาจึงวางใจเรื่องทรัพยากรได้แต่ถึงอย่างงั้นในใจลึก ๆ ของเขาก็ยังคงมีความกังวลอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
หลังจากคิดเล็กน้อยหลินจินทงก็กลืนเม็ดยาสลายตันเถียนลงท้องไป ส่วนเทียนหลางก็หันมาคุยกับหลี่ไห่เล็กน้อยเรื่องการบ่มเพาะก่อนจะยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้กับเขา
”นี่คืออะไรงั้นเหรอ ?”
หลี่ไห่ถามด้วยความสงสัย เทียนหลางจึงตอบคำถามของเขาอย่างรวดเร็ว
”มันคือเทคนิคพื้นฐานเกี่ยวกับการบ่มเพาะ เนื่องจากคุณนั้นเริ่มโดยที่ไม่รู้อะไรเลยดังนั้นจึงเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นหนังสือเล่มนี้จะช่วยคุณ”
หลี่ไห่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเปิดอ่านหนังสือที่ได้รับมาอย่างลวก ๆ แต่ยิ่งเขาอ่านมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันลึกล้ำมากเท่านั้น และยิ่งหลี่ไห่อ่านเท่าไหร่ก็ยิ่งหลงใหลมันมากขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานหลินจินทงก็ได้รู้สึกว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลง พลังภายในของเขาค่อย ๆ หายใจอย่างช้า ๆ หลินจินทงจึงได้รับรู้ว่าการบ่มเพาะของเขานั้นได้หายไปแล้ว แม้เขาจะเตรียมใจกับเรื่องนี้มาแล้วบ้างแต่การที่การบ่มเพาะตลอดสี่สิบปีนั้นหายไปก็ทำให้เขาเคว้งคว้างไม่น้อย
หลังจากที่เทียนหลางตรวจดูแล้วว่าการบ่มเพาะของหลินจินทงนั้นถูกสลายไปหมดแล้วเขาก็หยิบขวดยาทิพย์ออกมาและยื่นมันให้กับหลินจินทง
”ยาทิพย์ในขวดนี้จะช่วยสร้างตันเถียนของคุณขึ้นมาใหม่และยังช่วยเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะของคุณด้วย”
จากนั้นเทียนหลางก็ยื่นเทคนิคการบ่มเพาะให้กับหลินจินทงและหลี่ไห่พร้อมกับอธิบายถึงเทคนิคการบ่มเพาะแต่ละอัน หลังจากที่คุยกันเสร็จทั้งคู่ก็ขอตัวกลับก่อนกลับเทียนหลางขอเบอร์พ่อบ้านเหลาจากหลินจินทง
”เธอจะขอเบอร์พ่อบ้านของฉันไปทำไมงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็เกาหัวตัวเองเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้น”
”พอดีผมอยากได้แม่บ้านที่ไว้ใจได้คอยดูแลแม่กับพ่อนะครับ และก็อยากได้คนที่คอยทำความสะอาดบ้านและก็ที่พักนี้ด้วย”
หลินจินทงได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะบอกว่าเดียวเป็นธุระจัดการให้ซึ่งเทียนหลางก็กล่าวขอบคุณก่อนจะส่งทั้งคู่กลับ หลังจากที่หลี่ไห่และหลินจินทงกลับไปเทียนหลางก็กลับมานั่งหลอมเครื่องประดับต่อ ระหว่างทำเขาก็นึกถึงเรื่องของศิลาจักรวาลขึ้นมา
”เรื่องของศิลาจักรวาล ข้าควรจะกังวลเกี่ยวกับมันรึเปล่านะ ?”
เทียนหลางตั้งคำถามขึ้นกับตัวเองเพราะเรื่องของศิลาจักรวาลตัวของเทียนหลางนั้นรู้ดีที่สุดว่ามันมีประโยชน์และโทษมากแค่ไหน เพราะเมื่อก่อนเทียนหลางเคยเข้าร่วมต่อสู้เพื่อแย่งศิลาจักรวาลอยู่บ่อยครั้ง เพราะตัวศิลาจักรวาลนั้นหายากเป็นอย่างมากจึงทำให้การค้นพบมันเพียงแค่ไม่กี่กรัมทำให้เป็นเรื่องสั่นสะเทือนไปทั่วดินแดนสวรรค์และดินแดนอื่น ๆ อีกนับร้อย มีผู้คนนับล้านเข้าร่วมต่อสู้เพื่อแย่งมัน และอาวุธประจับตัวของเทียนหลางก็ถูกสร้างมาจากศิลาจักรวาลด้วยเช่นกัน
เทียนหลางขบคิดเรื่องของศิลาจักรวาลอยู่ครู่หนึ่งก็มีเสียงออดดังขึ้น เทียนหลางรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าใครกันที่มาหาเขาเวลานี้หากเป็นพ่อแม่พวกเขาก็คงไม่น่าจะกดออดและเมื่อเทียนหลางคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ได้ตระหนักถึงบางสิ่ง
”บ้านเรานี่คนเข้าออกง่ายดีเหมือนกันแหะ”
ไม่ว่าจะเป็นหลินเสวี่ยและซูหลินที่เข้า ๆ ออก ๆ เกือบทุกวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือหลี่ไห่และหลินจินทงที่เข้าและออกไปเมื่อครู่ ทำให้เทียนหลางรู้สึกว่าความปลอดภัยของบ้านเขานั้นแลดูต่ำเล็กน้อย แต่เทียนหลางก็คิดมันเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นก่อนจะสลัดมันออกไปจากหัว
เสียงออดดังติดต่อกันอยู่หลายครั้งจนทำให้เทียนหลางต้องรีบเดินไปที่ประตู
”มาแล้ว มาแล้ว”
เมื่อเทียนหลางเปิดประตูก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวยี่สิบปีสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนยืนอยู่และเมื่อเทียนหลางจ้องมองใบหน้าของเธอเขาก็ต้องตกใจเล็กน้อยเพราะแม้ใบหน้าของเธอจะถูกซ่อนอยู่ภายใต้แว่นกันแดดแต่เทียนหลางก็สามารถรู้ได้ทันทีเลยว่าเธอนั้นงดงามแค่ไหนเพราะผู้หญิงตรงหน้าของเขานั้นเป็นคนที่เขานั้นรู้จักดี
เทียนหลางส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะทักทายเธอ
”ไม่คิดว่าเธอจะมาถึงเร็วแบบนี้เลยนะ เฟิงหยวน”
ผู้หญิงตรงหน้าที่เทียนหลางเรียกว่าเฟิงหยวนก็ยิ้มออกมาก่อนจะถอดแว่นกันแดดออกพร้อมกับพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
”ฉันมาหาเธอแล้วนะเทียนหลาง”