เทียนหลางพูดพร้อมกับมองเด็กหญิงตรงหน้า หากพูดถึงสิ่งที่เหล่าผู้บ่มเพาะมากมายต้องการเหนือเทคนิคการบ่มเพาะแล้วละก็คงหนีไม่พ้นร่างกายที่แข็งแกร่ง และการที่จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งได้ก็คือการหาเทคนิคบ่มเพาะร่างกายที่ดี หรืออีกทางหนึ่งก็คือการมีร่างกายแบบพิเศษซึ่งถูกเรียกว่า ‘กายา’
กายานั้นถูกแบ่งได้เป็นสามระดับก็คือ กายาจักรพรรดิ กายาเซียน และกายาสวรรค ซึ่งการที่จะได้กายามานั้นมีอยู่สามวิธีก็คือหนึ่งได้มาจากเทคนิคการบ่มเพาะต่าง ๆ สองได้มาจากการสืบทอดจากเจ้าของกายาคนก่อนหรือได้รับจากสมบัติ และสามคือการที่มีกายาเหล่านั้นติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
แต่กายาระดับสวรรคนั้นสามารถมีวิธีได้มาเพียงสองเท่านั้นก็คือการได้รับการสืบทอด หรือมีมาแต่กำเนิดเท่านั้นแต่ถึงอย่างงั้นสิ่งที่พิเศษสำหรับกายาระดับสวรรคนั้นก็คือมันจะติดตัวผู้ครอบครองไปตลอดชั่วนิรันดิ์ไม่ว่าผู้ครอบครองจะตายและเกิดใหม่อีกกี่ภพชาติก็ตาม เช่นเดียวกับกายาจักรพรรดินิรันดิ์ของเทียนหลางที่แม้แต่เขาจะมาติดอยู่ในร่างของเทียนหลางคนนี้แทนที่จะได้ไปเกิดใหม่ แต่กายาจักรพรรดินิรันดิ์ของเขาก็ยังคงติดตัวมาด้วยเช่นเดียวกับแหวนมังกรดำของเขา
ในตอนแรกเทียนหลางนั้นมีความสงสัยใคร่รู้เช่นกันว่าเหตุใดกายาสวรรคถึงติดตามผู้ครอบครองไปทุกชาติ เขาเคยนำเรื่องนี้ไปถามกับองค์จักรพรรดิรุ่นก่อนซึ่งเขาก็ตอบได้เพียงไม่รู้ เขาเพียงอ้างสั้น ๆ ว่ามันเป็นกฏของสวรรคและโลก เมื่อได้คำตอบเช่นนี้เทียนหลางก็ได้แต่เกาหัว เขาเลยเอาเรื่องนี้ไปถามกับปราชญ์คนอื่น ๆ แต่ก็ได้คำตอบมาแนวเดียวกัน
จนถึงวันนี้ผ่านมากว่าพันปีเทียนหลางก็ยังคงเก็บความสงสัยเรื่องนี้อยู่ไว้ภายในส่วนลึกของความคิดมันนานจนเขาแทบจะลืมไปเลยทีเดียว
หลังจากที่เทียนหลางคิดถึงเรื่องกายาราชินีน้ำแข็งของเด็กสาวอยู่สักพักก็หันหน้ามาหาเฟิงหยวน และเมื่อเฟิงหยวนเห็นเธอก็มองเทียนหลางด้วยสายตาค้อนนิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้น
”คุณไม่ต้องมามองฉันเลยนะ !”
เมื่อเทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็ทำสายตาสลดเล็กน้อยก่อนจะจับมือเฟิงหยวนเบา ๆ พร้อมกับจ้องหน้าเธอ ทันทีที่เฟิงหยวนเห็นใบหน้าของเทียนหลางก็พูดสวนขึ้นมาทันที
”ฉันรู้ว่าคุณคิดจะทำอะไร ! ไม่ต้องมาใช้ไม้นี้เลยนะคุณนะ คุณทำหน้าแบบนี้กับฉันมาหลายครั้งในรอบหลายร้อยปีนี้และแต่ละครั้งฉันต้องเหนื่อยตลอด”
เทียนหลางยังไม่ยอมแพ้จ้องมองเฟิงหยวนด้วยสายตาอ้อนวอนอีกครั้ง และเมื่อนานเข้าเฟิงหยวนก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวก่อนจะถอนหายใจออกมาและพูดด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
”ก็ได้คุณชนะ ฉันจะเป็นคนช่วยสอนเทคนิคนั้นให้กับเธอเอง”
เมื่อได้ยินแบบนั้นสายตาของเทียนหลางก็เปลี่ยนกลับไปเป็นปกติอีกครั้งก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
”ขอบคุณมากนะเฟิงหยวน เดียวกลับไปฉันจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่”
”ช่างเถอะ ยังไงซะฉันก็ปฏิเสธคุณไม่ได้อยู่ดี”
เฟิงหยวนพูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจ เทียนหลางมักจะให้สายตาแบบนี้เสมอเวลาที่ขอให้เธอทำอะไรให้ และเฟิงหยวนก็มักจะตอบตกลงเสมอเวลาที่เห็นสายตาอ้อนวอนของเขา
เทียนหลางเดินกลับไปหาคุณน้าพร้อมกับพูดขึ้น
”คุณน้าครับผมมีวิธีที่จะรักษาลูกสาวของคุณน้าแต่ว่าผมต้องถามความเห็นของคุณน้าเสียก่อน”
เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็หันมาหาเทียนหลางทันทีพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
”จริงเหรอคะ ? คุณมีวิธีรักษาเธองั้นเหรอ ?”
เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้น
”แต่วิธีรักษาของผมนั้นค่อนข้างจะพิเศษ ฉะนั้น…”
หลังจากเทียนหลางพูดเขาก็เรียกกระดาษและปากกาออกมาจากแหวนโดยทำท่าหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเขียนที่อยู่ของเขาลงบนกระดาษและยื่นมันให้กับเธอ
”ฉะนั้นผมจะให้คุณตัดสินใจว่าจะรักษาเธอในแบบวิธีของผมไหม หากคุณตัดสินใจได้แล้วให้พาเธอมาตามที่อยู่ในนี้นะครับ”
หลังจากยื่นกระดาษโน๊ตให้กับคุณน้าคนนั้นแล้วเทียนหลางก็พาเฟิงหยวนกลับบ้าน ระหว่างกำลังขับรถกลับเฟิงหยวนก็หยิกแก้มเทียนหลางไปหนึ่งทีก่อนจะกล่าวออกมาแบบดุ ๆ
”คุณนี่ชอบทำตามใจตัวเองเสียจริงนะ ทั้งที่ปล่อยเด็กคนนั้นเอาไว้แบบนั้นจนถึงอายุสิบห้าร่างกายของเธอก็จะกลับมาเป็นปกติแล้วแท้ ๆ แต่คุณยังจะดึงเธอมาเกี่ยวข้องอีก”
หลังจากพูดจบเฟิงหยวนก็กอดอกพร้อมกับเบือนหน้าหนี
”แล้วยังจะให้ฉันไปสอนเทคนิคนั้นกับเธออีก”
เมื่อเทียนหลางได้ยินก็หยุดรถไว้ข้างทางก่อนจะหันหัวมาซบไหล่เฟิงหยวนพร้อมกับทำท่าคลอเคลียก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
”โถ่ ~ ที่รักคุณก็รู้ว่าเด็กที่มีกายาสวรรคแต่กำเนิดนั้นหายากแค่ไหน ผมก็อยากจะสั่งสอนเธอให้ควบคุมพลังของเธอได้แล้วเธอก็จะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติไงละ”
เทียนหลางเหลือบสายตาแล้วยังเห็นว่าเฟิงหยวนยังคงเบือนหน้าหนีอยู่เช่นเดิม เทียนหลางจึงเริ่มที่จะค่อย ๆ คลอเคลียมากขึ้นพร้อมกับอ้อนเฟิงหยวนเพิ่ม
”น๊า ~ ที่รักช่วยผมด้วยเถอะ คุณก็รู้ว่าคุณเป็นเพียงคนเดียวที่มีทักษะควบคุมธาตุน้ำแข็ง ถ้าคุณช่วยผม ๆ จะพาคุณไปช๊อปปิ้ง กินของอร่อย ๆ หรือแม้แต่ทำกับข้าวให้กินทุกวันยังได้เลย”
แม้เทียนหลางจะพยายามติดสินบนสิ่งต่าง ๆ ให้กับเฟิงหยวนแต่ดูเหมือนเธอจะยังคงสงบนิ่งเช่นเดิมจนทำให้เทียนหลางต้องยอมแพ้และกล่าวออกมา
”ก็ได้รอบนี้คุณชนะ คุณต้องการอะไร ?”
เมื่อเฟิงหยวนได้ยินแบบนั้นก็หันหน้ามาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารัก แต่สำหรับเทียนหลางนั้นเขารู้ตัวแล้วว่าตัวเองได้ตกหลุมพรางของเฟิงหยวนเข้าให้แล้ว รอยยิ้มที่คนอื่นคิดว่าเป็นรอยยิ้มของนางฟ้าจากสวรรคนั้นสำหรับเทียนหลางราวกับว่าเขากำลังจะเจอบทลงโทษแสนสาหัสเลยทีเดียว
เทียนหลางมองเฟิงหยวนพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะถามขึ้น
”ที่รัก… คุณต้องการให้ผมทำอะไรงั้นเหรอ ?”
เฟิงหยวนที่เห็นท่าทีของเทียนหลางก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้น
”ฉันต้องการทานอาหารฝีมือคุณ”
เมื่อเทียนหลางได้ยินก็ถอนหายใจออกมาราวกับว่าภาระอันหนักอึ้งได้ถูกปลดปล่อย แต่ในวินาทีต่อมาเทียนหลางก็ราวกับถูกจองจำด้วยโซ่ตรวนอีกครั้งจากคำพูดของเธอ
”ในตอนนี้อะนะ”
เทียนหลางถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้นก่อนจะขับรถกลับบ้าน
”เข้าใจแล้วครับ”