The Soul Purchasing Pirate
บทที่270:ฉันไม่ไหวแล้ว!
S.P.P: บทที่ 270: ฉันไม่ไหวแล้ว!
ท้องฟ้าได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสีดํา
มันไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นเวลากลางคืนหรืออะไร แต่มันเป็นความมืดที่เกิดขึ้นมาจากควันจากปืนใหญ่และลูกกรุนปืนใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า,กระสุนปืนใหญ่นั้นได้ทํามุมโค้งสวยพุ่งตรงเข้ามาที่วัง ตระกูลไอนซ์แบร์นและหลังจากนั้นไม่นานมันก็ได้เข้าปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าเหนือวังตระกูลไอนซ์แบร์นจนไม่มีช่องว่างเหลืออยู่
“ปิ้ววว!”
ลูกกระสุนปืนใหญ่สีดําเงานั้นได้เรียงรายอยู่บนท้องฟ้าและตกลงมาที่วังตระกูลไอนซ์แบร์นอย่างรวดเร็ว
“ใครกัน!? คิดกันที่กล้ายิงปืนใหญ่ใส่มังกรฟ้า!”
“จบสิ้นแล้ว!เฉันตายแน่!”
ชาร์โปลอสนั้นได้กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา
เขาคิดว่าเขานั้นไม่มีทางรอดไปจากกระสุนปืนใหญ่ที่บ้าคลั่ง พวกนี้ได้อย่างแน่นอนแม้ว่าจะมีพวกเจสันอยู่ก็ตาม มันก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะสกัดกั้นการโจมตีที่บ้าคลั่งพวกนี้ได้เพราะในตอนนี้นั้น เหนือวังตระกูลไอนซ์แบร์นนั้นมันเต็มไปด้วยกระสุนปืนใหญ่สีดําเงาที่น่าหวาดกลัว!
“ดูเหมือนว่ามีคนที่ต้องการให้พวกเราตาย!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นคล็อกโคไดล์ก็ได้หันไปทางนิวเรย์
“นั้นรวมถึงเขาด้วย!”
“สรุปแล้วดูเหมือนว่าในตอนนี้พวกเรากําลังตกอยู่ในอันตราย!”
“คล็อกโคไดล์,นายพอมีวิธีที่จะทําให้พวกเรารอดไปจากมันได้มั้ย!?”
เจสันได้ตะโกนถามออกมาอย่างรวดเร็ว
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้มันมีเพียงแค่คล็อกโคไดล์คนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถจัดการกับมันได้
“ฉันไม่รู้ว่าจะรอดไปได้ไหมแต่ฉันจะทําให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้ก็แล้วกัน!”
คล็อกโคไดล์นั้นได้เหยียดมือของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว
แม้ว่ากระสุนปืนใหญ่พวกนี้จะไม่สามารถเทียบกับบัสเตอร์คอลที่สามารถทําลายเกาะได้ทั้งเกาะแต่มันก็ยังน่าหวาดกลัวอยู่ดี
“กําแพงทราย!”
เมื่อคล็อกโคไดล์พูดจบทรายจํานวนมากก็ได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะก่อตัวเป็นโดมที่สามารถเอาพวกเขาทั้งหมดเข้าไปอยู่ข้างในนั้นได้
“บูมม”
ในตอนนั้นเองห่ากระสุนปืนใหญ่ก็ได้กระแทกเข้ามาที่โดมทรายอย่างบ้าคลั่งจนมันถึงกับเกิดช่องโหว่ขึ้นมา
ดวงตาของคล็อกโคไดล์นั้นได้หดแคบลงเขาได้ขยับมือขวาของเขาไปมา ไม่นานช่องโหว่นั้นก็ได้ถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
“บูมมม!”
หลังจากนั้นไม่นานระลอกต่อไปก็ตามมาติดๆมันได้กระแทกมาที่โดมทรายอย่างบ้าคลั่ง
“ฟูวว!”
โดมทรายที่อยู่บนหัวของพวกเขานั้นสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรงจนพวกเขารู้สึกกังวล
“นายยังไหวนะ?”
ในตอนนี้ใบหน้าของเจสันนั่นดูน่าเกลียดมาก
ในขณะที่เขากําลังพูดอยู่นั้นโดมทรายกําได้เกิดช่องโหว่ขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แต่ในไม่ช้ามันก็ได้ถูกฉีกขาดอีกครั้งโดยกระสุนปืนใหญ่ที่บ้าคลั่งพวกนั้น
“ดูเหมือนว่าจะลําบากซะแล้วสิ!”
คล็อกโคไดล์ได้หอบหายใจออกมาอย่างหนักพร้อมกับมือขวาของเขาที่กําลังสั่น
ดูเหมือนว่าบัสเตอร์คอลจิ๋วนี้จะน่าหวาดกลัวมากจริงๆ เขานั้นเห็นวังตระกูลไอนซ์แบร์นทั้งหมดที่กําลังถูกทําลายลงผ่านทรายของเขาในตอนนี้มันได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้วภายใต้พลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวของปืนใหญ่พวกนั้น
“ช่วยฉันด้วย!”
“ใครกัน? ใครกันที่กล้ายิงปืนใหญ่ใส่ตระกูลไอนซ์แบร์น,มันเป็นใครกัน!”
“พวกเราทุกคนกําลังจะตาย!”
เสียงกรีดร้องนั้นดังขึ้นมาจากทั่วทุกสารทิศ
ภายในห้องโถงใหญ่,นิวเรย์ที่ได้ยินเสียงระเบิดนั้นได้เงยหน้าขึ้นมาด้วยความงุนงง
และในตอนนั้นเองเขาก็ได้เห็นสิ่งก่อสร้างที่กําลังพังทลายลงมา พร้อมกับเปลวไฟที่เผาไหม้ไปทั่วทั้งที่แห่งนี้ในตอนนี้ร่างกายของเขานั้นกําลังสั่นสะท้าน
“ใคร? ใครกันที่โจมตีพวกเรา”
เขาได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น
“ใคร? ใครกันที่กล้าทําแบบนี้!,กล้าที่จะโจมตีคนของเผ่ามังกรฟ้ากล้าที่จะโจมตีตระกูลไอนซ์แบร์นของฉัน!”
แม้เขาจะตะโกนออกมาเสียงดังขนาดไหนแต่ก็ไม่มีใครกล่าวตอบเขาสักคน,ผู้คุ้มกันและคนรับใช้นั้นต่างก็วิ่งหนีเอาตัวรอดออกไปจากที่แห่งนี้จนหมดแล้ว
“บูมมม”
กระสุนปืนใหญ่นั้นได้กระแทกไปที่หลังของวังนิวเรย์ จนเศษอิฐพวกนั้นตกลงมาทับร่างของนิวเรย์ และทําให้เขาต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ทุกอย่างมันจบแล้ว”
เลือดนั้นได้กระอักออกมาจากปากของนิวเรย์ในตอนนี้เขาดูสิ้นหวังมากเพราะว่าเขารู้ดีว่าเขานั่นไม่รอดแล้ว
อีกฝ่ายนั้นไม่คิดที่จะปราณีพวกเขาแม้แต่น้อย เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าตระกูลของเขาจะต้องมาถูกทําลายลงแบบนี้
ความโกรธ,ความสิ้นหวัง,ความเสียใจ,และความไม่ยินยอมนั้นกําลังกรีดร้องอยู่ภายในใจของเขา
และในตอนนั้นเองก็ได้มีกระสุนปืนใหญ่สี่ถึงห้าลูกพุ่งตรงเข้ามาที่ร่างของนิวเรย์ “บูม” ร่างของนิวเรย์นั้นได้ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านไปในทันที
ทุกที่ในตระกูลไอนซ์แบร์นนั้นต่างก็เต็มไปด้วยเสียงกรัดร้องที่เต็มไปด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง
ระลอกแรกของปืนใหญ่พวกนี้นั้นกินเวลาถึงสามนาทีแต่มันราวกับพริบตาเดียว
“ระลอกที่สองพร้อมแล้วครับ”
“ยิ่ง!”
เสียงร้องคํารามของปืนใหญ่ที่บ้าคลั่งได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“บูมม!”
เสียงฉีกอากาศของกระสุนปืนใหญ่พวกนั้นทําให้ผู้คนรู้สึกสั่นสะท้าน
ภายใต้กระสุนปืนใหญ่พวกนี้สิ่งที่รอยู่นั้นมีเพียงแค่ความสิ้นหวัง
“เวรเอ้ย!”
เจสันนั้นได้กําหมัดแน่น,เขานั้นไม่สามรถช่วยอะไรได้เลยแม้แต่น้อย เขารู้ดีว่าด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้มันไม่สามารถทําอะไรกับกระสุนปืนใหญ่ที่บ้าคลั่งพวกนี้ได้ แม้แต่ทหารเรือระดับพลเรือโทก็ไม่สามารถทําอะไรกับพวกมันได้
แต่ถ้าเกิดเขามีความแข็งแกร่งระดับพลเรือเอกมันก็อีกเรื่อง!
แม้แต่คล็อกโคไดล์ที่เป็นผู้ใช้พลังผลปีศาจสายโรเกียก็ยังไม่สามารถรับมือกับมันได้ เขาทําได้เพียงแค่ดิ้นรนเท่านั้น
อุณหภูมิของเปลวไฟที่ถูกสะสมจากกระสุนปืนใหญ่พวกนั้น ก็ถึงกับสามารถทําให้ทรายหลอมละลายได้เลยทีเดียว
“ฉันจะไม่ไหวแล้ว!”
ดูเหมือนว่าจู่ๆจํานวนของลูกกระสุนปืนใหญ่พวกนั้นก็เพิ่มขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
“มันเป็นใครกันที่กล้าทําลายล้างหนึ่งในยี่สิบตระกูลของเผ่ามังกรฟ้า!?”
ร่าของชาร์โปลอสนั้นกําลังสั่นสะท้าน พร้อมกับดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ,แม้แต่อิลยาก็ยังรู้สึกสับสน
การกระทําพวกนี้นั้นต้องเป็นการกระทําที่ถูกไตร่ตรองมาแล้วอย่างแน่นอน
“โธ่เว้ย!”
เจสันนั้นได้สบถออกมาด้วยความไม่ยินยอม
ในตอนที่เข้ามาช่วยเจ้านายตัวน้อยนั้นมันราบรื่นมากเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น
ในตอนนี้โดมทรายนั้นกําลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปของคล็อกโคไดล์ เมื่อเห็นอย่างนั้นทุกคนก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองมันในทันที
โดมทรายนั้นได้ถูกกระสุนปืนใหญ่เปิดกว้างออกมาจนน่าหวาดกลัว