S.P.P บทที่ 112: คามเบลท์!!
หลังจากได้ยินคำพูดของเจสัน,โรแกนก็ได้มองไปที่ทะเลเบื้องหน้าเขา
ดวงตาของเขาก็ได้จริงจังขึ้นมาในทันที,ภายใต้การควบคุมของเจสันรูทดราก้อนก็ได้หยุดแล่นลง
“ กัปตัน,คุณจะเอาจริงงั้นหรอ?”
เจสันได้ถามออกมา,ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด
มองเผินๆทะเลนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นทะเลธรรมดาที่พวกเขาเคยแล่นมาตลอด,แต่ทุกคนรู้ว่าภายใต้ทะเลอันเงียบสงบนี้มันมีจ้าวทะเลนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่
ในคามเบลท์นั้น,ไม่มีใครสามารถแล่นเรือได้เนื่องจากมันไม่มีลมที่พัดผ่านเข้ามาในทะเลนี้แถมมันยังมีจ้าวทะเลที่ถือว่าเป็นศัตรูที่อันตรายสำหรับทุกคนบนท้องทะเลอาศัยอยู่อีกด้วย
“ ในตอนนี้เรามาถึงขอบของคามเบลท์แล้ว,อีกประมาณ 1 กิโลเมตรเราถึงจะไปถึงคามเบลท์!”
เจสันได้กล่าวออกมา
โรแกนพยักหน้า,เขารู้สึกว่าผมของเขามันกำลังพลิ้วไหวอยู่เล็กน้อย,มันนับเป็นสายลมที่ดีก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในคามเบลท์
“ ยิ่งเราเข้าใกล้คามเบลท์มากเท่าไหร่,สายลมก็ยิ่งลดลง,เรากำลังจะพบกับปัญหาในการแล่นเรือ!”
“ แน่นอน,คามเบลท์นั้นเงียบสงบยิ่งกว่าท้องทะเลแถบอื่น,และก็มีเรือจำนวนมากที่หลงเข้ามาในเขตหวงห้ามนี้เพราะพวกเขาไม่สามารถแยกแยะมันได้”
เมื่ดได้ยินคำพูดของเจสัน,โรแกนก็ได้พูดออกมาด้วยความมั่นใจว่า
“ แล่นเรือต่อไป!”
“ กัปตัน,คุณจะเข้าไปในคามเบลท์จริงดิ?”
เจสันรู้สึกสงสัยมาก,เขาคิดว่าเขาอธิบายเกี่ยวกับความน่ากลัวของทะเลนี้ชัดเจนมากแล้วนะ
“ เจสันไม่ต้องกังวล,เราไม่ได้จะผ่านทะเลนี้”
โรแกนได้ยิ้มออกมา
“ ไม่ได้ผ่านทะเลนี้,คุณหมายความว่าไง?”
เจสันได้ถามออกมา
นี้เขาแล่นเรือมาถึงตรงนี้แล้วแต่จะไม่เข้าไปเนี่ยนะ?,กัปตันของเขาคนนี้เริ่มที่จะลึกลับขึ้นเรื่อยๆซะแล้วสิ
“หวีดดดดดด!”
ทันใดนั้นโรแกนก็ได้ยื่นมือของเขาออกมาแล้วก็เป่ามันอย่างรุนแรง
เสียงที่คมชัดนั้นได้ดังขึ้นมาในทันที
รูทดราก้อนที่กำลังแล่นอยู่อย่างช้าๆ,ในตอนนี้มันกำลังเข้าใกล้คามเบลท์มากขึ้นเรื่อยๆ
ห่างออกไปไม่กี่เมตร,โรแกนและลูกเรือของเขาก็สามารถเห็นเขตทะเลคามเบลท์ที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
ถ้าดูจากผิวน้ำทะเลเฉยๆนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นความแตกต่างของมันกับทะเลแถบอื่น สิ่งเดียวที่พอจะสามารถทำให้แยกแยะความแตกต่างของมันได้ก็คือทะเลนี้นั้นมันไม่มีคลื่น
โรแกนได้สังเกตทะเลที่อยู่เบื้องหน้าเขาอย่างระมัดระวัง,ดวงตาของเขานั้นก็ค่อยๆจริงจังขึ้นมา
ไกลออกไป,โรแกนนั้นได้เห็นอะไรบางอย่าง,เขารู้ดีว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความผิดปกติของท้องทะเลและไม่ได้เกิดจากเหตุผลทางภูมิประเทศของมัน,มันเกิดขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิตและสิ่งมีชีวิตนั้นก็คือ…
“ จ้าวทะเล !!”
มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของร่างกายของมัน,แต่โรแกนนั้นมั่นใจมากว่าต้องเป็นมันแน่ๆ
“ มันใหญ่มาก!”
มองไกลออกไป,มันมีสีที่แตกต่างจากท้องทะเลอย่างชัดเจน,ขนาดตัวของมันนั้นน่าจะยาวถึง 200 เมตร,ขนาดของมันนั้นสามารถเทียบได้กับภูเขาลูกเล็กๆได้เลยทีเดียว
สิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดที่โรแกนเคยเห็นนั้นก็คือฟีนิกซ์ทมิฬ,ขนาดในตอนที่มันกางปีกออกมานั้นมีขนาดราวๆหนึ่งร้อยเมตร,แต่สัตว์ร้ายที่น่ากลัวตัวนี้ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในเขตทะเลนี้นั้นมันมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของฟีนิกซ์ทมิฬและนี่คือสิ่งที่โรแกนเห็น
“ กัปตัน,ถ้าเรายังอยู่บนเรือต่อไปเราตายแน่,นี้คือจุดประสงค์ที่คุณไปควบคุมนกนั้นมางั้นหรอ?”
เจสันได้ถามออกมาอย่างกระวนกระวาย
“ ฟีนิกซ์ทมิฬนั้นมีขนาดประมาณ 100 เมตร,คุณจะให้พวกเราขึ้นไปอยู่บนตัวมันแล้วบินผ่านคามเบลท์ไปใช่ไหม?”
โรแกนได้ยิ้มออกมา
“ แต่กัปตันเราไม่รู้ว่าเราจะต้องเดินทางไกลขนาดไหน,แล้วอีกอย่างนะคุณแน่ใจหรือว่าเราจะสามารถไว้วางใจมันได้?”
เจสันถามออกมาอย่างสงสัย
“ แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”
ในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับฟีนิกซ์ทมิฬนั้นเขาไม่เพียงแต่ปลูกฝังเจตจำนงของเขาเข้าไป,แต่ยังส่งชิ้นส่วนความทรงจำที่เขาสร้างขึ้นมาเข้าไปในความคิดของฟีนิกซ์ทมิฬอีกด้วย
ฟีนิกซ์ทมิฬนั้นมีปีกที่กว้างมากกว่าห้าสิบเมตร,ดวงตาของมันนั้นแหลมคมและเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง,สัตว์นับไม่ถ้วนที่ร้องคำรามอยู่ข้างใต้มันแต่มันก็ไม่เคยสนใจและไม่เคยตื่นตระหนกใดๆ
เมื่อไหร่ที่มันกระพือปีกนั้นจะไม่มีอะไรสามารถโจมตีมันได้,และมันก็จะคอยลอบโจมตีศัตรูของมันอย่างดุร้ายและปล่อยให้ศัตรูของมันนั้นกรีดร้องและตายไปอย่างสิ้นหวัง
“ คามเบลท์นั้นไม่พอที่จะกดดันฟีนิกซ์ทมิฬได้หรอก!”
โรแกนได้ยกมือขึ้นไปบนท้องฟ้า
ทันใดนั้นมีจุดสีดำก็ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ,และมันก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“ว้ากกกก!”
ฟีนิกซ์ทมิฬได้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างคมชัด,ในพริบตามันก็ได้มาถึงตรงตำแหน่งของพวกเขา
ร่างใหญ่ของมันนั้นได้ปกคลุมท้องฟ้า,มันทำให้เจสันรู้สึกตกตะลึง
“โอ้พระเจ้า!,ฉันไม่เคยคิดเลยว่ากัปตันของเราจะทำแบบนี้ได้ด้วย!”
โรแกนนั้นกำลังมองไปที่นกสีดำตัวใหญ่ที่เข้าใกล้เข้ามาแล้วเขาก็ได้ตะโกนออกมาว่า
“ ฟีนิกซ์ทมิฬเอาเรือของพวกเราข้ามคามเบลท์!”
การเผชิญหน้ากันระหว่างโรแกนกับฟีนิกซ์ทมิฬนั้นดูเหมือนว่าฟีนิกซ์ทมิฬนั้นจะเข้าใจในสิ่งที่ โรแกนพูดออกมาได้
นกยักษ์นั้นพงกหัวของมันและได้ส่งเสียงร้องออกมา
“ว้ากกกก!”
“ ในตอนที่ยกเรือขึ้นมานั้นฉันคิดว่ามันคงจะไม่มั่นคงเท่าไหร่,ดังนั้นให้เราขึ้นไปอยู่บนหลังของนาย!”
“ เจสัน,รูจ,เจ้านายตัวน้อยขึ้นไปบนหลังของฟีนิกซ์ทมิฬ!”
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น,ฟีนิกซ์ทมิฬก็ได้กระพือปีกและลดระดับลงมาอยู่ในระดับเดียวกับเรือ
“โอเค!”
เจสันได้นำเจ้านายตัวน้อยและรูจขึ้นไปบนหลังของฟีนิกซ์ทมิฬหลังจากนั้นโรแกนก็ได้ตามพวกเขาขึ้นมา,เขาได้เหยียบลงบนดาดฟ้าและทันใดนั้นโรแกนก็ได้ขึ้นมาอยู่บนหลังของฟีนิกซ์ทมิฬ
หลังจากนั้นฟีนิกซ์ทมิฬก็ได้บินขึ้นไปสูงกว่า 500 เมตรเหนือพื้นดิน,และมันก็ได้บินลงมาอีกครั้งราวกับว่ามันกำลังน่าตื่นเต้น
กรงเล็บของมันนั้นดูเหมือนกับตะขอเหล็กมันมีทั้งความแข็งแรงและทนทาน
ผ่านไปครู่หนึ่ง,ฟีนิกซ์ทมิฬก็ได้เอากรงเล็บของมันไปเกี่ยวเรือเอาไว้
“ครึกก”
กรงเล็บแหลมของมันได้พุ่งเข้ามาที่ลำเรือ,และมันก็ได้ถูกยึดแน่นเอาวไอย่างใกล้ชิด,หลังจากนั้นมันก็ได้กระพือปีกของมัน
รูทดราก้อนนั้นดูเหมือนกับเป็นเหยื่อของฟีนิกซ์ทมิฬ,หลังจากนั้นมันก็ได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
“สุดยอดไปเลย”
เจสันนั้นตื่นเต้นมากกับสิ่งที่เขาได้เห็น
ความสามารถของนกยักษ์ตัวนี้นั้นมันเกินความคาดหมายของเขาไปมาก
หลังจากนั้นฟีนิกซ์ทมิฬก็ได้บินเข้าไปที่คามเบลท์,ซึ่งเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่
โรแกนและลูกเรือของเขานั้นได้มองลงมาจากที่สูง,พวกเขานั้นสามารถเห็นสัตว์ร้ายขนาดมหึมาที่กำลังการเคลื่อนไหวอยู่ในทะเลแห่งนี้ได้
พวกเขาได้มองลงมาจากบนหลังของฟีนิกซ์ทมิฬ
“หืดด!”
เมื่อพวกเขาเห็นร่างของพวกมันพวกเขาก็ทำได้เพียงสูดลมหายใจ