S.P.P บทที่ 130: ความรักของเทรนซุ!
“ สร้อยนี่นะมันหาได้แค่ในลิตเติ้ลฟาวเวอร์เท่านั้น,ฉันซื้อมันมาให้เอลซ่านะ!”
เมื่อเทรนซุพูดเรื่องนี้ออกมาใบหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดง,เขารู้สึกเขินนิดหน่อย
“นี่นายทำทั้งหมดนี้เพื่อแค่คนรักเนี่ยนะ”
เจสันได้พูดขึ้นมา
“นายไม่สนใจชีวิตของตัวเองเลยรึไง?,เพียงเพื่อคนรักนายถึงกลับกล้าที่จะข้ามทะเลทรายนี้มา!”
ชายวัยกลางคนได้ส่ายหัวและถอนหายใจ
“ ไม่ๆ,เธอไม่ได้เป็นคนรักของฉัน!”
เทรนซุรีบส่ายหัวแล้วอธิบาย
“ ฉันแค่ชอบเธอ,และฉันก็แค่อยากทำให้เธอประหลาดใจ!”
โรแกนพูดไม่ออก,เธอไม่ใช่แม้แต่เป็นแฟนของเขาด้วยซ้ำ,เมื่อมองไปที่สร้อยคอที่สวยงามนั้นและเสื้อผ้าของเทรนซุเขาสามารถเห็นความแตกต่างของมันได้อย่างชัดเจน,มันไม่ใช่ชุดที่ดูดีเลยเขาสามารถจินตนาการถึงความยากลำบากของเด็กหนุ่มคนนี้,เขารู้ได้ในทันทีว่าเด็กนี้ไม่ได้มาจากลิตเติ้ลฟาวเวอร์แต่มาจากที่อื่น
เพื่อสร้อยคอนี้เขาคงจะเสียเงินไปเป็นจำนวนมากและเขาก็เกือบจะเสียชีวิตของเขาไปแล้วด้วยเพียงเพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับหญิงสาวที่เขาชอบ
เหมือนที่ชายวัยกลางคนพูด “นายไม่สนใจชีวิตของตัวเองเลยรึไง”
“ นายมาจากไหนละไอหนู ”
เจสันได้ถามออกมาอย่างสงสัย
พายุทรายด้านนอกนั้นได้เข้าปกคลุมท้องฟ้าไว้จนหมด,แต่คนบนเกวียนนั้นยังคงพูดคุยกันต่อไป
“ ฉันมาจากอลูบาน่า!” เทรนซุได้ตอบกลับ
“ เพื่อคนรัก,นายถึงกับข้ามทะเลทรายนี้มา,นายไม่กลัวโจรบางเลยรึไง?,นายนี่มันสุดยอดจริงๆไอหนู!” เจสันได้กล่าวชื่นชมออกมา
“ เอลซ่าเคยบอกว่าเธอชอบสร้อยคอนี้แต่ตอนนั้นฉันไม่มีเงิน,นอกจากนี้สร้อยคอนี้ก็มีแค่ใน ” ลิตเติ้ลฟาวเวอร์ ” ในนาโนะฮานะดังนั้นฉันจึงไปที่นั่นและทำงานหาเงินแล้วฉันก็ซื้อมันให้เธอ!”
เทรนซุได้เกาหัวของเขาอย่างเขินอาย
“ แล้วเธอชอบนายไหม? ”
เจสันได้ถามออกมาอย่างสงสัย
“นะ..แน่นอนสิ!”
เทรนซุได้ตอบกลับไปอย่างลังเล
“ เมื่อไหร่ที่ฉันให้สร้อยคอนี้กับเธอละก็เธอจะต้องประหลาดใจและเธอก็จะตกหลุมรักฉัน!”
เขาดูมั่นใจมาก
“ เฮ้,นมบริสุทธิ์,ฉันขอถามอะไรนายหน่อยได้ไหม?” (“ เทรนซุ” เป็นผลิตภัณฑ์นมชื่อดังในประเทศจีน)
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้พูดขึ้นมา
“ ฉันชื่อเทรนซุ,แล้วไอนมบริสุทธิ์มันหมายความว่ายังไงกัน!” เทรนซุได้แก้ต่างในสิ่งที่โรแกนพูดในทันที
“ เทรนซุนายออกมาจากอลูบาน่ามาหารายได้เพื่อซื้อสร้อยคอนี่มานานแค่ไหนแล้ว?”
โรแกนได้ถามออกตรงๆ
“ หนึ่งปีกับอีกสามเดือน,ทุกวันฉันมักจะนึกถึงปฏิกิริยาของเอลซ่าในตอนที่ฉันมอบสร้อยคอนี้ให้เธอ”
เทรนซุได้กำสร้อยคอเอาไว้แน่น,ใบหน้าของเขานั้นดูมีความสุขมากซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงหัวใจที่บริสุทธิ์ของเขา
หนึ่งปีกับอีกสามเดือน,ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเอลซ่าจะชอบเด็กนี้ไหม?,จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไปเจอผู้ชายอีกคนและตกหลุมรักเขา,หนึ่งปีกับอีกสามเดือนนั้นถือเป็นเวลาที่นานพอควรเธออาจจะลืมเขาไปแล้วก็ได้,ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับเทรนซุ
เด็กนี้ไม่เพียงแต่โง่เง่าในความรัก,แต่เขายังมีไอคิวที่ต่ำมากอีกด้วย
“ ความฉลาดเป็นสิ่งที่ดี,ฉันหวังว่านายจะได้รับมันในตอนที่นายถูกปฏิเสธ”
โรแกนนั้นได้พูดทำลายความหวังออกมาตรงๆ
ใบหน้าของเทรนซุเต็มไปด้วยรอยย่น,มันยากที่จะพูดอะไรกับคนที่พึ่งจะช่วยชีวิตเขาไว้,เขาได้หันหัวของเขาและมองไปที่เจสัน
“ ในตอนที่นานกลับไปถึง,นายอาจจะพบว่าคนรักของนายนั้นได้กลายเป็นคุณแม่ลูกสามไปแล้วก็ได้นะ,ขอให้โชคดีละ!”
เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ชายร่างใหญ่คนนี้พูด,เทรนซุก็รู้สึกดีขึ้นมาในทันที
“ สามคนในหนึ่งปี! เธอเป็นหมูรึไงกัน?”
เสียงระฆังดังขึ้นพร้อมกับเกวียนที่เดินลึกเข้าไปในพายุทราย
สายลมได้พัดผ่านทะเลทรายสีทอง
มีทรายจำนวนมากที่ได้ตกลงมาบนใบหน้าของลุง,เขาได้คลุมตัวอย่างแน่นหนาเพื่อหลีกเลี่ยงทรายพวกนั้น
“ พายุทรายนี้ค่อนข้างแปลก!”
ในเวลานี้ลุงวัยกลางคนก็ได้พูดออกมาอย่างเฉยเมย
“ มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ?” เทรนซุได้ถามออกมาด้วยความสงสัย
“ ลมสงบนาดนี้มันไม่ควรมีพายุทรายได้!” ลุงได้พูดออกมาอย่างแปลกใจ
“ กัปตันของเราได้พูดมาก่อนหน้านี้แล้วว่ามันเกิดมาจากมนุษย์!”
เจสันได้พูดขึ้นมา
“ ไปต่อได้แล้ว,เราอาจจะได้พบกับผู้ชายคนนั้น!”
โรแกนได้สั่งออกมาในทันที
“ มันเกิดจากฝีมือมนุษย์จริงๆงั้นหรอ?,ฉันอยากรู้จริงๆว่าใครเป็นคนทำ”
ชายวัยกลางคนนั้นดูสงสัยมาก
โรแกนนั้นพบว่าสิ่งที่เป็นปัญหานั้นมีแค่ทรายที่ลอยอยู่ในอากาศและตราบใดที่ลมพลังอำนาจของมันก็จะลดลง,ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับโรแกน
“เดินหน้า!”
ชายวัยกลางคนได้ตบไปที่อูฐพร้อมกับอูฐที่เริ่มเคลื่อนไหวต่ออย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่กี่นาที,สายลมก็ได้จางลงพร้อมกับพายุทรายที่เล็กลง
“ติ่ง,ติ่ง!”
เสียงระฆังได้ดังขึ้น,เกวียนสองคันกำลังเคลื่อนที่อยู่อย่างช้าๆในทะเลทราย
“ มาแล้ว,พายุทรายนี้มีขนาดใหญ่มากฉันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันเกิดขึ้นมาจากฝีมือมนุษย์!”
ลุงนั้นยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่โรแกน
โรแกนไม่ได้ตอบกลับไปแต่อย่างใด,เขานั่งอยู่ในเกวียนพร้อมกับหลับตาและคิดถึงอนาคตต่อไปข้างหน้า
เจสันถอดผ้าคลุมบนใบหน้าของเขาออก,เมื่อเห็นว่าพายุทรายนั้นเริ่มเล็กลงจากนั้นเขาก็ได้ลองมองหาร่องรอยของคล็อกโคไดล์
“ กัปตัน,ไม่มีร่องรอยของผู้ชายคนนั้นอยู่เลย!”
ทรายสีทองนั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่งมันยากที่จะหาตัวของคล็อกโคไดล์ได้
โรกนไม่ได้ตอบกลับไปอย่างเคย,เทรนซุได้จ้องมองไปที่เจสันด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็นจากนั้นเขาก็ได้ถามออกมาว่า
“ เจสัน,นายต้องการต่อสู้กับผู้ชายคนนั้นจริงๆเหรอ?”
“ นายเป็นเด็ก,เพราะฉะนั้นฉันจะไม่โกหกนาย,หน้าของหมอนั้นถูกฉันต่อยปลิวมาหลายครั้งแล้ว!”
“ แต่ถึงยังงั้นเขากลับไม่ตาย”
“ เพราะว่าเขาเป็นผู้ใช้พลังผลไม้ปีศาจสายโรเกีย,มันทำให้เขาสามารถแปลงสภาพร่างกายของตัวเองได้!”
“อะไรนะ!,ผลไม้ปีศาจงั้นหรอ?”
เทรนซุดูอยากรู้อยากเห็นมาก
เจสันไม่ได้อธิบายต่อ,เขาได้โบกมือของเขาไปมาและพูดออกมาว่า“ ไม่ต้องไปสนใจหรอก!” และได้หันกลับไปมองที่ทะเลทรายต่อ
“ นายจะได้รู้เองเมื่อนายออกทะเล!”
เจสันได้จบบทสนทนาลงด้วยประโยคดังกล่าว
ห้านาทีต่อมา,พายุทรายก็ได้หายไปและทุกคนก็ได้เห็นท้องฟ้าอีกครั้ง
“ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่!”
เจสันได้ส่ายหัว
“ไม่,ไม่!,เจสันดูนั่นสิ!”
ทันใดนั้นใบหน้าของเทรนซุก็ได้เปลี่ยนไป,เขาได้ชี้มือไปที่ทางด้านขวาอย่างสั่นๆ
“ไหน?”
เจสันได้หันหน้าของเขาไปมองและเขาก็ต้องตกตะลึง
“….”
เกวียนอูฐได้หยุดลงพร้อมกับสายตาของทั้งสองที่ได้มองออกไปทางขวามือ
พวกเขานั้นได้พบเข้ากับมัมมี่ที่กำลังยืนอยู่ในทะเลทราย,ใบหน้าของพวกเขานั้นซูบลงและมีผิวที่เป็นสีน้ำตาลราวกับว่าเข้าได้ถูกเอาน้ำออกไปจากร่างกายจนหมด
มีมัมมี่อยู่นับสิบ
พวกเขายืนอยู่ในทะเลทรายอยู่อย่างนั้น,ใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวราวกับว่าพวกเขาได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่น่าหวาดผวาก่อนที่พวกเขาจะตาย