S.P.P บทที่ 143: ใครกันที่อ่อนแอ?
“งั้นหรอ?”
ใบหน้าของคล็อกโคไดล์ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
“ ชายคนนั้นกับนายเนี่ย,เป็นพวกที่แปลกจริงๆ!”
“พรรคพวกสินะ!”
ในตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่าคล็อกโคไดล์นั้นกำลังเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกในการได้รับความไว้วางใจจากคนอื่น
ในตอนแรกเขาคิดว่ากลุ่มโจรสลัดของเขาในก่อนหน้านั้น,มันไม่ได้ด้อยไปกว่ากลุ่มโจรสลัดกลุ่มนี้เลย
แต่ใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน,พวกเขาก็ได้แสดงความแตกต่างออกมาซึ่งมันอาจจะเปลี่ยนเขาไปเลย
คล็อกโคไดล์ได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ
“ ฉันคิดว่าไอเด็กนั้นคงมีหวังไม่มาก!”
คล็อกโคไดล์ได้แสดงความคิดเห็นในขณะที่เขากำลังสูบซิการ์
“ นายนี่เป็นคนที่ช่างพูดจริงๆ!”
เจสันได้พูดออกมา
“ ยิ่งนายมีประสบการณ์มากเท่าไหร่นายก็จะยิ่งเข้าใจมันมากขึ้น!”
คล็อกโคไดล์ได้พูดออกมา
“ อืม,ฉันเข้าใจแล้ว!”
เจสันได้ตอบกลับและหยุดพูด
อ่านนิยาย
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง,พวกเขาก็ได้เห็นความผิดหวังบนใบหน้าของเทรนซุที่ดูอึมครึม
“ นั่นมันเทรนซุนิ!”
เมื่อเขาเห็นเทรนซุ,เจสันก็กำลังจะถามเขาออกไปแต่ก็ถูกคล็อกโคไดล์หยุดเอาไว้ก่อน
“ ดูเขาให้ดีๆสิ!”
ในตอนนั้นเองเจสันก็ได้มองไปที่เทรนซุอย่างระมัดระวัง,และเขาสังเกตเห็นถึงบางสิ่ง
ในเวลาเดียวกับที่เทรนซุเดินออกมาจากร้านตีเหล็ก,เสียงก่นด่าก็ได้ดังขึ้นมาจากข้างหลังของเขา
“ ไอ้กระจอก,นายต้องการเอลซ่างั้นสินะ?”
“ ฉันขอบอกอะไรแกหน่อยละกัน,เอลซ่านะมาอยู่กับฉันตั้งแต่เดือนแรกที่แกไปแล้ว”
“ แกมันไม่มีเงิน,ไม่มีพลังอำนาจ,แล้วเอลซ่าจะไปอยู่กับแกทำไมกัน?”
ชายร่างผอมสูงที่มีผมสีบลอนด์ที่ถูกหวีกลับหลังพร้อมกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขาที่กำลังเดินมาที่ประตูและมองไปที่เทรนซุอย่างดูถูก
“ แกได้สร้อยคอนั้นหลังจากที่ทำงานมาอย่างหนักหนึ่งปีงั้นสินะ?,ฉันนะให้สร้อยแบบนั้นเธอได้เป็นร้อยครั้ง!”
“!”
หญิงสาวที่อยู่ข้างๆเขาได้ตีไปที่ชายคนนั้นเบาๆราวกับว่าเธอกำลังเขินอาย
“ ไอ้หนู,แกมันไม่มีทั้งเงิน,ไม่มีทั้งพลังอำนาจ,แกนะมันไม่ต่างอะไรจากแมลงสาบสำหรับฉัน,ฉันละเป็นห่วงแกจริงๆ!”
“ เทพธิดาในความคิดของแกนะเธอเป็นของฉัน,และเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่หอบและคร่ำครวญทุกครั้งที่อยู่บนเตียงเธอเล่นกับฉันจนเหนื่อยเลยล่ะ,น่าเสียดายจริงๆ!”
เขาได้ผละออกจากหญิงสาวและเดินไปกระซิบที่หูของเทรนซุ
“ ฉันแนะนำวิธีดีๆให้เอาไหม,สร้อยนั้นก็ดูมีราคาดีนะ,นายน่าจะเอามันไปแลกกับเสื้อผ้าดีๆซักตัว,มันน่าจะช่วยให้นายมีความหวังที่จะหาผู้หญิงแบบยัยนี้ได้!”
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น,เทรนซุก็รู้สึกราวกับว่ามีเปลวไฟกำลังลุกขึ้นมาในจิตใจของเขา
ทันใดนั้นเขาก็ได้เงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมาเสียงดัง
“แกพูดว่าไงนะ?”
“ ฉันบอกว่าแกเป็นคนที่น่าสมเพช,แกนะจะถูกบดขยี้อยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของผู้มีอำนาจอย่างฉัน!”
ชายผมบลอนด์ได้กล่าวเยาะเย้ยออกมา
” แกรู้อะไรไหม!,ฉันเหยียบย่ำคนแบบแกมาแล้วห้าคนในปีนี้!”
“ ซากากิ,เขาก็เป็นแค่เด็กที่ยากจน!”
ในตอนนั้นเองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงประตูก็ได้พูดขึ้นมา
“เอลซ่า!”
เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหญิงสาวเทรนซุก็ได้กำหมัดของเขาแน่น
เขานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและเขามักจะจินตนาการถึงชีวิตที่ดีขึ้น,ในขณะนั้นเองเขาได้มองไปที่สร้อยในมือของเขา,เขารู้สึกถึงความแดกดันที่เกินคำบรรยายจากมัน
เทพธิดาที่เขาใฝ่ฝัน,กลับกลายมาเป็นผู้หญิงแบบนี้
ภาพที่สวยงามในใจเขาได้แตกสลายพร้อมกับความฝันของเขา
เอลซ่าในความทรงจำของเขานั้นมันคนที่บริสุทธิ์,เธอไม่เคยแต่งหน้าหรือสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำด้วยทองคำหรือเงินอย่างที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้,แต่มันก็เป็นเรื่องที่ปกติ
เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน
“ฉันเข้าใจแล้ว!”
ทันใดนั้นเทรนซุก็ได้ยกยิ้มขึ้น,เขาได้ก้าวไปข้างหน้าและส่งสร้อยคอไปให้เอลซ่า
“ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการให้เธอตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว”
“ โชคไม่ดีที่ในเวลานั้นฉันไม่มีเงิน,หนึ่งปีกับอีกสามเดือนฉันทำงานอย่างหนักและในที่สุดฉันก็ได้รับมันมา!”
“แม้ว่า..”
เทรนซุได้หยุดไปชั่วขณะและจากนั้นเขาก็ได้มองไปที่เธอแล้วพูดออกมาว่า
“ มันจะสายไปหน่อย..แต่สร้อยคอนี้หน่ะฉันต้องการมอบมันให้กับเธอ!”
เขาดึงมือของเอลซ่าแล้วส่งสร้อยคอให้เธอ
จากนั้นเขาก็ก้าวถอยหลังกลับมาสองก้าว
“ ตอนนี้เป้าหมายของฉันก็สำเร็จแล้ว,และในที่สุดฉันก็ได้ตื่นจากความฝันซะที!”
เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน,แต่มันไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของเขาได้,สิ่งใดที่เขาตั้งเป้าไว้สิ่งนั้นจะต้องสำเร็จไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น,เขาก็จะทน
“ ไอ้หนู,ฉันยังอยู่ที่นี่!”
ชายผมบลอนด์ได้หันหัวมาที่เทรนซุ
“ นายบอกว่าฉันอ่อนแองั้นสินะ!”
เทรนซุได้หันหัวของเขาและจ้องไปที่เขา
ซากากิรู้สึกตกใจกับแววตาที่สงบของเทรนซุ,ความกลัวได้เพิ่มขึ้นมาในใจของเขาอย่างลึกลับ
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกโกรธ
“ ไอ้บ้านี่,แกกล้ามองมาที่ฉันงั้นหรอ?”
การจ้องมองแบบนั้นมันเหมือนกับที่เขามักจะใช้กับคนอ่อนแอ,เขารู้สึกราวกับว่าเขากลายเป็นเหมือนกับไอคนพวกนั้น
” แกจะต้องตาย!,ฉันสาบานเลยว่าแกจะอยู่ได้อีกไม่เกินสองวัน!”
ซากากิโกรธมากในตอนนี้
เขาสาบานว่าจะฆ่าไอเด็กนี้ให้ได้
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเทรนซุนั้นกลับไม่ได้เปลี่ยนไปเลยในตอนที่เขาได้ยินคำขู่นั้น,มันทำให้ซากากิรู้สึกประหลาดใจ
มันไม่มีความกลัวอยู่ในดวงตาของเขาเลย
ความสูงของเขานั้นมันเพียงแค่ 1.7 เมตรเท่านั้น,เทรนซุนั้นสูงแค่คางของเขาเท่านั้น,เทรนซุนั้นได้หมุนตัวและหยิบอาวุธของเขาขึ้นมา
จากนั้นปากกระบอกปืนก็ได้หันมาพร้อมกับเสียงค้อนที่ได้ดังขึ้นมา,ในวินาทีต่อมาใบหน้าของซากากิก็ได้ซีดลง
เมื่อเขารู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นซากากิก็รู้สึกหวาดกลัว
“ ฉันไม่เห็นด้วยกับที่นายบอกว่าฉันอ่อนแอ!”
“ เพราะว่านายนะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันได้รับประสบการณ์อะไรมาบ้างในหนึ่งปีที่ผ่านมานี่!”
เทรนซุนั้นดูสงบมาก
แผ่นหลังของซากากินั้นเปียกโชก,ขาของเขานั้นสั่นอย่างหนัก
เทรนซุนั้นไม่สนใจเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจจะมาถึงถ้าเขาจัดการกับผู้ชายคนนี้ในอลูบาน่า
“ ตอนนี้ปืนของฉันนะกำลังจ่ออยู่ที่หน้าผากของนาย,ถ้าฉันปลดเซฟออกแล้วลั่นไกออกไปเมื่อไหร่ละก็..”
เทรนซุได้หยุดพูดไปชั่วขณะ
“บูม!”
“ หัวของนายก็จะระเบิดเหมือนกับแตงโม!”
“ บัดซบ!”
ซากากิได้ล้มลงไปนั่งชันเข่าบนพื้นอย่างหวาดกลัว
เทรนซุได้มองไปที่เขาแล้วถามออกมาอย่างเย็นชาว่า
“ บอกฉันหน่อยสิว่าใครที่อ่อนแอ?”