S.P.Pบทที่22:หัวหน้าอยากพบคุณ!
ด้วยฤทธิ์ของสาเกมันทำให้โรแกนนั้นหยิ่งผยองเป็นอย่างมากและเขาก็ได้ตะโกนโวยวายเสียงดังอยู่บนท้องทะเลแห่งนี้
หลายวันที่ผ่านมานี้มีหลายสิ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นการตายของพี่ชายเขา,การถูกตามล่าจากทหารเรือที่ทำให้เขาต้องแยกจากกับเพื่อนของเขา,การมาถึงอย่างกะทันหันของระบบครอบครองวิญญาณซึ่งทำให้เขาได้รับพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นและสามารถที่จะสามารถอยู่รอดในท้องทะเลนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ได้กลายเป็นนักล่าโจรสลัด
ทุกอย่างที่กล่าวมานั้นเขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นมาพร้อมๆกัน,เขาอายุแค่16 เท่านั้น
ทุกอย่างมันเร็วมากจนเขาตั้งตัวไม่ทัน
ในหัวใจของโรแกนตอนนี้นั้นมีความกดดันและสับสนเกี่ยวกับอนาคตของเขาอยู่เสมอและสงสัยในความแข็งแกร่งของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาถึงได้รู้ว่าตัวเขาควรจะทำอะไร
มันเหมือนเป็นการลองเสี่ยงดวงในตอนที่เขาได้ไปรับรางวัลค่าหัวในฐานทัพเรือในวันนั้น เขาต้องการที่จะรู้ว่าเขาจะกล้าพอที่จะยืนอยู่ตรงหน้าคนที่ไล่ล่าเขาได้ไหม?,และถ้าพวกเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน?
หัวใจของเขายังคงสงบขณะที่เขาเข้าใกล้ฐานทัพเรือ และในที่สุดเขาก็ยืนยันว่าระบบครอบครองวิญญาณนั้นแข็งแกร่งและมันก็ได้เปลี่ยนชีวิตเขา สภาพจิตใจของเขาในตอนนี้นั้นสงบเป็นอย่างมากและสามารถที่จะเผชิญกับอันตรายใด ๆก็ตามที่เข้ามา
เขาบ้าแล้วเขาก็มีความสุขมากไม่เพียงเพราะเงินที่เขาได้รับจากรางวัลค่าหัว แต่ยังเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเขา
เขามีความสุขมาก
โรแกนจิบสาเกและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หลับไป เรือแล่นไปตามลมทะเลโดยไม่มีจุดหมายใดๆ
ในวันต่อมาเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ดวงอาทิตย์ที่อบอุ่นนั้นได้ส่องไปที่โรแกนซึ่งมันก็ได้ปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา
“หัวของฉัน!”
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาที่ความคิดและได้คิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากนั้นเขาก็ล้างหน้า
“ ฉันไม่มีเงินมากพอฉันต้องการมากกว่านี้!”
“วิญญาณที่ฉันอัญเชิญมาก่อนหน้านี้นั้นเป็นวิญญาณ 10,000 เบรีอันระดับสีส้มเท่านั้น แต่มันก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าฉันอัญเชิญระดับ10 ล้านหรือ100 ล้านมันจะมีพลังมากขนาดไหนกันนะ?”
“ฉันละอยากรู้จริงๆ!”
โรแกนรู้อยู่แล้วว่ายิ่งวิญญาณมีราคาแพงมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น
มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณที่ทรงพลังเหล่านั้นมาต่อสู้ด้วยกันไปกับเขาเขาจะได้รับพลังของพวกเขาไหม?
สำหรับโรแกนในตอนนี้นั้นเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา
ต่อมาโรแกนได้บังคับให้รูทดราก้อนแล่นอยู่แต่ในทะเลอีสต์บลู
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและมันก็ได้ผ่านไปแล้วสามเดือน
ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมาชื่อเสียงของโรแกนก็ได้กลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาทำให้เขาสามารถเอาชนะโจรสลัดสามคนที่มีค่าหัวประมาณ 5 ล้านเบรี รวมๆก็ประมาณ15 ล้านเบรียิ่งไปกว่านั้นโจรสลัดที่อ่อนแอส่วนใหญ่ก็มักจะหนีในทันทีเมื่อพวกเขาเห็นเรือรูทดราก้อน
“โจรสลัดตัวเล็ก ๆ พวกนั้นไม่กล้าสู้กับฉันอีกต่อไปแล้ว ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานี้รายได้ของฉันหายไปเยอะเลย”
โรแกนส่ายหัวอย่างจนปัญญา เขาเริ่มรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าชื่อเสียงของเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเพราะมันทำให้รายได้ของเขาหายไป
ในวันนี้เขาไปที่ฐานทัพเรือที่ใกล้ที่สุดเพื่อรับรางวัลค่าหัวของโจรสลัดที่พึ่งจัดการไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
เขาใช้เวลาสามวันในการแล่นเรือไปที่ฐานทัพเรือที่ใกล้ที่สุด
ในความเป็นจริงหลังจากแล่นเรือเป็นเวลานานเขาได้เดินทางไปเกือบทุกพื้นที่ในทะเลอีสต์บลูแล้ว
โรแกนสวมหน้ากากของเขาและเดินไปที่ฐานทัพเรือพร้อมกับถือหีบดำไปด้วย ,เก๋อ เนี่ยเป็นที่รู้จักกันดีในทุกฐานทัพเรือ
ในทะเลมีข่าวลือกันว่านักล่าโจรสลัดที่สวมหน้ากากราชาวานรนั้นเป็นนักดาบที่เก่งกาจ
ความแข็งแกร่งของเขาช่างเหลือเชื่อ เขาเป็นคนที่น่ากลัว
ตลอดทางจนถึงแผนกการเงินเขาคุ้นเคยกับผังของฐานทัพเรือแล้ว,ฐานทัพเรือส่วนใหญ่นั้นมีการออกแบบที่เหมือนกันและมีเพียงฐานพิเศษเท่านั้นที่แตกต่างออกไป
“ซีลุค่าหัวของเขาคือ 5.5 ล้านเบรี”
ด้วยความเคยชินโรแกนได้วางหีบดำไว้บนโต๊ะ
เขาเอาหัวของโจรสลัดออกจากหีบดำ ผู้ตรวจสอบมองที่หัวและพยักหน้าอย่างระมัดระวัง
เมื่อซีลุตายกลุ่มโจรสลัดของเขาก็ได้ถูกยกเลิกไปแล้วเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวนี้ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปในหมู่ทหารเรือ ดังนั้นความถูกต้องของข่าวจึงไม่จำเป็นต้องสงสัยและหัวนี้ก็ไม่ใช่ของปลอม
“มันคือเขา!”
ผู้ตรวจสอบพูดและจากนั้นเขาก็ส่งมอบเงิน 5.5 ล้านเบรีให้โรแกน
“เหนื่อยหน่อยนะนักล่าโจรสลัด เก๋อ เนี่ย!”
ผู้ตรวจสอบพูดพร้อมรอยยิ้ม
โรแกนพยักหน้าและไม่พูดอะไรสักคำ เขาเตรียมที่จะหันหลังกลับและออกไป
“ รอเดียวหัวหน้าของเราสนใจคุณคุณช่วยไปที่สำนักงานของเขาและดื่มชาสักถ้วยแล้วคุยกับเขาได้ไหม”
ผู้ตรวจสอบพูดอีกครั้งด้วยรอยยิ้มแบบเดิม
โรแกนขมวดคิ้ว เขาไม่ต้องการติดต่อกับทหารเรือมากนัก
“ฉันไม่สนใจ!”
โรแกนส่ายหัวแล้วหันกลับไปทางอื่น
เมื่อเขาเดินไปที่ประตูทันใดนั้นทหารเรือสองคนก็มาขวางทางเขาไว้และพวกเขาก็ได้วางมือลงบนปืน การกระทำที่เป็นภัยคุกคามนี้ทำให้ดวงตาของโรแกนหดตัวลงทันที
“นี้หมายความว่าอะไร?”
“อย่าเข้าใจฉันผิดไปกัปตันรอสอยากจะพบคุณจริงๆ เขาต้องการพบกับนักดาบชื่อดังแห่งอีสต์บลู”
ผู้ตรวจสอบยิ้ม แต่หัวใจของโรแกนกลับมีลางสังหรณ์แปลกๆ
ทหารเรือได้รวมตัวกันที่ด้านนอกของแผนกการเงิน พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าทางเข้า,เตรียมเข้าควบคุมสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
นี่นับเป็นอุปสรรคและเป็นภัยคุกคามต่อตัวเขา
ดวงตาของโรแกนได้หดแคบลงและมองออกไป
เมื่อเห็นว่าโรแกนยังคงนิ่งเงียบและไม่ได้พูดอะไรออกมาผู้ตรวจสอบยิ้มและเดินออกไป
โรแกนค่อยๆวางมือขวาของเขาไปไว้ที่หลังของผู้ตรวจสอบหลังจากที่เดินไปได้ครึ่งทางเขาก็ได้พูดออกมาว่า
“ฉันหวังว่ามันจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าฉันไปพบกับกัปตันของคุณ!”
โรแกนกล่าวคำที่ไม่แยแสเหล่านี้ด้วยเสียงเย็นชา
“แน่นอนมั่นใจได้เลยว่ากัปตันรอสของเรามีอัธยาศัยดี”
ผู้ตรวจสอบหัวเราะแล้วเขาก็โบกมือให้ชายสองคนที่ประตูถอยออกไปแล้วเขาก็พาโรแกนไปที่ห้องทำงานของหัวหน้าของเขา
ห้านาทีต่อมาโรแกนก็มาถึงหน้าสำนักงานบนชั้น 3
“เคาะ! เคาะ! เคาะ!”
“เข้ามาได้”
โรแกนถอนหายใจแล้วก็เข้าไปในห้อง
ทันทีที่เขาเข้ามาโรแกนก็เห็นการตกแต่งที่เรียบง่ายโต๊ะไม้เก้าอี้ตู้หนังสือและก็มีต้นอะไรซักอย่างอยู่ นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
“นักบุญดาบ,เก๋อ เนี่ย!”
ในเวลานี้ชายวัยกลางคนได้ยกคิ้วของเขาขึ้นและมองไปที่โรแกน