S.P.P บทที่ 36: รีเวิร์สเมาน์เทน
“ ถ้าความมันจำเป็นจริงๆ,แม้แต่พลเรือเอกเราก็สามารถส่งไปได้!”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ทหารเรือทุกคนตกตะลึง แต่แล้วพวกเขาก็อนุญาต
ตัวตนของโรแกนนั้นสำคัญต่อกองทัพเรือเป็นอย่างมาก พวกเขายินดีที่จะใช้ทุกอย่างเพื่อกำจัดอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
หลังจากนั้นเซนโงคุก็ได้หยุดพูด ในอีกด้านหนึ่งการ์ปดูเหมือนจะอยู่ในอารมณ์ที่สิ้นหวังเขาไม่ได้สนใจอะไรเลย
“มีใครจะนำเสนออะไรอีกไหม?”
“ไม่มีสินะ,งั้นก็จบ”
หลังจากมองไปที่ทุกคนเขาก็ได้ยิ้มและสั่ง
“นอกจากนี้อย่าลืมส่งกำลังสนับสนุนไปให้ดราก้อนอย่างรวดเร็ว การ์ปนายช่วยไปหาเขาได้ไหม?”
“ การประชุมสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้!”
หลังจากพูดออกมาไม่กี่คำคองก็ได้ออกจากห้องประชุม
อย่างไรก็ตาม,ในตอนนี้ไม่มีทหารเรือคนไหนในห้องประชุมที่เดินออกไป พวกเขาทุกคนต่างมองไปที่เซนโงคุ
ทหารเรือทุกคนในที่นี่ต่างรู้ว่า เซนโงคุจะเข้ามาแทนที่คองในอีกไม่ช้าตราบใดที่มีคำสั่งจากเบื้องบนลงมาหลังจากนั้นเซนโงคุก็จะกลายเป็นจอมพลคนใหม่ของกองทัพเรือ และคอลก็จะกลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของรัฐบาลโลก
“การไล่ล่าโรแกนนั้นต้องเป็นงานที่ลำบากอย่างแน่นอน ดูได้จากความล้มเหลวของดราก้อน”
“ดังนั้นเราต้องให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด ประการที่สองคำสั่งห้ามต้องประกาศใช้โดยเร็วที่สุด “
“ ข้อมูลของโรแกนต้องไม่ถูกแพร่งพรายออกไปสู่โลกภายนอกและมันจะต้องรู้เพียงแค่พวกเราในที่นี่เท่านั้น”
เซนโงคุได้สั่งออกมาอย่างใจเย็นและผู้คนในที่นี่ทุกคนต่างก็พยักหน้าและรับฟังอย่างระมัดระวัง
เมื่อคองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้เป็นผู้ดูแลโปรเจคนี้พลเรือโททั้งหมดในที่นี่จึงตกอยู่ในการควบคุมและดูแลของเซนโงคุแทน
หลังจากนั้นไม่นานการประชุมก็สิ้นสุดลงอย่างแท้จริง
ต่อมาการ์ปได้นั่งเรือและมุ่งหน้าไปยังทะเลอีสต์บลู ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่ศูนย์ใหญ่กองทัพเรือนั้นได้มีชายที่สวมแว่นกันแดดสีดำและสวมชุดสูทลายทางสีเหลืองได้เหยียบลงบนเรือรบของเขาจากนั้นเขาก็ได้เหยียดขาของเขา
“ โอ้,มันเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ พวกเขาบอกให้ฉันไปไล่จับเด็ก,อ่า,แต่ฉันไม่คอยเก่งในเรื่องการไล่ตามใครนี่สิ”
“ เป็นเรื่องที่น่าลำบากใจจริงๆ!”
ด้วยใบหน้าที่ยุ่งเหยิงของคิซารุนั้นเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับการไล่จับในครั้งนี้
“ ฉันจะออกไปข้างนอกและหาที่เที่ยวเล่นซะหน่อย”
ด้วยเสียงต่ำนั้นราวกับคิซารุกำลังปลอบใจตัวเองอยู่
สองวันต่อมา,ทหารเรือชั้นยอดจำนวนมากได้มาที่โลคทาวน์กัปตันผู้ซึ่งประจำการอยู่ที่นี้นั่น เมือเขาเห็นทหารเรือชั้นยอดพวกนี้นั้นเขารู้สึกตกตะลึงมา และเมื่อเขาได้เห็นคนสองคนที่กำลังขึ้นฝั่งมานั้น มันบ้ามากที่พวกเขามาที่นี้
“ พระเจ้า,ทำไมเขาทั้งสองคนถึงมาที่นี่กัน!”
หนึ่งในสองคนนั้นได้ก้าวออกมาจากดาดฟ้าเรือนั้นเขาสวมหมวกหัวสุนัข และมีใบหน้าที่โอ่อ่าร่างกายที่สูงและแข็งแรงเต็มไปด้วยความดุร้าย เขาคนนั้นคือการ์ป
อีกคนหนึ่งนั้นสวมแว่นกันแดดและมีเสื้อคลุมอยู่ที่หลังของเขา,ท่าทางเหมือนคนอมโรค แต่เมื่อมีคนพบเห็นเขาเขาเหล่านั้นก็จะลดหัวลงในทันที
พลเรือเอกและพลเรือโทพวกเขาเป็นวีรบุรุษของกองทัพเรือ ทหารเรือทั้งหมดต่างเต็มไปด้วยความเคารพเมื่อพวกเขาได้เห็นพวกเขาทั้งสอง
เมื่อการ์ปลงมาจากเรือรบเขาไม่ลังเลใดๆและได้ตรงไปยังที่ที่ดราก้อนอยู่
“ดราก้อน! ,เฮ้!,ไอ้หนู,แกได้รับบาดเจ็บงั้นเหรอ?”
ทันทีที่เขาเข้าไปในบ้านการ์ปก็ได้ตะโกนออกมา
คิซารุได้ตามการ์ปมาติดๆและเขาก็ได้สอดส่องไปรอบๆภายในตัวบ้าน
เป็นที่รู้กันว่าแม้ดราก้อนนั้นจะยังไม่ได้รับการเลื่อนยศเป็นพลเรือโทเพราะว่าเขาจะยังเด็กเกินไป แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าพ่อของเขาเลย การ์ปมีความรู้สึกว่าลูกของเขาจะตามเขาทันเขาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ชายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?
เมื่อทั้งสองได้เข้ามาในห้องพวกเขาก็ได้เห็นดราก้อนที่นอนอยู่บนเตียง ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี้ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจมาก
ในเวลานี้ดราก้อนพยายามที่จะทำตัวให้ดูเหมือนว่าไม่เป็นอะไร แต่เหงื่อนั้นได้ออกมากจากหน้าผากของเขาและใบหน้าของเขาก็ซีดมากซึ่งทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
การ์ปมองไปที่เปลวไฟสีดำที่กำลังเผาไหม้อยู่บนร่างของดราก้อนและได้ถามออกมาว่า: “นี่มันคืออะไร?”
ในขณะที่เขาถามเขาก็ได้ขยับมือเข้าไปหามัน
“อย่าจับมันพ่อ !!” ดราก้อนหยุดเขาอย่างรวดเร็วและจากนั้นเขาก็ได้มองไปที่การ์ปด้วยท่าทางจริงจัง “ เปลวไฟสีดำนี้แปลกมากมันสามารถเผาไหม้ทุกอย่างและไม่ยอมดับลงเลยแม้แต่กับน้ำก็ตามมันเป็นอะไรที่แย่มาก”
“เปลวไฟ?เปลวไฟสีดำ?”การ์ปสงสัยจากนั้นใบหน้าของเขาก็ได้จริงจังขึ้น “ นี่เป็นความสามารถของเด็กนั้นงั้นเหรอ?”
“ใช่มันน่ากลัวมาก!” ดราก้อนตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
หลังจากนั้นการ์ปก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ แต่ได้มีเกราะสีดำปรากฏขึ้นเหนือมือขวาของเขาซึ่งนั้นก็คือฮาคิเกราะหลังจากนั้นไม่นานโดยไม่ลังเลใดเขาได้ตบไปที่เปลวไฟสีดำบนร่างของดราก้อนในทันที
“ทวิซ!ทวิซ!ทวิซ!”
เมื่อมือของการ์ปกับฮาคิเกราะของเขาได้ตบไปที่เปลวไฟสีดำควันสีขาวก็ปรากฏขึ้นและส่งเสียงแปลกๆออกมา
“ เป็นเปลวไฟที่แปลกจริงๆ ”
การ์ปได้พูดออกมาใบหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมและเขาก็ได้เก็บมือของเขากลับไปและเปลวไฟสีดำก็ได้ดับลง
ต่อมามือของเขาก็ได้สั่นและตัวเขาเองก็ยังคงสั่นอยู่เช่นกัน เปลวไฟสีดำทั้งหมดนั้นได้ถูกกำจัดโดยเขา
“ฮู!”
เมื่อดราก้อนเห็นว่าเปลวไฟบนตัวเขาได้ดับไปแล้วนั้น เขาก็ได้สูดลมหายใจยาวๆ ในตอนนี้เขารู้สึกโล่งอกมาก
เปลวไฟสีดำนี้นั้นได้รบกวนเขามาตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดด้วยซ้ำว่าถ้าเขาไม่สามารถจัดการกับมันได้มันจะต้องเผาร่างของเขาจนกลายเป็นเถ้าถ่านในวันเดียวแน่
“ พ่อ,ฮาคิของพ่อนี่ทรงพลังจริงๆ”
“ คงอีกไม่นานที่แกจะแข็งแกร่งกว่าฉันและเปลวไฟนี้ก็จะไม่สามารถทำอะไรแกได้อีกต่อไป”
การ์ปได้โบกมือของเขา
ในตอนนี้เองคิซารุก็ได้ถามออกมาด้วยความใคร่รู้ว่า
“พลเรือตรีดราก้อนฉันอยากจะถามนายว่าเด็กนั้นได้หนีไปไหม?”
“ทำไมคุณถึงมาที่นี่พลเรือเอกคิซารุ”
เมื่อเห็นคิซารุมันทำให้ดราก้อนตกตะลึงในทันที แม้ว่าเขาจะร้องขอกำลังสนับสนุนแต่พวกเขาก็ไม่ควรส่งพ่อของเขากับคิซารุมาด้วยนิ?ทุกคนๆต่างก็รู้ว่าทั้งสองนั้นเป็นทหารเรือที่แข็งแกร่งที่สุด
“ ฉันถูกสั่งให้มาตามล่าเด็กนั้น,เฮ่อ,มันน่ารำคาญจริงๆ”
คิซารุได้ขยับมือของเขาไปมาอย่างช่วยไม่ได้
“ เด็กนั้นแข็งแกร่งมาก,พลเรือเอกคิซูรุคุณควรระวังตัวเอาไว้ด้วย”
ดราก้อนนั้นได้นึกไปถึงการต่อสู้ระหว่างเขากับโรแกน,เขาเลยได้กล่าวเตือนคิซารุออกมา
ดวงตาของคิซารุได้ส่องประกายออกมาจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาและพยักหน้า“ โอเค,ฉันจะระวังตัวเอาไว้แล้วกัน”
คิซารุนั้นอยากรู้อยากเห็นมาเกี่ยวกับตัวตนของโรแกน และเปลวไฟสีดำที่แปลกประหลาดของเขาที่เขาเพียงแค่เห็นก็สามารถบอกได้เลยว่ามันน่ากลัวมาก และเขาก็ไม่รู้ว่าความสามารถของเขานั้นมันจะพอไหม อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กังวลมากเกินไปความสามารถของผลไม้ปีศาจของเขานั้นมันทำให้เขามีความเร็วที่น่าอัศจรรย์มีคนมากมายในโลกนี้ที่ไม่สามารถมาเทียบด้านความเร็วกับตัวเขาได้
“เตรียมตัวให้พร้อม,เรากำลังจะไปที่ศูนย์ใหญ่กองทัพเรือ แกได้รับบาดเจ็บมาฉันกลัวว่าแกจะต้องพักรักษาตัวไปอีกสักพัก”
การ์ปได้หยิบโดนัทออกมาแล้วโยนมันเข้าไปในปากของเขาแล้วก็เริ่มเคี้ยว
ในเวลาเดียวกันนั้นโรแกนซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปจากโลคทาวน์ได้มองไปที่กลุ่มโจรสลัดที่อยู่ใกล้ๆเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย
เขามองไปที่เรือโจรสลัดที่อยู่ด้านหลังที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ได้มองไปที่ภูเขาอันงดงามเบื้องหน้าเขา
รีเวิร์สเมาน์เทนอยู่ใกล้มาก
มันเกินคำบรรยาย ช่างเป็นภูเขาที่วิเศษอะไรขนาดนี้
น้ำที่ไหลขึ้นทวนกระแสน้ำและด้วยแรงหมุนนั้นน้ำได้สาดกระเซ็นอยู่ตลอดเวลาช่างเป็นอะไรที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
เมื่อมองมันแวบแรกเขาแทบจะไม่เห็นยอดเขา