S.P.P บทที่ 69: หวาดกลัว!
เหล่าทหารเรือนั้นทำการลาดตระเวนกันตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ยังไม่พบร่องรอยของคนที่มาโจมตีพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
มันเหมือนกับว่าเขาคนนั้นได้เข้ามาโจมตีแล้วก็หายตัวไปในทันที
ฐานทัพเรือ,ภายในสำนักงาน
ในตอนนี้นาวาเอกดูจริงจังมากเขานั่งอยู่บนเก้าอี้และมองไปที่เหล่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา
“ เราจะไม่แพ้อีกต่อไป!”
“ครับ!”
เหล่าชายหนุ่มทุกคนยกมือขึ้นแล้วตะโกนเสียงดังออกมา
พวกเขาเหล่านี้นั้นเป็นทหารเรือฝึกหัดจากศูนย์ใหญ่กองทัพเรือ พวกเขามาที่นี่เพื่อฝึกฝนโดยใช้ฐานทัพนี้เป็นสถานที่ฝึกฝน,เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาสำเร็จการศึกษาที่ไหล่ของพวกเขานั้นจะถูกแขวนด้วยอินทรธนูยศนายร้อย
ทหารเรือฝึกหัดเหล่านี้นั้นมีอายุประมาณ 17 , 18 ปี พวกเขานั้นจะเป็นทหารเรือรุ่นต่อไปของกองทัพเรือ พ่อแม่ของพวกเขาส่วนใหญ่นั้นต่างก็เป็นทหารเรือที่อยู่ในศูนย์ใหญ่กองทัพเรือ ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดตั้งแต่เกิดและทักษะการต่อสู้ของพวกเขานั้นก็ไม่ธรรมดาแต่พวกเขานั้นยังขาดประสบการณ์อยู่
อย่างไรก็ตามการขาดประสบการณ์ไม่ได้หมายความว่าพวกเขานั้นจะอ่อนแอ เมื่อเทียบกับทหารเรือบางคนพวกเขานั้นยังดีกว่ามาก
หลังจากที่พวกเขามาที่เกาะนี้ พวกเขานั้นไม่เคยว่างเว้นจากากรทำงานเลยแม้แต่น้อยนั้นก็เพื่อให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความลำบากที่โลกภายนอก หลังจากนั้นพวกเขาก็จะฝึกฝนขัดเกลาทักษะทุกอย่างที่พวกเขามีแล้วก็ไปเรียนในชั้นเรียน
แต่ในคราวนี้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจใช้งานพวกเขา
“ ลงไปที่สนาม,และทำให้ดีที่สุด!”
นาวาเอกได้โบกมือของเขา
เหล่าทหารเรือฝึกหัดกว่า 40 คนได้ทำความเคารพอีกครั้ง
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เดินออกไป ในตอนนี้เหล่าทหารเรือฝึกหัดได้แบ่งกลุ่มกันเป็นกลุ่มละ 10 หรือ 15 คนเพื่อลาดตระเวนบนเกาะ
ในวันนี้บนเกาะนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศของทหารเรือที่ตื่นตัวเป็นอย่างมาก แม้แต่ชาวบ้านก็ยังออกมาอยู่ข้างนอก
ค่ำคืนได้มาถึงอีกครั้งเหล่าทหารเรือนั้นตื่นตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
ตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 2 ทุ่มนั้นเกาะบราเทอริลล่านั้นสงบมาก
ทหารเรือฝึกหัดทุกคนนั้นจริงจังมาก พวกเขาได้ลาดตระเวนไปทุกถนนไม่มีใครผ่อนคลายเลยซักคน
ทหารเรือฝักหัดแต่ละคนนั้นแข็งแกร่งมาก ถ้าหากจะเทียบให้ภาพนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาก็คงประมาณพวกโจรสลัดที่มีค่าประมาณ 50ล้านเบรี
พวกเขาเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ที่ถูกส่งมายังเกาะแห่งนี้ มันอาจกล่าวได้ว่ากองทัพเรือนั้นให้ความสนใจกับคนที่มาสุ่มโจมตีคนนี้เป็นอย่างมาก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป,พวกเขาก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆ
ตั้งแต่การซุ่มโจมเมื่อวานจนถึงตอนนี้ราวกับว่าฆาตกรคนนั้นกำลังกลัวอยู่
“ อย่าชะลาใจไป,ชายคนนั้นแข็งแกร่งมาก!”
นาวาเอกได้ออกคำสั่ง,เหล่าทหารเรือนั้นยังคงทำตามหน้าที่ของพวกเขาอย่างจริงจัง
เป็นเวลาประมาณ 4ทุ่มทหารเรือกลุ่มหนึ่งได้เดินผ่านตรอกมืดๆตรอกหนึ่งทางตอนเหนือของเกาะบราเทอริลล่า
“ตึบ!”
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาเล็กน้อย
ทหารเรือคนหนึ่งได้หันหน้าของเขาในทันทีและทุดคนในกลุ่มก็ได้ยกปืนขึ้นและเล็งเข้าไปในตรอกมืดๆนั้น
“ใคร?”
ทหารเรือคนหนึ่งได้ตะโกนเสียงดังออกมา แต่เขาไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าแต่อย่างใดเขาทำเพียงแค่ถืออาวุธเอาไว้ในมือของเขา ในตอนนี้เขาได้บอกกับเพื่อนร่มทีมทุกคนของให้ทำงานกันเป็นทีม
ในตอนนั้นเองเงาดำก็ได้ปรากฏขึ้นมาในตรอก
ชายคนนั้นได้คลุมตัวด้วยเสื้อคลุมสีดำพร้อมกับหน้ากากแปลกๆ ในตอนที่เห็นแวบแรกนั้นแสงจันทร์ได้ส่องกระทบบนตัวเขา,มันทำให้ร่างกายของเขาแผ่บรรยากาศลึกลับที่น่ากลัวออกมา
“นายเป็นใคร?”
ทหารเรือคนนั้นได้ถามเสียงดังออกมาและคนอื่นๆที่อยู่ข้างหลังเขาก้”ด้หยิบอาวุธขึ้นมาอย่างกระวนกระวาย
“ฉันเป็นใครงั้นหรอ?”
เสียงภายใต้หน้ากากได้ดังออกมามันเป็นเสียงที่เล็กซึ่งมันทำให้ทหารเรือคนนั้นงุนงง
“ พวกนายไม่ได้ตามหาฉันอยู่งั้นหรอ?”
หลังจากจบประโยคนั้นทหารเรือคนนั้นก็โกรธมาและได้สั่งออกไปในทันทีว่า
“ ยิง!”
ทหารเรือคนอื่นๆได้เหนี่ยวไกปืนในทันที
“ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!”
เสียงปืนได้ดังขึ้นในค่ำคืนอันเงียบสงบ ในตอนนี้กลุ่มทหารเรือที่ลาดตระเวนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้นก็ตกตะลึงในทันพร้อมกับสีหน้าของพวกเขาที่ได้เปลี่ยนไป
“ เร็วเข้า,ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น!”
“เร็วเข้า,ดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้ๆนี้เอง!”
“ ในที่สุด,ฉันก็เจอตัวเขา!”
ในทางเดินที่มืดมิดดวงตาของทหารเรือคนนั้นได้หดแคบลง เขาสั่งยิงออกไปและคนอื่นๆในกลุ่มของเขาก็ได้ทำตามคำสั่งของเขา
อย่างไรก็ตามเงานั้นได้หายไป
“ นายช้าเกินไป!”
ในตอนนั้นเองเสียงกระซิบก็ได้ดังขึ้น
ทหารเรือคนนั้นก็สั่นสะท้านในทันที,เขาได้หันหน้าของไปอย่างช้าๆในตอนนั้นเองดวงตาที่หดแคบของเขาก็ได้เบิกกว้างในทันที
“คั่ก!”
ทันใดนั้นปืนในมือของเหล่าทหารเรือนั้นก็ได้ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ในเวลาเดียวกันก็ได้มีรอยเลือดสีแดงปรากฏขึ้นที่คอของพวกเขา
และในวินาทีนั้นพวกเขาทุกคนได้ล้มลงไปบนพื้นอย่างนุ่มนวล
“แก!!!”
หัวใจของทหารเรือคนนั้นกำลังเต้นแรงและจิตใจของเขาก็จมอยู่ในอาการหวาดกลัว
“ มีกลุ่มทหารเรือกำลังมาทางนี้ ถ้าพวกเขาอ่อนแอและไร้พลังเหมือนกลุ่มของนายฉันกลัวว่าพวกเขาจะตายเอานะ!”
ภายใต้หน้ากากเสียงอันเฉยชาได้ดังออกมาซึ่งมันได้ดังเข้าไปในจิตใจของเขา,ร่องรอยของความโกรธก็ได้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง
“ แก,ไอสารเลว!”
ทหารเรือคนนั้นได้ส่งเสียงคำรามออกมาและ …
“โซล!”
ทันใดนั้นร่างของเขาก็ได้หายไป
แต่ในเวลานี้มือของเงาดำนั้นได้จับไปที่ดาบบนเอวของเขา
ทันใดนั้นเงาดำทั้งสองได้พุ่งเข้าไปในตรอกอันมืดมิดและได้เข้าปะทะกัน
“ชวิ้ง!”
“เท้าวายุ!”
ใบมีดอัดอากาศที่แหลมคมของทั้งสองได้เข้าปะทะกัน,หลังจากการปะทะนี้จบลงร่างทั้งสองก็ได้หยุดยืนอยู่บนพื้น
ใบหน้าของทหารเรือคนนั้นดูช็อคและหวาดกลัวมาก ในตอนนี้บนอกซ้ายของเขามันได้มีเส้นสีแดงได้ปรากฏขึ้นมาบนเครื่องแบบทหารเรือของเขา
“ เลือดงั้นเหรอ?”
“ ฉันได้รับเจ็บ!”
วินาทีต่อมาทหารเรือคนนั้นก็ได้ล้มลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล,ในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะแสดงออยังไงดี
เร็ว,เร็วมากเขาไม่เคยเห็นวิชาดาบที่เร็วขนาดนี้มาก่อน
เขาถูกจัดการด้วยการโจมตีเดียว,เงาดำที่สวมหน้ากากนั้นได้จ้องมองมาที่เขาอย่างเฉยชาแล้วเดินจากกไปอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นไม่นานทหารเรือที่เหลือก็ได้มาถึง
ในตอนที่พวกเขาได้เห็นฉากตรงหน้านั้นพวกเขาทั้งหมดก็ต้องตกตะลึง
“ มันพึ่งผ่านมาไม่กี่นาทีเองในตอนที่เราได้ยินเสียงปืน”
“ได้ไงกัน!? พวกเขาถูกเล่นงานหนักขนาดนี้ได้ยังไงกัน!”
ทหารเรือคนนั้นที่ล้มลงไปบนพื้นดินนั้นยังไม่ตายเขาแตกต่างจากทหารเรือคนอื่นๆในกลุ่มของเขาพวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ถูกโจมตีที่จุดตาย,แต่เขานั้นได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย
เขาโชคดีที่ได้กลุ่มทหารเรือที่พึ่งมาถึงมาช่วยเขาเอาไว้ได้ทัน
“ เจ้านั่น! ไอสารเลวนี้มันมาจากที่ไหนกัน!?”
เหล่าทหารเรือได้หันมามองหน้ากันพวกเขาต่างเห็นความกลัวของกันและกัน