เมื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับสนามรบ โอโนกิ ก็ตกอยู่ในห้องความคิดของเขา เขาไม่เคยเห็นข้อมูลที่น่าตกใจแบบนี้มาก่อน
“มันเหมือนกับเป็นสนามรบครั้งสุดท้าย มันพังยับเยิน ถ้าเดาไม่ผิด นี้เป็นรูปแบบพลังแบบเดียวกัน อาจเป็นไปได้ว่านี้คือพลังของคนคนเดียว”
“บ้าเอ้ย เจ้านี้มันเป็นใครกันแน่ ทำไมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของมันเลย ถึงข้อมูลของมันจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีใครสักคนที่รู้จักเขาสิ”
โอโนกิ ได้แต่ตะโกนออกมา หลังจากที่โยนเอกสารข้อมูลวางบนโต๊ะ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง โอโนกิ ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเขาก็สงบลงในที่สุด ดวงตาของเขาก็จ้องมองไปข้างหน้าอย่างเย็นชา
“การลอบโจมตีเล็ก ๆ แบบนี้คงจะไม่มีประโยชน์อีกต่อไป มันคงกำลังจะเป็นการต่อสู้ที่แท้จริง”
เมื่อสงครามดำเนินมาจนถึงจุดแตกหัก ทุกคนจะต้องเขาร่วมสงคราม และไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงมันได้อีกต่อไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมา การระบาดของ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ทั้ง 3 หมู่บ้านคือ หมู่บ้านโคโนฮะ , หมู่บ้านอิวะ และ หมู่บ้านซึนะ ต่างต้องการยับยั้งและชะลอการเริ่มต้นของสงครามในครั้งนี้ เพราะต่างคนต่างตรึงกำลังไว้ใน หมู่บ้านอาเมะ อาจมีการปะทะกันบ้างในบางพื้นที่ แต่ไม่มีใครต้องการเริ่มต้นการต่อสู้ก่อน
แต่ โอโนกิ ก็ได้รับข้อมูลยืนยันมาว่า จนถึงตอนนี้ โคโนฮะ เป็นหมู่บ้านที่ได้รับชัยชนะในการปะทะกันเกือบทุกครั้ง และ หมู่บ้านซึนะ เป็นหมู่บ้านที่ได้รับความสูญเสียมากที่สุด
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาต้องสูญเสียมากขึ้นอย่างแน่นอน ทางเลือกสุดท้ายที่พวกเขามีคือ การเริ่มต้นสงครามครั้งสุดท้ายและเป็นการต่อสู้ที่จะชี้ตาของแต่ละหมู่บ้าน
……..
แค้นแห่งฝน ณ ค่ายบัญชาการของโคโนฮะ
หลังจากสามารถจัดการกับ หน่วยพิเศษของอิวะ ได้สำเร็จ จิไรยะ ก็กลับไปยัง ค่ายบัญชาการ อย่างภาคภูมิใจ
แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันคือความภาคภูมิใจของเขา เขาจึงรู้สึกจิตตกและประหม่าขึ้นมาเมื่อนั่งในที่ประชุมในห้องยุธการ
จิไรยะ เป็น โจนินชั้นสูง ของ โคโนฮะ เขาจึงไม่สามารถทำให้ตัวเองเสียหน้าต่อหน้าทุกคนได้ ดังนั้นเขาจึงกระโดดขึ้นสูงและลงมาอยู่ต่อหน้า ซาคุโมะ
ซาคุโมะ “…”
“อะแฮ้ม!!”
จิไรยะ ไอออกมา จากนั้นเขาก็ยื่นรายงานข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจที่เขาเพิ่งไปทำมาให้กับ ซาคุโมะ
“ท่านซาคุโมะ นี้เป็นรายงานของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการต่อสู้กับ หน่วยพิเศษของอิวะ”
“อื้ม”
ซาคุโมะ พยักหน้า แล้วยิ้มออกมาราวกับว่าเขารู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว
เมื่อเห็นการแสดงออกของ ซาคุโมะ จิไรยะ ก็รู้สึกประหลาดใจ และถามเขาว่า “หน่วยลับคนนั้นแข็งแกร่งมาก เขาเป็นใครกันแน่?”
“ต้องขอโทษด้วย ผมบอกท่านไม่ได้จริง ๆ ข้อมูลนี้เป็นความลับสุดยอด”
ซาคุโมะ กำลังหัวเราะอยู่ในใจ ที่จริงแล้ว เขาสามารถบอกเรื่องนี้ให้ จิไรนะ รู้ได้ แต่สำหรับตอนนี้ มันยังเร็วเกินไป
สำหรับ ซึนาเดะ ซาคุโมะ ได้คุยเรื่องนี้กับ ซารุโทบิ แล้ว และพวกเขาก็ตกลงกันว่าจะให้เธอเป็นตัวกลางระหว่าง ไนโตะ กับ โคโนฮะ
“ความลับสุดยอด?!”
จิไรยะ คิดว่า เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล ตัวตนของ หน่วยลับ ธรรมดา ๆ ไม่ควรถูกจัดเป็นความลับระดับสุดยอด ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตัวตนของ หน่วยลับ คนนี้ ต้องเป็นคนระดับสูงของหน่วยลับอย่างแน่นอน
สิ่งนี้ทำให้ จิไรยะ อยากรู้มากขึ้น เพราะเขารู้จักคนมากมายใน โคโนฮะ แต่เขาไม่รู้จักใครที่มีพลังเช่นนี้
เขาคือ โอโรจิมารุ งั้นเหรอ? หรือ ซึนาเดะ ?
มันไม่มีทาง
“เอาเถอะ เรื่องนี้ช่างมันก่อน ตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญมากกว่า…การต่อสู้ที่แท้จริง กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วสินะ”
“หลังจากเราทำลายไพ่ตายของพวกมันไปแล้ว ท่านคงรู้สินะ ว่าใครจะเป็นคนเริ่มการต่อสู้ก่อน”
ซาคุโมะ พูดขึ้นมาอย่างจริงจังมาก
ทันทีที่ จิไรยะ ได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
สงครามครั้งสุดท้าย มันชัดเจนว่า โคโนฮะ จะระดมกองกำลังทั้งหมดเข้าร่วมสงครามอย่างแน่นอน!
ไม่ใช่แค่กองกำลังที่อยู่ที่ ค่ายบัญชาการ ใน แคว้นแห่งฝน เท่านั้น แม้แต่นินจาที่อยู่ที่ หมู่บ้านโคโนฮะ ก็กำลังเตรียมตัว ไม่เว้นแต่ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ซารุโทบิ ก็ด้วยเช่นกัน
การเริ่มต้นของมหาสงครามครั้งนี้อย่างแท้จริง ซารุโทบิ จะต้องลงสู่สนามรบอย่างแน่นอน
……
หมู่บ้าน โคโนฮะ ณ ห้องทำงาน โฮคาเงะ
“สงคราม…กำลังจะมาแล้วสินะ”
ซารุโทบิ ถอนหายใจและมองออกไปทางหน้าต่างในห้องทำงานของเขา
“พลังของ ไนโตะ จะมีความสำคัญมากในสงครามนี้”
“แต่…เขาจะไว้ใจได้ไหม?”
ทันใดนั้น ดันโซ ก็ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของ ซารุโทบิ และขัดจังหวะที่ ซารุโทบิ กำลังคิดเรื่องสงครามอยู่
“ไนโตะ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนนอก”
“ท่านอาจสามารถใช้งานเขาได้ แต่ท่านไม่สามารถไว้ใจเขาได้”
ดันโซ ดูจริงจังมาก ขณะที่เขามองไปที่ ซารุโทบิ
ซารุโทบิ ไม่ตอลสนองต่อคำพูดของ ดันโซ เขามองกลับไปที่ด้านนอกจากหน้าต่างของเขา เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
……….
ณ ตอนนี้
ไนโตะ ไม่ได้กลับไปที่ ค่ายบัญชาการของโคโนฮะ แต่เขาเดินทางไปในป่าลึกของ แคว้นแห่งฝน
ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะไม่สนใจเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวมของสงคราม แต่เขาก็รู้สึกได้อย่างง่ายดายว่า การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
และก่อนที่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะเริ่มขึ้น ไนโตะ ตัดสินใจว่าเขาต้องไปจัดการกับ โคนัน และ ยาฮิโกะ ก่อน
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือ การดูว่าทั้ง 2 คนนั้นได้เจอ นางาโตะ หรือยัง
ในไม่ช้า ไนโตะ ก็กลับไปยังสถานที่สุดท้ายที่ โคนัน และ ยาฮิโกะ ใช้ฝึกฝนวิชานินจากัน แต่ที่นั่นมันว่างเปล่า
หลังจากที่เขาส่ายหัว ไนโตะ ก็เดินทางไปที่เมืองที่ใกล้ที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังจากค้นหาจนทั่วทั้งเมือง เขาก็ไม่พบร่องรอยของทั้ง 2 คนเลย
ราวกับว่าพื้นดินกลืนพวกเขาลงไป!
“แปลกแฮะ…ถ้าเป็น นางาโตะ ก็ว่าไปอย่าง แต่นี้ทั้ง โคนัน ทั้ง ยาฮิโกะ ก็หายไปด้วย!”
ไนโตะ ขมวดคิ้วด้วยความสับสน
ในเวลาเดียวกัน ไนโตะ ก็เดินทางไปที่เมืองใกล้ ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่พบร่อยรอยของ โคนัน และ ยาฮิโกะ อยู่ดี
แต่ ไนโตะ ก็มั่นใจว่า ทั้ง 2 คนยังไม่ตายแน่นอน เพราะพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป พวกเขาทั้งคู่กลายเป็น นินจา แล้ว
หากพวกเขาถูกฆ่าตาย ไนโตะ ก็คงจะได้ยินข่าวเรื่องนี้บ้างแล้ว
แต่พวกเขาก็ควรจะอยู่แถวนี้
“ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วสินะ พวกเขาคงอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แม้ว่าการต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะมาถึง พวกเขาก็คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ไนโตะ ก็ส่ายหัวและสุดท้ายเขาก็เลิกค้นหา
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังจะกลับไปที่ค่าย เขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาพบใครบางคน
โอโรจิมารุ!
ไนโตะ พบ โอโรจิมารุ ในเมืองเล็ก ๆ เขาเพิ่งทำภารกิจเสร็จและกำลังจะกลับไปที่ ค่ายบัญชาการ
แน่นอนว่า โอโรจิมารุ กำลังใช้ คาถาแปลงร่าง อยู่
ไนโตะ แทบจำเขาไม่ได้ เพราะเขาสามารถใช้ คาถาแปลงร่าง ได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก มันไม่ใช่คาถาธรรมดา แต่มันเป็นคาถาขั้นสูง