โชคดีที่การปะทะกันครั้งสุดท้ายของเคียว กับ ดาบคุซานางิ เคียวไม่สามารถต้านทานพลังอันมหาศาลของ ไนโตะ ได้จนเกิดเป็นรอยร้าว
และแม้ว่าการปะทะกับ ไนโตะ ในครั้งแรกจะไม่สามารถทำลายเคียวของ ฮันโซ ได้ แต่การปะทะครั้งที่ 2 กับ จิไรยะ ก็สามารถทำลายมันได้ในที่สุด
ครึ่งหนึ่งของเคียวแตกเป็นชิ้นและตกลงที่พื้น ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งยังอยู่ในมือของ ฮันโซ ภาพนี้ทำให้เหงื่อจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าผากของ จิไรยะ
เกือบไปแล้ว!!
หากเคียวไม่ร้าวตั่งแต่ตอนที่ปะทะกับ ไนโตะ ป่านนี้ จิไรยะ คงตายไปแล้ว!
“อะไรกัน?!”
ฮันโซ มองไปที่ เคียวคุซาริกามะ ที่หักของเขา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว เขาคิดว่านี้จะเป็นจุดจบของ จิไรยะ แต่เคียวของเขาก็ต้องมาหักเพราะรอยร้าวที่เกิดจาก ไนโตะ !
หลังจากรอดจากความตาย จิไรยะ ก็กระโดดถอยหลังเพื่อทิ้งระยะห่างจาก ฮันโซ ในทันที
ทั้ง 3 คนมองหน้ากันด้วยความสิ้นหวัง พวกเขารู้ว่าพวกเขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับ ฮันโซ ได้
ถ้า ไนโตะ ไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาจะถูก ฮันโซ บดขยี้ได้อย่างง่ายดาย!
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฮันโซ ก็โยนเคียวของเขาทิ้ง จากนั้นเขาก็หายใจลึก ๆ แล้วพูดว่า “พวกเธอทั้ง 4…แข็งแกร่งเกินกว่าที่ฉันคาดไว้มาก”
“ฉันถูกเรียกว่า ครึ่งเทพ มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เชื่อเถอะว่ามันไม่ใช่แค่ชื่อ!”
ในการ์ตูน 3 นินจาในตำนาน แทบจะไม่สามารถรับมือกับ ฮันโซ ได้เลย แต่ ฮันโซ ก็ยอมปล่อยทั้ง 3 คนไปเพราะเขาไม่อยากขัดแย้งกับ โคโนฮะ
แต่ในตอนนี้มันต่างออกไป ไม่ใช่เพราะ เคียวคุซาริกามะ ของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ หรือเพราะพิษของเขาถูกทำลาย แต่เพราะความโกรธแค้นและความกลัวลึก ๆ ในจิตใจ เพราะฉะนั้น ฮันโซ ก็ตัดสินใจแล้วที่จะฆ่าทั้ง 4 คน
ในการ์ตูน ฮันโซ ไม่กลัวเลยที่ปล่อยให้ทั้ง 3 คนไป เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ฮันโซ ก็มั่นใจว่าถึงอย่างไรเขาก็แข็งแกร่งกว่าทั้ง 3 คนอยู่ดี เพราะอย่างไรก็ตามเขาก็คือคนที่ได้ฉายาว่า ครึ่งเทพ!
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ นั้นแตกต่างจาก 3 คนนี้
ฮันโซ รู้ว่าพลังของ ไนโตะ จะสร้างปัญหาให้เขาในอนาคต และบางทีนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาที่จะฆ่า ไนโตะ ได้ก่อนที่ ไนโตะ จะแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้ เพราะถ้ามันเกิดขึ้น จะไม่มีใครในโลกที่จะสามารถหยุด ไนโตะ ได้
ทันใดนั้น ฮันโซ ก็พุ่งเข้าหา โอโรจิมารุ และประสานอินอย่างรวดเร็ว
“คาถาไฟ : ระเบิดมังกรเพลิง!!”
ฮันโซ ถอดหน้ากากออกและทันใดนั้น มังกรไฟที่น่ากลัวก็พุ่งเข้าหา โอโรจิมารุ
เมื่อเห็นดังนั้น โอโรจิมารุ จึงประสานอินและกดมือลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว
“คาถาอันเชิญ : ประตูราโชมอน 3 ชั้น!”
ทันใดนั้น ประตูเหล็กขนาดใหญ่ 3 บาน ก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินด้านหน้าของ โอโรจิมารุ
ตู้ม!!
ทันใดนั้น มังกรไฟก็พุ่งชนประตูแรกจนพัง จากนั้นมันก็ปะทะเข้ากับประตูบานที่ 2 จนพัง จากนั้นก็พุ่งไปยังประตูบานที่ 3 และแม้แต่ประตูบานที่ 3 ก็ไม่สามารถหยุดมันได้ แต่มันก็ทำให้พลังของมันอ่อนลง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี้เป็นคาถานินจาระดับ A ที่ทรงพลังจนเกือบเท่ากับพลังของคาถานินจาระดับ S !
แม้แต่ ประตูราโชมอน 3 ชั้น ก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีนั้นได้ ทำให้ร่างกายของ โอโรจิมารุ ถูกล้อมรอบไปด้วยเปลวไฟ แต่โชคดีที่ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งและสามารถทนไฟได้ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากไฟ แต่ผิวของเขาก็สามารถรักษาตัวได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อ ฮันโซ ปล่อยคาถาไฟใส่ โอโรจิมารุ แล้ว เขาไม่ได้สวมหน้ากากกลับไป แต่เขาวิ่งตรงไปที่ จิไรยะ แล้วพ่นหมอกพิษที่ทรงพลังใส่ จิไรยะ ทำให้ จิไรยะ จำเป็นต้องกระโดดถอยหลังไป
ซึนาเดะ ต้องการหาโอกาสที่จะโจมตี ฮันโซ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะ ฮันโซ มีประสาทสัมผัสที่ไวมาก
เธอกลัวว่า ถ้าเธอพุ่งเข้าไปโจมตีเขา เธอเองที่จะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือบางทีเธออาจตายได้เลยทีเดียว!
ฮันโซ ได้เแสดงให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของเขาอีกครั้ง เขาสามารถทั้ง 3 คนได้อย่างง่ายดาย แต่ทันใดนั้น การโจมตีของ ไนโตะ ก็มาถึง
ตู้ม!!!
สนามรบทั้งหมดเริ่มสั่นและแม้แต่ฝนก็หยุดอยู่กลางอากาศ
ไนโตะ ขว้างหมัดออกไปอย่างเต็มแรง และถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจาก ฮันโซ แต่ พลังสั่นสะเทือน ก็สามารถเข้าถึงตัว ฮันโซ ได้อย่างง่ายดาย
“คาถาดิน : กำแพงพสุธา!”
นี้คือคาถาป้องกันที่แข็งแกร่งและเพราะมันถูกใช้โดย ฮันโซ พลังของมันจึงเท่ากับคาถานินจาระดับ A
ปั้ง!!
กำแพงหินหนาพุ่งขึ้นมาจากพื้นและปิดกั้นเส้นทางของ พลังสั่นสะเทือน ที่กำลังตรงมายังทางที่ ฮันโซ อยู่
แคร๊ก!!
การโจมตีของ ไนโตะ ปะทะเข้ากับกำแพงหินอย่างรุนแรง ทำให้กำแพงหินเริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นบนผิวของมัน
และในที่สุดกำแพงหินที่แข็งแกร่งก็ถูกทำลายโดยพลังของ ไนโตะ !
“แค่หมัดธรรมดา ๆ ยังมีพลังมหาศาลขนาดนี้…อันตรายจริง ๆ”
ฮันโซ มองดูภาพนี้ จากนั้นเขาก็หันไปเผชิญหน้ากับ ไนโตะ และแสดงให้เห็นถึงจิตสังหารที่แสนเยือกเย็น
ฮันโซ ตัดสินใจทิ้ง 3 นินจาในตำนานได้อย่างง่ายดาย เพราะเขารู้ว่าเขาสามารถจัดการทั้ง 3 เมื่อไรก็ได้
และตอนนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าภัยคุกคามที่แท้จริงคือคนที่อยู่ตรงหน้าของเขา เขาจะไม่สามารถสบายใจได้จนกว่าเขาจะฆ่า ไนโตะ ได้
“ชักจะยุ่งแล้วสิ…”
ไนโตะ มองไปที่ ฮันโซ จากนั้นเขาก็จับดาบด้วยมือทั้ง 2 ข้าง แล้วถีบพื้นอย่างแรง
ตู้ม!!!
ทันใดนั้นพื้นดินก็แตกออก จากนั้นร่างของ ไนโตะ ก็หายไป และพุ่งเข้าหา ฮันโซ อย่างรวดเร็ว
“เร็วมาก!”
นี้เป็นครั้งแรกที่ ฮันโซ ได้เห็นความเร็วที่แท้จริงของ ไนโตะ และมันเร็วกว่า ซึนาเดะ
เมื่อ ฮันโซ เห็นดังนั้น เขาก็ประสานอินด้วยมือเดียว แล้วเขาก็หายตัวไปทันที
หลังจาก ไนโตะ แทงดาบลงไปในดินตรงที่ ฮันโซ หายไป แต่เขาก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น เขารีบมองหา ฮันโซ อีกครั้งในทันที
ฮันโซ ไปปรากฏตัวอีกครั้งในที่ที่ห่างออกไป และในวินาทีต่อมา เขาก็ ใช้คาถานินจาระดับ A โจมตีใส่ ไนโตะ อีกครั้ง
แต่ ไนโตะ ก็ทำลายมันด้วยคลื่นดาบของเขา และพุ่งตรงไปหา ฮันโซ อย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ช่องว่างระหว่างพลังของ ไนโตะ และอีก 3 คน นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนมาก
ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ นั้นใกล้เคียงกับระดับ คาเงะ มาก
ในบรรดา 3 นินจาในตำนวน แม้แต่ โอโรจิมารุ ที่แข็งแกร่งที่สุดใน 3 คนนี้ ก็ไม่สามารถทำอะไร
การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงมาก แม้ว่าจะเป็น โอโรจิมารุ หรืออีก 2 คน พวกเขาก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่ใช่ส่วนสำคัญของการต่อสู้ในครั้งนี้
สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือเชื่อในตัว ไนโตะ คอบสนับสนุนเขาเมื่อมีโอกาส และก่อกวน ฮันโซ เพื่อเปิดโอกาสให้ ไนโตะ โจมตีได้
หลังจากที่พวกเขาค้นพบหน้าที่ที่ดีที่สุดในการต่อสู้ในครั้งนี้แล้ว ทั้ง 3 คนและ ไนโตะ ก็เป็นต่อในการต่อสู้มากขึ้น!
ในตอนแรก ฮันโซ ยังคงสามารถโจมตีพวกเขาทั้ง 3 คนได้ แต่ตอนนี้พวกเขาทั้ง 3 คนกลับเป็นผ่ายกดดัน ฮันโซ แทน และถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ชัยชนะของพวกเขาจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป!