ผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว ที่โลกต้องสั่นสะเทือน
ถึงแม้ว่า ซาคุโมะ คือผู้ที่เอาชนะสงครามในวันนั้นมาได้ แต่ฉายา ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ก็ยังได้รับความสนใจจากผู้คนมากกว่า
หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น โคโนฮะ ก็มีทรัพยากรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และ แคว้นแห่งไฟ ก็ใช้ทรัพยากรเหล่านี้ในการกว้างซื้อพื้นที่ใหม่ ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ก็เพื่อวางรากฐานและจุดยุธศาสตร์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามในครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดของสงครามครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้านใหญ่ ๆ จะสิ้นสุดลง
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็น ซารุโทบิ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 , ดันโซ หรือผู้เฒ่าในสภา พวกเขาต่างก็มีส่วนร่วมในช่วงเวลานี้เพื่อรักษาความได้เปรียบของหมู่บ้านเอาไว้
ดังนั้น หลังจากจบเหตุการณ์นั้นไป มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ก็เหลือแต่เพียง ความขัดแย้งในเขตชายแดน
หมู่บ้านอาเมะ เป็นฝ่ายที่เหลือกองกำลังน้อยที่สุด ทำให้พวกเขายอมแพ้ให้กับ หมู่บ้านโคโนฮะ ด้วยความเต็มใจ
ในทางตรงกันข้าม หมู่บ้านซึนะ ที่พ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ แต่ก็ยังเหลือกองกำลังอยู่อีกมาก พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องยอมแพ้ต่อหมู่บ้านใด ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งหน้ากลับไปที่หมู่บ้านของพวกเขา และมุ่งเน้นไปที่การรักษาพรมแดนของ แคว้นแห้งลม แทน
ดังนั้น กองทัพโคโนฮะ จึงยังคงต้องปักหลักอยู่ใน แคว้นแห่งฝน เพื่อเตรียมบุกยึด แคว้นแห้งลม ต่อไป
ไม่นานหลังจากที่ โคโนฮะ และ ซึนะ เริ่มทำสงครามกันในเขตชายแดน ไรคาเงะ ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดจึงตัดสินใจเริ่มเคลื่อนไหวและบุกเข้าสู่ แคว้นแห่งดิน
ไรคาเงะ รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะโจมตี หมู่บ้านโคโนฮะ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะโจมตี หมู่บ้านอิวะ แทน
สำหรับ แคว้นแห่งน้ำ (หมู่บ้านคิริ) แคว้นแห่งนี้เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลที่อยู่ถัดจาก แคว้นแห่งไฟ ไปทางด้านซ้าย มิซึคาเงะ จึงตัดสินใจที่จะอยู่เงียบ ๆ ก่อน เพื่อรอโอกาสของเขา
แม้ว่า มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะจบลงแล้ว แต่การต่อสู้ในเขตชายแดนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานนับปี
แต่ตลอดช่วงเวลานี้ ไนโตะ ก็ไม่ได้สนใจการต่อสู้พวกนั้นเลย และเขาก็ยังคงอยู่ใน แคว้นแห่งฝน ต่อไป
เขาไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ในเขตชายแดน แต่เขาอยู่ที่นั่นเพื่อสอน โคนัน และ ยาฮิโกะ ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามฝึกควบคุม อาภรณ์สายฟ้าขั้น 2 ด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ว่าสงครามใน แคว้นแห่งฝน จะจบลงไปแล้ว แต่ก็ยังมีนินจาจากหมู่บ้านอื่น ๆ ยังคงอยู่ในแคว้นแห่งนี้ หลังจากทั้งหมด แคว้นแห่งฝน ก็ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้านใหญ่ ๆ อยู่ดี
แม้ว่าสงครามจะสิ้นสุดลง แต่การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม การที่ ฮันโซ ยังมีชีวิตอยู่ใน แคว้นแห่งฝน นี้ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อหมู่บ้านใหญ่อื่น ๆ เพราะพวกเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูของ ฮันโซ
……
ใน แคว้นแห่งฝน ในบ้านไม้ที่สง่างามและเงียบสงบทีล้อมรอบไปด้วยหญ้าและดอกกไม้
แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดครึ้มเป็นปกติ แต่ที่นี่ก็ดูเหมือนกับสรวงสวรรค์ เพราะมันดูเหมือนไม่ได้ถูกสร้างโดยมนุษย์
ในห้องที่อยู่ในบ้าน ไนโตะ นั่งเงียบ ๆ ขณะที่เขาหลับตาอยู่
ออร่าสีฟ้ากระจายไปทั่วร่างกายทำให้แสงส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง
มีประกายสายฟ้าถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องและช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายของ ไนโตะ
ประตูด่านพลังบานแรก ชิมง (ประตูแห่งความตาย) ช่วยสูบฉีดจักระไปทั่วร่างกายของเขา ในขณะที่ประตูด่านพลังบานที่ 2 ช่วยสกัดจักระเพื่อนำไปเสริมสร้างร่างกายทั้งหมดของเขา
ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะไม่สามารถใช้วิชา เบียคุโก ได้ แต่กลไกนี้ก็จะช่วยให้เขารักษาร่างกายของเขาได้อย่างรวดเร็ว
หากเขามีบาดแผล มันจะค่อย ๆ หายไปอย่างช้าลง โดยไม่ต้องทำการรักษาใด ๆ
เซลล์ในร่างกายของ ไนโตะ นั้นเต็มไปด้วยพลังงานอันทรงพลัง และถ้าหากมันถูกกระตุ้นด้วยคุณสมบัติจักระสายฟ้า มันจะทำให้เซลล์ของเขามีพลังมากขึ้นไปอีก
ที่จริงแล้ว กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น เพราะมันไม่มีผลข้างเคียงกับผู้ใช้วิชา แต่มันกลับเสริมกำลังร่างกายให้ผู้ใช้วิชาอย่างต่อเนื่อง และมันไม่เพียงแต่พลังทางกายภาพเท่านั้น มันยังช่วยเพิ่มพลังให้เขาในทุก ๆ ด้านอีกด้วย
มันเป็นวิชาที่ยอดเยี่ยมมาก!!
ภายใต้การควบคุมของ ไนโตะ ประกายสายฟ้าก็แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าเขามีเสื้อคลุมสายฟ้าที่ปกคลุมทั่วร่างกายของเขา
ฟั๊บ!!
แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็สูญเสียการควบคุมและทันใดนั้นสายฟ้าทั้งหมดก็หายไป
“แหงละ มันยังไม่พอ”
ไนโตะ ลืมตาขึ้นแล้วมองที่มือของเขา
วิชา อาภรณ์สายฟ้า ของ ไนโตะ ยังไม่สมบูรณ์ มันจึงยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับ ไรคาเงะ
เมื่อ ไนโตะ มาถึงขั้นที่ 3 เขาจะสามารถสร้างรูปร่างสุดท้ายนั้นได้ คือสร้างออร่าเป็นเสื้อคลุมที่ห่อหุ้มไปทั่วร่างกาย
เป็นเวลานานกว่าครึ่งปีแล้ว ที่เขาได้ต่อสู้กับ ฮันโซ
ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ไนโตะ ได้ฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 ได้อย่างสมบูรณ์
ในเวลาเดียวกัน ไนฌโตะ ก็พยายามฝึกขั้นที่ 3 ของวิชานั้น แต่เขาก็ล้มเหลวมาโดยตลอด ไม่ว่าเขาจะพยายามฝึกกี่ครั้งก็ตาม
เขาไม่เห็นความหวังใด ๆ เลย
มันไม่เหมือนกับวิชาอื่น ๆ ที่เขาเคยฝึก วิชาอื่นเมื่อเขาล้มเหลวในครั้งแรกหลังจากนั้นเขาก็จะมีการพัฒนาขึ้นไม่มากก็น้อยจนกระทั่งเขาทำมันได้สำเร็จ แต่กับวิชานี้มันไม่มีการพัฒนาอะไรขึ้นเลย เขาล่มเหลวอย่างสิ้นเชิง
“สงสัยเราคงต้องไปที่ หมู่บ้านคุโมะ จริง ๆ สินะ ไม่งั้นคงไม่รู้เคล็ดลับในการฝึกขั้นที่ 3 แต่ก่อนอื่น ตอนนี้เหมือนว่าเราจะแข็งแกร่งพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบ่านที่ 4 แล้วสินะ”
หลังจากที่ ไนโตะ สามารถควบคุม อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขาก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้ในทันที ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ไปก่อน
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ได้สำเร็จ แต่ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนในที่สุด ไนโตะ ก็แข็งแกร่งพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้
ไนโตะ ยืนขึ้นแล้วบิดขี้เกียจ เขาไม่ได้จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ในทันที ตอนนี้เขาต้องการหยุดพักก่อน
เพราะการฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 นั้นเขาใช้จักระไปเกือบครึ่ง ดังนั้นเขาจึงรอให้จักระฟื้นกลับมาก่อน
จากนั้น ไนโตะ ก็ลุกขึ้นไปดื่มน้ำในแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ออกไปจากห้อง
ข้างนอกบ้าน
โคนัน และ ยาฮิโกะ กำลังฝึกซ้อมอยู่กลางสายฝน
ในครึ่งปีที่ผ่านมาทั้ง 2 คนแข็งแกร่งขึ้นมาก
ไม่ใช้เพราะพวกเขามีพรสวรรค์ แต่เพราะพวกเขาโต้กว่าเด็ก ๆ ในโรงเรียนนินจา และถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่แข็งแกร่งเท่า คาคาชิ ตอนอายุ 5 ขวบ แต่พวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นมากเลยทีเดียว