การเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 นั้นง่ายกว่าการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 2 และ 3
เพราะตั่งแต่ ประตูด่านพลังบานที่ 2 ถึง 6 มันเรียงต่อกันเป็นเส้นตรงตามแนวกระดูกสันหลัง มันแค่ต้องใช้จักระดันให้มันเปิดออก
ตราบใดที่ร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งมากพอก็จะสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้ พลังสั่นสะเทือน ให้ประตูอ่อนลงและจากนั้นก็เค้นจักระให้พุ่งตรงไปยังประตูจนมันพังในที่สุด และสุดท้ายประตูนั้นก็จะเชื่อมต่อกับประตูก่อนหน้าทั้งหมดด้วยจักระ
หลังจากเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้สำเร็จ ประตู 3 บานแรกก็เชื่อมต่อกับประตูบานใหม่ทันทีและเริ่มปรับสมดุลของร่างกายใหม่ทั้งหมด
ครึ่งเดือนต่อมา ประตูด่านพลังบานที่ 4 ก็เสถียรอย่างสมบูรณ์ และจักระก็ไหลออกมาจากประตูนั้นอย่างมหาศาล
มาถึงจุดนี้ จักระของ ไนโตะ ก็เทียบเท่ากับระดับ คาเงะ แล้ว!
แต่ปริมาณจักระก็ไม่สามารถวัดความแข็งแกร่งของจักระได้
ถึงแม้ว่า จำนวนจักระของ ไนโตะ ก่อนหน้านี้จะน้อยกว่าระดับ คาเงะ แต่ ไนโตะ ก็มั่นใจว่าเขาสามารถสู้ได้!
เพราะแม้แต่ นินจาระดับ คาเงะ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อสู้กับเขาได้
เมื่อเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้สำเร็จ พลังสั่นสะเทือน ของ ไนโตะ ก็แข็งแกร่งขึ้น และในที่สุดมันก็มีพลังเทียบเท่ากับคาถานินจาระดับ S !
เนื่องจากพลังของคาถานินจาในช่วงท้ายของการ์ตูน กลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญจึงไม่มีการจัดระดับให้พวกมัน ดังนั้น ไนโตะ จึงจำแนกพวกมันด้วยการจัดระดับใหม่
ไนโตะ ได้แบ่ง คาถานินจาระดับ S ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ คาถานินจาระดับ S ขั้นต่ำ และ คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง
ตัวอย่างเช่น ดาวกระจายวงจักร จัดเป็น คาถานินจาระดับ S ขั้นต่ำ
ข่ายเทพพิชิตฟ้า จัดเป็น คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง และมันสามารถทำลาย ดาวกระจายวงจักร ได้อย่างง่ายดาย แต่ในทางกลับกัน ดาวกระจายวงจักร สามารถสร้างความเสียหายให้กับร่างกายมนุษย์ได้มากกว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า
เพราะเหตุนี้ ไนโตะ จึงยังสงสัยความถูกต้องของการจำแนกของเขาอยู่
แต่ถึงอย่างนั้น ไนโตะ ก็มันใจว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า มีพลังมากกว่า ดาวกระจายวงจักร
คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง จะไม่สามารถทำลายได้ เว้นแต่ว่าคุณจะโต้กลับกับด้วย คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง อีกคาถาหนึ่ง!
สำหรับ ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ คาถานี้ไม่ควรจัดให้อยู่ต่ำกว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า ดังนั้นจึงควรแบ่งพวกมันให้อยู่คนละกลุ่ม แต่เขาก็ไม่สามารถระบุได้ว่าอันไหนแข็งแรงกว่าเพราะเขายังไม่เคยเจอด้วยตัวเอง
ถ้าอย่างนั้นต้องแบ่งเป็น ระดับ S ถึง ระดับ SSS !
ระดับ SSS เป็นกลุ่มของคาถานินจาที่มีเพียงแค่คนอย่าง อุจิฮะ มาดาระ หรือ ฮาชิรามะ เท่านั้นที่ใช้ได้
ทั้งคู่มีความสามารถในการเปลี่ยนคาถานินจาแบบง่าย ๆ ให้กลายเป็นคาถาอันทรงพลังอย่างยิ่งได้
พวกเขามีความสามารถในการป้องกัน กระสุนสัตว์หาง ได้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง ดังนั้นจึงเหมาะสมแล้วที่จะจัดพวกเขาไว้ที่ระดับสูงสุดของ คาถานินจาระดับ SSS !
ระดับ S ขั้นต่ำ , ระดับ S ขั้นสูง จากนั้นก็ ระดับ SSS ที่มีอำนาจที่จะทำลายโลก
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ความคิดของ ไนโตะ เท่านั้น เขายังไม่เคยเจอคนเหล่านั้นเลยและการตัดสินใจของเขาก็อาจจะผิด
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้ว การตัดสินใจของเขาก็ไม่น่าจะผิด
ประตูด่านพลัง 4 บานแรกของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้เปิดออกแล้ว และ ไนโตะ ก็มาถึงครึ่งทางแล้ว ในเวลาเดียวกัน ในที่สุด พลังสั่นสะเทือนของเขาก็มาถึงขั้นที่ 4 แล้ว และ ไนโตะ ก็มองเห็นเส้นทางของเขาในอนาคตอย่างชัดเจน
ตอนนี้พลังของเขาสามารถบดขยี้ คาถานินจาระดับ S ขั้นต่ำ ได้แล้ว และสำหรับ คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง เขาก็สามารถต่อสู้กับมันได้!
นี่เป็นเพียงแค่พลังที่มาจากการประตูด่านพลัง 4 บานแรกเท่านั้น
เมื่อเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ไนโตะ จะไปถึง คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง ได้แน่นอน และจะเป็นไปได้ไหม…ว่าถ้าเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 แล้ว พลังของเขาจะไปถึง คาถานินจาระดับ SSS?!
แล้วถ้าเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 7 และ 8…เขาจะแข็งแกร่งเท่ากับ คางูยะ หรือเปล่า?
ไนโตะ มันใจว่าถ้าเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 เขาจะมีพลังตามที่เขาคาดไว้แน่นอน แต่สำหรับประตูด่านพลังบานที่ 6 และ 7 นั้น เขาก็ยังไม่แน่ใจ
แต่ตราบใดที่ พลังสั่นสะเทือน ของเขาแข็งแกร่งขึ้นทุก ๆ ครั้งที่เขาเปิดประตูด่านพลังบานใหม่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร!
ความเชี่ยวชาญในการใช้ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 และการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 พร้อมกับ พลังสั่นสะเทือนขั้นที่ 4 ทำให้ ไนโตะ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เนื่องจากการพัฒนาที่เขาได้รับจากจักระใหม่ ทำให้วิชา เหยียบเวหา ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นไปด้วยและเขาก็สามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลขึ้นมาก
ความเร็วของ ไนโตะ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ไนโตะ เองก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเร็วแค่ไหน แต่เขาก็แน่นอนว่าในตอนนี้ แม้แต่ ซาคุโมะ ก็จะไม่สามารถตามเขาได้ทัน!
ถ้าเป็น ฮันโซ ก็อาจจะตามเขาได้ทัน แต่ก็คงจะสู้กับเขาไม่ได้
ไนโตะ กำหมัดของเขาและหายใจเข้าลึก ๆ ความมั่นใจในด้วยตาของเขานั้นชัดเจนมาก
นานเหลือเกินแล้วที่ ไนโตะ มาอยู่ในโลกแห่งนี้
ตอนนี้อายุของเขาก็คงจะประมาณ 12 ปี
ในการ์ตูน อุจิฮะ อิทาจิ สามารถปลุก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ได้ตอนอายุ 13 และพลังของเขาก็ขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับ คาเงะ ทันที…
เขาสามารถไปถึงระดับเดียวกับ อิทาจิ ได้ตอนอายุ 12 ปี และในที่สุด ไนโตะ ก็ไปได้ไกลกว่า อิทาจิ
หลังจากที่เขาพักผ่อนเป็นเวลานาน ไนโตะ ก็เอาม้วนกระดาษม้วนหนึ่งออกมา
ในปีที่ผ่านมา ไนโตะ ฝึกฝนเกือบตลอดเวลา เขาใช้เวลาเพียงส่วนน้อยเพื่อสอน ยาฮิโกะ และ โคนัน
ไนโตะ ยังคงรวบรวมข้อมูลอยู่
ในปีที่ผ่านมา ไนโตะ ไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ นางาโตะ เลย เพราะ นางาโตะ ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาอีกเลยหลังจากเหตุการณ์นั้น และแม้ว่าข่าวนี้จะถูกส่งไปยัง โคโนฮะ แล้ว และ โฮคาเงะ กับ สภาสูง ก็ส่งทีมออกไปเก็บข้อมูลเรื่องนี้โดยตรงใน แคว้นแห่งฝน แล้วก็ตาม พวกเขาก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรอยู่ดี
พวกเขาค้นหาจนทั่วทั้งแคว้น แต่พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยของ นางาโตะ และ มาดาระ เลย ไม่มีใครรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
แน่นอนว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะหาไม่พบ แต่พวกเขาก็ไม่หยุดหาและเริ่มค้นหาในพื้นที่ใหม่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่พบข้อมูลใด ๆ ที่เป็นประโยชน์อยู่ดี
ม้วนกระดาษในมือของ ไนโตะ เป็นข้อมูลอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับ ดาบคุซานางิ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 สิ่งที่ ไนโตะ สนใจ
อีกสิ่งหนึ่งก็คือ วิธีการ อาภรณ์สายฟ้าขั้น 3
และวิธีฝึกขั้นที่ 3 นั้นต้องซ่อนอยู่ใน หมู่บ้านคุโมะ อย่างแน่นอน มันคงถูกจัดเป็นความลับขั้นสูงสุดแม้แต่กับนินจาของพวกเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะได้มันมา เขาก็คงจะใช้เวลานานในการฝึกฝนมันให้สำเร็จ และอาจจะดีกว่าถ้าเขาจะรอจนกว่าเขาจะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ได้ก่อนที่จะคิดเรื่องเกี่ยวกับมัน
ดังนั้น ไนโตะ จึงเลือกจะฝึกฝนอยู่ใน แคว้นแห่งฝนต่อไป แต่สิ่งที่เขากังวลก็คือส่วนที่เหลือของข้อมูลเกี่ยวกับดาบ ดาบคุซานางิ ที่ยังขาดหายไป