หลังจากพวกเขาเดินเล่นในโรงเรียนนินจา ไนโตะ และ คุชินินะ ก็ออกจากที่นั่นไปและมุ่งหน้ากลับสู่ถนนอีกครั้ง
ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง เมื่อเห็นดังนั้น ไนโตะ จึงพา คุชินะ กลับบ้าน
มือของ คุชินะ นิ่มมากและ ไนโตะ ก็ชอบจับมือเธอมากเช่นกัน
เมื่อมาส่ง คุชินะ ถึงบ้านแล้ว ไนโตะ ก็กำลังจะเดินกลับไป แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ไกล ๆ
ทันใดนั้น คุชินกะ ก็รู้สึกอายขึ้นมาและปล่อยมือจาก ไนโตะ จากนั้นเธอก็มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและพูดว่า “กลับช้าจริง ๆ เธอออกไปไหนของเธอได้ทุกวี่ทุกวันเนี่ย!”
“เธอก็เพิ่งกลับมาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
อุซึมากิ เมอิ ตอบ คุชินะ แล้วเธอก็มองไปที่ ไนโตะ แล้วถามด้วยความประหลาดใน “นาย…นายคือ ไนโตะ ใช่ไหม?”
“ใช่!”
คุชินะ มองไปที่ เมอิ และทำท่าทางหึงเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เดินออกมายืนอยู่หน้า ไนโตะ พร้อมกับใบหน้าที่ดุดันของเธอ แล้วพูดกับ เมอิ ว่า “แล้วเธอจะถามทำไม?!”
เมอิ ก็แสดงออกอย่างไร้หนทางและพูดว่า “ก็ไม่แปลกที่ทุกคนจะอยากรู้จักกับคนที่มีชื่อเสียงอย่าง ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ”
“ไม่จำเป็น!”
คุชินะ ดูจริงจังมาก
เมื่อมองไปที่พวกเธอทั้งคู่ ไนโตะ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปแตะไหล่ของ คุชินะ แล้วพูดว่า “พวกเธอเข้าบ้านไปเถอะ ฉันต้องกลับแล้วละ”
“พรุ่งนี้อย่าลืมมาหาฉันละ…ถ้าไม่งั้น ฉันจะไปหานายเอง”
คุชินะ พยักหน้าเขาเบา ๆ จากนั้นเธอก็มองไปที่ ไนโตะ ขณะที่เขากำลังเดินจากไป
จากนั้นการแสดงออกของเธอก็ค่อนข้างน่ากลัว ทันทีเธอก็มองไปที่ เมอิ แล้วถามเธอว่า “เธอไปไหนมาทั้งวัน? ทำไมต้องทำตัวลับลมคมในอยู่เรื่อย เธอกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่รึเปล่า!”
“ไม่ ไม่มีอะไร”
ดวงตาของ เมอิ หลบตาเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ยิ้มและตะคอกออกมาว่า “ว่าแต่ เธอเป็นห่วงเธอเองก่อนดีกว่ามั้ง”
“เธอหมายถึงอะไร!”
เมอิ หัวเราะแล้วเธอก็เดินเข้าไปในบ้าน จากนั้น คุชินะ ก็เดินจามเธอเข้าไป
…….
เมื่อ ไนโตะ กลับมาถึงบ้าน เขาก็เริ่มทำความสะอาดบ้านของเขาทันที เพราะเป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่
มีฝุ่นอยู่เต็มห้อง แต่เรื่องการทำความสะอาดนั้นก็ง่ายมากสำหรับนินจา
แม้ว่า ไนโตะ จะไม่ได้ฝึกฝนคุณสมบัติจักระธาตุอื่น ๆ แต่เขาก็สามารถใช้มันได้ในระดับหนึ่ง
“คาถาลม : สายลมปั่นป่วน!”
ไนโตะ ใช้คาถาลมง่าย ๆ แล้วเขาก็ใช้ลมหอบเอาฝุ่นทั้งหมดในห้องออกไป
หลังจากทำความสะอาดแล้ว ไนโตะ ก็ยังไม่ได้พักผ่อน แต่เขาก็เดินไปนั่งที่มุมห้องเหมือนกับว่าเขากำลังรออะไรอยู่
ในไม่กี่นาทีต่อมา หน่วยลับ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ต่อหน้าของ ไนโตะ
อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นที่นับถือของนินจาส่วนใหญ่
“ท่านไนโตะ ช่วยตามผมไปที่ สำนักงานโฮคาเงะ ได้ไหมครับ”
แม้แต่วิธีการพูดกับเขาก็เปลี่ยนไป ปกติแล้วพวกเขามักจะพูดว่า โฮคาเงะ เรียกตัวคุณ
แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป
“ในที่สุด”
ไนโตะ คิดขึ้นมาในใจ จากนั้นเขาก็พยักหน้าและลุกขึ้นยืน แล้วเดินตามหน่วยลับคนนั้นไปยัง สำนักงานโฮคาเงะ
อีกครั้งที่ ไนโตะ มาอยู่ใน สำนักงานโฮคาเงะ แต่ความรู้สึกที่เขามีในครั้งนี้แตกต่างออกไป
คราวนี้ ไนโตะ ใช้สัมผัสพิเศษของเขาเพื่อสำรวจตัวอาคารทั้งหมดและผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าอัศจรรย์
อาคารทั้งหลังถูกปกคลุมด้วยม่านพลัง!
มันเป็นม่านพลังแบบเดียวกับที่ครอบคลุมทั้งหมู่บ้านเอาไว้ แต่เนื่องจากมันมีขนาดเล็กกว่ามันจึงแข็งแกร่งกว่ามาก
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแอบเข้าไปใน สำนักงานโฮคาเงะ
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าคุณจะลักลอบเข้าไปได้ แต่ก็ยังมี หน่วยลับ และ นินจา คอยดูแลอาคารหลังนี้ทั้งหมดจากทุกทิศทาง
และยังมี หน่วยลับ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายนอกอาคารเพื่อสังเกตุการณ์อยู่รอบ ๆ
นอกจากนี้ ไนโตะ ก็ยังรู้สึกถึงตำแหน่งของ ม้วนคัมภีร์ลับ ที่ถูกเก็บไว้ในระบบความปลอดภัยสูงสุด ที่มีนินจาจำนวนมากคอยปกป้อง และห้องนั้นก็อยู่ติดกับ ห้องทำงานโฮคาเงะ
มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขโมย ม้วนคัมภีร์ลับ ออกมาได้โดยไม่มีใครสังเกต
มันดูง่ายมากเมื่อ นารูโตะ ขโมยมันออกไปได้ตามในการ์ตูน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาใช้เคล็ดลับบางอย่างเพื่อขโมยมัน
ไนโตะ ไม่สามารถรับรู้ได้แบบนี้มาก่อน แต่ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา ทำให้ดวงตาของเขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้!
ในไม่ช้า ไนโตะ ก็มาถึง ห้องทำงานโฮคาเงะ
มีเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องนั้นแต่เขาไม่ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานตามปกติ แต่เขากำลังนั่งอยู่บนพื้นที่มีโต๊ะตัวเล็กอยู่ด้านหน้าของเขา
หลังจากที่เขาเห็น ไนโตะ เดินเข้ามา เขาก็บอกให้ ไนโตะ มานั่งข้าง ๆ เขา “ ไนโตะ มานี่สิ”
ขณะที่เขาพูดคำเหล่านี้ ซารุโทบิ ก็รินน้ำชาให้ ไนโตะ
ไนโตะ มองดู ซารุโทบิ อย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็นั่งลงโดยไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นว่า ไนโตะ สงบและผ่อนคลาย ซารุโทบิ จึงเริ่มพูดคุยกับเขา “สถานการณ์ในสนามรบดีขึ้นมาก ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ”
ประโยคนี้ทำให้ดวงตาของ ไนโตะ สั่นไหวเล็กน้อย เพราะน้ำเสียงและวิธีการพูดของ ซารุโทบิ ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ทั้งคู่เคยคุยกัน มันเหมือนกับน้ำเสียงที่ 2 คาเงะ กำลังพูดคุยกัน
ไนโตะ ฆ่า คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 และถึงแม้ว่านี่จะไม่ได้ทำให้เขาเป็น คาเงะ แต่ โฮคาเงะ ก็ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ
“มันเป็นหน้าที่ของผมที่มีต่อหมู้บ้าน ถ้าไม่ใช่เพราะ โคโนฮะ ผมคงไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้ว”
ไนโตะ พูดคำเหล่านี้ จากนั้นเขาก็หยิบชาขึ้นมาจากโต๊ะแล้วจิบ
ซารุโทบิ เฝ้าดู ไนโตะ เพื่อคอยสังเกตปฏิกิริยาและน้ำเสียงของ ไนโตะ
และหลังจากที่ ไนโตะ พูดคำเหล่านั้นออกมา ซารุโทบิ ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เป็นธรรมชาติมากขึ้น
นี่เป็นเรื่องจริง เพราะหากไม่ได้ความช่วยเหลือจาก โคโนฮะ ไนโตะ ก็อาจตายไปแล้ว เหมือนกับ ตระกูลคุซานางิ คนอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ไนโตะ ทำเพื่อ โคโนฮะ ในสนามรบ ก็คือสิ่งที่เขาจะตอบแทนให้หมู่บ้านได้
เพราะถึงไม่มี ไนโตะ หมู่บ้านก็ยังสามารถชนะได้ แต่การบาดเจ็บล้มตายก็จะเพิ่มอีก 10 เท่าเท่านั้นเอง!